เยี่ยนอวี๋ “!!!”
เยี่ยนอวี๋ที่ไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับเบิกตากว้างมองพี่รองของนาง นางไม่รู้เลยสักนิดว่าพี่รองของนางจะ ‘แปรพักตร์’ ได้ไวขนาดนี้ นี่มันจะเร็วไปแล้ว
แต่กลับเป็นเม่ยเอ๋อร์ที่ตอบสนองรวดเร็วที่สุด “นี่ ท่านนี่มันเกินไปแล้วกระมัง บุญคุณช่วยชีวิตไม่ตอบแทนเองกลับเอาน้องสาวของตนเองไปแลกเปลี่ยนเสียนี่”
เยี่ยนจื่อเสา “???”
นี่มันอะไรกัน?
เขาว่าน้องสาวก็อยู่ร่วมกับต้าซือมิ่งเป็นอย่างดีไม่ใช่หรือ
ทั้งครอบครัวไม่ใช่ว่าสุขสันต์ปรองดองหรอกหรือ
ในเมื่อดีมากแล้วเหตุใดจะจัดงานแต่งงานไม่ได้เล่า
หรือว่าเขาเข้าใจอะไรผิดไป!?
อย่างไรก็ตาม…
ต้าซือมิ่งบางคนรับคำ “ไม่เช่นนั้นก็เอาตามนี้กลับสำนักชางอู๋ไปหาท่านพ่อตาก่อน เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าคิดว่าอย่างไร”
“ข้า…” แน่นอนว่าเยี่ยนอวี๋ต้องตอบปฏิเสธอยู่แล้ว
แต่ต้าซือมิ่งบางคนกลับไม่ยอมให้นางเอ่ยจนจบ “หัวใจของหงส์เพลิงนั่นก็นำกลับสำนักไปพร้อมกันพอดี”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางไม่รู้แล้วจริงๆ ว่าควรพูดกับเจ้าคนหน้าด้านไร้ยางอายผู้นี้เช่นไร หรือว่าที่นางพูดไปยังไม่ชัดเจนพออีกงั้นหรือ
“ไม่ใช่ เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เจ้าไม่เห็นด้วยอย่างนั้นหรือ” เยี่ยนจื่อเสาที่ตระหนักรู้ได้ในที่สุด บางทีเขาอาจจะเข้าใจอะไรผิดไป “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าไม่ได้ชอบต้าซือมิ่งผู้นี้อย่างนั้นหรือ”
เยี่ยนอวี๋ที่กำลังจะแสดงท่าที…
“พรูด…ไม่!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่จู่ๆ ก็พูดคำที่สองออกมาได้เอ่ยแทรกขึ้นมา “ไม่! อ้ะเนะเน้ะ…” ไม่ใช่สักหน่อย ท่านแม่กับเสี่ยวเป่าชื่นชอบท่านพ่อคนนี้มากๆ เลย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าโบกมือเล็กป้อมไปมาตีไปที่ท่านลุงรอง เขาพยายามเค้นเสียงเอ่ยว่า “อ้า…แม ฉอบ…พ่อ…ชอบ! แม ชอบ พ่อ! อ้ะเนะเน้ะ…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อนใจจนใบหน้าแดงก่ำไปหมด ที่เขารีบร้อนเช่นนี้เป็นเพราะอยากให้ท่านแม่อธิบายทำให้ผู้ใหญ่สี่คนในที่นั้นล้วนอึ้งงันไป ตัวเขาเองกลับดีใจขึ้นมา
“แม! ชอบ! พ่อ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เห็นว่าตนเองสามารถเอ่ยคำว่า “แม่” ออกมาได้ดีใจจนร้อง “เนะเนะเนะ” ไม่หยุดและถึงขั้นที่ไม่สังเกตว่าชายเสื้อของท่านลุงรองถูกน้ำลายของเขากระเด็นใส่จนเปียกชุ่มไปหมดแล้ว
ผ่านไปครู่ใหญ่…
“เสี่ยวเป่า ลูกเรียกแม่ได้แล้วหรือ” เยี่ยนอวี๋ที่ตระหนกเล็กน้อย ถึงแม้เจ้าตัวเล็กจะเรียกไม่ชัดแต่ว่านางฟังแล้วก็ใกล้เคียงมากแล้ว ดังนั้นเจ้าตัวเล็กกำลังเรียก ‘แม่’ แล้ว?!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกถามก็ตอบด้วยเสียงอ่อนเยาว์ว่า “อ้า! แม!”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางยิ้มออกมา
หัวคิ้วโค้งลง ยิ้มแย้มจนดวงตาหรี่ลงน้อยๆ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่รับรู้ได้ว่านางชื่นชอบนั้นก็ดีใจขึ้นมา “อ้ะ! แม! แม! แม!”
นาทีนี้เยี่ยนอวี๋รู้สึกแค่ว่าหัวใจของตนราวกับล่องลอยอยู่บนยอดเมฆ ความขุ่นเคืองก่อนหน้านี้ราวกับถูกยัดเข้าไปในนุ่นจนอ่อนนุ่มไปหมด
เด็กน้อยที่ดีอกดีใจยังคงโผเข้าใส่อ้อมกอดของท่านแม่อย่างน่ารัก “แม!”
“จ้ะ!”
เยี่ยนอวี๋มีความสุขมากจริงๆ
นาทีที่เจ้าตัวน้อยเข้าสู่อ้อมกอดของนางนั้นความรู้สึกเต็มตื้นแสนแปลกหน้าทำให้นางใจสั่นไหวไปหมด
“แม!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ราวกับสามารถพูดคุยกับเยี่ยนอวี๋ได้นั้นก็กอดท่านแม่ของเขาเอาไว้แน่น มารดาและบุตรชายราวกับสามารถพูดคุยกันได้อีกครั้งเหมือนยามที่เจ้าตัวเล็กยังไม่ถือกำเนิด มารดาและบุตรเชื่อมใจ สายเลือดเชื่อมโยงถึงกัน
ความรู้สึกเช่นนี้…
ในที่นั้นมีเพียงหรงอี้ที่เพิ่งได้เป็นบิดาเป็นครั้งแรกที่เหมือนจะเข้าใจเล็กน้อย
และในนาทีนี้เขาอยากจะกอดสองแม่ลูกและอยู่ร่วมกับพวกเขามากจริงๆ อยากมากจริงๆ
เขาเลยทำเช่นนั้นจริงๆ
เมื่อเยี่ยนอวี๋ที่กำลังมีความสุขสัมผัสได้ก็ตัวแข็งทื่อไป เพราะต้าซือมิ่งไร้ยางอายผู้นั้นกำลังกอดเอวของนางอยู่ จากนั้น…
“อ้ะเน้ะ!”
เจ้าตัวเล็กบางคนมีความสุขเป็นอย่างมาก กอดทั้งมารดา โอบทั้งบิดา อีกทั้งยังแรงเยอะมากอีกด้วย จากนั้นน่ะหรือ…
ต้าซือมิ่งบางคนที่คล้อยตามแรงของเจ้าตัวน้อยอย่างว่าง่ายจึงจูบเข้าที่ต้นคอของภรรยาเสียแล้ว
วินาทีนั้น…
สัมผัสเย็นๆ นุ่มนิ่มแฝงพลังทำลายล้างปะทะเข้ามาในจิตสำนึกของเยี่ยนอวี๋ สำหรับนางผู้เป็นปฐมราชินีสร้างโลกแสนสูงส่งผู้หนึ่งนั้น ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างแปลกหน้าเหลือเกิน
แต่ก่อน ผู้ใดกล้าจูบนางบ้าง ไม่มี
แต่ก่อน ผู้ใดกล้าล่วงเกินนางบ้าง ยิ่งไม่มี
แต่ก่อน…
ไม่มีผู้ใดที่กล้าทำเช่นนี้กับเยี่ยนอวี๋เหมือนต้าซือมิ่งหรง
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางอึ้งจนตาค้างไปแล้ว
“…”
ส่วนจอมโจรต้าซือมิ่งก็ยกยิ้มอย่างเงียบงัน เขายกมือขึ้นจับที่หลังคอภรรยา อีกมือก็ลูบหัวโล้นน้อยๆ ของเจ้าตัวเล็กซึมซับสัมผัสนุ่มนิ่มที่แตกต่างของภรรยาและลูกชาย
“เจ้า…”
เยี่ยนอวี๋ที่ในที่สุดก็ได้สติกลับมาอยากจะผลักต้าซือมิ่งออก
ส่วนหรงอี้ที่ถูกผลักก็ยอมถูกผลักออกอย่าง ‘ว่าง่าย‘ ไม่ได้จูบคอของปฐมราชินีอีกแต่ก็ไม่ยอมถอยออกไปไกลนักยังคงยึดหลังคอของปฐมราชินีเอาไว้แน่นเช่นเดิม
“เจ้า…”
เยี่ยนอวี๋อยากอัดคนแล้วจริงๆ
แต่มือใหญ่ของต้าซือมิ่งบางคนกลับเหลือพื้นที่มากพอที่จะทาบทับบนใบหน้าของนางกระทั่งใช้นิ้วโป้งเค้นคลึงผิวของนาง “ฟังนะ ข้าหรงอี้มีใจปฏิพัทธ์ต่อเจ้า เยี่ยนอวี๋”
ไม่ใช่ไม่เคยคิดว่าจะค่อยๆ วางแผนต่อไปเรื่อยๆ
ไม่ใช่ไม่เคยคิดว่าจะค่อยๆ ทำให้นางคุ้นชิน
ไม่ใช่ไม่เคยคิดจะว่าค่อยๆ เข้าไปใกล้ชิด ตามพัวพันนาง
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีการขอความรักที่ได้ผลมากที่สุดสำหรับปฐมราชินีเยี่ยนที่ชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง
แต่ว่า…บัดนี้เวลานี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
ต้าซือมิ่งไม่คิดจะค่อยๆ รุกคืบอะไรนั่นอีกต่อไปแล้ว เขาอยากจะบอกให้ชัดเจนแจ่มแจ้งว่าเขามีใจให้กับนางผู้เป็นมารดาของเจ้าก้อนน้อย
อาจจะเป็นรักแรกพบกระมัง
บางทีอาจจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นนานแล้ว
ไม่สนแล้ว
กระทำตามที่ใจปรารถนาตามขอความรักนาง
ถ่องแท้ ชัดเจนแจ่มแจ้ง สง่างามผ่าเผย
นั่นทำให้เยี่ยนอวี๋ที่เห็นความผ่าเผยในดวงตาของเขาอึ้งงันไป
ถึงแม้จะไม่เคยผ่านเรื่องรักใคร่ระหว่างหญิงชายมาก่อน แต่ปฐมราชินีเยี่ยนผู้สามารถแยกแยะความจริงความเท็จได้ก็เข้าใจดีว่าชายที่อยู่ตรงหน้านางนี้กำลังบอกในสิ่งที่เขาคิดออกมาอย่างจริงใจไม่คิดปิดบังแม้แต่น้อย
นางที่เคยคาดเดาถึงจุดประสงค์ของเขามานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังไม่อาจมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาได้ชัดเจน บัดนี้นางมองเห็นแล้วมันคือ ความบ้าคลั่ง แข็งแกร่ง การทำลายล้าง และ…
“เจ้า…”
เยี่ยนอวี๋ที่อึ้งไปครู่ใหญ่ถึงขั้นยกมือขึ้นจับใบหน้าของต้าซือมิ่งไว้ตามสัญชาตญาณ อยากจะมองดูการเปลี่ยนแปลงในส่วนลึกของนัยน์ตาของเขาให้ชัดๆ น่าเสียดายที่มองเห็นไม่ชัด
นี่ไม่ใช่เพราะต้าซือมิ่งต้องการปิดบังแต่เกรงว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน
เยี่ยนอวี๋กะพริบตาเดิมอยากจะมองดูอีกสักหน่อย แต่กลับสบเข้ากับแววตาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มเหมือนมีระลอกคลื่นหมุนวนอ้อยอิ่ง บุปผาเบ่งบานงดงามของต้าซือมิ่งบางคนเข้า
“เจ้าลูบใบหน้าของข้าขนาดนี้แล้วคงไม่อาจบอกว่าไม่ชอบข้าแล้วกระมัง” ใบหน้าที่ถูกลูบไล้เบาๆ ของต้าซือมิ่งสัมผัสได้ถึงความเนียนละเอียดเรียบลื่นราวกับเครื่องเคลือบ ใบหน้าของเขาเริ่มกลับมามีเลือดฝาดบ้างแล้ว
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางโดนยั่วยวนเข้าแล้ว
ทนไม่ไหว
โดนยั่วยวนเข้าแล้วจริงๆ
นางยังลูบไล้ใบหน้าของคนผู้นี้แถมไม่คิดที่จะต่อต้านอีกด้วย
“คิก”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เบิกตากว้างเฝ้ามองท่าพ่อท่านแม่มาสักพักแล้วพลันหัวเราะออกมาและโอบท่านพ่อท่านแม่เข้ามาแน่นกว่าเดิม แน่นขึ้นอีก “คิก! คิก! พ่อ!”
ดังนั้นเยี่ยนจื่อเสาที่มองดูอยู่ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก? หากน้องเล็กไม่มีใจชอบอีกฝ่ายเลยสักนิดเมื่อโดนสารภาพรักคงไม่อึ้งงันไปเช่นนั้นหรอก ทั้งยัง…อะแฮ่ม!
กระทั่งเม่ยเอ๋อร์ก็ยังเข้าใจแล้ว “ฮึ! ผู้ชายมากเล่ห์!” กล้ายั่วยวนคุณหนูใหญ่ของนาง!
“แค่ก” แม้เยี่ยนจื่อเสาจะเห็นด้วยกับข้อสรุปนี้ค่อนข้างมากแต่ในฐานะพี่ชายเขายังจำเป็นต้องก้าวเข้าไปแยกว่าที่สามีภรรยาคู่นี้ออกจากกัน “เอาแค่พอประมาณก็พอ”
“อ้า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับพองแก้มกลมขึ้นแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจที่ท่านพ่อท่านแม่ถูกแยกออกจากกัน
“เจ้านี่นะ” เยี่ยนจื่อเสาจิ้มหน้าผากของหลานชายเบาๆ “ฉลาด เข้าข้างพ่อเจ้า”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่สัตย์ซื่อพยักหน้ารับในทันทีแสดงให้เห็นว่าเขาชื่นชอบท่านพ่อคนงามมาก
เยี่ยนจื่อเสา “…”
เขาจะทำอย่างไรได้?
เขาทำได้เพียงพูดอีกครั้งว่า “เอาล่ะ เดี๋ยวออกไปแล้วก็กลับสำนักชางอู๋ก่อนเถอะ อย่างไรอยู่ที่นี่มานานเพียงนี้เรื่องอื่นก็คงไม่รีบร้อนแล้ว”
“ขอรับ พี่ภรรยา” ต้าซือมิ่งบางคนยังคงทำตัวตามน้ำต่อไป
เยี่ยนอวี๋กุมศีรษะสูดหายใจเบาๆ เอ่ยว่า “ควรกลับสำนักชางอู๋ได้แล้วจริงๆ แต่ว่า…”
เยี่ยนอวี๋ที่เงียบไปครู่หนึ่งทำให้ผู้ใหญ่และเด็กหันมามอง
เยี่ยนอวี๋อดบีบใบหน้าน้อยๆ ของเจ้าก้อนน้อยไม่ได้ “เจ้านี่นะ เจ้าเด็กเกเร” หากไม่ใช่เพราะบรรพบุรุษน้อยนี่แล้วล่ะก็นางคงไม่มึนงงจนถูกยั่วยวนหรอก
แต่ก็ต้องพูดไปตามตรง นางรู้ดีว่าตัวนางก็สนใจในตัวต้าซือมิ่งผู้นี้เช่นกัน นางช้อนตาขึ้นมองต้าซือมิ่งพลางเน้นย้ำว่า “แต่ข้ายังไม่มีใจปฏิพัทธ์ต่อเจ้าและอาจจะไม่มีตลอดไปด้วย”
นี่คือความจริง นับตั้งแต่สร้างโลกมาจนถึงบัดนี้กี่ปีมาแล้ว นางเยี่ยนอวี๋ยังไม่เคยเกิดสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกชายหญิงกับชายคนใดมาก่อน ไม่เคยสงสัยและไม่คิดอยากลองด้วย
ดังนั้นเยี่ยนอวี๋ที่กำลังคิดจะเอ่ยข้อสรุปออกมากลับถูกต้าซือมิ่งเอ่ย ‘ตัดบท‘ “แต่งให้ข้า อนาคตยังอีกยาวไกล อย่างไรก็ต้องมีแน่”
นาทีนี้…