ตอนที่ 329 กู้หยวนซูสิ้นชีพ!
“อ้ะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตกใจจนมุดศีรษะเข้าไปในเสื้อของท่านพ่อ
ต้าซือมิ่ง “…”
เขาจับเด็กน้อยออกมาจากอ้อมอกเงียบๆ จากนั้นก็จัดระเบียบเสื้อผ้าเล็กน้อยและใช้แขนเสื้อกว้างบดบังตัวเด็กน้อยไว้
“ขี้เหร่!”
“อ้ะ! อ้ะเนะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าตนเองตกใจในความอัปลักษณ์นั่นจึงมุดศีรษะเข้าไปในแขนเสื้อของท่านพ่อไม่หยุด
ส่วนเยี่ยนอวี๋ที่ต้องเผชิญกับหน้าตาอัปลักษณ์ของกู้หยวนซูตรงหน้าคนนี้ นางก็มองลงไปข้างล่างเวทีเงียบๆ อันที่จริงนางอยากจะมองลูก แต่นางไม่เห็นเขาจึงทำได้เพียงมองท่านพ่อของเด็กน้อย
ปีศาจระกาที่ ‘กลายเป็นคน’ อัปลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม!
“นะ นี่มันอะไรกัน” ติ้งซีอ๋องตกใจจนลุกขึ้นยืนและชี้กู้หยวนซูพลางถามขึ้น เพราะบัดนี้ใบหน้าของกู้หยวนซูได้รับความเสียหาย ทำให้ศีรษะระกาเก้าเศียรปรากฏต่อหน้าทุกคน อัปลักษณ์จนหาสุดมิได้
ไม่มีใครจินตนาการได้ว่า สิ่งมีชีวิตที่มีศีรษะเป็นระกาเก้าเศียรคือปีศาจประเภทใด และปีศาจอัปลักษณ์เช่นนี้จะเป็นกู้หยวนซู หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งต้าซย่าด้วย!?
นี่มัน…
โอ๊ก!
คนที่เคยคลั่งไคล้กู้หยวนซูรู้สึกคลื่นไส้
อ๊อก!
คนที่เคยมองว่ากู้หยวนซูเป็นนางฟ้าก็อาเจียนออกมาแล้ว
ขี้เหร่จริงๆ! ไม่อยากจะเชื่อเลย…
สิ่งที่น่ากลัวคือการกัดกินเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไป มันลุกลามไปทั่วทั้งร่างกายของกู้หยวนซู ทว่าร่างกายของนางเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้แล้ว เพราะมี ‘เสื้อผ้า’ ปิดบังไว้ นอกเหนือจากมือของนางที่เปลี่ยนเป็นอุ้งตีนไก่อันแห้งสากปรากฏต่อหน้าทุกคน
ต๊าก!
เสียงกรีดร้องของกู้หยวนซูก็กลายเป็นเสียงไก่ตัวเมียร้องแหลมทว่าแหบแห้ง เป็นเสียงที่ไม่น่าฟังเลย ทำเอาหลายๆ คนรู้สึกระคายหู ช่างน่าขยะแขยงจริงๆ
สภาพกู้หยวนซูเช่นนี้ทำเอากู้ปิ่งคุนตกใจจนร่วงลงมาจากเก้าอี้ เขาคิดไม่ถึงเลยว่านี่คือบุตรสาวที่เขาเลี้ยงดูจนเติบใหญ่
กู้หยวนหมิงมองพี่ใหญ่ที่อยู่บนเวทีราวกับกำลังครุ่นคิด เขาเริ่มรู้แล้วว่าที่พี่สาวเปลี่ยนแปลงไปในช่วงหลายปีมานี้เกิดจากอะไร
และในบัดนี้เอง กู้หยวนซูที่เพิ่งตั้งสติจากความตระหนกและความพังพินาศได้ นางก็จ้องเยี่ยนอวี๋เขม็งอย่างอาฆาต “เยี่ยน! จื่อ! อวี๋!”
“เจ้าอย่ามองข้า ข้าจะอ้วก” ถึงแม้เยี่ยนอวี๋ยังคงมองต้าซือมิ่งหรงที่อยู่ข้างล่าง แต่ด้วยพลังสัมผัสอันเฉียบแหลมของนางทำให้นางสัมผัสได้ว่าปีศาจระกาเก้าเศียรตัวนี้กำลังมองตนเองอยู่ ความรู้สึกนั้นช่างน่าขนลุกจริงๆ
ทว่าท่าทีเช่นนี้ของเยี่ยนอวี๋ก็ทำให้กู้หยวนซูบ้าคลั่งอย่างไม่ต้องสงสัย นางไม่กล้ามองต้าซือมิ่งที่อยู่ข้างล่างด้วยซ้ำ เพราะนางรู้ว่าตนเองในตอนนี้อัปลักษณ์เพียงใด!
“นังคนชั่ว! ข้าจะสังหารเจ้า!” กู้หยวนซูปลุกเร้าพลังมารอย่างคุ้มคลั่ง ฌานตบะของนางพุ่งสูงราวกับทะลุระดับตำนานไปแล้ว ในเมื่อเรื่องถึงตรงนี้แล้วก็ไม่มีอะไรให้เสียแล้ว
“ดวงจิตมาร!”
หึ่งงง…
พลังมารของกู้หยวนซูระเบิดตามด้วยลมแรงกรรโชกไปทั่วทั้งเมือง หมู่เมฆมารก่อตัวทั่วทั้งลานสนาม พลังกลืนกินนับไม่ถ้วนโถมเข้าใส่เยี่ยนอวี๋อย่างหมายจะเอาชีวิตนาง
น่าเสียดาย…
“อู๋ถง จงออกมา”
เยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้น ต้นไม้โบราณอู๋ถงก็งอกขึ้นกลางอากาศ ใบไม้อู๋ถงสีแดงเพลิงแผ่กิ่งก้านสาขาออกในทันที มันทะลุทะลวงเข้าไปในลมมาร
ไม่เพียงเท่านี้ รากของต้นอู๋ถงที่งอกยาวยังแผ่สาขาเข้าไปในมวลเมฆมารทั่วทั้งลานสนาม ในขณะเดียวกัน หงส์เพลิงที่เป็นตัวแทนแห่งความเป็นอมตะก็แผดเผาเมฆมารไปตามรากต้นอู๋ถงทั่วลานสนาม
“ฝันไปเถอะ!”
กู้หยวนซูกรีดร้องไม่ยอมแพ้เพียงเท่านี้ นางเพียงแค่อยากให้เยี่ยนจื่ออวี๋นังคนชั่วคนนี้ตายไป นางจึงปลุกเร้าจิตวิญญาณมารออกมาอีกครั้ง ลมแรงโหมกระหน่ำส่งกลิ่นเหม็นคาวอันน่าสะพรึง ทำให้เพลิงอมตะของหงส์เพลิงดับลง
เยี่ยนอวี๋หรี่ตาลง “จิ่วเฟิ่ง!”
เยี่ยนอวี๋เรียกจิ่วเฟิ่งออกมาอีกครั้งด้วยพลังนิมิต ทำให้จิ่วเฟิ่งที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์และลำตัวเป็นหงส์เสมือนจริงปรากฏขึ้นบนโลก ทุกคนในเหตุการณ์จึงได้เห็น ‘จิ่วเฟิ่ง’ หนึ่งในแปดผู้รับใช้แห่งหยวนชูหรืออสูรเทพแห่งขุนเขาและท้องทะเลในตำนาน!
วี้ด!
เสียงหงส์หวีดร้องดังกึกก้อง เทพจิ่วเฟิ่งที่ปรากฏกายด้วยใบหน้าบุรุษงดงามก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งลานสนามและกลายเป็นขนหงส์เพลิงมากมาย จุดเพลิงอมตะขึ้นอีกครั้งก่อนจะกำจัดกลิ่นคาวทิ้งอย่างรวดเร็ว
วี้ด!
จิ่วเฟิ่งที่บินวนอยู่เหนือต้นอู๋ถงมีขนสีสันงดงาม รอบคอมันยังมีอสูรวิหคแปดตัว ราวกับสวมสร้อยคอลูกปัดไว้ แต่แท้ที่จริงแล้วนั่นคือศีรษะของมันทั้งหมด
ในขณะที่ทุกคนแหงนมองความสง่างามของจิ่วเฟิ่ง เยี่ยนอวี๋ก็ควบคุมศีรษะทั้งเก้าของมันจู่โจมศีรษะทั้งแปดของกู้หยวนซู
“ออกไปซะ!” กู้หยวนซูปล่อยหมอกควันสีดำอันน่าสะพรึงออกมา ก่อนจะโถมเข้าใส่เยี่ยนอวี๋ นางไม่เกรงกลัวเพลิงจิ่วเฟิ่งแม้เพียงน้อย
แต่แล้ว…
“จงขาด!”
ชั่วขณะที่เยี่ยนอวี๋กำมือแน่น จิ่วเฟิ่งแปดเศียรก็กระชากหนึ่งในแปดศีรษะของกู้หยวนซูขาดสะบั้นทันที! มันยังกลืนกินและทำลายล้างด้วยความรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้กู้หยวนซูมีโอกาสป้องกันด้วยซ้ำ
“ต๊าก!” กู้หยวนซูกรีดร้องโหยหวน คอของนางเลือดไหลซิบ
เยี่ยนอวี๋เพิ่งจะหันกลับมามองกู้หยวนซู นางพบว่าฝ่ายหลังเหลือเพียงศีรษะเดียวแล้ว ซึ่งสบายตากว่าก่อนหน้านี้มาก อย่างน้อยก็ไม่ทำให้นางรู้สึกขนลุก นางจึงเดินขึ้นไปข้างหน้า
ต้าซือมิ่งลูบเด็กน้อยเบาๆ อย่างรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขายังอยากให้ภรรยามองเขาต่อไป
“พ่อ! พ่อ…” เจ้าตัวน้อยยังคงมุดเข้าไปในแขนเสื้อของท่านพ่อ “แม?” เสร็จหรือยังขอรับ
ต้าซือมิ่งคิดครู่หนึ่ง “ยังไม่เสร็จ”
“อ้ะ! อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามุดเข้าไปในแขนเสื้อของท่านพ่อต่อไป เขายังไม่กล้าออกมา ต้าซือมิ่งจึงลูบปลอบประโลมเด็กน้อย
เยี่ยนอวี๋รวบรวมพลังวิเศษทั้งหมดอย่างรวดเร็วก่อนจะกดทับไปที่กู้หยวนซู นางคุกเข่าลงที่เดิม ไม่สามารถขยับตัวได้ ได้แต่กรีดร้อง ต๊ากๆ
เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงตรงนี้ ทุกคนในเหตุการณ์ตามดูไม่ทันแล้ว
“นังสารเลว!” กู้หยวนซูกลับยังมีแรงด่า “เจ้าลงอาคมอะไรข้าไว้กันแน่ ข้าจะสังหารเจ้า!” ดวงตานางแดงฉาน คงไม่เห็นว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์อันใด
เยี่ยนอวี๋ก็มิได้สนใจว่านางจะรู้ตัวหรือไม่ นางเดินไปข้างหน้าและยื่นมือออกไปหากู้หยวนซู แต่กลับชะงักกลางคัน ปฐมราชินีเยี่ยนหยิบผ้าเช็ดหน้าหลากสีผืนหนึ่งออกมาปิดศีรษะกู้หยวนซูไว้ ก่อนจะใช้มือแตะตามลงไปอย่างสบายใจ ราวกับว่าการชะงักเมื่อครู่นี้เป็นเพราะรังเกียจความอัปลักษณ์ของกู้หยวนซู
“…”
เหล่าผู้อาวุโสที่ดูถึงตรงนี้ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว เอาเป็นว่าศึกครั้งนี้สนุกกว่าศึกเมื่อครู่ที่เยี่ยนอวี๋สู้กับชิงเหอเซิ่งมาก!
กู้หยวนซูมีความสามารถเหนือกว่าชิงเหอเซิ่งมาก หากเยี่ยนอวี๋เป็นเพียงนักฝึกฌานทั่วไปจะต้องถูกนางฆ่าตายแน่ๆ น่าเสียดายที่เยี่ยนอวี๋ไม่ใช่ ฉะนั้น…
“ทำอะไรของเจ้าน่ะ!” กู้หยวนซูสัมผัสถึงอันตรายร้ายแรง นางรู้สึกได้ว่าเยี่ยนอวี๋กำลัง ‘ถ่ายโอน’ พลังจิตใจเข้าไปในอนุสติของนาง นะ… นี่มัน…
กู้หยวนซูกระจ่างในทันใด นางร้องเสียงหลง “เจ้าคิดจะเก็บวิญญาณข้า!?”
“ถูกต้อง” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า
กู้หยวนซูตัวสั่นระริก “ไม่ได้! เจ้าห้ามทำ! ข้าเป็นกุ้ยเฟยในราชสำนัก เจ้าจะเก็บวิญญาณข้าได้อย่างไร ติ้งซีอ๋อง แม่ทัพเฉิน อัครมหาเสนาบดีหยาง พวกท่านจะปล่อยให้นางกำเริบเสิบสานเช่นนี้หรือ!?”
“…”
ทั้งสามที่ถูกเรียกชื่อกำลังตกอยู่ในความตะลึง ติ้งซีอ๋องที่มีสติมากที่สุด แม้อันที่จริงเขาไม่อยากช่วย ‘คน’ แต่เขาจำใจต้องช่วย ติ้งซีอ๋องจึงลุกยืนขึ้น “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน…”
“นั่งลงไป” เพียงต้าซือมิ่งเอื้อนเอ่ย ติ้งซีอ๋องก็นั่งลงไปที่เดิมทันที
“ต้าซือมิ่งเจ้า…” ติ้งซีอ๋องทำท่าจะขัดขืน
ต้าซือมิ่งกลับไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดสิ่งใดอีกแล้ว เขาถูกสะกดเสียงเอาไว้ ถึงแม้เขาจะดึงพลังทั้งหมดออกมาอย่างไรก็ไม่สามารถทำลายมนต์สะกดนั่นได้
ทว่ากู้หยวนซูไม่รู้เลยว่าต้าซือมิ่งสะกดติ้งซีอ๋องไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว นางยังคงกรีดร้องโวยวาย “ติ้งซีอ๋อง! ข้ารู้ความลับราชสำนักมากมายเพียงนี้ ท่านจะปล่อยให้นังสารเลวคนนี้เก็บวิญญาณข้าไม่ได้นะ”
ติ้งซีอ๋อง “…”
เขามิอาจพูดสิ่งใดได้เลย!
“ต้าซือมิ่ง เจ้าทำอะไรติ้งซีอ๋อง” หยางถิงซานพอจะเดาบางสิ่งออก เขาลองหยั่งเชิงอยากจะเข้าไปช่วยเพื่อขัดขวางแผนการของเยี่ยนอวี๋ แต่แล้ว…
“หนวกหู” เพียงคำตำหนิเดียวของต้าซือมิ่ง หยางถิงซานก็ ‘เงียบ’ เหมือนกับติ้งซีอ๋องแล้ว
คนที่เหลือไม่มีใครกล้าปริปากอีก แน่นอนว่าอันที่จริงหลายๆ คนก็ไม่ได้อยากปริปากอยู่แล้ว แม้แต่กู้ปิ่งคุน เขาก็มิได้มีความรู้สึกอยากจะเอ่ยอะไรเลย เพราะเขาคิดว่ากู้หยวนซูในบัดนี้ไม่ใช่บุตรสาวของเขาอีกต่อไปแล้ว!
ดังนั้น…
“ไม่! ไม่! ไม่!” กู้หยวนซูสัมผัสได้ว่าพลังจิตใจของเยี่ยนอวี๋เข้าครอบงำพลังจิตใจของตนแล้ว นางตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด “ไม่นะ เจ้าทำไม่ได้! เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”
“ข้าทำได้” เมื่อสิ้นเสียงพูดเยี่ยนอวี๋ นางก็ควบคุมพลังจิตใจของกู้หยวนซูไว้โดยสมบูรณ์แล้ว พลังจิตใจของนางแทรกซึมเข้าไปในความทรงจำของฝ่ายหลังและนางยังพูดเสริมว่า “ข้ายังทำให้ทุกคนที่ข้าเกลียดชังไม่ตายดีเช่นเจ้าได้”
“ไม่ ไม่…” กู้หยวนซูรู้สึกสิ้นหวัง เพราะว่า…