ตอนที่ 334 ซัดกากเดนด้วยฝีไม้ลายมือ!
เมื่อหยวนคังฮ่องเต้ลืมตาขึ้นพยุงขอบเตียงลุกขึ้นนั่ง พลังลมปราณของเขายังอ่อนมาก ทว่าดวงตาของเขากลับเปล่งแสงสีแดง “ไม่คิดเลยว่าเทพธิดาจะไม่ธรรมดาเพียงนี้ เกือบถูกนางจับได้เสียแล้ว”
หยวนคังฮ่องเต้พึมพำพลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เขาเข้าขัดขวางเยี่ยนอวี๋เก็บวิญญาณเมื่อครู่นี้ เขาพลันทั้งหวาดกลัวและเคียดแค้น “หากไม่ใช่เพราะหรงอี้มาชิงรัก เราก็คงไม่ต้องใช้กู้หยวนซูตัวไร้ประโยชน์นั่น!”
“ฝ่าบาท?” เมื่อขันทีในตำหนักเหมือนจะได้ยินเสียงฮ่องเต้ก็ส่งเสียงเรียกอย่างระมัดระวัง “ทรงตื่นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ให้กระหม่อมเรียกหมอหลวงมาหรือไม่ ได้ยินมาว่ายาเพิ่มอายุขัยที่เหวยสู่เจิ้งหลอมกำลังจะสำเร็จแล้ว ต้องการ…”
“มิต้อง” หยวนคังฮ่องเต้สูดหายใจเข้าลึก ถึงแม้ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดี แต่เขารู้ว่ามีลูกแก้วบรรพกาลอยู่ ทุกอย่างจะต้องค่อยๆ ดีขึ้น เพียงแต่ต้องใช้เวลา ทว่าอาการของเขา…
“วังใต้ดินเป็นอย่างไรบ้าง” เมื่อหยวนคังฮ่องเต้คิดถึงโลงศพที่อยู่ในวังใต้ดิน เขาก็แสดงสีหน้ากังวลอย่างเก็บซ่อนไว้ไม่อยู่ “มีความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่”
“ทูลฝ่าบาท เหล่านักบวชในวังใต้ดินมารายงานทุกวัน ทุกอย่างปกติดีพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีตอบอย่างระมัดระวัง ตราบใดที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ เขาก็ไม่กล้าเดินเข้าไปในห้องบรรทม
หยวนคังฮ่องเต้ก็มิได้ต้องการให้เขาเข้ามา เขาเอนตัวลงนอน ปล่อยให้ลูกแก้วบรรพกาลช่วยรักษาเขา อาการบาดเจ็บเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง ดังนั้นการนอนพักผ่อนจึงเป็นหนทางยื้อชีวิตที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้ ส่วนเรื่องข้างนอกก็เหมือนกับว่าหยวนคังฮ่องเต้จะไม่รู้สึกสนใจเลยสักนิด
แม้เหล่าขันทีจะทูลรายงานด้วยความประสงค์ดี แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหยวนคังฮ่องเต้ไม่กล่าวอะไร พวกเขาจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก ต่างคิดว่าคงเป็นเพราะติ้งซีอ๋องกลับมาแล้ว ฝ่าบาทจึงอยากจะพักผ่อนรักษาตัวดีๆ
…
ในขณะเดียวกัน เมืองหลวงก็ระเบิดไปทั้งเมือง!
“ภูเขาคุนหลุน!”
“สำนักคุนอู๋ถึงกับสังเวยภูเขาคุนหลุน! คงจะปล่อยวิญญาณอสูรออกมาแล้ว พิธีแต่งตั้งเจ็ดสำนักปีนี้จำเป็นต้องดุเดือดเช่นนี้เลยรึ”
“มารดามันเถอะ! ปีนี้ซื้อบัตรใต้ดินไม่ได้เลยสักใบ ข้าได้ยินมาว่าปีนี้ศิษย์ที่ท้องเสียไม่สบายเหล่านั้นเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ต้องมาร่วมพิธีให้ได้ เห็นว่าเป็นเพราะวันนี้จะได้ดูศึกชางอู๋ท้าชิงที่ไม่ควรพลาด ดูท่าจะเป็นศึกห้ามพลาดจริงๆ!”
“…”
เหล่าตระกูลร่ำรวยที่ขายบัตรผ่านพ่อค้าคนกลางได้ในครั้งก่อนๆ ปีนี้กลับไม่มีสักใบ ไม่ใช่เพราะพ่อค้าคนกลางไม่รับผิดชอบในหน้าที่การงาน แต่เป็นเพราะปีนี้ไม่มีใครที่ไม่อยากร่วมพิธี เหล่าพ่อค้าขอซื้อด้วยเงินเท่าไรก็ไม่ยอมขาย
ถึงอย่างไรสำหรับนักฝึกฌานแล้ว เงินทองย่อมสำคัญ แต่ก็ไม่สำคัญเท่าความรู้! การได้ชมการต่อสู้ชั้นยอดล้วนเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาทั้งสิ้น
เหล่าสามัญชนเมืองหลวงในบัดนี้ได้แต่มองความอัศจรรย์บนท้องฟ้า จินตนาการถึงศึกการประลองในลานสนามราชสำนักว่ารุ่งโรจน์เพียงใด ส่วนลานสนามในบัดนี้…
“ข้าอยากจะเห็นจริงๆ วันนี้หงส์ฟ้าเช่นเจ้าจะสู้ภูเขาคุนหลุนของข้าได้หรือไม่! ” หยางเทียนชื่อผู้นำกลุ่มผู้อาวุโสสองรุ่นตะโกนอย่างโอหัง ทำเอาทุกคนกลอกตา…
“อยากฆ่าคนจริงๆ!” เม่ยเอ๋อร์จะคุมดาบเล่มใหญ่ไม่อยู่แล้ว
ชุ่ยชุ่ยเองก็กัดฟันกรอด
ส่วนเยี่ยนอวี๋ หงส์ฟ้าที่แปลงร่างมาจากนางก็เหมือนกับว่าถูกภูเขาคุนอู๋กดทับไว้ไม่เคลื่อนไหว เพลิงวายุทั่วท้องฟ้าก็ราวกับถูกระงับและกำลังจะดับลง
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!” เยี่ยนชิงร้อนรน เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบจับท่านตาของเขาไว้ กลัวว่าท่านตาจะบีบเขาแน่นเพราะตื่นตกใจอีก
ต้าซือมิ่งมองไปที่หงส์ฟ้าสีสันเจิดจรัสบนฟ้าอย่างอ่อนโยนและสงบ เขาผู้ซึ่งรู้จักความสามารถของปฐมราชินีเยี่ยนคนนี้ดีที่สุดย่อมไม่รู้สึกกังวลแต่น้อย เขายังรู้ว่าที่ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนทำเป็นเสียเปรียบนั้นเป็นเพราะนางกำลังหลอกล่อให้สำนักคุนอู๋เปิดไพ่ใบสุดท้ายออกมา นางจะได้ทำลายและตรวจสอบย้อนกลับได้ นางเป็นเจ้าปลาน้อยที่ตกปลาเก่งจริงๆ
ส่วนเยี่ยนอวี๋ ขณะที่เพลิงของหงส์ฟ้ากำลังจะดับสิ้น นางก็หวีดร้องเสียงดังก้อง
เพลิงของหงส์ฟ้าลุกโชนขึ้นอีกครา มันแผดเผาภูเขาคุนหลุนเหล่านั้น
“บัดซบ!” หยางเทียนชื่อตวาด เขานำกลุ่มผู้อาวุโสสองรุ่นแสดงพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา
ภูเขาคุนหลุนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกเพียงไม่นานก็จะทับปีกหงส์ฟ้าของเยี่ยนอวี๋หักแล้ว
“บ้าเอ๊ย!”
“โห…”
“มารดาข้าเถอะ!”
เสียงอุทานดังไม่หยุด!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่พอใจ “แม!” ท่านแม่คนงามเป็นท่านแม่ของเสี่ยวเป่า! ไม่ใช่ของพวกเจ้าเสียหน่อย!
เยี่ยนชิงเองก็กอดหลานชายน้อยไว้แน่นด้วยความประหม่า จังหวะนั้นเองบุตรสาวก็เงยหน้าขึ้นโถมเข้าใส่ภูเขาคุนหลุน ดูเหมือนจะซัดภูเขาคุนหลุนให้กระจุย
“ปล่อยอสูรเทพออกมาเร็วเข้า!” หยางถิงซานรีบตะโกน
หยางเทียนชื่อปลุกเร้าภูเขาคุนหลุนอยู่ก่อนหน้าแล้ว วิญญาณอสูรขนาดมหึมามากมายกระโจนใส่เยี่ยนอวี๋ราวกับพญาเสือลงเขา กลิ่นอายวิญญาณอสูรในตำนานอบอวลไปทั่ว ทำเอานักฝึกฌานทั้งลานสนามอ้ำอึ้ง
กรร!
กรร…
วิญญาณอสูรโหดเหี้ยมร่างพยัคฆ์ พวกมันมีใบหน้ามนุษย์ดุร้ายและเขี้ยวแหลมคม พวกมันกำลังล้อมเยี่ยนอวี๋ และทำท่าจะฉีกทึ้งเข้าที่คอ ร่างกายและหลังของนาง
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าโมโห! เขาปีนขึ้นไปบนไหล่ของท่านตาคอยมองเหล่าอสูรขนาดใหญ่ แสดงท่าทางราวกับว่า ข้าจะกินพวกเจ้า
หลังจากที่เยี่ยนอวี๋คุ้มกันตนเองครู่หนึ่งแล้ว นางก็เผยกรงเล็บอันแหลมคมออกมาทันที เพียงกรงเล็บเดียวก็ฉีกอสูรเทพที่ล้อมนางไว้จนเหวอะด้วยพลังที่มิอาจหยุดยั้งได้
ภาพเช่นนี้… เพียงพอที่จะทำให้หยางถิงซานตกอยู่ในความเงียบขรึม กระทั่งมีจังหวะหนึ่งเขากำลังคิดว่า หากรู้แต่แรกว่าเยี่ยนจื่ออวี๋สตรีนางนี้จะชั่วร้ายเช่นนี้ เขาจะยังกล้าจงใจข่มแหงสำนักชางอู๋แต่แรกหรือไม่
แต่นี่ก็เป็นเพียง ‘ถ้าหาก’ หยางถิงซานสะบัดความคิดนี้ออกจากหัวอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเขารู้ดีว่า ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้วก็ไม่มี ‘หากว่า’ อีก มีเพียงล้มหายตายจากกันไปข้าง! หยางถิงซานจึงปริปากพูดกับผู้อาวุโสข้างกายว่า “ท่านผู้อาวุโส ท่านคิดเห็นเช่นไร”
“เปิดเถิด” ผู้อาวุโสที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวอยู่ข้างกายหยางเซ่าเหิงก็ถอนหายใจเล็กน้อย “น่าเสียดายศิษย์ชั่วผู้นี้ หากพวกเจ้ามิได้ให้ตระกูลจางกระทำเช่นนั้นในอดีต นางในวันนี้จะต้องเป็นความภาคภูมิของสำนักคุนอู๋แน่”
“ข้าละอายใจ” หยางถิงซานหลุบตาลง
ผู้อาวุโสท่านนั้นก็โบกมือเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก
ที่นั่งของสำนักคุนอู๋ในยามนี้เหลือเพียงผู้อาวุโสท่านนี้และหยางถิงซานพวกเขาสองคนแล้ว
หลังจากหยางถิงซานคำนับแล้วก็ส่งกระแสจิตให้หยางเซ่าเหิงที่อยู่บนเวที ‘ปล่อยทัพวิญญาณอสูรออกมา’
ถึงแม้เขาเองก็รู้สึกเสียดาย แต่หยางถิงซานเชื่อว่า เยี่ยนจื่ออวี๋วีรสตรีผู้นี้ก็ต้องมีจุดจบเดียวกับมารดาของนาง นั่นก็คือตายจากไป
หารู้ไม่ว่า ปฐมราชินีเยี่ยนที่กำลังแสดงละครอยู่นั้นกำลังรอให้เขาแสดงท่าไม้ตาย เพราะนางอยากรู้ความลับเรื่องชั้นลอยระหว่างมิติเหลือเกิน บัดนี้…