ตอนที่ 341 หยวนคังฮ่องเต้สังหารถึงที่!
ปฐมราชินีเยี่ยนต่อยไหล่เขาเข้าอย่างจัง!
ครานี้เอง…
“ฮึ”
ต้าซือมิ่งส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ เขาจำใจต้องผละออก แต่มือที่ประคองคอของปฐมราชินีเยี่ยนไว้ยังคงประคองไว้เช่นนั้นเขายังคงอยากจะจูบนางต่อ จึงกล่าวด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ใจร้ายจัง”
“เจ้า…” ลมหายใจที่รินรดอยู่ตรงหน้าทำเอาเยี่ยนอวี๋ว้าวุ่น นางยังรู้สึกว่าในช่องปากและร่างกายของตนอบอวลไปด้วยกลิ่นอายดุจหิมะดั่งธูปของคนผู้นี้ ทั้งเย็นชื่นและผ่อนคลายซาบซ่านจนมิอาจถอนตัวได้
มือข้างหนึ่งของหรงอี้ลูบขนอ่อนน้อยๆ ของเด็กน้อยเพื่อให้เขาอยู่นิ่งๆ ก่อนจะฉวยโอกาสจูบเยี่ยนอวี๋ขณะที่นางกำลังสูดหายใจเข้า และยังจูบจมูกน้อยๆ ของนางด้วย เขาตามตอแยนางไม่เลิก
เยี่ยนอวี๋ที่แต่เดิมสติสตังกลับมาแล้วก็กระเจิดกระเจิงอีกครั้ง “ไม่ อุ๊บ…”
เมื่อเห็นว่าเขาจะทำตัวเหลวไหลอีกครั้ง เยี่ยนอวี๋ก็เบือนหน้ามุดเข้าไปในซอกคอของเขาไม่ยอมให้เขาจูบต่อ และกล่าวตำหนิด้วยเสียงหอบเล็กน้อย “พอได้แล้ว”
“อืม” หรงอี้ขานตอบพลางยิ้ม เสียงเข้มทุ้มต่ำนั้นช่างเสนาะหูไพเราะและเย้ายวน
เยี่ยนอวี๋ได้ยินดังนั้นก็สูดหายใจเข้าอีกหลายเฮือก นางรู้สึกได้ว่ามือของเขายังประคองคอของนางไว้อย่างอ่อนโยน ทำให้นางไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ได้แต่แอบอิงแผ่นอกของเขา
เขานี่มัน…
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”
หรงอี้ที่ประคองคอของนางไว้เบาๆ ก็หลุบตาลงมามองมนุษย์ในอ้อมอกประหนึ่งปลาตัวน้อยที่กำลังเผยอปากเล็กน้อย เขาตกหลุมรักเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เช่นนี้จริงๆ เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของข้า…
เนื้อตัวนิ่ม ปากนิ่มยิ่งกว่า …ทั้งนิ่มทั้งหอมไปทุกที่ ทำเอาหรงอี้ลืมเรื่องเรื่องหนักใจทั้งปวงไปแล้ว ในยามนี้เขาเพียงแค่ต้องการกอดเจ้าปลาตัวน้อยนุ่มนิ่มตัวนี้ไว้เท่านั้น
ทว่าเมื่อคิดถึงร่างพลังที่ไหลออกไปอาจจะเก็บความทรงจำส่วนสำคัญไว้ ดวงตาสีม่วงของต้าซือมิ่งก็ลุ่มลึกกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน…
“อ้ะเนะ!”
เด็กน้อยที่คิดว่าตนเองขยับได้แล้วก็มุดออกมาจากอ้อมอกของท่านพ่อ และยังโผล่ขึ้นมาข้างหน้าท่านพ่อของเขาพลางมองอย่างสงสัย “พ่อ? เนะ?”
ต้าซือมิ่งมอง ‘หลักฐาน’ ที่อยู่ตรงหน้านี้ นัยน์ตาขรึมลงเล็กน้อย “เมื่อครู่เสี่ยวเป่าขยับทำไมล่ะ”
เด็กน้อยกุมศีรษะด้วยมืออวบอ้วนของเขา มองท่านพ่อตาปริบ “เนะ?”
“พ่อบอกให้เจ้าอย่าขยับมิใช่หรือ” หากไม่ใช่เพราะเด็กน้อยขยับ เขาจะได้…
“เป่า แบน!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่า ไม่ใช่เสี่ยวเป่าอยากขยับ แต่เสี่ยวเป่าจะถูกทับจนแบนแล้ว!
เยี่ยนอวี๋ฟังบทสนทนาอัน ‘คลุมเครือ’ ของสองพ่อลูกก็จับประเด็นได้ นางหันไปถาม “เจ้าไม่ให้เสี่ยวเป่าขยับตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดข้าไม่รู้เลย”
“ลูบ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบอย่างเริงร่า ท่านพ่อรูปงามลูบหลังและรวบตัวเสี่ยวเป่าไว้ หมายถึงไม่ให้เสี่ยวเป่าขยับ!
เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ ทว่าต้าซือมิ่งก็สาธิตให้นางดู เขารวบเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมอกอีกครั้ง เด็กน้อยพิงอกของท่านอย่างให้ความร่วมมือ จากนั้นต้าซือมิ่งก็ลูบหลังของเขา เขาก็มุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่ออย่างมีความสุข และอยู่นิ่งๆ เช่นนั้น
เยี่ยนอวี๋ “…”
สองพ่อลูกนี่รู้ใจกันตั้งแต่เมื่อไร ทำไมนางไม่รู้เรื่องเลย!
ต้าซือมิ่งที่วางแผนมานานย่อมไม่บอกภรรยาว่าเขา ‘ฝึกฝน’ เด็กน้อยได้ตั้งแต่เมื่อไร เขายังคงลูบหลังอ่อนนุ่มของเด็กน้อย กล่าวชมเชยว่า “เสี่ยวเป่าเก่งมากเลย”
“ฮี่…” เด็กน้อยมุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่อต่อไปราวกับไส้เดือนตัวน้อย เขายังจับเสื้อผ้าของท่านพ่อไว้แน่นด้วยความรักอาวรณ์ จับไปจับมาก็เหมือนกับว่าเขาจะเล่นเพลิน
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางจึงหยิกเด็กน้อยเบาๆ!
“อ้ะ! แม…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ่งสนุกสนานทำท่าจะมุดเข้าไปในเสื้อของท่านพ่อ มืออวบอ้วนของเขาก็กำลังเปิดเสื้อผ้าของท่านพ่อแล้ว
“อ่ะแฮ่ม!”
เสียงเตือนของเยี่ยนชิงดังขึ้นจากใกล้ๆ พอดี
เยี่ยนอวี๋มองไปตามเสียงก็เห็นท่านพ่อและพี่รองมาแล้ว นางจึงจัดเสื้อผ้าต้าซือมิ่งให้เป็นระเบียบอย่างเคยชิน ก่อนจะหยิกเด็กน้อยและอุ้มเขามาพลางคิดว่าโรคชอบเปิดเสื้อผ้าท่านพ่อเล่นของเด็กน้อยคงต้องหาทางแก้ให้หายแล้วล่ะ!
ภาพตรงหน้าทำเอาเยี่ยนชิงที่ได้เห็นทุกอย่างกับตาผงะ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นลูกเขยที่ถูกแก้ผ้า ไม่น่าจะถูกนะ…
“แค่ก!” เยี่ยนชิงสะบัดความคิดสกปรกในหัวทิ้งก่อนจะมีสีหน้ากลับมาเป็นปกติ “พวกเจ้าทำอะไรน่ะ!”
“จูบ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบ
เยี่ยนอวี๋ “…”
ลูกรู้ได้อย่างไร!
นี่มัน…
ต้าซือมิ่งที่ถูกสายตาของเยี่ยนอวี๋ปราดมองก็แสดงตัวว่าตนก็ไม่รู้เช่นกัน ทว่าเขาก็กล่าวทักทายพ่อตาและพี่เขยด้วยสีหน้าจริงจังแล้ว “ท่านพ่อตา พี่รอง”
เยี่ยนชิงมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ในฐานะที่เขาเป็นผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนย่อมดูออกว่าเมื่อครู่นี้ทั้งสองจูบกันจริงๆ! เขาพลันรู้สึกเหมือนถูกแย่งของรักของหวงไปอย่างไรอย่างนั้น ทว่าเยี่ยนชิงก็ไม่ทันได้พูดอะไร เสียงประกาศแหลมสูงก็ดังขึ้นจากข้างนอก “ฝ่าบาทเสด็จ!”
เยี่ยนชิงชะงัก “ใครนะ?”
“ฝ่าบาท?” เยี่ยนจื่อเสาก็งงงัน ไม่เข้าใจว่าฮ่องเต้ที่แม้แต้งานแต่งตั้งเจ็ดสำนักยังไม่เข้าร่วม เหตุใดจึงมีเวลามาตำหนักซือมิ่ง ทั้งยังมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ด้วย
เยี่ยนอวี๋พอจะคาดเดาบางอย่างได้ “ไล่ตามมาถึงที่เลยหรือ”
“อาจจะ” หรงอี้ไม่คิดว่าหยวนคังฮ่องเต้จะตามมาถึงที่ ถึงอย่างไรเขาก็บาดเจ็บสาหัสอยู่
เยี่ยนชิงไม่เข้าใจ “เดี๋ยวนะ พวกเจ้าพูดให้ชัดเจน เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ ข้ายังไม่รู้เรื่องจนถึงตอนนี้เลย เล่นใบ้คำอะไรกันอยู่รึ เหตุใดยังทำให้ฮ่องเต้ต้องมาถึงที่นี่”
“เมื่อครู่นี้พวกข้าเข้าวังมา ทำเสียงดังไปหน่อย” เยี่ยนอวี๋อธิบาย “ส่วนเรื่องอื่น เรื่องค่อนข้างยาว คงต้องรอคืนนี้ค่อยเล่าให้ฟัง”
“เดี๋ยวนะ เมื่อครู่นี้แค่เพียงครู่เดียวน่ะหรือ พวกเจ้าเข้าวังและกลับมาแล้ว? และยังพาเสี่ยวเป่าไปด้วย?” เยี่ยนจื่อเสางงงัน สองคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ ไป ‘เป็นโจร’ แล้วยังพาเด็กน้อยที่อายุไม่ครบขวบไปด้วย!?
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็พูดอย่างดีอกดีใจว่า “ใช่! พา เป่า! อ้ะเนะเนะ…”
เยี่ยนจื่อเสา “…”
ก็ได้ เขาไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
“พวกเจ้านี่มันช่าง…” เยี่ยนชิงเองก็พูดไม่ออก “ครั้งหน้าห้ามพาเสี่ยวเป่าไปด้วยแล้ว”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าประท้วงทันที “พา!”
เยี่ยนชิงรีบลูบหลานชายน้อยเบาๆ เกลี้ยกล่อมว่า “เสี่ยวเป่าห้ามไปแล้ว ที่ตรงนั้นไม่ดีหรอก อันตรายมาก เสี่ยวเป่าอยู่กับตาดีกว่านะ”
“พา!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดท่านพ่อของเขาไว้แน่น ยืนหยัดว่าจะไปกับท่านพ่อและท่านแม่ของเขา ไม่แยกจากกัน!
เยี่ยนชิงอยากจะคุยกับหลานชายน้อยดีๆ แต่จะทำอย่างไรได้เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เขาจึงต้องเก็บไว้คุยคราวหลัง “ออกไปพบฮ่องเต้ก่อนเถิด ไม่รู้ว่าเขามาทำอะไร พวกเจ้าไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ใช่หรือไม่”
เยี่ยนอวี๋ส่ายศีรษะ “ไปกันเถิด ไปพบเขาก่อน”
ที่เยี่ยนอวี๋ไม่รู้สึกกังวลเท่าไรนัก หลักๆ เป็นเพราะนางเชื่อมั่นในตัวต้าซือมิ่ง แต่ไม่ว่านางหรือต้าซือมิ่ง เมื่อเห็นหยวนคังฮ่องเต้ก็ต้องตกใจ! เพราะว่า…