ตอนที่ 335 ข้าจะโค่นสำนักเจ้า! ชนะใสๆ!
วิ้ง!
เมื่อหยางเซ่าเหิงปลุกเร้าผนึกในร่างกาย ระรอกคลื่นสีดำกระเพื่อมเป็นวงออกมาจากร่างกายของเขา มันก่อร่างเป็นพลังพิสดารแผ่ซ่านเป็นวงขยายกว้างขึ้น
ผ่านไปเพียงไม่นาน ทั่วทั้งเวทีก็ถูกระลอกคลื่นปกคลุม กลิ่นอายต้องห้ามอันชั่วร้ายแผ่ซ่านออกมาจากวงคลื่นอย่างชัดเจน
“นะ… นี่มันอะไรกัน” ประมุขหอโอสถไม่เข้าใจ!
ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์กลับเดาบางอย่างได้ “เกรงว่ากำลังจะอัญเชิญวิญญาณอสูรมาแล้ว”
“เหมือนกับอสูรผีเสื้อราตรีแดนนรกในครานั้นน่ะหรือ” ประมุขหอโอสถหวาดหวั่น
“เกรงว่าจะแข็งแกร่งกว่านั้น” หยางซีซานหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลหยางแห่งสำนักคุนอู๋ที่มีรากเหง้าเดียวกันกับเขาจะพัวพันกับวิญญาณอสูรเช่นทุกวันนี้ได้
ถึงแม้ต้าซย่ามิได้ตั้งกฎเป็นลายลักษณ์อักษรว่าห้ามอัญเชิญวิญญาณอสูรออกมาช่วย แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเจ็ดสำนักแห่งต้าซย่า กลับทำสัญญากับวิญญาณชั่วร้าย ทุเรศสิ้นดี! แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ การที่ศิษย์สำนักคุนอู๋อัญเชิญวิญญาณอสูรออกมามารบได้ก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ใช่ว่าสำนักอื่นจะไม่เคยลอง แต่นอกเหนือจากศิษย์สำนักคุนอู๋แล้ว ก็ไม่มีศิษย์สำนักใดสามารถอัญเชิญวิญญาณอสูรออกมาได้อีก
ถึงอย่างไรแดนมืดวิญญาณอสูรก็ถูกเยี่ยนอวี๋ผนึกไว้นานแล้ว ที่สำนักคุนอู๋เชื่อมโยงกับวิญญาณอสูรได้ก็เพราะพึ่งชั้นลอยมิติจึงอัญเชิญพวกมันออกมาได้
เพียงแต่ว่า “เดี๋ยวนะ” เยี่ยนจื่อเยี่ยรู้สึกตงิดก่อนจะวิเคราะห์ว่า “ไม่เหมือนกับกำลังอัญเชิญวิญญาณเลย”
“ใช่ ไม่เหมือนเลย” เยี่ยนหงชวนแสดงแววตาเคร่งขรึม เขารู้สึกพะวง
อินหลิวเฟิงพลันตบท้ายทอยเมื่อนึกขึ้นได้ “เจ้าสุนัขบ้าหยางตัวนั้นคงไม่ใช่ว่ากำลังเปิดแดนอสูรหรอกนะ!”
เมื่อสิ้นเสียงพูด…
“นายน้อย เกรงว่าปากเสียๆ ของท่านจะเป็นจริงแล้ว” เอ้อร์เหมาปฏิเสธไม่ได้ว่าปากของนายน้อยของเขาแม่นแต่เรื่องไม่ดี ส่วนเรื่องดีไม่ค่อยแม่นนัก
ด้วยคลื่นพลังที่หยางเซ่าเหิงปลุกเร้าออกมา ปีศาจก็ปรากฏขึ้นทีละตัว เดิมทีพวกมันมีขนาดเล็กมาก ตัวขนาดเท่าเยี่ยนเสี่ยวเป่า แต่พวกมันก็ตัวใหญ่ขึ้นเมื่อโดนแสงและร้องคำราม
โฮก!
กรร…
เมื่อเสียงหอนประหลาดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ชมก็หวาดกลัวจนตัวสั่นระริก เพราะทั่วทั้งลานเวทีเต็มไปด้วยวิญญาณอสูรมากมาย!
“นะ… นี่จะทำอะไรน่ะ” ตี๋อูหวนสีหน้าพลันเปลี่ยน “สำนักคุนอู๋จะอัญเชิญกองทัพวิญญาณอสูรออกมางั้นรึ”
“คงจะใช่” นัยน์ตาจวินอั้นเทียนมีแสงประกายอำมหิตวาบผ่านเป็นสัญญาณอารมณ์กำลังจะปะทุ
สำนักคุนอู๋เองก็มิได้ทำให้ผู้ชมผิดหวัง พวกเขากำลังอัญเชิญกองทัพวิญญาณอสูรจริงๆ
“…”
เมื่อท้องฟ้าของเมืองหลวงถูกมวลเมฆสีดำปกคลุม วิญญาณอสูรหนึ่งพันตัวก็เข้าประจำที่แล้ว พวกมันมีทั้งอสูรผีเสื้อราตรี ปีศาจสุนัข ยังมีอสูรพยัคฆ์และปีศาจเสือดาว แม่ทัพของพวกมันยังมีศีรษะเป็นเสือดาว สิงโตและเสือ!
“!” อินหลิวเฟิงเกือบจะพ่นคำหยาบออกมาแล้ว “เท่าที่ข้ารู้ พลังของแม่ทัพมารนรกอยู่ระดับเทพแท้จริงแล้ว ไม่ใช่ศัตรูที่เผ่าพันธ์มนุษย์สามารถเอาชนะได้ วิญญาณอสูรในตำนานที่ถูกอัญเชิญมาเกรงว่าก็คงไม่สามารถเอาชนะได้เช่นกัน”
“ใช่แล้ว พลังของแม่ทัพมารนรกมีเพียงอสูรเทพขุนเขาและท้องทะเล ผู้ใต้บังคับบัญชาของปฐมราชินีเยี่ยนเท่านั้นที่สามารถล้มมันได้! ดังนั้นแม้จะอยู่ในสภาพวิญญาณ วิญญาณอสูรธรรมดาก็มิใช่คู่ต่อสู้ แม้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่ใช่ร่างวิญญาณ แต่ในฐานะที่นางเป็นเพียงมนุษย์ที่มีพรสวรรค์ ไม่เคยผ่านด่านเคราะห์และเลื่อนขั้นเป็นเทพ พลังของนางล้วนอยู่ใต้เทพ ดังนั้นเพียงวิญญาณอสูรแดนนรกตัวหนึ่งก็สามารถฆ่านางได้!” เยี่ยนหงชวนรู้ดี สีหน้าของเขาย่ำแย่กว่าเดิม
เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพมารนรกตัวนี้คือไพ่ใบสุดท้ายของสำนักคุนอู๋! ส่วนกองทัพวิญญาณอสูรหนึ่งพันตัวที่เหลือมาเพื่อคอยวงปิดล้อมสังหารเท่านั้น พวกมันหมายจะสังหารผู้กล้าตระกูลเยี่ยนคนนี้
“เหี้ยมจริงๆ!” ตี๋อูหวนประณามอย่างเย็นชา
จวินอั้นหยวนก่นด่า “ความอัปยศแห่งโลกผู้บำเพ็ญ!”
“แต่ก็เป็นเครื่องรับรองความปลอดภัยของสำนักคุนอู๋ ข้าเชื่อว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีสำนักไหนกล้าหยามสำนักคุนอู๋! สำนักที่โหดเหี้ยมและครอบครองกองทัพวิญญาณอสูรต้องห้ามเช่นนี้ ผู้ใดริอ่านหยามมีแต่ตายเท่านั้น” เจ้าสำนักสำนักนิรนามกลับคิดว่าสำนักคุนอู๋วางกลยุทธ์ได้ดี แม้จะหน้าด้านและชั่วร้าย แต่สำนักคุนอู๋เช่นนี้จะมีผู้ใดกล้าทำร้ายและขัดขืนอีก ไม่มี… ไม่มีสักคนเดียว
“ท่านอ๋องในต้าซย่าโหดเหี้ยมเพียงนี้ ปีหน้าเมืองขึ้นเช่นพวกข้าจะต้องรีบถวายเครื่องบรรณาการ ห้ามล่าช้าแม้แต่วันเดียว” เหล่าประมุขแว่นแคว้นเมืองขึ้นเชื่อว่าคุนอู๋เป็นตัวแทนของราชสำนัก การที่ราชสำนักอนุญาตให้มีสำนักเช่นนี้ดำรงอยู่ก็แสดงให้เห็นถึงวิธีการปกครองของราชสำนักอย่างชัดเจนแล้ว หากใครบังอาจขัดขืน จุดจบที่ผู้กล้าชางอู๋ท่านนี้ต้องเผชิญก็คือจุดจบที่ผู้ขัดขืนต้องพานพบ ไม่มีข้อยกเว้น
“จบเห่” หลายคนกำลังมองหงส์ฟ้าโดดเดี่ยวบนท้องฟ้าด้วยความเสียดาย บัดนี้หงส์ฟ้ากำลังเผชิญกับกองทัพวิญญาณอสูรหนึ่งพันตัว
ศึกครานี้ ใครจะแพ้หรือชนะ แค่มองก็รู้
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์” เยี่ยนชิงกำหมัดแน่น ดวงตาของเขาเบิกโต พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “หรงอี้ หากเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่ไหว เจ้าไปช่วยนางได้หรือไม่”
“แน่นอน” ต้าซือมิ่งตอบอย่างไม่ลังเล
ทว่าหลายๆ คนที่ได้ยินบทสนทนาของพ่อตาและลูกเขยคู่นี้กลับไม่เชื่อต้าซือมิ่ง ถึงแม้เขาจะเป็นตำนานไร้พ่าย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากองทัพวิญญาณอสูรโหดเหี้ยมเหล่านี้แล้ว เกรงว่าก็สู้พวกมันไม่ได้
แต่ไม่ว่าผู้คนจะคิดอย่างไร หยางถิงซานก็สั่ง “ฆ่ามัน!”
“ฆ่ามัน!”
หยางเทียนชื่อและเหล่าผู้อาวุโสรวมถึงจางซ่านจยาและศิษย์ชั้นยอดสำนักคุนอู๋ที่ควบคุมสนามพลังเวทไว้ก็ร้องตะโกนอย่างฮึกเหิม จากนั้น…
กรร!
เมื่อเหล่าอสูรแดนนรกระเบิดเสียงคำรามพร้อมจู่โจม กองทัพวิญญาณอสูรทั่วทั้งลานสนามก็ปล่อยมวลหมอกสีดำส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วจนปกคลุมภูเขาคุนอู๋ไว้อย่างแน่นหนา มันกำลังจะกัดกลืนหงส์ฟ้าที่กลายร่างมาจากเยี่ยนอวี๋
ฟิ้ว!
ฟิ้ว! ฟิ้ว!…
วิญญาณอสูรทุกตัวกลายเป็นร่างเงาล้อมโถมเข้าใส่เยี่ยนอวี๋อย่างรวดเร็ว!
วี้ด!
รอบกายเยี่ยนอวี๋ปล่อยเพลิงหงส์ฟ้าเจิดจรัสไปทั่ว แต่กองทัพวิญญาณอสูรเหล่านั้นกลับไม่เกรงกลัว อีกเพียงเล็กน้อยก็จะถึงตัวนางแล้ว
จู่ๆ เยี่ยนอวี๋ก็ดับเพลิงหงส์ฟ้าลง กองทัพวิญญาณอสูรเหล่านี้กลายพันธุ์ไปตามที่คาดไว้ พวกมันไม่เกรงกลัวเพลิงศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้…
ตู้ม!
ขณะที่เยี่ยนอวี๋กระพือปีกปลดปล่อยเพลิงหลากสีลุกโชน นางก็เริ่มปลุกเร้าพลังที่แท้จริงของหงส์ฟ้าออกมา! พลังแห่งหงส์ฟ้าบรรพกาล!
วี้ด!
วี้ด!…
สุวรรณหงส์! หงส์เพลิง! หงส์นิล! ชิงหลวน! จูเชวี่ย!… เหล่าทายาทหงส์ฟ้าก่อร่างขึ้นท่ามกลางเพลิงหงส์ฟ้าพราวพราย ในขณะเดียวกัน!
“เจ้าตายก่อน”
หงส์ฟ้าที่กลายร่างมาจากเยี่ยนอวี๋ก็จิกกรงเล็บลงไปที่กองทัพวิญญาณอสูรแดนนรกจากบนอากาศ!
“ฮึ! ปาก…”
หยางถิงซานที่กำลังจะเย้ยหยันเยี่ยนอวี๋ก็ต้องอึ้งไป เพราะว่าเมื่อกรงเล็บหงส์ฟ้าของเยี่ยนอวี๋ตะปบเข้ากับกรงเล็บของแม่ทัพอสูรมารนรก
“ระเบิด!”
เมื่อเยี่ยนอวี๋สั่งให้ระเบิด กรงเล็บของแม่ทัพมารนรกก็ระเบิดทันที
โฮก!
แม่ทัพมารนรกเจ็บปวดจนอาละวาดและจู่โจมเยี่ยนอวี๋หมายจะเอาชีวิตนาง! แต่น่าเสียดาย…
“สลาย”
เมื่อเยี่ยนอวี๋พูดว่าสลาย พลังหยวนชูที่พุ่งออกมาจากพลังจิตใจของนางก็ทำลายแม่ทัพมารนรกตนนี้ในทันที ความรวดเร็วและเฉียบขาดนั้นราวกับอสูรแดนนรกเป็นของปลอม! นี่มัน…ทำเอาทุกคนตะลึงงันไปหมดแล้ว!
ก่อนหน้านี้พวกเขายังเชื่อมั่นว่าเยี่ยนอวี๋จะต้องแพ้ แต่…แต่ว่าพวกเขาตาฝาดไปหรือ สิ่งที่เห็นเมื่อครู่นี้คืออะไร ที่สำคัญคือ…
ฟิ้ว!
เยี่ยนอวี๋ที่กำจัดแม่ทัพแดนนรกไปแล้วก็มุดเข้าไปในสนามพลังเวทที่สำนักคุนอู๋สร้างขึ้น ก่อนจะวับหายไปต่อหน้าทุกคน
“นะ นี่มัน…” หยางถิงซานพูดตะกุกตะกัก!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ประมุขหอโอสถสำนักชางอู๋เองก็ตะลึง!
ทว่าสิ่งที่ทำให้สำนักชางอู๋รู้สึกวางใจลงคือการสู้รบในลานสนามยังคงดำเนินต่อไป เหล่าวิญญาณอสูรทายาทหงส์ฟ้าที่ก่อร่างมาจากเพลิงหงส์ฟ้าหลากสีกำลังปะทะกับกองทัพวิญญาณอสูร ดูเหมือนว่าจะสูสีกันด้วย
ดูจากภาพรวมแล้ว สำนักคุนอู๋เหมือนกับว่าจะยังไม่แพ้ แต่ผู้อาวุโสข้างกายหยางถิงซานกลับลุกยืนขึ้น “ปิดสนามพลังเวทเร็วเข้า! อย่าให้นางออกมา! นางต้องตายในนั้นแน่นอน!”
หยางถิงซานชะงักครู่หนึ่งก่อนจะตั้งสติได้และตะโกนออกไปว่า “ใช่แล้ว! ปิดสนามพลังเวทขังนางไว้!” เจ้าคนบัดซบนั่นเข้าไปในแดนมืดอสูรผ่านสนามพลังเวท คงกำลังคิดจะไปจับหัวหน้า หากเป็นเช่นนั้นจริง หยางถิงซานก็อยากจะหัวเราะ วิญญาณอสูรในแดนมืดอสูรนั้นมีมากมายหลายพันหมื่น ไม่มีทางฆ่าหมดสิ้นได้ มันจึงถูกผนึกไว้ มิเช่นนั้นปฐมราชินีหยวนชูในอดีตก็คงกวาดล้างแดนมืดวิญญาณอสูรไปหมดสิ้นแล้ว
ไม่คิดว่านังหนูตัวดีตระกูลเยี่ยนจะโง่เขลาเพียงนี้ วิ่งเข้าหากับดักเอง หากรู้แต่แรกก็คงใช้วิธีนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว
“เร็วเข้า!” เหล่าศิษย์สำนักน้อยใหญ่ที่เพิ่งตั้งสติได้ก็ปิดสนามพลังเวททันที แต่แล้วกองทัพวิญญาณอสูรที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ข้างนอกยังกลับเข้าไปไม่ได้ สนามพลังเวทจึงปิดไม่ได้…
“ให้ตายเถอะ!” หยางถิงซานเพิ่งรู้ว่า นังหนูตัวดีตระกูลเยี่ยนคนนี้มิได้โง่ นางวางแผนไว้หมดแล้ว
ทว่าผู้อาวุโสข้างกายหยางถิงซานกลับคำรามขึ้น “ระเบิด!”
กองทัพวิญญาณอสูรนับพันระเบิดสลายตัวเมื่อเขาร้องคำราม ครานี้เอง…
“ปิดสนามพลังเวท!” ผู้อาวุโสตะคอกก่อนจะกระอักเลือดออกมา เห็นได้ชัดว่าการคำรามเมื่อครู่นี้ทำให้เขาบาดเจ็บหนัก แต่สนามพลังเวทก็ปิดลงได้แล้ว
วิ้ง!
วิ้ง!…
ระรอกคลื่นสนามพลังเวทสีดำกำลังจะสลายไป
เยี่ยนชิงคว้าต้าซือมิ่ง “เร็วเข้า!”
ต้าซือมิ่งเองก็ลุกขึ้น แต่ในขณะนี้เอง
วี้ด!
เสียงหงส์ฟ้าดังออกมาจากระลอกคลื่นวงสุดท้าย
“ปิดซะ!”
เหล่าศิษย์สำนักคุนอู๋ตะคอกอย่างร้อนรน พวกเขารู้ว่านี่เป็นโอกาสอันดีในการสังหารเยี่ยนอวี๋ แต่น่าเสียดาย…
“โฮ่ง!”
หยางเซ่าเหิงผู้ควบคุมสนามพลังเวทกลับเห่าขึ้นมา เขาตัวแข็งทื่อ แววตาก็เชื่องช้าลง จากนั้น…