เพราะจู่ๆ นางก็นึกขึ้นได้ว่าดูเหมือนนางจะต้องเข้าวังเพื่อขอบพระทัย อืม…
ใบหน้าของเยี่ยนอวี๋เกร็งเมื่อนึกความทรงจำที่ไม่สู้ดีนักได้ ต้าซือมิ่งจับมือนางอย่างคุ้นเคย “ข้าจะไปกับเจ้า”
“อย่ารุ่มร่าม” เยี่ยนอวี๋ดึงมือกลับ ศีรษะของนางยังคงปวด นางไม่อยากเห็นหน้าหยวนคังฮ่องเต้คนนั้นจริงๆ
อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งเยี่ยนอวี๋ให้เป็นปราชญ์มหาสำนักก็เป็นเจตจำนงของหยวนคังฮ่องเต้เอง ตามกฎแล้วหลังจากที่นางมาถึงสำนักหมอหลวง นางจะต้องเข้าวังเพื่อแสดงความขอบคุณต่อหยวนคังฮ่องเต้ด้วยตนเอง
และเรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ เพราะข่าวการมาถึงของนาง คงจะกระจายออกไปทั่วเมืองหลวงแล้ว
“กลับเถอะ แล้วเข้าวังตอนเย็น” เยี่ยนอวี๋ไม่ต้องการให้โอกาสหยวนคังฮ่องเต้มาหาเรื่องสำนักชางอู๋ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจที่จะอดทนและไปหาเขา
“ท่านไม่บอก ข้าเองก็ลืมไปแล้วว่าเจ้ายังมีตำแหน่งเป็นปราชญ์มหาสำนักหมอหลวง” อินหลิวเฟิงค่อนข้างเสียดาย แต่เขาต้องการอยู่กับบิดาของเขาสักสองสามวัน
แต่อินสวินอี้กลับไล่เขาไป “เช่นนั้นหลิวเฟิงก็จะไปกับพวกท่านด้วย ข้าจะได้ไม่ต้องรำคาญตอนเห็นเขา”
“ท่านพ่อ! ท่านยังเป็นท่านพ่อของข้าอยู่หรือไม่”
“คนที่รักถึงขับไล่เจ้า เป็นคนเลี้ยงเจ้ายังกลัวว่าเจ้าจะใจบอบบางอีกหรือ”
อินหลิวเฟิง “…”
ดูเหมือนมีเหตุผล
แต่ทว่าซ่งเฉินฟางได้ขอให้ทุกคนรับอาหารพร้อมกัน “เมืองหลวงห่างจากที่นี่ไปไม่ไกลมาก ทุกท่านค่อยออกเดินทางหลังจากทานอาหารแล้วเถอะ”
“อ้ะ!” ทันทีที่เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ยินว่ามีของกิน เขาก็มองไปที่ท่านพ่อของเขา บ่งบอกว่าเขาจะต้องกินด้วย
ซ่งเฉินฟางกล่าว “น้ำค้างหลิงเซียงที่จี้จิ่วเป็นคนทำเอง เหมาะสำหรับสหายน้อยคนนี้มาก ข้าจะให้คนไปเอามันมา”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังรู้ว่า ‘สหายน้อย’ ที่พูดนั้นหมายถึงเขา ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ซ่งเฉินฟางอย่างสงสัย “อ้ะเนะ?” อร่อยหรือไม่
“สหายน้อยช่างฉลาดเสียจริง” ซ่งเฉินฟางยกย่อง แม้ว่าเขาจะมองออกว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ และมีรากเหง้าบริสุทธิ์และแปลกประหลาด แต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจสิ่งที่เขาพูด ทั้งยังตอบกลับอีกด้วย แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจภาษาเด็กทารกก็ตาม
“ฮี่ฮี่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหัวเราะอย่างใจกว้าง ทำให้ซ่งเฉินฟางมั่นใจมากขึ้นในสิ่งที่เขาคิด ดังนั้นเขาจึงพยายามอย่างยิ่งให้ทุกคนรั้งอยู่ต่อ “ทุกท่านรอสักครู่ ข้าจะรีบไปรีบมา”
เยี่ยนอวี๋ไม่อาจถอยกลับได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงรอ และบีบลูกน้อยตัวนุ่มนิ่มอีกครั้ง “เจ้านะเจ้า ไม่รู้จักเกรงใจเลยจริงๆ”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเกรงใจด้วย ไม่ได้น้ำลายไหลเสียหน่อย
“ไม่ได้เร่งด่วนอยู่แล้ว รอประเดี๋ยวเถอะ” อินหลิวเฟิงยังคงคิดถึงอาหารของสำนักศึกษา
เยี่ยนจื่อเสาอยากพบท่านอาจารย์ในอดีตด้วย ยังเชิญอินหลิวเฟิงให้ไปพร้อมกันกับเขาด้วย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ยินก็อยากไปด้วย และต้องการให้ท่านพ่อและท่านแม่ของเขาไปกับเขา เขาชอบความสนุกสนานและชอบให้ท่านพ่อท่านแม่อยู่เคียงข้างเขาด้วย เจ้าเล่ห์จริงๆ
แต่เยี่ยนอวี๋ไม่เห็นด้วย “ไม่ได้ ท่านลุงเมื่อครู่นี้ไปเอาของให้เสี่ยวเป่า หากเราไปแล้ว เช่นนั้นท่านลุงคนนั้นจะทำอย่างไร”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตกตะลึง “อ้ะเนะ!” เช่นนั้นเสี่ยวเป่าไม่เอาแล้ว!
“เมื่อครู่เจ้าไม่ได้บอกว่าไม่เอา ตอนนี้ไม่เอาไม่ได้แล้ว”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจะเป็นลม
ต้าซือมิ่งบางคนเกลี้ยกล่อม “หลังจากที่ท่านลุงคนนั้นนำของมาให้ หลังจากที่เสี่ยวเป่าขอบคุณและดื่มหมดแล้ว ท่านพ่อค่อยพาเสี่ยวเป่าและท่านแม่ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”
“แม!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองมารดาของเขาทันที ยังรู้จักถามความคิดเห็นจากท่านแม่อีก
เยี่ยนอวี๋ไม่อยากไปอยู่แล้ว แต่นางทนไม่ได้กับแววตาของลูกน้อย ดังนั้นนางจึงพยักหน้า
“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าโบกมือด้วยความดีใจ เขาเริ่มเต้นรำแล้ว ทั้งยังต้องการลงพื้นแล้วเดินเองสักพัก
“เท้าเปล่าจะเดินไม่ได้…สกปรก” ต้าซือมิ่งคนหนึ่งบีบเท้าเล็กๆ ของลูกน้อย ไม่อยากนึกภาพเท้าเล็กๆ ที่ลงไปเดินบนพื้นแล้วมาถูเขาอีกครั้งเลยจริงๆ
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าตื่นเต้นมาก เขาต้องลงพื้นให้ได้!
เยี่ยนอวี๋ทำได้เพียงปูผ้าปูให้ลูกน้อย และปล่อยให้เขาเล่นสักพัก
หลังจากที่ซ่งเฉินฟางกลับมา เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็เดินไปทางเขาด้วยร่างซวนเซทันที แต่ถูกแขนยาวของบิดาจับไว้และดึงเข้าไปในอ้อมแขน ไม่อนุญาตให้ออกจากผ้าปู
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่สนใจและมองขวดกระเบื้องในมือของซ่งเฉินฟาง
ซ่งเฉินฟางให้คนนำน้ำอุ่นมา และทำน้ำค้างหลิงเซียงให้กับเยี่ยนเสี่ยวเป่าด้วยตัวเอง
“นี่เป็นของดี ปกติหากเด็กเล็กดื่มแล้วจะช่วยให้เปลี่ยนสมรรถภาพทางร่างกายได้” อินสวินอี้รู้คุณค่าของน้ำค้างหลิงเซียงดี “เสี่ยวเป่าดื่มลงไปแล้วร่างกายต้องแข็งแรงกว่าเดิมแน่นอน”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับศีรษะโล้นเล็กๆ ราวกับถามว่าสามารถปลูกผมได้หรือไม่
อินสวินอี้ไม่รู้ แต่หลังจากที่ต้าซือมิ่งหรงป้อนลูกน้อยเสร็จแล้ว เจ้าตัวน้อยก็เปล่งแสงออกมา! และเส้นผมก็งอกออกจากศีรษะเล็กน้อยจริงๆ ด้วย
“จริงด้วย” ซ่งเฉินฟางลูบเคราของเขาและยิ้ม “สหายน้อยกำเนิดจากสวรรค์ สามารถเพิ่มผลของน้ำค้างหลิงเซียงได้อย่างเต็มที่ มีภูมิต้านทานต่อสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดตั้งแต่ยังเล็ก”
“มหัศจรรย์มากเพียงนี้เชียวหรือ” อินสวินอี้ไม่เข้าใจจริงๆ
“อ๋องอินไม่ทราบเสียแล้วว่าน้ำค้างหลิงเซียงสร้างขึ้นโดยใช้วิธีการแบบโบราณ สมุนไพรวิญญาณที่คัดเลือกมาล้วนเป็นโบราณวัตถุ ซึ่งสามารถปลุกพลังของทารกได้ในระดับสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีสายเลือดที่เก่าแก่ มักจะได้ผลมาก” ซ่งเฉินฟางพูดและมองไปยังคู่สามีภรรยาที่อยู่ตรงหน้า
สำนักศึกษาเคยได้ยินชื่อต้าซือมิ่งมาก่อน แต่เรื่องราวภายนอกสำหรับสำนักศึกษาที่ห่างไกลจากการแก่งแย่งและวางอุบายแล้วไม่สำคัญเลย แต่ต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมเป็นเป้าหมายในการบ่มเพาะของสำนักศึกษามาโดยตลอด
“เนะ? เนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังคงมองดูมือและเท้าที่เปล่งประกายของเขาด้วยความสงสัย
ต้าซือมิ่งบางคนสามารถรับรู้ได้ว่าลูกน้อยและสายเลือดของเขากำลังร้องรับกันอย่างเงียบๆ ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ นี่เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน แม้ว่ามันจะคลุมเครือมาก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขามองไปด้านข้าง
“เป็นอะไรไป” เยี่ยนอวี๋สังเกตเห็นท่าทีประหลาดของต้าซือมิ่ง แต่นางคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับลูกน้อย เพราะสายตาของต้าซือมิ่งบางคนดูแปลกไปเล็กน้อย
หรงอี้ไม่ได้ปิดบัง “ข้ารู้สึกได้ว่าเลือดของเจ้าตัวน้อยร้องรับกับข้า”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังกอดพ่อของเขาด้วยท่าทางใกล้ชิด
“ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดา” ซ่งเฉินฟางยังคงลูบเคราและถอนใจยาว ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันผู้ที่มีสายเลือดร้องรับกันนั้นล้วนเป็นผู้สูงส่งไม่ธรรมดา
แต่ซ่งเฉินฟางไม่รู้ว่าสำหรับหรงอี้และลูกชายของเขา ความเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาไม่ใช่การสะท้อนของสายเลือดธรรมดา แต่เป็นสายเลือดที่สามารถเชื่อมโยงได้โดยตรงแม้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายหรือห่างไกลออกไปมาก
อย่างไรก็ตามต้าซือมิ่งหรงงงงวยเล็กน้อยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะได้สติกลับมาอีกครั้งเพราะเยี่ยนอวี๋ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าถึงแปลกนัก”
“เพียงแค่รู้สึกแปลกนิดหน่อย เหตุใดข้าถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน” หรงอี้สารภาพและขอบคุณซ่งเฉินฟาง “ขอบคุณมาก”
“ไม่กล้าๆ! ข้าไม่คู่ควรรับคำว่า ‘ขอบคุณ’ จากต้าซือมิ่งหรอก เพียงแค่ยืมดอกไม้ถวายพระเท่านั้น” ซ่งเฉินฟางโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เด็กคนนี้ พวกท่านต้องเลี้ยงดูให้ดี”
“สำนักศึกษาไม่รับหรือ” อินสวินอี้ถามด้วยรอยยิ้ม
ซ่งเฉินฟางกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ต้นกล้าดังกล่าวอยู่นอกเหนือความสามารถของสำนักศึกษาของข้าที่จะสั่งสอนได้ ต้าซือมิ่งจะต้องมีการสืบทอดของเขาเอง และสำนักศึกษาไม่อาจหลอกลวงลูกศิษย์ได้”
“ฮ่าๆๆ…” อินสวินอี้ไม่แปลกใจ แต่ถอนหายใจกับความจริงที่ว่ามังกรให้กำเนิดมังกรจริงๆ ต้าซือมิ่งที่ไม่ธรรมดา ลูกชายย่อมไม่ธรรมดาด้วย แม้แต่สำนักศึกษาก็ยัง ‘ไม่กล้า’ จะรับ
อย่างไรก็ตามด็กน้อยที่ไม่ธรรมดาได้หมดความตื่นเต้นแล้ว และเริ่มที่จะให้ท่านพ่อของเขาออกไปเล่นอีกครั้ง!
เยี่ยนอวี๋ทำได้แค่ขอโทษที่จะต้องบอกลาซ่งเฉินฟาง และตกลงที่จะไปพบตอนรับอาหารเย็น ในขณะเดียวกัน นางก็ต้องการหาสถานที่ที่ไม่มีคนด้วย เพื่อถามสถานการณ์เฉพาะของต้าซือมิ่งคนนี้อย่างละเอียด
แต่ทั้งสองคนเดินออกจากสวนพร้อมกับลูกน้อยของพวกเขาเพียงครู่เดียว ก็มีอาจารย์วัยกลางคนเข้ามาจากด้านนอก และเมื่อเขาเห็นทั้งสองคน สีหน้าของเขาก็แข็งเกร็ง “ทั้งสองคนจะออกจากสำนักศึกษาหรือ”
“หืม?” เยี่ยนอวี๋ลืมตาขึ้น มึนงงเล็กน้อย “ไม่ใช่ อาจารย์มีเรื่องอันใดหรือไม่”
ซ่งเฉินฟางก็เดินออกมาเช่นกัน “ฉีเฉิน เกิดอะไรขึ้น”
“ท่านอาจารย์ซ่ง” อาจารย์วัยกลางคนกล่าวทักทายซ่งเฉินฟางด้วยการโค้งคำนับทันที “มีคนสร้างปัญหาอยู่นอกสำนักศึกษา เกี่ยวข้องกับปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน”
“สู้ก็สิ้นเรื่อง” ซ่งเฉินฟางตอบอย่างตรงไปตรงมา
อาจารย์วัยกลางคนต้องพูดว่า “ตอนแรกข้าก็ตั้งใจอย่างนั้น แต่ผู้มาเยือนยังพาคนจำนวนมากมาจากเมืองหลวงด้วย และพวกเขาไม่ได้ถือว่ามาสำนักศึกษา อันที่จริงก็ไม่ถือว่าหาเรื่อง โอ๊ย! ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนไปดูเองดีหรือไม่”
เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างรวดเร็ว “เช่นนั้นข้าจะออกไปดู”
“เชิญ”
อาจารย์วัยกลางคนได้ต้อนรับคนหลายคนที่ทางเข้าสำนักศึกษา
เม่ยเอ๋อร์ขี้สงสัยเป็นคนแรกที่รับรู้ “ขยะมาแล้ว?!”
ตอนนี้…
นอกสำนักศึกษา!
กู้หยวนเหิง…ขยะที่เม่ยเอ๋อร์ว่ามาแล้วจริงๆ และว่ากันว่าเขาคุกเข่าคำนับทุกสามก้าวมาจากเมืองหลวง และได้ดึงดูดผู้ชมจำนวนมากรวมตัวกัน “กู้ชีหลางคิดจะทำอะไร”
และกู้หยวนเหิงที่เปลือยท่อนบนแบกหนามไว้บนหลังนั้นทั้งโขกศีรษะและร้องไห้ “จื่ออวี๋…ได้โปรดแต่งงานกับข้าเถอะ! เจ้าตำหนิข้า ทุบตีข้า ด่าข้าก็ได้ แต่ได้โปรดอย่าทิ้งข้า! ต้องคิดเผื่อ…” ลูกของเรา!
กู้หยวนเหิงซึ่งไม่สามารถพูดประโยคต่อไปได้จนจบก็ถูกกดไว้ด้วยกลิ่นอายของต้าซือมิ่งบางคน! ในสายตาของฝ่ายหลังมีแสงสีม่วงที่แตกสลายอยู่
“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ตื่นเต้นเช่นกัน “อ้ะเนะเนะ!” พ่อ! คนร้ายมาแล้ว! ตีเขา!
ต้าซือมิ่งบางคนก็มีเจตนาเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงอุ้มเจ้าตัวน้อยและกำลังจะออกจากสำนักศึกษา
แต่ขณะนั้นเอง…
เสียงชราแต่เฉียบคมดังมาจากระยะไกล “การแต่งงานครั้งนี้! ข้าเห็นด้วย! ในฐานะที่เป็นย่าของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน ข้ามีสิทธิ์ที่จะเห็นด้วย!”