เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 306 เยี่ยนเสี่ยวเป่ายอดเยี่ยมที่สุด!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 306 เยี่ยนเสี่ยวเป่ายอดเยี่ยมที่สุด!

กู้หยวนซูผงะ “…”

ยามนี้ห้องโถงดันตกอยู่ในความเงียบเพราะการประกาศเมื่อครู่นี้ของขันที คนที่มีวิชาย่อมได้ยินเสียงผายลม คนจำนวนไม่น้อยจึงพ่นหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ภาพตรงหน้าตลกมากจริงๆ หน้าของกู้กุ้ยเฟยเผชิญกับก้นน้อยๆ ของทารกน้อยพอดี!

พรวด!

ศิษย์สำนักชางอู๋อยู่ใกล้ที่สุด จึงได้ยินชัดเจนที่สุด พวกเขาอดขำไม่ได้จริงๆ!

กู้หยวนซูที่จำเป็นต้องสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ นางสูดลมหายใจเข้าด้วยสัญชาติญาณ จากนั้นเมื่อนางสูดเสร็จแล้วก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะนางไม่ได้ยืดตัวตั้งตรงก่อนจะสูดหายใจ! ถึงแม้ตดของเจ้าตัวน้อยจะไม่เหม็น แต่…

“หอม?” เจ้าตัวน้อยที่หันศีรษะมาอีกครั้งก็ถามตาปริบ เพราะเห็นกู้หยวนซูสูดหายใจ เด็กน้อยแสดงท่าทีน่ารัก แต่คำถามกลับ ‘ชั่วร้าย’ นัก

กู้หยวนซูเกือบจะอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ดีที่เหอซงรีบเอ่ยขึ้นก่อนว่า “ต้าซือมิ่ง ฝ่าบาทมีบัญชาให้ท่านขึ้นไปนั่งเพื่อดำเนินพิธีแต่งตั้งเจ็ดสำนักครั้งนี้พร้อมกู้กุ้ยเฟย”

“หมายความว่าอย่างไร” เยี่ยนอวี๋ถาม

กู้หยวนซูกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “พระประสงค์เป็นดังเช่นนี้ ข้าและหัวหน้าผู้ดูแลเหอจะรู้ได้อย่างไร”

“ข้าถามเจ้าหรือ” เยี่ยนอวี๋ถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

กู้หยวนซูสะอึก เหอซงรีบตอบว่า “เรียนปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน ข้าน้อยไม่ทราบจริงๆ และก็มิบังอาจคาดเดาเอง”

คำตอบนี้ทำให้กู้หยวนซูสะใจไม่น้อย ทว่าต้าซือมิ่งก็กล่าวว่า “ที่นั่งประธานนั่นไม่จำเป็น ข้าอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว”

“ต้าซือมิ่ง เช่นนี้จะลำบาก” กู้หยวนซูพยายามเชื้อเชิญ

ต้าซือมิ่งกลับไม่กล่าวอะไรอีก เขาแสดงท่าทีไม่อยากสนใจกู้หยวนซูชัดเจน

กู้หยวนซูสีหน้าแข็งเกร็งอีกครั้ง “…”

เหอซงจำเป็นต้องช่วยคลายสถานการณ์อีกครั้ง “ท่านซือมิ่งคิดว่าดีก็พอ แต่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันใดๆ ท่านโปรดช่วยเหลือ”

“อืม” ต้าซือมิ่งหรงตอบอย่างราบเรียบ

เหอซงจึงโล่งอกและเชิญกู้หยวนซูขึ้นแท่นเพื่อดำเนินพิธี แม้ฝ่ายหลังจะไม่ค่อยพอใจนัก ถึงอย่างไรนี่เป็นโอกาสที่นางขอมาได้ ยากนักที่จะได้นั่งคู่กับต้าซือมิ่ง แต่จะทำอย่างไรได้เล่า ต้าซือมิ่งท่านนั้นไม่ยอมห่างจากว่าที่ภรรยา ดึงดันจะนั่งในบริเวณของสำนักชางอู๋ ราวกับแต่งเข้าสำนักชางอู๋แล้ว

กู้หยวนซูทำได้เพียงลาจากต้าซือมิ่งหรงและยังสะบัดแขนเสื้ออย่างไม่เป็นมิตรใส่เยี่ยนอวี๋ เสียงซุกซนของเด็กน้อยดัง แบร่ๆ ขึ้นข้างหู

“เจ้าเด็กซุกซน” เยี่ยนอวี๋หยิกแก้มชมพูระเรื่อของเด็กน้อย

อินหลิวเฟิงที่แต่เดิมนั่งอยู่ในเขตของตระกูลสูงศักดิ์ก็อดเดินมาหาพร้อมเอ้อร์เหมาไม่ได้ “ใช้ได้นี่! พ่อคุณทูนหัว สมแล้วที่เป็นคุณชายน้อยของข้า เก่งจริงๆ! แม้จะไม่สุภาพไปหน่อย”

“เก่ง!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ฟังอย่างอื่น ฟังแต่คำว่า ‘เก่ง’

“ใช่แล้ว! นายท่านน้อยเก่งที่สุดเลย!” เอ้อร์เหมาทอดถอนใจ คุณชายน้อยท่านนี้รู้จักปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ท่านพ่อของเขาเช่นนี้ ช่างเป็นเด็กน้อยมากความสามารถที่ปกป้องท่านพ่อจริงๆ น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่บุตรของนายท่านน้อยของพวกเขา

“ทำเอาข้าน้อยตกใจหมดแล้ว!” ชุ่ยชุ่ยตบหน้าอกเบาๆ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ นางตกใจมากจริงๆ กลัวว่าคุณชายน้อยจะถูกกุ้ยเฟยที่เห็นหน้าก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรนั่นอุ้มไป

“ฮึ!” เม่ยเอ๋อร์กลับพ่นเสียงเย็นชาออกมา นางกังวลเพียงไม่มีศึกให้รบ ไม่เคยหวาดกลัวใดๆ

ในขณะที่สำนักชางอู๋กำลังครึกครื้นอยู่นั้น เหอซงก็อ่านราชโองการของหยวนคังฮ่องเต้ จึงรู้ว่าพิธีแต่งตั้งเจ็ดสำนักครั้งนี้ หยวนคังฮ่องเต้คงไม่ปรากฏตัว อย่างน้อยก็คงไม่มาจนกว่าจะถึงรอบชิงชนะเลิศ

“นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เยี่ยนหงชวนรู้สึกแปลก

เยี่ยนจื่อเสากลับไม่ใส่ใจนัก “อาจจะยังบาดเจ็บสาหัสอยู่”

เยี่ยนอวี๋กลับไม่คิดเช่นนั้น ด้วยวิถีการทำงานที่ผ่านมาของหยวนคังฮ่องเต้ หากเขาไม่มั่นใจว่าจะฟื้นตัวได้ทันก่อนวันนี้ เขาย่อมไม่มีราชโองการเช่นนั้น

“จวนอ๋องของเราได้ข่าวมาว่าตั้งแต่วันนั้นพระองค์ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ระหว่างนั้นเหมือนกับว่ามีเพียงกู้หยวนซูได้พบพระองค์ อาการน่าจะไม่ค่อยดีจริงๆ” อินหลิวเฟิงพอจะรู้ข่าวคราวเล็กน้อย

“ไม่ว่าอย่างไร ใครเป็นผู้ดำเนินงานก็ไม่ต่างกันหรอก มิอาจเล่นพรรคเล่นพวกต่อหน้าสาธารณะชนเช่นนี้ได้” เยี่ยนชิงกลับมองในแง่ดี “มิหนำซ้ำยังมีเจ้าเด็กหรงอี้คอยสังเกตการณ์อยู่”

“ก็ถูก” อินหลิวเฟิงแหล่มองต้าซือมิ่งที่ถูกเรียกว่า ‘เจ้าเด็ก’ นั่น พบว่าเขาไม่มีทีท่าไม่พอใจใดๆ จะว่าไปแล้วเขาปฏิบัติต่อกูไหน่ไนดีเยี่ยมไร้ที่ติจริงๆ

“น่าเสียดายที่ข้าน้อยออกจากสำนักจวินจื่อและเข้ามาจวนอ๋องแล้ว มิเช่นนั้นคงเข้าร่วมพิธีครั้งนี้เหมือนซานเหมาแล้ว” เอ้อร์เหมาเสียใจที่มิสามารถแสดงความสามารถของตนได้

อินหลิวเฟิงอยากจะกรอกตา ทว่ากู้หยวนซูก็พูดขึ้นว่า “การเริ่มประลองในพิธีแต่งตั้งเจ็ดสำนัก ที่ผ่านมาจำเป็นต้องให้ต้าซือมิ่งบวงสรวงสวรรค์ เชิญต้าซือมิ่งเปิดแท่นบวงสรวงพร้อมข้า”

“กู้กุ้ยเฟย เกรงว่าท่านไม่มีคุณสมบัติเปิดแท่นบวงสรวงสวรรค์” เฉินฉุนเฟิงจำเป็นต้องเอ่ยขึ้น “มีเพียงปราชญ์มหาสำนัก เทพธิดาเยี่ยนจึงมีคุณสมบัติทำพิธีบวงสรวงพร้อมต้าซือมิ่ง”

“ใช่แล้ว” จวินอั้นหยวนสำทับ

“มีเหตุผล!” เยี่ยนชิงกล่าวสำทับเสียงดัง

“ข้าขอคัดค้าน!” ชือปี้เหลียนกลับแทรกขึ้นมา

น่าเสียดาย…

“ลัทธิเซิ่งเหลียนไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็นในเรื่องใดๆ ของราชสำนัก” เฉินฉุนเฟิงตอบโต้การคัดค้านของชือปี้เหลียนอย่างไม่เกรงใจ ส่วนสำนักเหยาไถเซียนกลับอยากสนับสนุนกู้หยวนซู

แต่จะทำอย่างไรได้ ต้าซือมิ่งจูงคนข้างกายพร้อมอุ้มเด็กน้อยลุกขึ้นยืนแล้ว “เฉินเซ่าซือพูดได้ดี ตบรางวัล”

“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็มองไปรอบทิศอย่างตื่นตาตื่นใจ

อันที่จริงเยี่ยนอวี๋ก็ไม่คิดจะขึ้นไป แต่บัดนี้ก็มิอาจปฏิเสธได้แล้ว นางจึงเดินออกจากตำแหน่งที่นั่งสำนักชางอู๋พร้อมชายข้างกาย พวกเขาเดินขึ้นไปบนเวทีบนลานสนามราชสำนัก

สิ่งที่จำเป็นสำหรับการบวงสรวงตระเตรียมไว้แต่แรกแล้ว ต้าซือมิ่งจึงยกเด็กน้อยขึ้นไปบนไหล่ “นั่งดีๆ อย่าตกลงมา”

“ได้…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบเสียงหน่อมแน้ม มืออวบอ้วนของเขาก็กอดคอท่านพ่อไว้แน่น เขานั่งบนนั้นอย่างมั่นคง

เฉินฉุนเฟิงแบ่งธูปที่จุดแล้วให้หรงต้าซือมิ่งและเยี่ยนอวี๋ เมื่อเด็กน้อยเห็นว่าตนไม่มีก็โวยวาย “ข้า!”

“นี่…” เฉินฉุนเฟิงนิ่งงัน

คนสำนักคุนอู๋ก้มศีรษะซุบซิบกันทันที “เห็นเป็นการละเล่นของเด็กน้อยอยู่รึไง! นี่มันพิธีบวงสรวงสวรรค์เชียวนะ”

“นั่นน่ะสิ…” ถึงอย่างไรพวกเขาก็เกรงกลัวอำนาจต้าซือมิ่งจึงทำได้เพียงซุบซิบกัน กระทั่งโกรธเกลียดต้าซือมิ่งและเทพธิดาเยี่ยนก็มิกล้า

แต่แล้ว เยี่ยนอวี๋ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของสวรรค์ก็เอ่ยว่า “ให้เขา”

เฉินฉุนเฟิงตะลึงงัน แต่เขาก็จุดธูปตามคำสั่ง ในฐานะที่เป็นเซ่าซือมิ่งในตำหนักซือมิ่ง เฉินฉุนเฟิงยังมีความสามารถในการประเมินพลังวิเศษ เขารู้ดีว่าคุณหนูใหญ่เยี่ยนท่านนี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์แท้จริง จึงได้รับการยอมรับจากแดนเทพ!

เฉินฉุนเฟิงจึงมิต้องรอให้ต้าซือมิ่งเอ่ยปาก เขาก็ทำตามคำสั่งของนางแล้ว จากนั้นเสียงซุบซิบข้างล่างก็มากขึ้นเรื่อยๆ “เล่นการละเล่นของเด็กน้อยจริงๆ ด้วย! นี่มันช่าง…”

แต่ไม่ว่าคนเหล่านี้จะซุบซิบกันอย่างไร ต้าซือมิ่งก็วางเด็กน้อยที่อยู่บนไหล่ลงมายืนบนพื้นแล้ว และยังปูเสื่อผืนน้อยไว้ให้เขาด้วย

เจ้าตัวน้อยยืนอย่างมั่นคงบนเสื่อผืนเล็ก ก้อนกลมๆ สีชมพูนั่นอย่าให้กล่าวเลยว่าน่ารักแค่ไหน เขายังถือธูปสามดอกที่เฉินฉุนเฟิงให้เขาอย่างจริงจัง

“ระวังร้อน” เยี่ยนอวี๋กำชับ “เจ็บๆ นะ”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าจริงจังกว่าเดิม “ได้…”

เฉินฉุนเฟิงประกาศหลังจากต้าซือมิ่งหรงส่งสัญญาณ “เปิด! แท่น!”

“เปิด… แท่น…”

เหล่านักบวชตำหนักซือมิ่งต่างสวดมนต์โบราณเสียงดังระงม สร้างความยิ่งใหญ่โอฬาร

ลานสนามราชสำนักอันไพศาลเงียบสงัดในทันใด ทุกคนแหงนมองแท่นบวงสรวงอย่างจริงจังและเคร่งขรึม

กู้หยวนซูจ้องผู้ใหญ่คนหนึ่งกับเด็กน้อยอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายต้าซือมิ่งเขม็ง แววตาปรากฏความเคียดแค้นอันยากจะควบคุมได้! นี่เพิ่งเริ่มต้น นางก็ถูกแม่ลูกคู่นี้เหยียบย่ำถึงสองคราแล้ว! นางจะไม่คิดแค้นได้อย่างไร ทว่าหากไม่ใช่เพราะนางทำตนเองอับอาย เยี่ยนอวี๋และเยี่ยนเสี่ยวเป่าจะเห็นนางในสายตาหรือ แน่นอนว่าย่อมไม่เห็น ทว่า…

“ฮึ!”

กู้หยวนซูที่ยิ้มเย็นชาในใจเชื่อว่าอีกไม่นานนางก็จะได้เห็นภาพอัปลักษณ์ของสองแม่ลูกนี้แล้ว! โดยเฉพาะเจ้าเด็กสมควรตายนั่น!

เมื่อเปิดแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์แล้วจะมีแสงสายฟ้าผ่าลงมา! ทารกน้อยนั่นต้องตกใจจนร้องไห้แน่ๆ ถึงครานั้นล่ะก็คงสนุก หากตกใจจนตายไปได้เลยยิ่งดี! เจ้าเด็กน้อย! เจ้าเด็กสารเลว! เจ้าเด็กผี!

กู้หยวนซูคิดอย่างชั่วร้ายพลางมองไปบนแท่นอย่างจดจ่อ…

ครืน!

เปรี้ยงปร้าง!…

ทะเลสายฟ้าค่อยๆ รวมตัวกันภายใต้การสวดของตำหนักซือมิ่ง มันทรงพลังดั่งที่กู้หยวนซูคิด แต่แล้วเจ้าตัวน้อยกลับไร้ความรู้สึกใดๆ เขายังคงทำสีหน้าจริงจังถือธูปไว้อย่างมั่นคงและมองสายฟ้าร้องที่ค่อยๆรวมตัวกัน

ตู้ม!

สายฟ้าสีม่วงฟาดผ่านท้องฟ้า ทำเอานักฝึกฌานชั้นธรรมดาไม่น้อยหวาดผวาจนหน้าซีด

“เนะ!”

เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับส่งเสียงอุทานอย่างรื่นรมย์ ลำตัวน้อยๆ ของเขายังคงปักฐานแน่นอยู่ที่เดิม ไม่ขยับแม้แต่น้อย

กู้หยวนซูตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร”

ทว่าความจริงก็เป็นเช่นนั้น…

ตู้ม!

เปรี้ยงปร้าง!…

เมื่อสายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดลงมาบนแท่นบูชาทำให้ทั้งลานสนามกลายเป็นมหาสมุทรแห่งอัสนี เจ้าตัวน้อยยังคงยืนอย่างมั่นคงพร้อมท่านพ่อท่านแม่ของเขาอย่างสง่า

ไม่เพียงเท่านี้…

“อ้ะเนะ!”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท