เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 276 คนขี้ขลาดคือต้าซือมิ่ง!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

“ศัตรูลอบโจมตี!”

เหล่าผู้อาวุโสที่คุ้มกันรอบนอกของสำนักคุนอู๋ส่งสัญญาณเตือนออกไปล่วงหน้า ล้วนตกตะลึงกับการ ‘สั่นไหว’ ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าประตู แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

แต่ทว่าความจริงที่ผู้พิทักษ์ประตูถูกฆ่าตายนั้น พวกเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน…

กระบวนท่าเดียว!

เพียงแค่ท่าเดียวก็พ่ายแพ้!

กระบวนท่าเดียว!

เป็นเพราะกระบวนท่านี้จึงถูกฆ่า

หากมิใช่ว่าพวกเขารู้ดีว่าผู้พิทักษ์ของพวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิตล่ะก็! คนในสำนักคุนอู๋คงคิดว่านั่นเป็นเพียงผู้ฝึกฌานตัวน้อยที่อยู่เพียงขั้นปฐมภูมิเท่านั้น

จากนั้น แม้นพวกเขาจะเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่ค่ายกลป้องกันของพวกเขายังไม่ทันได้เปิดใช้ กลุ่มเยี่ยนอวี๋ก็ได้ก้าวเข้ามาในสำนักคุนอู๋แล้ว!

“ผู้ต้อยต่ำจากที่ใดกัน!”

“โจรจากที่ใดกัน!…”

ผู้อาวุโสสำนักคุนอู๋ รวมถึงผู้พิทักษ์หลายนายล้วนปรากฏตัวขึ้นเพราะแรงสั่นไหว! ทุกคนต่างเหินกายมาจากประตูในของสำนักคุนอู๋ แม้แต่ค่ายกลปกป้องสำนักของสำนักคุนอู๋ก็ถูกเปิดใช้แล้วด้วย

ถึงขนาดเมืองหลวงเองก็ตกใจตามไปด้วย “เกิดอะไรขึ้น”

“ไม่รู้! เกิดอะไรขึ้นกับสำนักคุนอู๋”

“ไปดูเสีย…”

ผู้คนที่รอดูเหตุการณ์พากันมารวมตัวกันที่ชานเมืองทางตอนเหนือ

กองทหารรักษาการณ์ของราชสำนักก็ส่งกองทัพสอดแนมไปกองหนึ่ง ชนชั้นสูงแต่ละตระกูล แต่ละสำนักต่างก็ออกเดินทางเช่นกัน

เพราะอย่างไรสำนักคุนอู๋ก็ไม่ใช่สำนักเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะพ่ายให้กับสำนักชางอู๋ สำนักคุนอู๋ก็เป็นสำนักอันดับหนึ่งแห่งต้าซย่าเช่นกัน! บัดนี้ถึงแม้จะเสียชื่อมาก แต่ฝีมือของสำนักก็ยังคงอยู่เช่นเคย

แต่ฝีมือที่ว่านั้น กลับร่วงโรยเมื่ออยู่ต่อหน้ากลุ่มเยี่ยนอวี๋เสียอย่างนั้น!

“ต้าซือมิ่ง!?”

หยางถิงซานที่เห็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มาได้อย่างชัดเจนตะลึงไปครู่หนึ่ง “ท่านมาได้อย่างไร”

เสียดายที่ต้าซือมิ่งไม่ได้ตอบกลับใดๆ เลยด้วยซ้ำ เขาสะบัดแขนเสื้อออกขวางค่ายกลป้องกันชั้นนั้นของสำนักคุนอู๋ที่อยู่ตรงหน้า และเข้าไปยังประตูด้านในของสำนักคุนอู๋ก่อน!

“…”

พลังค่ายกลป้องกันที่แยกออกเป็นสองข้างราวกับผ้าม่าน ไม่อาจต้านทานลำแสงสีม่วงที่กระจายออกมาจากต้าซือมิ่งได้เลยจึงเกิด ‘ประตู’ ขึ้นมาบานหนึ่ง

“นี่มัน…”

ใบหน้าหยางถิงซานเต็มไปด้วยความตกใจ! ไม่คาดคิดเลยว่าค่ายกลป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับสำนักคุนอู๋นี้จะ ‘ไร้ประโยชน์’ ได้ถึงเพียงนี้

แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้ กลุ่มเยี่ยนอวี๋ได้เข้าไปในพื้นที่ลับของสำนักคุนอู๋แล้วภายใต้การ ‘นำพา’ ของต้าซือมิ่งบางคน ทำเอาผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์คุนอู๋ต่างตกใจจนได้สติกลับมา

“ต้าซือมิ่ง…อย่า!”

“ต้าซือมิ่ง…ท่าน…”

หยางถิงซานและคนอื่นๆ มีใจอยากห้ามปาม แต่ต้าซือมิ่งส่งเสียงออกมาแล้วว่า “หลีกไป”

น้ำเสียงที่สงบและสง่างามดังก้องอยู่บนท้องฟ้าราวกับเสียงพิณ เจือไปด้วยน้ำเสียงสะกดจากทวยเทพ ทำให้ผู้คนที่เข้าใกล้ต่างหูอื้อและใจสั่น! หัวใจได้รับความเสียหาย

“เสียงสะท้อนแห่งเทพ!” หยางถิงซานหน้าซีด เพราะเขารู้จักกระบวนท่าอภิญญาของต้าซือมิ่ง เป็นหนึ่งในอภิญญาที่ทรงพลังที่สุดของต้าซือมิ่ง ไม่ต่างจากม่านพลังแห่งเทพเท่าไรนัก

ที่ต่างคือ ม่านพลังแห่งเทพใช้สำหรับป้องกันอภิญญา แต่เพียงเพราะว่าไม่มีผู้ใดสามารถแก้ได้! จึงยากที่จะฝึก แต่ทว่าเสียงสะท้อนแห่งเทพนั้นถือเป็นอภิญญาที่มีพลังสังหารมากที่สุด และน่ากลัวที่สุด!

ตรงหน้านี้ ต้าซือมิ่งบางคนก็ได้แสดงออกให้เห็นถึงจุดที่น่าหวาดกลัวของเสียงสะท้อนแห่งเทพแล้ว เพียงแค่ชั่วขณะหนึ่งก็สามารถกำจัดผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์สำนักคุนอู๋ได้ในทันที

ทำเอาอินหลิวเฟิงต้องปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่ของตน “แม่เจ้า…” เขาเกือบเป็นศัตรูของต้าซือมิ่งคนนี้แล้ว…ไม่! ตอนนี้เขาอาจจะยังไม่ถูกถอนออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัยก็เป็นได้

แม้แต่เอ้อร์เหมาเองยังอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง ซี๊ด ออกมา เจ็บฟันแทนนายน้อยของตนจริงๆ

แต่ต้าซือมิ่งได้มาถึงพื้นที่ลับคุนอู๋แล้ว!

วิ้งงง!

การเคลื่อนไหวหนึ่งรุนแรงขึ้นบริเวณใจกลางพื้นที่ลับคุนอู๋!

ฟิ้ว!

ฟึบๆ…

เสียงกรีดร้องประหลาดนับไม่ถ้วนที่แฝงไปด้วยแรงดึงดูดดึงพลังของทุกคนออกไปโดยตรง แต่กลับมีจุดที่คล้ายกับเสียงสะท้อนแห่งเทพ ทำให้เยี่ยนอวี๋คาดเดาได้ทันที

แต่ในขณะนั้นเอง!

มีเสียงระเบิดทึบๆ ออกมาจากพื้นที่ลับคุนอู๋อย่างเหนือความคาดหมาย

ทำให้เยี่ยนอวี๋รีบดึงคนข้างๆ ไว้ทันที “ถอย!”

เม่ยเอ๋อร์ได้สติรีบดึงตัวเยี่ยนจื่อเสาออกไปพร้อมกับอินหลิวเฟิงและเอ้อร์เหมาที่อยู่ข้างหลังอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน…

ปังงง!

เสียงระเบิดดังก้องออกมาจากพื้นที่ลับคุนอู๋แล้ว ทั้งพื้นที่ลับพังทลายลงต่อหน้ากลุ่มเยี่ยนอวี๋อย่างรวดเร็ว ฟุ้งกระจายไปด้วยฝุ่นควันและเสียงสะท้อนก้องกังวาน

ฉากนี้! ทำให้กลิ่นอายของต้าซือมิ่งหนักอึ้งขึ้นทันที เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่านี่เป็นวิธี ‘ทำลายศพ’ เป็นวิธีเดียวกันกับกลุ่มคนเมื่อครู่นี้ แต่ทว่า…

“อุ้มไว้” ต้าซือมิ่งส่งลูกน้อยในอ้อมกอดให้กับเยี่ยนอวี๋และลอยตัวราวกับใบต้นอู๋ถงระยิบระยับลงไปยังพื้นที่ลับคุนอู๋ที่พังทลายลง

“เนะ!”

“เอ๊ะ!”

เจ้าตัวน้อยและเยี่ยนอวี๋ส่งเสียงออกมาเกือบจะพร้อมกัน ทั้งทำท่าทางยื่นมือออกไปเหมือนกันอีกด้วย อยากจะคว้าต้าซือมิ่งที่แยกตัวออกไปกะทันหันด้วยกันทั้งสองคน แต่น่าเสียดายที่ฝ่ายหลังลอยตัวไปเร็วเกินไปและถูกดูดเข้าไปในดินทรุดเสียแล้ว

“ให้ตายเถอะ!”

เอ้อร์เหมาสบถออกมาในทันที! เพราะพื้นที่ลับคุนอู๋ที่พังทลายลงนั้น กำลังประสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว กลายเป็นผืนหญ้าผืนใหม่ภายในพริบตา ทุ่งหญ้าเขียวขจีราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาเสียก่อน

“นี่มัน…”

อินหลิวเฟิงตะลึงงัน ไม่รู้ว่าต้าซือมิ่งผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว ถุย! เขาที่ไม่กล้าคิดถึงคำว่า ‘ตาย’ รีบอธิษฐานให้กับต้าซือมิ่งทันที

อย่างอื่นไม่ว่า แต่เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่บริเวณใจกลางสำนักในของสำนักคุนอู๋ไงเล่า! หากต้าซือมิ่งผู้นี้ออกมาไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นพวกเขาคงไม่รอดเช่นกัน

“ล้อมพวกเขาไว้!” หยางถิงซานที่ยืนยันความคิดของอินหลิวเฟิงแล้วได้ส่งเสียงออกไป “ล้อมไว้ให้หมด! อย่าปล่อยไปแม้แต่คนเดียว!”

ฟิ้ววว!

ฟิ้วๆๆ!…

ผู้อาวุโสอันดับต้นแห่งสำนักคุนอู๋ ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้พิทักษ์ รวมถึงลูกศิษย์สำนักคุนอู๋ ผู้มีอำนาจต่างก็ล้อมกลุ่มเยี่ยนอวี๋ไว้หลายชั้น

“จบกัน” สีหน้าอินหลิวเฟิงย่ำแย่ รู้สึกไม่ดีไปทั้งตัว ดังนั้นเขาจะตามเข้ามาทำไมกัน! ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ นำตัวเองมาหาที่ตายเลย

เอ้อร์เหมาถาม “นายน้อย ท่านว่าเราจะสามารถมีปีกแล้วบินออกไปได้หรือไม่ขอรับ”

“เจ้าคิดว่าไงล่ะ” อินหลิวเฟิงมองดูผู้พิทักษ์ทั้งสามคนบนฟ้า รวมถึงค่ายกลใหญ่ของสำนักคุนอู๋ที่ปิดไปตั้งนานแล้ว ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว ทำได้เพียงรอต้าซือมิ่งเท่านั้น!

เขาเชื่อว่าชายคนนั้นไม่ตายง่ายๆ เช่นนี้แน่

จากนั้น หลักของการรอคอยคือรอด้วยชีวิต…

แม้นว่าหยางถิงซานจะออกคำสั่งลงไปแล้ว “ฆ่าพวกมันซะ! ไม่ต้องไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียว”

“ให้ตายเถอะ!”

เอ้อร์เหมาและอินหลิวเฟิงสบถออกมาพร้อมกัน แต่ฝ่ายหลังรีบถามขึ้นทันทีว่า “เจ้าสำนักหยาง พวกข้ารู้เรื่องมากมาย ท่านไม่อยากจะถามหน่อยหรือ”

“ไม่จำเป็น” หยางถิงซานโบกมือทันที!

ผู้คนน้อยใหญ่ในสำนักคุนอู๋กระชับวงล้อมให้เล็กลง!

เยี่ยนอวี๋กลับมีสีหน้าปกติ แต่เจ้าตัวน้อยในอ้อมกอดของนางกอดท่านแม่ของเขาไว้แน่นแล้ว พร้อมทั้งเกร็งใบหน้าอ้วนอวบของเขาไว้ราวกับจะสู้ตายกับคนอื่นด้วยอย่างไรอย่างนั้น!

หลังจากนั้น…

“ไม่! พวกเจ้าไม่อยากแก้พิษให้กับหลิงหยางจวินแล้วหรือ พวกเจ้าคงไม่ใสซื่อคิดจริงๆ หรอกนะว่าพิษที่ข้าปล่อยใส่เขาจะแก้ได้ง่ายๆ น่ะ” อินหลิวเฟิงที่แสดงสติปัญญาของตนอีกครั้งได้ยอมรับข่าวลือที่ว่าเขาเป็นคนวางยาใส่หยางเซ่าเหิงไปเรียบร้อย! มารดามันเถอะ!

แต่ทว่าคราวนี้…

“ช้าก่อน!”

หยางถิงซานรีบสั่งหยุดทันที และมองอินหลิวเฟิงด้วยสายตาเย็นชา “เป็นเจ้าที่วางยาเซ่าเหิงจริงๆ ด้วย รีบส่งยาแก้พิษมาเดี๋ยวนี้ ข้าจะให้เจ้าตายอย่างไม่เจ็บปวด!”

แน่นอนว่าอินหลิวเฟิงที่ไม่มียาแก้พิษกำลังจะอ้าปาก แต่เยี่ยนอวี๋กลับชิงพูดขึ้นก่อน “เช่นนั้นสามวันหลังจากนี้ ลูกชายของเจ้าก็รอให้ยาพิษกำเริบและกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปชั่วนิรันดร์เลยก็แล้วกัน”

“สารเลว! อย่าได้คิดจะสาปแช่งลูกชายข้า! ข้า…”

“ตอนนี้เขาเริ่มกลัวแสง และเริ่มหอนตามสุนัขแล้วสินะ” เยี่ยนอวี๋ไม่มีทางลืมแน่ ก่อนหน้านั้นที่นางวางยาให้กับเจ้าสำนักน้อยคนนั้นก็เพราะนั่นเป็นหมากที่นางเดินไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมาสำนักคุนอู๋อย่างไรล่ะ

ดังนั้นอาการที่นางกล่าวถึงล้วนสอดคล้องกับปัญหาของหยางเซ่าเหิง! และหากมิใช่ว่าหยางเซ่าเหิงมีอาการเช่นนี้จริง หยางถิงซานคงไม่สั่งหยุดเพราะได้ยินคำ ‘สารภาพ’ ของอินหลิวเฟิงอย่างแน่นอน!

หยางเซ่าเหิงในตอนนี้เจอแสงไม่ได้ ถึงแม้เขาจะอัญเชิญซีหวังหมู่มาได้ก็ตาม แต่การเจอแสงไม่ได้นั้นก็คือหนทางสู่ความตาย! ดังนั้นหยางถิงซานจึงร้อนใจจนแทบลุกเป็นไฟ

แต่เห็นได้ชัดว่าหยางถิงซานไม่หลงกล ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งลงไปว่า “ในเมื่อไม่รู้กาลเทศะ เช่นนั้นก็ลงมือเลย! ไว้ชีวิตเจ้าเด็กตระกูลอินไว้ก็พอ ที่เหลือฆ่าทิ้งให้หมด!”

“ไม่…” อินหลิวเฟิงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

เยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้นสะบัดเอาของสิ่งหนึ่งออกไปกลางอากาศ บังเกิดเสียง ปัง ดังตามมา ทำเอากลุ่มคนวงแรกที่เข้าใกล้พวกเขาสะท้านจนหัวใจสั่นไหวในทันที!

“แย่แล้ว! มีพิษ!” ผู้พิทักษ์ขั้นถอดจิตทั้งสามคนต่างส่งเสียงเตือน พร้อมกับสร้างเขตแดนป้องกันออกมา แต่ก็มีผู้อาวุโสและผู้ดูแลไม่น้อยที่ต้องพิษและล้มลงไป

นี่ยังไม่หมด…

ปังงง!

เยี่ยนอวี๋ระเบิดโอสถอีกหนึ่งเม็ดรอบด้านฟุ้งไปด้วยกลิ่นหอมของโอสถ ทำให้อสูรทรงพลังน้อยใหญ่ของสำนักคุนอู๋ต่างก็พากันเคลื่อนไหว

แรงดึงดูดของยาพยัคฆ์นั้นไม่เพียงแต่จะมีผลต่ออสูรในสำนักชางอู๋เท่านั้น แต่กับอสูรในสำนักคุนอู๋เองก็มีผลด้วยเช่นกัน ดังนั้นอสูรน้อยใหญ่ในสำนักคุนอู๋จึงเคลื่อนไหวกันอย่างบ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่าเพื่อมารวมกันที่นี่

“นางมาร!”

สีหน้าหยางถิงซานแปรเปลี่ยน แต่ก็สามารถมั่นใจได้ว่าสตรีตรงหน้านี้ต้องเป็นปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนที่ว่าแน่ๆ และเป็นผู้ที่วางยาพิษลูกชายสุดที่รักของเขาจริงๆ เสียด้วย ดังนั้นเขาจึงเตรียมตัวออกคำสั่งให้จับตัวเยี่ยนอวี๋แล้ว!

หลังจากนั้น…

โครมมม

ด้านใต้พื้นที่ลับคุนอู๋!

ได้มีการเคลื่อนไหวที่กระตุ้นจิตวิญญาณค่อยๆ ปรากฏขึ้น

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท