ตอนที่ 314 คุณหนูใหญ่! ทำเช่นนี้ชักจะหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!
หยางไป่หมิงไม่ทันได้หายใจด้วยซ้ำ เขาก็ถูกกระบองของชุ่ยชุ่ยทุบใส่จนร่างแหลกเละ กลายเป็นกองชิ้นเนื้อในทันที
หยางไป่หมิงช่างน่าสงสาร เขาตายไปโดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดศิษย์หญิงสำนักคุนอู๋ที่อ่อนปวกเปียกคนนั้นจู่ๆ จึงระเบิดพลังต่อสู้โหดเหี้ยมเช่นนี้ออกมาได้
ผู้แข็งแกร่งขั้นสุวรรณชาดเช่นเขา วิญญาณอสูรขั้นปฐมภูมิที่ถูกอัญเชิญโดยผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่กลับถูกกระบองตีแหลกเพียงเล่มเดียว ตัวเขาเองยังไม่ทันหายใจด้วยซ้ำก็แหลกสลายไปแล้ว
“เป็นไปได้อย่างไร!” อย่าว่าแต่หยางไป่หมิงไม่รู้เลย แม้แต่เหล่าผู้แข็งแกร่งสำนักคุนอู๋ก็ไม่เข้าใจ! โดยเฉพาะหยางโฮ่วเจิ้งผู้อาวุโสสำนักคุนอู๋หรือท่านพ่อของหยางไป่หมิงยิ่งไม่เข้าใจ!
“ลูกข้า ลูกข้าถูกกระบองตีจนแหลกได้อย่างไร!” หยางโฮ่วเจิ้งไม่อยากจะเชื่อ เขาคิดว่าสิ่งที่เห็นเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ความจริงก็คือความจริง…
ชุ่ยชุ่ยที่อยู่ในสนามประลองซัดกระบองใส่ผู้แข็งแกร่งขั้นสุวรรณชาดจนตายไปหนึ่งคนจริงๆ นางไม่ปล่อยโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามได้บีบป้ายชื่อเสียด้วยซ้ำ นี่เป็นการฆ่าคนครั้งแรกของนาง นางยังถูกเลือดสาดกระเซ็นไปทั้งตัว
“แงงง”
ชุ่ยชุ่ยตกใจจนร้องไห้!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างนอกดูถึงตรงนี้ก็กอดท่านพ่อของเขาอย่างโศกเศร้า ทำท่าจะร้องไห้
แต่แล้วชุ่ยชุ่ยที่ร้องไห้กลับควงกระบองทุบตีไปทางศิษย์สำนักคุนอู๋ที่กำลังงงงันอยู่บริเวณใกล้เคียงโดยที่ไม่มีใครคาดคิด!
ตู้ม! ศิษย์สำนักคุนอู๋คนหนึ่งที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกซัดจนแหลกเป็นชิ้นเนื้ออย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่สหายสำนักเดียวกันที่อยู่ข้างกายเขาก็ถูกชุ่ยชุ่ยซัดเละในจังหวะถัดมา!
นี่มัน…
“หนีเร็ว!”
ศิษย์สำนักคุนอู๋ที่ตั้งสติได้ก็รีบร้องตะโกน! พวกเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับชุ่ยชุ่ยด้วยซ้ำ เพราะว่าฝีมือการต่อสู้ของนางน่ากลัวเกินไปแล้ว เพียงกระบองเล่มเดียวของนางก็ทุบอสูรวิญญาณขั้นปฐมภูมิจนตาย จะให้พวกเขาสู้ด้วยอย่างไรได้เล่า
หากเป็นเมื่อก่อน… ชุ่ยชุ่ยคงปล่อยให้พวกเขาหนีไปแล้ว แต่ครั้งนี้นางไม่ทำเช่นนั้น
กรรร!
ชุ่ยชุ่ยที่ระเบิดท่าร่าง ‘หายตัวไร้ร่องรอย’ ออกมาอีกครั้ง นางก็วิ่งอาละวาดท่ามกลางศิษย์สำนักคุนอู๋ร้อยกว่าคนที่เหลือราวกับปีศาจแบกกระบองขนาดใหญ่ซัดทีละคน!
เด็ดขาด!
เฉียบไว!
งดงามนัก…
คนมากมายไม่ทันบีบป้ายชื่อก็ถูกทุบจนเละเป็นชิ้นเนื้อแล้ว คนบางส่วนก็ตะลึงกับความไร้เทียมทานของชุ่ยชุ่ยจนรีบบีบป้ายชื่อของตน เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา… ศิษย์ชั้นยอดสำนักคุนอู๋ร้อยกว่านายก็ล้วนถูกชุ่ยชุ่ยฆ่าและกำจัดออกไปแล้ว
“ช่วยด้วย!”
“บิดามันเถอะ…”
ศิษย์สำนักคุนอู๋สี่ห้าสิบนายที่โชคดีบีบป้ายชื่อตนเองทันและถูกส่งออกมาก็ร้องหาพ่อแม่ราวกับวิญญาณออกจากร่าง พวกเขารู้สึกขวัญหายไปหมด!
พูดได้ว่าชุ่ยชุ่ยใช้กระบองทุบตีศิษย์สำนักคุนอู๋ร้อยกว่านายจนตายไปแล้ว รวมถึงหยางไป่หมิงที่มีฌานตบะและพรสวรรค์ไม่ธรรมดาคนนั้น
ฝีมือเช่นนี้… อย่าว่าแต่คนสำนักคุนอู๋ที่อึ้งเลย แม้แต่คนฝั่งสำนักชางอู๋เองก็ตะลึงงันไปหมด!
“อู้ว ว้าววว”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็ตะลึง เด็กตัวน้อยๆ เช่นเขาหลังจากถูกต้าซือมิ่งอบรมแล้วก็เห็นได้ว่าเขารู้จักมีสมาธิจดจ่อกับการแข่งขันในสนามประลองแล้ว เขาจึงเห็นความสามารถอันกล้าหาญของชุ่ยชุ่ย จนเขาส่งเสียงอุทานไม่หยุด
เมื่อครู่นี้เขายังอยากร้องไห้ตามชุ่ยชุ่ยอยู่เลย แต่ตอนนี้เขาลืมไปแล้วว่าต้องร้องไห้ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ ชุ่ยชุ่ยจึงเก่งกาจขึ้นมาเพียงนี้ เขาจึงถามท่านพ่อ “พ่อ! อ้ะเนะเนะ?”
ต้าซือมิ่งเองก็ชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเขาลูบเด็กน้อยแล้วก็มองไปที่คนที่อยู่ข้างๆ ฝ่ายหลังกะพริบตาปริบก่อนจะถามว่า “เม่ยเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึงให้สิ่งนี้แก่ชุ่ยชุ่ย”
“เอ่อ” เม่ยเอ๋อร์ชะงักไปครู่หนึ่งเช่นกันก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “กระบองเล่มนี้ใหญ่ดีนี่เจ้าคะ ข้าน้อยคิดว่าชุ่ยชุ่ยสู้ไม่เป็น จะได้เอามาเป็นที่หลบซ่อนได้ ไม่คิดว่านางจะยกไหว”
“เม่ยเอ๋อร์! เจ้าน่าจะเข้าใจคำว่ายกไหวผิดนะ นี่เรียกว่ายกไหวเฉยๆ หรือ นางกำจัดคนร้อยคนได้เชียวนะ! หนึ่งในนั้นยังมีอสูรวิญญาณขั้นปฐมภูมิด้วย!” อินหลิวเฟิงไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว!
เอ้อร์เหมาเองก็ปาดเหงื่อ “นายท่านน้อย โชคดีที่ท่านไม่มีปัญญาแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ แค่สาวใช้ข้างกายเหล่านี้ของคุณหนูใหญ่ก็โหดมากแล้ว ชุ่ยชุ่ยคนนี้ภายนอกดูอ่อนแอ แต่เอาจริงขึ้นมาหันมาอีกทีก็ฆ่าศิษย์ทั้งสำนักคุนอู๋หมดแล้ว…”
“ข้าว่าเท่ดีออก!” เยี่ยนชิงเริงร่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ กระบองแบบนี้ยังมีอีกหรือไม่ พ่อขอเล่มหนึ่งสิ ดูแข็งแกร่งมากเลย!”
เยี่ยนอวี๋มิได้ตอบ…
เม่ยเอ๋อร์ก็พูดขึ้นว่า “อ๋อ อันนี้ไม่มีแล้วเจ้าค่ะ นี่เป็นงานเสียของคุณหนูใหญ่ มันไม่สามารถขยายใหญ่หรือย่อขนาดให้เล็กลงได้ ขนาดของมันจึงใหญ่เท่าเดิมเช่นนี้! ไม่เหมือนดาบเล่มใหญ่ของข้า อันที่จริงมันยังขยายใหญ่กว่านี้ได้”
“งานเสียรึ” ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากจะเชื่อ สิ่งนี้นี่นะ? งานเสีย? กระบองที่ทำให้ไก่อ่อนขั้นปฐมภูมิทุบตีอสูรขั้นวิญญาณปฐมภูมิจนตายได้ เรียกว่างานเสีย?!
ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์คิดว่าคุณหนูใหญ่และเม่ยเอ๋อร์คงเข้าใจคำว่างานเสียผิดแล้ว! กระบองนี้ทำให้นักฝึกฌานเลื่อนขั้นไปได้ถึงสองขั้นเพื่อเอาชนะศัตรูได้เชียวนะ! ให้ตายเถอะ!
ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่พ่นคำหยาบในใจก็ไม่รู้ว่าจะกล่าวถึงคุณหนูใหญ่สำนักพวกเขาอย่างไรดีแล้วจริงๆ! อาวุธก่อนหน้านี้บอกยังไม่ได้ลับคม ครานี้บอกงานเสีย?
“มันเป็นงานเสียจริงๆ มีผลข้างเคียงด้วย” เยี่ยนอวี๋อธิบาย “ที่ชุ่ยชุ่ยสามารถระเบิดพลังต่อสู้ออกมาได้มากเพียงนี้เป็นเพราะกระบองช่วยเพิ่มพลังได้ร้อยเท่า ซึ่งสามารถคงไว้ได้เพียงเวลาหนึ่งถ้วยชา หลังจากนั้นชุ่ยชุ่ยก็จะไม่สามารถใช้วิชาได้อีกภายในหนึ่งวันนั้น”
“ก็ยังเท่ระเบิดอยู่ดี! พลังเพิ่มขึ้นร้อยเท่าเชียวนะ! ร้อยเท่า!” อินหลิวเฟิงเคือง “กูไหน่ไน เหตุใดท่านจึงไม่ให้งานเสียเช่นนี้กับข้าบ้าง”
เยี่ยนชิงก็คิดว่าไม่แย่เช่นกัน “เรื่องบางเรื่องก็ต้องซัดให้จบในคราเดียวมิใช่หรือ เจ้าดูชุ่ยชุ่ยของเราสิ จัดการทุกคนเรียบร้อยแล้ว!”
“อย่าลืมว่าพวกเขาส่งสัญญาณช่วยเหลือแล้ว” เยี่ยนอวี๋กังวลเรื่องนี้
ทว่า…
ตึง!
เมื่อชุ่ยชุ่ยขาอ่อนจนนั่งลงไปกับพื้น เหยี่ยวยักษ์ตัวนั้นก็เข้าปกป้องนางทันที
ไม่เพียงเท่านี้…
เคร้ง!
ศิษย์สำนักจวินจื่อนับไม่ถ้วนก็เข้ามาในช่องเขาแล้ว แต่ชุ่ยชุ่ยไม่รู้ว่าสำนักจวินจื่อเป็นพันธมิตรกับสำนักชางอู๋ นางจึงร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ”
หวีด! เหยี่ยวยักษ์ก็จ้องคนสำนักจวินจื่ออย่างระวังตัว
“ข้ามีพี่ชายคนหนึ่งชื่อเอ้อร์เหมา เป็นองครักษ์นายท่านน้อยอิน เจ้าน่าจะรู้จัก” หัวหน้าศิษย์สำนักจวินจื่อรีบแนะนำตัว
ชุ่ยชุ่ยชะงักครู่หนึ่งก่อนจะถามอย่างอ่อนเพลียว่า “เช่นนั้น… เป็นฝ่ายพันธมิตรหรือ”
“ขอรับ!” ซานเหมาประสานมือกล่าว
ศิษย์สำนักจวินจื่อที่เหลือต่างก็ประสานมือ
คราวนี้ชุ่ยชุ่ยร้องไห้หนักกว่าเดิม “ทำไมพวกเจ้าไม่มาให้เร็วกว่านี้ ข้าตกใจจะตายอยู่แล้ว ฮือๆๆๆ…”
ซานเหมา “…”
หรือว่าเขาเข้าใจผิดนะ?
“บ้าเอ๊ย!”
“นี่มัน… หน้าด้านเกินไปหน่อยแล้ว…”
ผู้ชมที่ดูตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ก็หมดคำพูด พวกเขาเริ่มซุบซิบชุ่ยชุ่ย “แม่นางท่านนี้กำจัดคนสำนักคุนอู๋ไปทั้งสำนักได้ ยังมีหน้ามาบอกว่าตกใจตายรึ”
“ฮือๆๆ…” ชุ่ยชุ่ยที่ร้องห่มร้องไห้ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย นางนั่งร้องไห้ข้างกระบองอย่างหนัก ราวกับว่าถูกรังแกมาอย่างรุนแรง
ซานเหมา “…”
บางทีเขาอาจจะเข้าใจสถานการณ์ผิดจริงๆ ก็ได้ บางทีคนสำนักคุนอู๋อาจจะไม่ได้ถูกแม่นางท่านนี้ฆ่า ดูสิทำเอาแม่นางน้อยตกใจจนร้องไห้หนักเช่นนี้
“พวกเจ้า ปลอบนางหน่อย” ซานเหมาหันไปเรียกสหาย
สหายต่างเงยหน้ามองฟ้า เพื่อบอกว่าพวกเขาไม่อยากปลอบแม่นาง
ซานเหมา “…”
“แงงง…”
ชุ่ยชุ่ยที่คิดถึงตนเองที่เกือบจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดถึงตอนสุดท้ายก็ปล่อยร้องโฮหนักกว่าเดิม! จนผู้ชมที่คอยติดตามตั้งแต่ต้นจนจบอดสงสัยในตัวเองไม่ได้ว่าตนดูผิดไปหรือไม่
แต่แล้ว…
ชุ่ยชุ่ยที่กำลังร้องไห้พลันชูกระบองขึ้นมาและทุบลงไปบริเวณใกล้เคียง
ตู้ม!
ศิษย์ตระกูลชือที่แอบอยู่ในกอหญ้ากำลังฉวยโอกาสจะหนีก็ถูกกระบองตีจนตายคาพื้น
เอ่อ… อืม เอาเถอะ
“ไม่ได้ดูผิด”
ผู้ชมปาดเหงื่อ บัดนี้ก็เห็นศิษย์หญิงสำนักชางอู๋ที่กล้าหาญชาญชัยขณะต่อสู้ท่านนั้นร้องไห้ต่อแล้ว ราวกับหวาดกลัวอย่างมาก
ซานเหมา “…” เขาทำได้เพียงยืนเงียบๆ อยู่ที่เดิม จนเมื่อชุ่ยชุ่ยเริ่มหยุดร้อง
ฟิ้ว!
ฟิ้วๆ!
ศิษย์สำนักคุนอู๋นับไม่ถ้วนเร่งมาถึง เมื่อชุ่ยชุ่ยเห็นว่ายังมีศัตรูอีก นางก็ปล่อยร้องโฮออกมาอีกครั้ง!
ซานเหมา “…”
เขามองเหล่าศิษย์สำนักคุนอู๋อย่างเย็นชา
“ศิษย์สำนักจวินจื่อ อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง ไสหัวไปซะ!” ศิษย์สำนักคุนอู๋ที่มาถึงก่อนคนแรกมีฌานตบะขั้นสุวรรณชาด เขาจึงกล้าเอ็ดตะโรใส่ซานเหมาและคนอื่นๆ
แต่แล้ว
เคร้ง!
ซานเหมาและศิษย์สำนักจวินจื่อชักดาบออกมาทันที เอาก็เอาสิ!
วิ้งๆๆ!
แสงดาบจวินจื่อระยิบระยับวาบขึ้นพร้อมกัน พวกเขาบุกเข้าใส่จนศิษย์สำนักคุนอู๋ถอยกรูด! มีศิษย์คนหนึ่งถอยไม่ทัน เขาก็รีบบีบป้ายชื่อทันที
“ให้ตายเถอะ!” ศิษย์สำนักคุนอู๋นับไม่ถ้วนถอยไปอยู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง หนึ่งในนั้นกลับพบว่า “พวกเจ้าดูเลือดเนื้อและเสื้อผ้านั่นสิ ดูเหมือนจะเป็นสหายสำนักเราเลย”
หากศิษย์คนนี้ไม่ได้พูด คนอื่นๆ ก็คงไม่เห็นว่าบริเวณนั้นเต็มไปด้วยชิ้นเนื้อเปื้อนเลือดกระจัดกระจาย นี่มัน… สหายของพวกเขาหรือ นี่มัน…
“หนีเร็ว!” ศิษย์สำนักคุนอู๋ที่ยังเอ็ดตะโรอยู่เมื่อครู่นี้ เพียงพริบตาเดียวก็วิ่งหนีเตลิดไปแล้ว
ซานเหมาไม่ได้ไล่ตาม เพราะชุ่ยชุ่ยยังคงร้องหงิงๆ อยู่ อีกทั้งภารกิจที่เขาได้รับมาไม่ได้บอกว่าต้องฆ่าศิษย์สำนักคุนอู๋ เขาจึงยืนข้างกายชุ่ยชุ่ยต่อไป
จนเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป ซานเหมาก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลย ในระหว่างนั้นเขายังฆ่าอสูรต้าฮวงที่มาจู่โจมเพราะได้กลิ่นคาวเลือด เขาเฝ้าอยู่ข้างๆ ชุ่ยชุ่ยอย่างหนักแน่นดั่งภูเขาไท่ซาน
ทว่าในขณะที่สนามประลองต้าฮวงค่อยๆ เลือนรางและศิษย์ของแต่ละสำนักถูกส่งออกมา หยางโฮ่วเจิ้งสำนักคุนอู๋ก็กำลังมองทางออกที่ส่งคนออกมา เมื่อชุ่ยชุ่ยปรากฏตัว…
ฟิ้ว!
อาวุธที่ซ่อนอยู่ในมือของหยางโฮ่วเจิ้งก็พุ่งไปแทงชุ่ยชุ่ย! ที่สำคัญคือชุ่ยชุ่ยไม่ได้ออกมาพร้อมกับซานเหมา นางถูกแยกส่งออกมาเพียงคนเดียว ทำให้นางที่ตอนนี้มิอาจใช้วิชาได้ไม่สามารถรับรู้ภัยอันตรายที่กำลังมาถึงเลย
แต่…
“บังอาจ!”
เยี่ยนอวี๋ที่คอยจับตามองชุ่ยชุ่ยก็ส่งเสียงกร้าว!
เมื่อสิ้นเสียงนาง..
ฉับ!