ตอนที่ 364 ต้าซือมิ่งสั่งสอนพวกเจ้าให้เป็นเทพดีๆ!
ประตูสวรรค์ที่แกะสลักวิจิตรปรากฏขึ้นเหนือเมืองโยวตู ส่องแสงศักดิ์สิทธิ์รัศมีเจิดจ้า บารมียิ่งใหญ่เกรียงไกร เทพสององค์ที่ปรากฏตัวขึ้นยิ่งศักดิ์สิทธิ์และทรงพลัง
เทพจริงเช่นนี้เป็นเทพที่ผู้คนมิอาจปลอมแปลงและยิ่งจำผิดเพี้ยนไปมิได้! ประชาชนโยวตูมากมายคุกเข่าลงพื้นอีกครั้งด้วยร่างกายสั่นเทา
แม้แต่อีอิ่นเองก็รู้สึกหวาดหวั่น เขากล่าวอย่างเคารพนอบน้อมว่า “ท่านเทพทั้งสอง ผู้แตะต้องผนึกขุนเขาและท้องทะเลมิได้ทำโดยพลการ แต่เพื่อปราบมาร”
แต่แล้วแม้ท่าทีของอีอิ่นจะไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่เทพสององค์ที่สถิตลงกลับตวาดใส่ “สามหาว! เทพสวรรค์ย่อมเป็นผู้ตัดสินว่าทำโดยพลการหรือไม่ มนุษย์ธรรมดาเช่นเจ้าไม่มีสิทธิ์พูด!”
“ในเมื่อเจ้าเอ่ยขึ้นแล้ว จำได้หรือไม่ว่าผู้ที่แตะต้องผนึกขุนเขาและท้องทะเลคือผู้ใด ตอบตามความจริง!” เทพอีกองค์หนึ่งก็กล่าวด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส สายตาของเขามองอีอิ่นที่ลอยขึ้นมาคุกเข่าอยู่กลางอากาศราวกับกำลังมองมดแมลง
“ข้า…” อินสวินอี้ที่ดูถึงตรงนี้ก็โมโห! เขาอยากจะออกไปชี้แจง แต่ถูกต้าเหมารั้งไว้ “ท่านอ๋อง ใจเย็นๆ นั่นคือเทพจริงเชียวนะขอรับ!”
อินสวินอี้จึงสงบอารมณ์ลง แต่เทพสองท่านนั้นกลับปล่อยพลังทับถมเขาเพียงเพราะเขาไม่ได้ตอบในทันที “ยังไม่รีบพูดอีก!”
วิ้ง! ร่างวิญญาณของอีอิ่นสะท้านราวกับจะแตกสลายลงแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่เทพจริง แม้จะมีฌานตบะสูงเพียงใดก็ไม่สามารถเทียบกับเทพที่ได้ขึ้นสวรรค์และได้รับพรจากกฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ต่อหน้าเทพจริงแล้ว ไม่ว่านักฝึกฌานใดๆ ก็เป็นเพียงมดแมลง ไม่มีข้อยกเว้น! ดังนั้นอีอิ่นต้านทานอิทธิฤทธิ์เช่นนี้มิได้ แต่เทพทั้งสองท่านกลับยังคงกดดันอีอิ่นอย่างไม่ลดละ
“ท่าน…” อีอิ่นหายใจลำบาก
ซ่งเฉินฟางและคนอื่นๆ คุกเข่าลงบนพื้น พูดว่า “ท่านเทพทั้งสองโปรดอนุญาตให้ข้าได้พูดด้วย อาจารย์จี้จิ่วมิอาจพูดได้แล้ว ท่านทั้งสองโปรดไว้ชีวิต”
“บังอาจ!” เทพท่านหนึ่งกลับตวาดขึ้น “กฎของทวยเทพ กล้าดีอย่างไรมาเถียง”
“…” ซ่งเฉินฟางและคนอื่นๆ ตัวสั่นระริก พวกเขาเตรียมใจถูกพลังศักดิ์สิทธิ์กดทับทันที แต่ ‘ความหนักหน่วง’ ในความคิดของพวกเขากลับมิได้เกิดขึ้น ทำให้พวกเขาชะงักเล็กน้อย
และในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋ที่ได้ยินความผยองตนของเทพสองท่านนั้น ขนตานางก็กระตุกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางถูกยั่วยุ! ที่สำคัญคือนางโมโหแล้ว! ทว่าหรงอี้ก็พูดเพื่อสงบอารมณ์นาง “ไม่เป็นอะไรหรอก เจ้ายุ่งของเจ้า ที่เหลือข้าจัดการเอง”
“ใช่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็ปลอบท่านแม่ของนาง
เยี่ยนอวี๋เองก็รู้ว่ามีหรงอี้อยู่จะไม่เกิดเรื่องแน่นอน นางเพียงแค่รู้สึกโมโห!
ในขณะเดียวกัน…
เทพผู้ลงมือที่เพิ่งรู้ถึงผิดปกติก็ถามขึ้นว่า “ผู้ใดบังอาจต้านแรงกดดันศักดิ์สิทธิ์”
ทว่าสิ่งที่ตอบเขาคือแรงกดดันบนตัวของอีอิ่นที่ถูกพัดเป่าจนหายสิ้นแล้ว
“ใคร!”
เทพสององค์ที่ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดก็โกรธกริ้ว! น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจพวกเขา แม้แต่อีอิ่นที่ถูกช่วยก็ร่วงเข้าไปในสำนักศึกษา ไม่ตอบสนองอะไรแล้ว
“บัดซบ! กลั่นแกล้งทวยเทพ ไม่กลัวสวรรค์ลงโทษหรืออย่างไร!” ในขณะที่ขึ้นเสียงนั้น เทพทั้งสองก็อัญเชิญสายฟ้าโดยเมินเฉยว่าเหล่าประชาชนผู้บริสุทธิ์จะประสบหายนะเพียงใด
หากจะพูดให้ถูก ในสายตาของเทพทั้งสอง ประชาชนทั่วไปก็คือมดแมลง! พวกเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจใดๆ ต่อมดแมลงเหล่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงรวบรวมสายฟ้ามาไม่หยุดด้วยความเกรี้ยวกราด อีกเพียงไม่นานก็จะทำลายเมืองโยวตูทั้งเมืองทิ้งแล้ว สิ่งที่น่าเสียดายคือสายฟ้าเหล่านี้เพิ่งรวมตัวได้ระดับหนึ่งก็มลายหายสิ้นแล้ว
พูดได้ว่า… ก่อนหน้านี้ท้องฟ้าเหนือเมืองโยวตูยังมีสายฟ้าผ่าฟ้าแลบ ทำเอาเหล่าประชาชนแตกตื่นจนไม่กล้าขยับตัว! ทว่าทันใดนั้นกลับไร้ซึ่งมวลเมฆ แม้แต่เมฆสักก้อนก็ไม่มี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมฆครึ้ม
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่างุนงง ถึงอย่างไรนี่ก็เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปแล้ว สมองน้อยๆ ของเขาคิดตามไม่ทัน เขาจึงมองท่านพ่อของเขาอย่างฉงนสงสัย
ต้าซือมิ่งก็อธิบายให้เด็กน้อยฟังด้วยอารมณ์สบายๆ ว่า “พ่อกลืนมันไปแล้ว”
“ว้าว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตาลุกวาว เขารู้สึกว่าท่านพ่อเก่งจังเลย กลืนสายฟ้ามากมายเช่นนั้นจนหมด!
อีกทั้งครั้งนี้ไม่เพียงเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่รู้สึกมหัศจรรย์ คนอื่นๆ ที่ได้ยินบนสนทนาของสองพ่อลูกก็ตะลึงงัน “…กะ กลืนเลยหรือ”
เนื่องจากอีอิ่นผสานรวมกับสำนักศึกษาจึงมีเขาเพียงคนเดียวที่สัมผัสได้ว่าเมื่อครู่นี้ต้าซือมิ่ง ‘ลงมือ’ จริงๆ เขาดูดกลืนสายฟ้าบนท้องฟ้าเหล่านั้น ความสามารถเช่นนี้ทำให้เขาอดทอดถอนใจไม่ได้!
“เจ้ารึ!” เทพสององค์ที่ไม่รู้ว่าต้าซือมิ่งเป็นคนลงมือก็มองไปที่บุรุษสวมชุดดำอุ้มทารก ผู้ที่ดูเหมือนเป็นนักบวชในโลกมนุษย์ด้วยสายตาดุร้าย
ต้าซือมิ่งย่อมไม่ตอบคำถามนี้ ทุกคนก็ยังไม่ทันช่วยปิดบังให้ต้าซือมิ่ง เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ตอบอย่างดีใจออกนอกหน้านอกตาว่า “ใช่! พ่อ พ่อข้า!”
อินสวินอี้และคนอื่นๆ “…”
เจ้าเด็กน้อยขายพ่อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังสร้างปัญหาให้ท่านพ่อของเจ้าน่ะ!?
เยี่ยนเสี่ยวเป่าย่อมไม่รู้ แน่นอนว่าถึงแม้เขาจะรู้ เขาก็จะขายอย่างไม่หวาดกลัว ถึงอย่างไรเขาก็คิดว่าท่านพ่อไม่แพ้แน่นอน
หรงอี้ที่ถูกขายก็มิได้พูดอะไร เพียงแค่ลูบขนอ่อนน้อยๆ ของเด็กน้อย แม้แต่เงยหน้ามองเทพทั้งสองนั่นก็ไม่ได้ทำ เขายังคงคอยสังเกตภรรยาอยู่ตลอด
“บัดซบ!” ท่านเทพสององค์ที่มิเคยถูกมนุษย์โลกชนเพิกเฉยเช่นนี้ก็เดือดดาล!
อินสวินอี้จึงรีบพูดขึ้นว่า “ต้าซือมิ่ง ท่านจริงจังสักหน่อยเถิด ถึงอย่างไรครั้งนี้ก็เป็นเทพ จะเอ้อระเหยลอยชายเช่นนี้มิได้ จริงจังหน่อย เคารพฝ่ายตรงข้ามสักเล็กน้อย!”
“นะ นั่นน่ะสิ!” ลู่หมิงเองก็รีบสำทับ ถึงอย่างไรท่านผู้นี้ก็เป็นสามีของศิษย์รักของเขา เขาจึงเป็นห่วงไม่น้อย คิดว่าหากต้าซือมิ่งเย่อหยิ่งเช่นนี้ต่อไปอาจจะถูกสวรรค์ลงโทษได้ ต้องรู้ว่าบนสวรรค์ชั้นเก้าไม่ได้มีเพียงเทพสององค์ ตามบันทึกโบราณสถานที่แห่งนั้นมีเหล่าทวยเทพนับไม่ถ้วนอาศัย! อย่าทำให้เดือดร้อนเลย!
แต่อินสวินอี้และลู่หมิงที่พูดปากเปียกปากแฉะก็ไม่สามารถทำให้ท่าทีของต้าซือมิ่งเปลี่ยนไปได้ เขายังคงไม่มองเทพที่อยู่เหนือศีรษะ แต่มอง ‘ชายชรา’ สองคนนั้นแทนและพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร”
“โอ๊ย! เจ้าใหญ่นายโตของข้า!” อินสวินอี้ร้อนใจจริงๆ
เทพสองท่านนั้นที่ถูกเมินเฉยก็ชูอาวุธวิเศษของตนออกมา อีกทั้งยังกดทับลงไปสำนักศึกษาอย่างไม่ออมมือ
“คนดื้อด้านไร้การศึกษา! รับโทษทัณฑ์เสียเถอะ!” ท่านเทพประณามอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนจะนำเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งและหมึกพิมพ์หนาทุบลงไปที่ต้าซือมิ่ง
การจู่โจมสองคราที่ดูเหมือนเชื่องช้า แต่แรงกดดันอันศักดิ์สิทธิ์ในนั้นกลับทำให้คนอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายคุกเข่าล้มลงกับพื้น มิอาจต้านทานได้แม้แต่น้อย
เห็นได้ว่าท่านเทพสององค์นี้มิได้โง่เขลา พวกเขารู้ว่าชายรูปงามที่อุ้มบุตรผู้นี้มิใช่คนอ่อนแอ พวกเขาต้องจู่โจมด้วยกำลังทั้งหมดจึงจะควบคุมอีกฝ่ายได้!
แต่พวกเขาคิดผิดแล้ว เพราะมือของต้าซือมิ่งที่ยื่นออกไปก็ทำให้พวกเขารู้ได้ในทันทีว่า ถึงแม้พวกเขาจะทำสุดความสามารถก็ไม่สามารถทำอะไรต้าซือมิ่งได้ อาวุธวิเศษทั้งสองอย่างของพวกเขาถูกยึดไปแล้ว
“…”
ไร้ความเคลื่อนไหว
“…”
ไร้แรงสะเทือน
“…”
ไร้การเสียดสี
ต้าซือมิ่งยึดอาวุธวิเศษของเทพสองท่านที่สังเวยเต็มกำลังเหมือนกับเด็ดกลีบดอกไม้ที่ร่วงลงกลางอากาศและยังเอาให้เด็กน้อยในอ้อมอกเล่น
นี่มัน…
บ้าแล้ว!
อินสวินอี้และคนอื่นๆ ที่คิดไม่ถึงก็คุกเข่าลงจริงๆ แล้ว! คุกเข่าลงอย่างเต็มใจ! ลุกไม่ขึ้นแล้ว! ตะลึงงันอยู่เช่นนั้น!
ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าต้าซือมิ่งท่านนี้จะแข็งแกร่งมาก! เป็นคนเก่งกาจอันดับหนึ่งของต้าซย่า แต่พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่า เขาเมินเฉยเช่นนี้ก็ยังจัดการเทพสองท่านนั้นลงได้!
แม่เจ้าโว๊ย! นี่มันเทพสององค์ชัดๆ! ไม่ใช่นักฝึกฌานระดับตำนานสองท่าน!
“…”
สามทัศนะของทุกคนพังทลายอีกครั้ง! แม้แต่เทพทั้งสองก็ยังตะลึงงัน! พวกเขายิ่งคิดไม่ถึงว่าบนโลกมนุษย์ใบนี้จะมีคนที่ดูหมิ่นพลังวิเศษของพวกเขาอยู่!
นี่ไม่ใช่การดูหมิ่นในท่าที! แต่เป็นการดูหมิ่นในความสามารถ!
เทพทั้งสององค์… พวกเขาตั้งท่าจะหนีกลับไปรายงานเบื้องบน! ดูก็รู้ว่ามิได้โง่เขลา
แต่น่าเสียดาย…
“ลงมา”
ต้าซือมิ่งยกมือขึ้นจับ พลังไร้รูปไร้เสียงชั้นหนึ่งก็ทับลงบนตัวของท่านเทพจนพวกเขาถูกกระแทกตกลงไปในสำนักศึกษาอย่างรุนแรง!
เด็ดขาดเช่นนี้!
เก่งกาจเช่นนี้!
แข็งแกร่งเช่นนี้!
“บ้าเอ๊ย!” อินสวินอี้ได้แต่พ่นคำหยาบออกมา เขาสรรหาคำคุณศัพท์อื่นไม่ได้แล้ว อีกทั้งอย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่อีอิ่นก็อดอุทานคำว่า ‘บ้าเอ๊ย’ ออกมาอย่างเคารพไม่ได้
ความแข็งแกร่งของต้าซือมิ่งสะเทือนทุกคนอีกครั้ง! น่ากลัวเกินไปแล้ว ทว่า…
“เจ้าบังอาจนัก!”
“รอทัพสวรรค์มาจัดการเจ้าเถอะ!”
เทพทั้งสองที่ถูกตีลงมายังกล้าปากดี ถึงอย่างไรพวกเขาก็มีหมัดเด็ดจริงๆ พวกเขามาจากสวรรค์ชั้นเก้าเชียวนะ
น่าเสียดายที่…
“ปิด”