เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 313 กระบองไร้เทียมทานตีคุนอู๋แตกกระเจิง!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 313 กระบองไร้เทียมทานตีคุนอู๋แตกกระเจิง!

แต่แล้วชือหมินหมิ่นก็ตอบว่า “เรื่องนี้… นางน่าจะไม่เป็น”

“หืม?” ในขณะที่เม่ยเอ๋อร์ประหลาดใจ นางก็เห็นชุ่ยชุ่ยหมอบอยู่บนลำตัวของเหยี่ยวนกเขาด้วยเนื้อตัวสั่นเทา

เม่ยเอ๋อร์ “…”

เอาเถิด แบบนี้ก็ได้

ถึงอย่างไรเหยี่ยวตัวนั้นก็ไม่รู้ว่าชุ่ยชุ่ยขี่อยู่บนตัวมัน อาจจะเป็นเพราะเมื่อครู่นี้นางกระโดดขึ้นไปด้วยความรวดเร็ว และตอนนี้เองก็เหมือนกับว่านางจะซ่อนกลิ่นอายของตนไว้แล้ว

“ถือว่านางมีความสามารถพอตัว” เยี่ยนชิงปาดเหงื่อ เขาไม่รู้ว่าจะประเมินสาวใช้ของบุตรสาวสุดที่รักคนนี้อย่างไรดี จะบอกว่านางขี้ขลาด นางก็ขี้ขลาดจริงๆ แต่นางกลับทำผลงานออกมาได้ดียิ่งนัก

เยี่ยนจื่อเยี่ยรู้สึกกระทั่งว่า “สำนักของเราคงต้องพึ่งชุ่ยชุ่ยพลิกโอกาสแล้ว”

“เรื่องชัดแจ้งเช่นนี้” เยี่ยนจื่อเสาตอบอย่างมั่นใจ “ขอเพียงนางไม่ลงมาจากเหยี่ยวนกเขาตัวนั้น เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป นางก็จะถูกส่งออกมา”

“หวังเพียงนางจะโชคดีเช่นนี้จนจบ” ประมุขหอโอสถพูดได้เพียงเท่านี้

แต่แล้ว เหมือนกับว่าคำพูดนี้จะมีพิษ เพราะว่าหลังจากที่เหยี่ยวนกเขาตัวใหญ่นั่นบินว่อนไปมาพักใหญ่ มันก็บินวนมาที่บริเวณช่องเขาแห่งหนึ่ง มีทีท่าจะลงไปพักผ่อน

ประเด็นคือ…

“เฮ้ย! ที่ตรงนั้นดูคุ้นๆ นะ” เอ้อร์เหมาชะงักพลางชี้ไปที่ช่องเขาที่แสนจะคุ้นตานั่น เขารู้สึกว่าสถานการณ์ชักจะไม่ค่อยดีเท่าไรแล้ว!

ความจริงก็เป็นดังเช่นนั้น เพราะว่าเหยี่ยวตัวใหญ่ตัวนั้นกำลังพาชุ่ยชุ่ยกลับไปยังช่องเขาที่เหล่าศิษย์สำนักชางอู๋ซุ่มโจมตี อีกทั้งกลุ่มคนหยางไป่หมิงก็ยังอยู่ที่นี่ พวกเขายังไม่จากไปไหน! คนสำนักคุนอู๋ร้อยกว่าคนยังอยู่ที่นี่

“ไม่ใช่หรอกนะ…” อินหลิวเฟิงอ้ำอึ้ง เขาภาวนาอย่าให้เหยี่ยวยักษ์ตัวนั้นลงไปในช่องเขานั้น หากลงไปจริงๆ ล่ะก็เอาตัวเองเข้าไปในกับดักชัดๆ?!

แม้แต่เยี่ยนอวี๋เองก็มองเหยี่ยวยักษ์ตัวนั้นอย่างกังวล กระทั่งเยี่ยนเสี่ยวเป่า เขาก็ทำหน้าเคร่งเครียดพลางพึมพำไม่หยุด “ไม่! ไม่ ไม่!”

น่าเสียดาย ชุ่ยชุ่ยคงจะหมดบุญแล้ว ในจังหวะนี้เอง เหยี่ยวยักษ์ตัวนั้นก็เตรียมพุ่งถลาไปในช่องเขานั้น เพราะว่าหยางไป่หมิงพวกเขากำลังย่างเนื้อ เหยี่ยวยักษ์อยากกินด้วย

“ระวัง!” กลุ่มคนหยางไป่หมิงที่ไม่รู้ว่าเหยี่ยวยักษ์แค่อยากจะขอกินเนื้อด้วยต่างชูอาวุธขึ้น พวกเขามองเหยี่ยวยักษ์บนท้องฟ้าอย่างระแวดระวัง

หวีดดด เหยี่ยวยักษ์วนเวียนอยู่ตรงนั้น เห็นได้ชัดว่ามันกำลังหาเป้าหมายที่เหมาะสม!

แรกเริ่มก็ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่าบนตัวของเหยี่ยวยักษ์มีคนอยู่ ถึงอย่างไรชุ่ยชุ่ยก็ถูกปกคลุมด้วยขนของเหยี่ยวยักษ์อย่างมิดชิดแล้ว แต่แล้ว…

“แปลกจริง” ศิษย์สำนักเซิ่งเหลียนที่เพิ่ง ‘รวมตัว’ กับกลุ่มคนหยางไป่หมิงไม่นานกลับปล่อยงูในแขนเสื้อออกมา ฝ่ายหลังขู่เสียงฝ่อ จ้องเหยี่ยวยักษ์บนท้องฟ้าเขม็ง

หยางไป่หมิงถาม “แปลกอย่างไร”

“เมื่อครู่นี้ข้าน้อยแอบทิ้งกลิ่นงูที่มีไว้สำหรับติดตามบนตัวของศิษย์หญิงสำนักชางอู๋ มันเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของลัทธิเซิ่งเหลียนของข้า งูที่ข้าเลี้ยงสามารถตามกลิ่นนี้ได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้กลิ่นนี้อยู่บนตัวเหยี่ยวยักษ์นั่น” ศิษย์ลัทธิเซิ่งเหลียนอธิบาย

เพียงแต่ว่า หยางไป่หมิงไม่เห็นร่องรอยของผู้ใดบนตัวของเหยี่ยวยักษ์นั่น อีกทั้งเหยี่ยวยักษ์ตัวนี้ดูแล้วมีพลังไม่น้อย หากสู้กันซึ่งๆ หน้า ต้องมีตายกันไปข้าง

“ศิษย์พี่หมิง เหยี่ยวตัวนี้ดูเหมือนกับว่าจะสนใจเนื้อย่างของเรานะขอรับ” ศิษย์สำนักคุนอู๋คนหนึ่งมีสายตาคมกริบ เขาสังเกตเห็นบางสิ่งแล้วจึงกระชิบรายงานหยางไป่หมิง

เมื่อหยางไป่หมิงได้ยินก็มีแผนผุดขึ้นในใจ เขามองไปที่ศิษย์หอโอสถสำนักคนหนึ่งและส่งสายตาให้เขา ฝ่ายหลังเข้าใจในทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะใส่ยาในเนื้อย่าง

“ทุกคนระวัง เตรียมจู่โจม!” หยางไป่หมิงเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อให้สหายหอโอสถสำนักมีเวลาเตรียมการ พวกเขาก่อกลุ่มตั้งท่าพร้อมจู่โจมเหยี่ยวยักษ์ตัวนั้น ฝ่ายหลังกระพือปีกบินสูงทันที

เนื่องจากทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน ชุ่ยชุ่ยเกือบจะกรีดร้องออกมา แต่นางก็ไม่กล้าออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้เพียงจับขนของเหยี่ยวยักษ์ไว้แน่นและหมอบอยู่เช่นนั้น

ผ่านไปไม่นาน ชุ่ยชุ่ยก็ได้ยินเสียงตะโกนจากข้างนอก “ออกไป! เหยี่ยวตัวนี้อยากกินเนื้อย่าง มันไม่อยากสู้กับพวกเรา!”

ชุ่ยชุ่ยพยายามเงี่ยหูฟัง นางรู้สึกคุ้นหูมาก แต่เพราะว่าก่อนหน้านี้นางมัวแต่ร้องไห้ จึงไม่ได้ยินเสียงของหยางไป่หมิง นางจึงไม่รู้ว่ามีกับดักหนึ่งกำลังรอนางอยู่

เหยี่ยวยักษ์ในบัดนี้คาบเนื้อย่างของเหล่าศิษย์สำนักคุนอู๋ไปแล้ว ทว่ามันก็ระวังตัวเป็นอย่างดี มันไม่ได้ทานเนื้อย่างชิ้นนั้นตรงนั้นทันที แต่มันบินคาบขึ้นไปบนยอดเขาแล้วจึงเริ่มทาน

หยางไป่หมิงจ้องเหยี่ยวยักษ์เขม็ง ในขณะเดียวกันก็สั่งว่า “ศิษย์หอสัตว์บรรพกาล ไปซุ่มอำพรางตัว คอยจับตามองไว้ อย่าให้นังคนชั่วนั่นหนีไปได้! เก็บป้ายชื่อของตนให้ดีด้วย”

“ขอรับ!” ศิษย์หอสัตว์บรรพกาลสำนักคุนอู๋ยี่สิบสามนายอำพรางตัวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว พวกเขาค่อยๆเข้าใกล้เหยี่ยวยักษ์ตัวนั้นด้วยประสบการณ์การต่อสู้กับอสูรอย่างช่ำชอง

“ชื่อฉง หากงูของเจ้าพบอะไรใหม่ให้รีบรายงาน” หยางไปหมิงยังสั่งศิษย์ตระกูลชือคนนั้นด้วย

“โปรดวางใจ!” ชือฉงลูบงูในแขนเสื้อเบาๆ เขารู้ว่านางยังไม่จากไปไหน

จนเมื่อยาพิษกำเริบ ชุ่ยชุ่ยก็ไม่ได้ขยับตัว ชือฉงกลับเน้นย้ำว่า คนยังอยู่บนเหยี่ยวยักษ์ตัวนั้น ไม่ผิดแน่นอน!

หวีด!

เหยี่ยวยักษ์ผู้น่าสงสารชักเกร็งไม่หยุด อีกเพียงไม่นานก็จะตายแล้ว และด้วยความฉลาดของมัน มันก็เดาได้แล้วว่าเป็นเพราะเนื้อที่มันกินเมื่อครู่นี้มีพิษ

หวีดดด

เหยี่ยวยักษ์พุ่งตัวลงไปในช่องเขาจู่โจมหยางไป่หมิงทันที!

“หลบเร็วเข้า!”

หยางไป่หมิงรีบพาทุกคนหลบ ทว่าเหยี่ยวยักษ์ที่ระเบิดอารมณ์ก็จิกศิษย์สำนักคุนอู๋ที่หลบไม่ทันคนหนึ่งตายแล้ว และยังทำให้คนไม่น้อยบาดเจ็บ

หวีด!

เหยี่ยวยักษ์กรีดร้องเป็นหมอกเลือดออกมา แต่กลับยังไม่ล้มลง! มันยังคงจ้องหยางไป่หมิงเขม็ง ฝ่ายหลังก็ไม่เกรงกลัว เพราะว่าเขาเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นสุวรรณชาด เขาเตรียมฆ่าเหยี่ยวยักษ์ตัวนี้แล้ว

แต่แล้ว…

ชุ่ยชุ่ยก็ออกมา

ถึงแม้นางจะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางก็พอจะคาดเดาความจริงได้ นางเป็นคนฆ่าเหยี่ยวสีดำตัวใหญ่ตัวนี้เอง นางจึงปรากฏตัวขึ้น ในขณะนั้นเองนางก็ยัดยาเม็ดหนึ่งให้เหยี่ยวสีดำตัวใหญ่ตัวนั้นแล้ว

หวีด!

เหยี่ยวยักษ์สีดำที่ไม่ทันตั้งตัวพยายามโต้กลับ ในขณะที่มันอาละวาดก็เกือบไปโดนชุ่ยชุ่ยที่จู่ๆ ก็เข้าใกล้มัน ทำเอานางตกใจจนร้องไห้หงิงๆ “เจ้าอย่าเกรี้ยวกราดกับข้าสิ! เจ้ารีบไปเถอะ”

หวีด!

เหยี่ยวยักษ์ผู้ชาญฉลาดย่อมฟังภาษามนุษย์ไม่รู้เรื่อง มันยังคิดว่าชุ่ยชุ่ยเป็นคนของหยางไป่หมิง เตรียมจะโจมตีอีกครั้ง แต่กลับพบว่าจู่ๆ ตนเองดีขึ้นมาก ไม่ได้รู้สึกทรมานเช่นนั้นแล้ว

ในขณะเดียวกัน…

“จับนางไว้!”

หยางไป่หมิงเป็นคนแรกที่ลงมือกับชุ่ยชุ่ย! คนขั้นสุวรรณชาดเช่นเขา เพียงดาบเดียวที่พุ่งออกมาก็เสียดสีกับอากาศจนเกิดประกายไฟน่าสะพรึง อีกเพียงนิดเดียวก็จะแทงโดนชุ่ยชุ่ยแล้ว

ชุ่ยชุ่ยตกใจจนรีบหลบ ในจังหวะนั้น ปีกสีดำข้างหนึ่งก็กวาดไปทางหยางไป่หมิง ทำให้การจู่โจมของฝ่ายหลังมลายหายไปในทันที

หวีด!

เหยี่ยวยักษ์ที่พ่นกลิ่นอายดุดันปกป้องอยู่ข้างหน้าชุ่ยชุ่ยแล้ว ถึงแม้ตาและปากของมันยังคงมีเลือดไหล แต่เห็นได้ชัดว่าเพราะว่ายาของชุ่ยชุ่ย ทำให้มันฟื้นตัวได้ไม่น้อย อย่างน้อยก็ไม่ชักแล้ว

“บัดซบ!”

หยางไป่หมิงเดือดดาล! เขาไม่คิดเลยว่าหลังจากลงแรงไปมากมายเช่นนี้ แต่กลับกลายเป็นทำชุดแต่งงาน[1]ให้ศิษย์หญิงสำนักคุนอู๋คนนี้แทน? กลับกลายเป็นว่านางได้รับความช่วยเหลือจากเหยี่ยวยักษ์เสียแทน!?

“ศิษย์พี่หมิง ทำอย่างไรดีขอรับ” เหล่าศิษย์สำนักคุนอู๋ตะลึงงัน สถานการณ์ตอนนี้เกินความคาดหมายของพวกเขามากนัก เหยี่ยวยักษ์ตัวนี้อย่างน้อยก็มีพลังขั้นสุวรรณชาดสูงสุด หากสู้กันขึ้นมา…

“สร้างค่ายกล!” หยางไป่หมิงนัยน์ตาปรากฏความโหดเหี้ยม “ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือให้สำนักส่งกองหนุนมา! กันไว้ดีกว่าแก้ เจ้าสำนักบอกแล้วว่าคนสำนักชางอู๋ต้องถูกกำจัดทั้งหมดเท่านั้น!”

“ขอรับ!” ศิษย์ที่ได้รับคำสั่งรีบไปปฏิบัติทันที สัญญาณโบราณสีทองที่เป็นตัวแทนของสำนักคุนอู๋ก็กระจายออกจากยอดเขาอย่างรวดเร็ว ดึงดูดความสนใจไม่น้อย

“สำนักคุนอู๋ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ!?”

“รีบไปดูกันเถอะ” ศิษย์สำนักอื่นบางสำนักที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านก็มุ่งไปทางช่องเขานั่นอย่างกล้าหาญ นอกจากนี้ศิษย์สำนักคุนอู๋เองก็เห็นสัญญาณนั่นแล้ว

ทว่าสัญญาณเป็นสีแดงทอง ไม่ใช่สีม่วงทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ฉุกเฉิน ศิษย์สำนักคุนอู๋จึงไม่ได้สนใจมากนัก พวกเขาจึงคิดไว้ว่าจะเข้าไปช่วยหลังจากทำภารกิจในมือของตนเสร็จ

แต่เดิมหยางไป่หมิงก็ไม่คิดว่าต้องส่งคำร้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ถึงอย่างไรพวกเขามีคนมากกว่า หักคนที่ถูกกำจัดและบาดเจ็บออกสี่สิบแปดคน พวกเขาก็ยังเหลืออีกหนึ่งร้อยสี่สิบคน!

ส่วนทางฝั่งชุ่ยชุ่ยมีเพียงตัวนางและเหยี่ยวยักษ์ตัวนั้น ดังนั้น…

“โจมตีปีกเหยี่ยวยักษ์ตัวนั้น! อย่าปล่อยให้มันบินหนีไปได้!” ในขณะที่หยางไป่หมิงออกคำสั่ง เขาก็ยิงลำแสงสีทองไปที่ปีกของเหยี่ยวยักษ์ตัวนั้น ลำแสงสีทองที่พวยพุ่งออกไปนั้นคือเข็มหมุดแผงหนึ่ง

หวีด!

เหยี่ยวยักษ์กางปีกออกทันที ชุ่ยชุ่ยพบว่าเหยี่ยวที่กางปีกออกอีกครั้ง ปีกของมันยังคงมีเลือดไหล เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะการปกป้องนางเมื่อครู่นี้ ทำให้มันบาดเจ็บ

ครานี้เอง… ชุ่ยชุ่ยร้องไห้อีกแล้ว “มิต้องปกป้องแล้ว! เจ้ารีบไปเถอะ!”

เหยี่ยวยักษ์กลับยังคงไม่ไปไหน มันกางปีกสองข้างออกก่อนจะซัดปีกกวาดศิษย์สำนักคุนอู๋รอบทิศ ทว่าปีกที่บาดเจ็บของมันก็ถูกหยางไป่หมิงยิงใส่อย่างไม่ลังเล

หวีด!

เหยี่ยวยักษ์กรีดร้อง ทันใดนั้นก็คาบชุ่ยชุ่ยขึ้นมาก่อนจะบินทะยานออกไป! ถึงแม้เลือดยังคงไหลออกมาจากปีก มันก็ยังคงบินพุ่งไปสุดกำลัง!

ทว่าในขณะนั้นเอง…

“ไปตายซะ!”

หยางไป่หมิงที่เตรียมพร้อมมานานแล้วก็อัญเชิญวิญญาณอสูรเสือโคร่งออกมา ขณะที่ฝ่ายหลังปรากฏตัว มันก็ตะครุบใส่เหยี่ยวยักษ์ตัวนั้นทันที เหยี่ยวยักษ์ไม่ทันตั้งตัว อีกเพียงคืบเดียวมันก็จะถูกเขมือบแล้ว! แต่แล้ว…

“ออกไปซะ!”

ชุ่ยชุ่ยที่จู่ๆกระโดดขึ้นกลางอากาศ นางก็ชักกระบองขนาดมโหฬารแท่งหนึ่งออกมาและทุบลงไปที่ศีรษะของเสือโคร่งตัวนั้นอย่างโหดเหี้ยม ในทันใดนั้น…

ตู้ม!

เสื้อโคร่งถูกทุบจนกะโหลกแตกและมลายหายไปทันที

“เอื้อก!”

ผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์หยางไป่หมิงท่านนี้ก็กระอักเลือดขนานใหญ่ออกมาอย่างไม่แปลกใจ

ทว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้น…

“ไปตายซะ!”

ชุ่ยชุ่ยที่จู่โจมมาจากกลางอากาศ นางยังฟาดกระบองลงไปที่หยางไป่หมิง!

จากนั้น…

ตู้ม!

———————————————

[1] ทำชุดแต่งงานให้ผู้อื่น อุปมาว่าตนเองทำแทนคนอื่น ลำบากตนเองเสียเปล่า

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท