เยี่ยนชิง “…”
เยี่ยนหงชวน “…”
เม่ยเอ๋อร์ผู้นี้เป็นพวกปากไม่มีหูรูดจริงๆ
ทำเอาเยี่ยนอวี๋ต้องเอ่ยอธิบาย “ที่เม่ยเอ๋อร์พูดหมายถึงนิสัยน่ะเจ้าค่ะ”
หากนางไม่เอ่ยอธิบายก็ยังดี พอนางอธิบายเช่นนี้แล้ว จากคนไม่คิดลึกตอนนี้ก็ต้องคิดลึกแล้ว
“อ้ะเน้ะ?”
มีเพียงเยี่ยนเสี่ยวเป่าผู้เดียวที่ไม่เข้าใจ “อ้ะเน้ะเนะ? อ้ะเน้ะเนะ…” ทำไมถึงบอกท่านพ่อใช้การไม่ได้เล่า? ท่านดีมากนะ! เสี่ยวเป่าชอบท่านพ่อคนงามมากๆ!
ดังนั้นต้าซือมิ่งบางคนจึงชื่นชอบเจ้าก้อนน้อยที่สนับสนุนท่านพ่อสุดฤทธิ์เป็นอย่างมาก ทำให้เขาโอบเจ้าก้อนน้อยแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว รู้สึกว่าตนเองเลี้ยงเด็กน้อยเอาใจใส่ออกมาได้คนหนึ่ง
ดังนั้นเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่รับรู้ถึง ‘กำลังใจ’ จากพ่อแท้ๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังเขินอายอยู่นั้นก็ฝืนเอ่ยออกมาว่า “พ่อ พ่อ…ใช้ได้!”
คำนี้ช่าง…
“พรูด!”
เยี่ยนหงชวนพ่นน้ำชาในปากออกมาแล้ว! ขอถามหน่อยเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์นี่มาจากไหนกัน จริงๆ เลย นอกจากเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็ไม่มีผู้ใดมีสิทธิ์พูดมากไปกว่าเขาแล้ว
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ยังไม่ได้รับคำยืนยันยังไม่พอใจ “อ้ะเน้ะ!” พวกท่านอย่ามารังแกนะ ท่านพ่อข้าขี้กลัว!
พูดคำนี้จบเจ้าก้อนน้อยบางคนก็บิดตัวกางแขนเล็กป้อมออก แสดงท่า ‘พ่อของข้าข้าจะปกป้องเอง’ ออกมา
เยี่ยนอวี๋ “…”
“พรืด…”
เยี่ยนจื่อเสาทนไม่ไหวหัวเราะออกมาแล้ว “ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่นนะ ไม่ใช่ ฮ่าๆๆ เสี่ยวเป่าน่ารักมากจริงๆ แต่ว่า เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์พี่อยู่ข้างเจ้านะ ฮ่าๆๆ…”
ไม่ได้การแล้ว!
เม่ยเอ๋อร์และเสี่ยวเป่าที่ ‘คนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ’ ชวนให้คนขำจะตายแล้ว!
เยี่ยนจื่อเสาแม้รู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้ด้วยสถานะของเขาแล้วไม่ควรหัวเราะ แต่ว่ามันอดไม่ได้จริงๆ นี่!
จากนั้นเขาก็โดนท่านพ่อของเขาด่า “หัวเราะอะไร หุบปากเดี๋ยวนี้เลย!”
“ขอรับ ท่านพ่อ” เยี่ยนจื่อเสาที่ยังขำรีบกลั้นเสียงเอาไว้
เยี่ยนชิงเท้าเอวจ้องมองต้าซือมิ่งเขม็ง ในใจมีหลากหลายอารมณ์ผสมปนเป หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าต้องมีเขินอายอยู่ แต่เขาไม่อาจแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจได้ จึงพยายามวางท่าเข้มงวดออกมาอย่างสุดความสามารถ!
และต้าซือมิ่งที่ถูกจ้องมองก็เอ่ยเรียกเสียงอบอุ่น “ท่านพ่อตา”
“!” เยี่ยนชิงที่หลุดมาดก็ไม่เสแสร้งแล้วเช่นกัน “อย่าซี้ซั้วเรียก!”
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินท่านตาดุท่านพ่อกลับพองแก้มขึ้นแค่นเสียงอ่อนเยาว์ออกมาคำหนึ่ง ฮึ
“เจ้ามันเด็กชั่วร้ายกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา!” เยี่ยนชิงจิ้มหน้าหลานชายตัวน้อย ในใจเจ็บปวดเหลือจะกล่าว!
เจ้าตัวเล็กยังเด็กเพียงนี้กลับปกป้องบิดาแท้ๆ ขนาดนี้แล้ว อย่างนั้นเหตุใดไม่รู้จักปกป้องท่านตาของตนเองบ้างเล่า!? จิตใจนี้ช่างลำเอียงเสียจน…เลือดข้นกว่าน้ำจริงๆ สินะ!
แต่ว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับแสดงออกอย่างซื่อตรง “กิง กิง พ่อ พ่อข้าว…” หมายความว่าเขากินอาหารของท่านพ่อจึงไม่ได้กินบนเรือนขี้รดบนหลังเสียหน่อย
“เจ้าเด็กนี่…” เยี่ยนชิงที่ในที่สุดก็ฟังออกแล้วยอมให้กับเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์นี่จริงๆ ทำเอาเขาต้องเอ่ยด้วยความโมโหว่า “หรงอี้ใช่หรือไม่ เจ้าออกมา อย่าให้เจ้าตัวเล็กปกป้องเจ้าอยู่ ข้าจะตีสารเลวอย่างเจ้าให้ตาย!”
“อ้า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินว่าจะตีท่านพ่อของเขาก็รีบกอดท่านพ่อเอาไว้แน่นทันที “อ้ะเน้ะ! อ้ะเน้ะเนะ…” ห้ามตีท่านพ่อคนงามของข้านะ…
“เจ้า…” เยี่ยนชิงร้อนใจแล้วจริงๆ
เยี่ยนหงชวนกำลังเตรียมจะออกโรง
ต้าซือมิ่งบางคนกลับลูบหัวโล้นน้อยๆ ของเจ้าก้อนน้อยพลางอธิบายว่า “ท่านตาจะตีพ่อ นั่นเพราะว่าพ่อทำผิด ก็เหมือนที่เวลาเสี่ยวเป่าทำผิดแล้วต้องโดนตีนั่นแหละ ดังนั้นต้องตี”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าส่ายหน้าอ้วนไปมายังคงกอดท่านพ่อไว้แน่น
เยี่ยนอวี๋ทนมองต่อไปไม่ได้แล้ว นางจำต้องดึงท่านพ่อเอาไว้แล้วอธิบายอย่างละเอียดว่า “ท่านพ่อ เรื่องนี้ อืม ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเยี่ยนชิงถัง”
“นั่นก็เรื่องหนึ่ง! แต่ก็ต้องโทษเจ้าสารเลวนี่ด้วย! เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เจ้าอย่ามาห้ามพ่อ พ่อบอกเจ้าให้เจ้าอย่าโดนชายผู้นี้หลอกเอาเชียวนะ! นั่นเป็นเพราะว่าเขารังแกเจ้า! แม่นางน้อยล้วนเสียเปรียบ เจ้ามาหาพ่อนี่ไม่ต้องพูด”
เยี่ยนชิงปลอบลูกสาวไปพลางดึงนางมาอยู่ด้านหลังไปพลางยังคงจ้องต้าซือมิ่งเขม็ง “พูดก็พูดแล้ว เจ้ายังไม่วางหลานชายข้าลงแล้วมาโดนตีอีก!”
“อ้ะเน้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ให้ตายอย่างไรก็เกาะท่านพ่อหนึบไม่ยอมลงมาอดตาแดงไม่ได้แสดงออกว่ารักท่านพ่อที่กว่าจะตามหาเจอได้ไม่ง่ายผู้นี้ยิ่งนัก
เสี่ยวเป่าที่แสนอบอุ่นเช่นนี้ทำให้ใจดวงนี้ของหรงอี้ล่องลอยและหนักอึ้งในเวลาเดียวกันราวกับถูกโอบล้อมไว้อย่างแน่นหนารู้สึกมีความสุขเหลือล้นทำให้เขาจูบเบาๆ ลงไปที่หัวโล้นน้อยๆ ของเจ้าก้อนน้อยพลางเอ่ยปลอบว่า “เสี่ยวเป่าเป็นเด็กดีนะ เชื่อพ่อนะ ให้ท่านลุงรองอุ้มเจ้าก่อน ดีไหม”
“…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินยังคงกอดท่านพ่อต่อไป
เยี่ยนอวี๋ที่ยื่นศีรษะออกมาจากด้านหลังของเยี่ยนชิงเพียงมองก็รู้ว่าเจ้าตัวเล็กกำลังแกล้งโง่ ตอนนั้นเยี่ยนฉี่ซานกลับเอ่ยขึ้น “เอาล่ะ นั่งลงให้หมดแล้วค่อยๆ คุยกัน”
“อ้ะเน้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ฟังดังนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้นมองท่านพ่อทันที
ในใจเยี่ยนชิงอิจฉาเหลือเกินแต่ว่าเขากลับนั่งลงอย่างฉุนเฉียวก่อนเป็นคนแรก อีกทั้งยังดึงลูกสาวสุดที่รักมานั่งข้างๆ ด้วยกันอีกด้วย ทั้งยังเอ่ยอีกว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เอ๋ย เจ้าอย่าไร้เดียงสาเช่นเสี่ยวเป่านะ เพียงแค่นี้ก็ถูกลักพาตัวไปแล้ว หากเป็นเช่นนั้นพ่อต้องเจ็บปวดจนขาดใจตายแน่”
เยี่ยนอวี๋จะทำอย่างไรได้อีก นางจึงทำได้เพียงปลอบท่านพ่อ “ข้าเชื่อฟังท่านพ่อเจ้าค่ะ”
“ดีๆๆ” เยี่ยนชิงพลันรู้สึกสบายใจขึ้นมายังปรายตามองต้าซือมิ่งอย่างท้าทายอีกด้วย
ต้าซือมิ่งบางคนก้มหน้าลงอย่างน้อยอกน้อยใจแสดงท่าทางเคารพท่านพ่อตาเป็นอย่างมาก ท่านพ่อตาพูดอะไรก็เป็นเช่นนั้น
เยี่ยนชิงเพียงเห็นเช่นนี้แล้วก็รู้สึกว่าเขาเป็นหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ เขาไม่เชื่อหรอกนะว่าคนที่เมื่อครู่วางอำนาจขนาดนั้นจะยอมโอนอ่อนถึงเพียงนี้! เขาไม่ได้โง่นะ!
แต่ว่าเยี่ยนชิงก็เข้าใจดีว่าหากคนผู้นี้เป็นคนอ่อนโยนโอนอ่อนจริงก็คงจะไม่อาจแต่งกับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของเขาได้แน่โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นตอนนี้ แต่ว่า…
“หึ!” เป็นเพราะรู้ว่าต้าซือมิ่งผู้นี้ล้วนผ่านเกณฑ์ในทุกๆ ด้าน เหมาะสมเสียยิ่งกว่านายน้อยอินนั่นเสียอีก แต่ว่าเขากลับเป็นเจ้าสารเลวผู้นั้นที่รังแกเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ สมควรเอากระสอบคลุมหัวแล้วอัดให้ยับ เยี่ยนชิงปวดตับนัก…
ดังนั้นสำหรับเยี่ยนชิงแล้วตอนนี้เวลานี้ก็เหมือนตื่นมาในตอนเช้าแล้วพบว่าหัวผักกาดแสนงามของบ้านตนถูกหมูล้อมเอาไว้! เจ้าหมูนั่นยังมากอดต้นขาของเขาแล้วถูไถหน้าไปมา ทำให้เขาจะถีบก็ไม่ได้ไม่ถีบก็ปวดตับ
ส่วนเยี่ยนหงชวนอย่างไรก็อาวุโสแล้วและไม่เหมือนเยี่ยนชิงที่พอเป็นเรื่องของลูกสาวก็ไม่อาจสุขุมเยือกเย็นได้ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “หรงอี้ ใช่ไหม”
“ขอรับ ท่านปู่ทวด” ต้าซือมิ่งที่ปรับตัวไปตามสถานการณ์เพิ่มความเป็นญาติสนิทขึ้นมาอีกคำ เรียก ‘ท่านปู่ทวด‘ จนคล่องปาก เยี่ยนจื่อเสาทนมองต่อไม่ได้แล้วเขาจึงปิดตาเสีย
เยี่ยนหงชวนที่สีหน้าแข็งทื่อไปก็คิดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่าต้าซือมิ่งผู้นี้จะ… แค่ก! ช่างเถอะ “เจ้าอยากจะสู่ขอเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ใช่ไหม”
“ท่านปู่!” เยี่ยนชิงอยากจะพูด
เยี่ยนหงชวนกลับเอ่ยว่า “หุบปาก!”
“ท่านพ่อ ไม่โมโหนะเจ้าคะ ดื่มชาก่อนเถอะ” เยี่ยนอวี๋รีบยกน้ำชาให้ท่านพ่อเจ้าน้ำตาที่กำลังจะระเบิดของนางพลางช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวกจึงค่อยสามารถกล่อมให้เขาสงบลงได้
เยี่ยนหงชวนถอนใจ ในใจเข้าใจเจตนาที่เจ้าหลานเฒ่าทำเช่นนี้ เขาเบนสายตากลับไปที่ต้าซือมิ่ง ฝ่ายหลังพยักหน้าอย่างจริงใจ “อย่างที่ท่านเห็น ผู้เยาว์มีใจให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ต้องการสู่ขอนาง สานสัมพันธ์อันดีของสองตระกูลตลอดไป”
“ฝันไปเถอะ!” เยี่ยนชิงตอกกลับทันที “เจ้าเด็กนี่ อย่าคิดว่ารูปงามเข้าหน่อยก็จะฝันเฟื่องเหลวไหลได้”
“อ้ะเน้ะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับยิ้มให้ท่านตา
เยี่ยนชิงอึ้งไปเล็กน้อย เยี่ยนจื่อเสารีบอธิบายมาจากทางด้านข้าง “เสี่ยวเป่าคิดว่าที่ท่านพ่อพูดนั้นถูกต้อง ท่านพ่อของเขานั้นรูปงามจริงๆ”
เยี่ยนชิง “…”
เจ้าหลานชายตัวน้อยของเขาสวามิภักดิ์ให้แก่ ‘ศัตรู’ ไปโดยสมบูรณ์แล้ว หมดหวังแล้ว!
“แค่ก!” ผู้ปกครองใหญ่อย่างเยี่ยนหงชวนไม่หลุดจากประเด็นหลัก “น้ำใจของเจ้า ข้าเองก็เห็นแล้ว ข้าไม่คัดค้านแต่เรื่องนี้ต้องให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยอมตอบตกลงเอง นอกจากนั้น เจ้ายังต้องจัดการปัญหาทั้งหมดกับทางราชสำนักให้หมดก่อน เจ้าคงจะรู้ว่าที่ข้าหมายถึงคือเรื่องอะไร”
ต้าซือมิ่งที่อุ้มเจ้าก้อนน้อยไว้ยืนขึ้นและโค้งกายลงน้อยๆ เอ่ยสัญญาอย่างจริงจัง “ท่านปู่ทวดวางใจได้ วันที่ข้ามาสู่ขอเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ จะต้องเป็นวันที่ผาสุกร่มเย็น ให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้อยู่อย่างสุขสบายไปชั่วชีวิต”
เยี่ยนชิง “…”
เขาพลันคิดขึ้นมาได้ว่าวันนั้นเขาพูดประโยคที่ว่า ‘เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของพวกเราจะต้องร่ำรวยสูงศักดิ์ สุขสบายไปชั่วชีวิต’ ไม่ใช่หรือ อย่างนั้นคำพูดประโยคนั้นของเขาก็เป็นจริงแล้ว?
เจ้าคนผู้นี้ เดี๋ยวนะ
“ชื่อของเจ้ามาจากคำว่าอี้ (สุขสบาย) นั่นรึ” เยี่ยนชิงพลันถามขึ้น
“ย่อมเป็นอี้จากคำว่าสุขสบายไปชั่วชีวิต” ต้าซือมิ่งหรงอธิบาย
เยี่ยนชิงตบปากตัวเอง ระเบิดคำหยาบออกมา “มารดามันเถอะ!” ต้องโทษตัวเขาเอง!
“ท่านพ่อเป็นอะไรไป?” เยี่ยนอวี๋ยังถามต่อ
เยี่ยนหงชวนที่เป็น ‘พยานรู้เห็น’ กระตุกมุมปาก “เขากำลังเกลียดปากเสียๆ ของตัวเองอยู่น่ะ ก่อนหน้านี้ไม่นานเจ้าเลื่อนระดับที่เมืองลั่วสุ่ยใช่หรือไม่ ตอนนั้นเขาพูดว่า เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของพวกเราจะต้องสุขสบายไปชั่วชีวิตแน่นอน[1]”
เยี่ยนอวี๋ “…”
“ท่านปู่! ที่ข้าพูดน่ะยังมีคำว่าร่ำรวยสูงศักดิ์ด้วยนะ” เยี่ยนชิงเอ่ยแก้เสียงดัง
“งั้นต้าซือมิ่งไม่ใช่ผู้ที่ร่ำรวยสูงศักดิ์หรือไร” เยี่ยนจื่อเสาเอ่ยคำถามที่ทำให้ถึงแก่ความตายออกมาจากด้านข้าง
เยี่ยนชิงกระสับกระส่าย
มารดามันเถอะ!
เหตุใดปากของเขามันถึงได้ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้นะ
ต้าซือมิ่งหรงอี้ยังคงอุ้มเจ้าก้อนน้อยคุกเข่าลงข้างหนึ่ง “ท่านพ่อตาที่เคารพ โปรดรับการคารวะจากเขย นี่ล้วนเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามครรลอง”
เยี่ยนชิง “…”
เยี่ยนชิงที่ไม่ตอบอะไรอยู่นานทำให้เยี่ยนหงชวนคิดว่าตนจะต้องออกโรงเองอีกครั้ง อีกทั้งยังคิดว่าคำว่า ‘พ่อตา’ คำนี้เรียกตอนนี้ยังไม่เหมาะสมจริงๆ อีกทั้ง…
เยี่ยนชิงขยับแล้ว!
เขาก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเขากำลังจะอัดคนนั้นเขากลับคุกเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าต้าซือมิ่ง เอ่ยถามทีละประโยคว่า “เจ้าสามารถทำให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์สุขสงบไปชั่วชีวิตได้จริงๆ ใช่หรือไม่”
————————————-
[1] ต้าซือมิ่งชื่อว่าหรงอี้ 容逸 คำว่า อี้ 逸 นี้เป็นคำเดียวกับสำนวนที่ว่า 一生安逸 อีเซิงหรงอี้ หรือหมายถึง สุขสงบชั่วชีวิต ดังนั้นการที่เยี่ยนชิงพูดสำนวนที่มีคำว่า อี้ ของประโยคนี้จึงเหมือนสมพรปากได้ลูกเขยที่มีชื่อว่า อี้ อยู่ในชื่อ