ตอนที่ 358 ปริศนาแห่งเมืองร้าง! จุดประสงค์ของต้าซือมิ่งโหดเหี้ยม!
ผู้มาเยือนก็สะดุ้งตกใจเพราะถึงแม้อาวุโสมือกระบี่จะถูกมัดไว้ แต่เขาที่เป็นถึงผู้เก่งกาจในตำนานก็ยังสามารถฆ่าตนได้ทันทีอยู่ดี
“พี่หยวนหมิง?” จวินฮวนคิดไม่ถึงว่าคนที่มาจะเป็นกู้หยวนหมิง
ในที่สุดกู้หยวนหมิงที่ไม่ต้องคลำทางในความมืดอีกก็ปาดเหงื่อ พูดขึ้นว่า “เรื่องอื่นไว้ว่ากัน ข้าช่วยพวกเจ้าออกไปก่อน” เมื่อพูดจบเขาก็หยิบขวดเครื่องลายครามขวดหนึ่งออกมาจากในเสื้อและรีบเทผงในขวดลงไปที่เถาวัลย์ที่พันจวินฮวนไว้
เสียงกัดกร่อน แซ่ดๆ ดังขึ้นจากเถาวัลย์ พลังที่มัดจวินฮวนไว้พลันสลายไป แต่ครั้นเขากำลังจะใช้วิชา กู้หยวนหมิงก็เตือนขึ้นว่า “อย่าใช้วิชา มิเช่นนั้นจะหนีไปไม่ได้”
อินสวินอี้ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งถามด้วยความตระหนกว่า “ต้าหลางแห่งตระกูลกู้ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หากถูกจับได้ เจ้า…”
“…” กู้หยวนหมิงเงียบ เขารู้ดีว่าหากท่านพ่อหรือผู้อาวุโสสำนักรู้เรื่องที่เขาทำ เขาก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้ว
แต่เมื่อเขาได้ยินแผนการลับของสำนักและฮ่องเต้ เขาก็อดมาไม่ได้! เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าสำนักที่เลี้ยงดูตนมากลับช่วยจักรพรรดิสร้างบ่อน้ำสีเลือดด้วยชีวิตคนเกือบร้อยแปดสิบคน! ทำลงไปได้อย่างไร!
กู้หยวนหมิงคิดไม่ออกและคิดไม่ถึงด้วย เขาจึงทำได้เพียงช่วยเหลือคนไว้เท่าที่ตนจะช่วยได้ “ความสามารถของข้ามีจำกัดจึงขโมยเถ้ากระดูกมาได้เพียงเท่านี้ มันสามารถทำให้ยันต์ชั่วร้ายบนเถาวัลย์เหล่านี้เสื่อมคลาย แต่ที่นี่มีคนจำนวนมากเกินไป ข้า…”
“พอแล้วล่ะ” อาวุโสมือกระบี่ที่ได้รับความช่วยเหลือเริ่มปรับลมปราณพลางสื่อจิตสัมผัสไปยังรอบทิศ หลังจากที่ไม่มีการควบคุมของเถาวัลย์ เขาก็สามารถสัมผัสได้ทั่วทั้งบ่อน้ำสีเลือด เขาจึงรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า “มีคนจำนวนกว่าครึ่งเสียชีวิตแล้ว คนที่เหลือข้าน่าจะใช้ดาบฟันเถาวัลย์เหล่านี้ให้ขาดได้ แต่จะออกไปได้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเอง”
เรื่องที่กู้หยวนหมิงพูดกับจวินฮวนเมื่อครู่นี้ อาวุโสมือกระบี่ก็ได้ยินแล้ว เขาจึงรู้ดีว่าหากเขาทำเช่นนั้นย่อมทำให้ข้ารับใช้ของฮ่องเต้หยวนคังรู้ตัว กระทั่งตัวฮ่องเต้เองด้วย แต่อินสวินอี้ที่ไม่อาจเป็นคนเลือดเย็นเช่นฮ่องเต้หยวนคังได้ก็พูดขึ้นว่า “ฟันเถอะ ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยก็มีหวัง”
“อีกทั้งเรามีจำนวนคนมากย่อมร่วมกันฝ่าออกไปได้ อย่างน้อยก็มีโอกาสออกไปได้มากกว่า และก็ไม่ต้องลำบากน้องกู้ด้วย” จวินอั้นเทียนพูดพลาง ยังถามกู้หยวนหมิงว่า “แต่นี่ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไร ไปกับพวกข้าดีหรือไม่”
กู้หยวนหมิงกลับปฏิเสธ “ไม่แล้วล่ะ เรื่องนี้ยังไม่จบ ข้าจะอยู่ในสำนักต่อไป หากเจอเรื่องเช่นวันนี้อีกจะได้เข้ามาช่วยได้อีก”
“แต่มันอันตรายมากนะ” จวินฮวนไม่เห็นด้วย
แต่กู้หยวนหมิงยืนยันว่า “หากปัญหานี้ไม่สิ้น ไปที่ใดล้วนอันตราย พวกท่านมิต้องเป็นห่วง ท่านพ่อของข้ายังคงดีกับข้ามาก ส่งพวกท่านออกไปแล้ว ข้าค่อยย้อนกลับไปอีกก็ได้”
“…ก็ได้” อินสวินอี้ไม่บังคับเขา เพียงแต่เขาคิดว่าต้าหลางแห่งตระกูลกู้คนนี้ช่างเป็นเด็กหายากจริงๆ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังยึดมั่นในความตั้งใจเดิมของตนได้
ในขณะเดียวกัน…
“สุสานกระบี่”
อาวุโสมือกระบี่ใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์รวบรวมพลังกระบี่หมื่นพันเล่มมาด้วยความรวดเร็ว! พลังกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งทะลวงเข้าไปในเถาวัลย์ตามการควบคุมอย่างแม่นยำ แรงสะเทือนรุนแรงจนทำให้เหล่าผู้คนที่ถูกจับฟื้นขึ้นมา
ฉับ!
ฉับๆ!…
เถาวัลย์ที่ขาดสะบั้นลงไม่หยุดพ่นของเหลวเหนียวกลิ่นคละคลุ้งออกมาไม่น้อย ทำเอาผู้คนที่เพิ่งตื่นขึ้นมาและยังตั้งสติไม่ได้ตกใจตาเหลือกตาโปน ทุกคนงุนงง “ที่นี่ที่ไหน ข้าพักอยู่ในเรือนรับรองมิใช่หรือ!”
“ไม่รู้สิ! นี่มันที่บ้าอะไรกัน!” คนกลุ่มหนึ่งถกกันครู่หนึ่ง อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทว่ากลุ่มอินสวินอี้ไม่มีเวลาอธิบายให้พวกเขาฟัง หลังจากที่จวินอั้นเทียนรวบรวมคนของสำนักเสร็จแล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “ตามมาให้ดี หากตามไม่ทันก็จะต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไป!”
“ทางนี้!” กู้หยวนหมิงที่นำทางอยู่ข้างหน้าก็สวมชุดคลุม เขาไม่สนใจเรื่องเถาวัลย์ว่าจะรู้ตัวหรือไม่แล้ว เขารีบพาคนออกไปด้วยพลังเต็มที่
หลังจากที่อาวุโสมือกระบี่ตามทุกคนไปแล้ว กระแสสัมผัสของเขายังคงอยู่ที่เถาวัลย์ที่ราวกับยังไม่รู้ตัวเหล่านั้น เขารู้สึกกังวลตลอดเวลา และเถาวัลย์ที่สามารถทำให้ตำนานเช่นเขารู้สึกไม่ปลอดภัยได้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงๆ…
ฟู่!
ขณะที่เหล่าผู้หนีตายมุ่งหน้าไปทางทางออกอย่างรวดเร็ว จู่ๆ เถาวัลย์ที่ขาดเหล่านั้นก็พุ่งขึ้นแทงเข้าที่หัวใจของคนเหล่านั้นด้วยความรวดเร็ว!
“ไม่!”
“ช่วย…”
ผู้คนมากมายถูกแทงทะลุจนตาย ร่วงหล่นลงในบ่อน้ำสีเลือดและกลายเป็นกระดูกทันที…
อินสวินอี้ที่เห็นดังนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยน เขารีบเร่งทุกคน “เร็วเข้า! รีบหนีเร็วเข้า!”
แต่แล้ว… ข้างหน้าของพวกเขา บริเวณเหนือศีรษะของกู้หยวนมิงที่กำลังนำทาง ปลายแหลมนับไม่ถ้วนของเถาวัลย์สีเลือดกำลังรอพวกเขาอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะทางนั้นมีทางเดินจริงๆ คนที่ไม่รู้คงคิดว่ากู้หยวนหมิงพาพวกเขาไปตายแล้ว!
“ทำไงดี” จวินอั้นหยวนที่เพิ่งดีขึ้นเล็กน้อยก็พูดด้วยเสียงต่ำแหบแห้งว่า “ด้วยสภาพเช่นนี้ของพวกเรา คงฝ่ามันไปไม่ได้”
“ก็ต้องฝ่าอยู่ดี!” อินสวินอี้พูด “ไม่เช่นนั้นก็ตายสถานเดียว!”
“ใช่แล้ว” ขณะที่จวินอั้นเทียนพยักหน้า แสงกระบี่ก็ประกายออกมาจากฝ่ามือของเขา
ชิ้ง!
ชิ้ง! ชิ้ง!…
เหล่าคนสำนักจวินจื่อต่างชักดาบ
คนของสำนักอื่นๆ ใบหน้าซีดเผือด พวกเขากล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าก้าวขึ้นไป หวังรอให้คนสำนักจวินจื่อเปิดทางให้ก่อนแล้วค่อยออกไป
แต่เจ้าสำนักเช่นตี๋อูหวนก็ออกคำสั่งว่า “สำนักเนี่ยผานจงฟังคำสั่ง ช่วยเหลือสำนักจวินจื่อสู้เต็มที่!” เขารู้ดีว่าหากไม่ลองสักตั้งก็จะไม่มีทางออกไปได้
“ขอรับ!” คนสำนักเนี่ยผานต่างปล่อยพลังแสงเปลวเพลิงเจิดจ้าไปยังบริเวณใกล้เคียงสำนักจวินจื่อ
ในขณะเดียวกัน…
“หมื่นกระบี่! จากต้นกำเนิด”
เสียงอาวุโสมือกระบี่คำราม พลังกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างกายชราของเขาราวกับกระแสน้ำหลาก มันตรงไปยังทางออก มันร่วมสร้างพลังไปพร้อมกับสุสานกระบี่จากโยวตูที่อยู่ไกลออกไปอย่างปรองดอง
ฟู่! ฟู่ๆ!…
เถาวัลย์กลายพันธุ์เปื้อนเลือดสีแดงสดเบนปลายแหลมนับไม่ถ้วนจู่โจมเข้าใส่พลังกระบี่ทันที มันถึงกับสามารถพันเกี่ยวพลังกระบี่เอาไว้ได้อย่างแน่นหนา และยังสามารถกลืนกินพลังจู่โจมของกระบี่เหล่านั้น
“ไป!”
อาวุโสมือกระบี่พัดม้วนตัวทุกคนและพุ่งขึ้นไปยังทางออกทันที เขารับรู้ได้ว่าการโจมตีของเขาไม่สามารถกำราบเถาวัลย์แปลกประหลาดเหล่านี้ได้
ความจริงก็เป็นเช่นนั้น…
สวบ!
เถาวัลย์ที่เปล่งเสียงประหลาดออกมาก็ทำลายพลังกระบี่จนหมดสิ้นในขณะที่คนสำนักจวินจื่อกำลังจะฝ่าฟันออกไป มันเขมือบเข้าไปที่พวกเขา ทว่าตี๋อูหวนที่เพิ่งตามหลังมาก็คำราม “หงส์ฟ้ากลับคืน!”
ทันใดนั้น…
วี้ด!
อสูรหงส์เพลิงในตำนานสถิตลงมาในทันใด พลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงแผ่ซ่าน มันจู่โจมไปที่เถาวัลย์เหล่านั้น ยับยั้งพวกมันไว้ครู่หนึ่งทำให้สำนักจวินจื่อหายวับเข้าไปในทางเดินได้ทันที
“กระบี่จงมา!”
เมื่อจวินอั้นเทียนทรงตัวได้ เขาก็ปล่อยพลังกระบี่แห่งความเที่ยงธรรมไปที่เถาวัลย์รอบทิศ เพื่อยืดเวลาให้คนสำนักเนี่ยผานหนีออกไปได้
“ไป! รีบตามไปเร็วเข้า!”
จากนั้นคนสำนักอื่นๆ ต่างก็พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว! ในครานั้นเอง…
“คิดจะหนีรึ!”
เสียงคำรามที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นจากบ่อน้ำสีเลือดพุ่งเป็นเกลียวคลื่นสีเลือดขึ้นมากลางอากาศ มันโถมใส่ศิษย์สำนักเหล่านั้น กลืนกินคนจำนวนมากเข้าไปในบ่อน้ำสีเลือด
ไม่เพียงเท่านี้…
“ลงมาซะเถอะ!”
หนวดสีเลือดที่พุ่งออกมาจากบ่อน้ำสีเลือดเร็วกว่าอักษรโบราณบนเถาวัลย์เหล่านั้นเสียอีก! มันแทงขึ้นไปตรงทางออกหมายจะเอาชีวิตทุกคน
โชคดีที่…
“โล่!”
อาวุโสมือกระบี่รวบรวมพลังกระบี่เป็นโล่ กันหนวดสีเลือดไว้ได้อย่างหวุดหวิด
“หงส์เพลิงจงตื่น!”
เหล่าผู้อาวุโสที่นำโดยตี๋อูหวนก็สร้างค่ายกลหงส์เพลิงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันแผดเผาหนวดสีเลือดอำมหิต ทำให้ยับยั้งสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นไว้ได้ชั่วคราว
“ไป!” กู้หยวนหมิงจึงรีบพาศิษย์ของสองสำนักและกำลังที่เหลือบางส่วนที่ก่อนหน้านี้รอดมาได้พุ่งตรงออกไปด้วยความรวดเร็ว จนเมื่อถึงทางแยกหนึ่ง กู้หยวนหมิงจึงหยุดลงและคอยชี้นำทางให้คนข้างหลัง “ทางนี้! เร็วเข้า! เร็ว! เร็วกว่านี้อีก!”
ผู้คนต่างพุ่งตัวหายวับออกไป จวินฮวนก็ดึงกู้หยวนหมิงไปด้วยในท้ายสุด “ไป!”
แต่ในขณะเดียวกันนั้น…
“!”
เถาวัลย์สีเลือดที่เหมือนจะหลุดรอดมาได้ก็แทงไปที่กู้หยวนหมิงอย่างไร้สุ้มเสียง!
พึ่บ!
เกลียวไฟสายหนึ่งก็ผลักกู้หยวนหมิงออกไปในขณะเดียวกัน!
จากนั้นกลุ่มคนตี๋อูหวน จวินอั้นเทียน และอาวุโสมือกระบี่ก็รีบคว้ารุ่นเยาว์สองคนมุ่งตรงไปทางเดิน เถาวัลย์ยั้วเยี้ยชิงกันจู่โจมขึ้นมาจากข้างหลังพวกเขา
ที่น่ากลัวคือ…
จวินอั้นหยวนที่นำทางอยู่ข้างหน้าสุดนั้นก็จำเป็นต้องหยุดลง เพราะว่าข้างหน้าของพวกเขา เจ้าสำนักแห่งสำนักนิรนามพร้อมทหารกว่าหมื่นนายขวางทางพวกเขาไว้แล้ว
แต่ก็แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น…
ฝ่ายต้าซือมิ่งที่อยู่ทางทิศใต้สุดของต้าซย่าก็เข้ามาถึงส่วนลึกลัทธิเซิ่งเหลียน และที่นี่ก็มีบ่อน้ำสีเลือดที่แห้งเหือดไปแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้…
ในบ่อน้ำสีเลือดยังมีกระดูกสีขาวก่ายกอง ราวกับเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเหตุใดเมืองจิ่วหลีจึงกลายเป็นเมืองร้างเช่นนี้
เยี่ยนอวี๋สีหน้าพลันเปลี่ยน “ ‘เจ้า’ เป็นคนทำหรือ”