ตอนที่ 365 เด็กน้อยเอาใจพ่อ! ฟื้นคืนชีพสมบูรณ์!
เมื่อเสียงคำสั่งของเยี่ยนอวี๋ดังขึ้น ประตูสวรรค์ก็ปิดลง
ปัง!
ประตูสวรรค์บนเมฆมลายหายสิ้น ตามด้วยเสียงปิดเบาๆ สลายหายไปเหนือเมืองโยวตู
ทำให้เทพสองท่านแสดงสีหน้าเกรงกลัว เพราะพวกเขาในฐานที่เป็นเทพแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้ารู้ดีว่า การเปิดปิดประสวรรค์เป็นไปตามกฎและพลังอันทรงพลัง
ในความเป็นจริงแล้ว พลังของพวกเขาสองคนรวมกันยังไม่เพียงพอที่จะเปิดประสวรรค์ได้ เพียงแต่พวกเขาได้รับคำสั่งในลงมาปฏิบัติงานในโลกมนุษย์จึงได้มายังโลกมนุษย์โดยมีเทพเฝ้าประตูช่วยเปิดประตูสวรรค์ให้
ทว่าบัดนี้พวกเขากลับเห็นว่ามีคนเพียงแค่ ‘สั่ง’ ประตูสวรรค์ก็ปิดลงแล้ว “นี่มัน…” นี่มันหมายความว่าอย่างไร ถึงแม้เทพองค์น้อยสององค์จะยังไม่รู้ตัวตนของเยี่ยนอวี๋ แต่ก็เดาได้ว่านางเป็นเทพ! เทพที่แท้จริง! เทพที่ทรงพลังกว่าพวกเขา!
แต่ว่า… เทพสององค์ที่คิดได้ว่าตนเองทำงานตามคำสั่งก็รีบอธิบายว่า “ข้า พวกข้าเพียงแค่ทำในสิ่งที่ได้รับคำสั่งมา ให้ลงมาจัดการผู้แตะต้องภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลโดยพลการ ทะ ท่านเทพท่านนี้ ท่านอย่าได้โกรธเคืองข้าเลย”
น่าเสียดาย เยี่ยนอวี๋มิได้สนใจพวกเขา การใช้กฎพลังจิตเมื่อครู่นี้ทำให้กระทบต่อการช่วยเหลือคนของนางเล็กน้อย ดังนั้นนางจำเป็นต้องช่วยคนด้วยความตั้งใจยิ่งกว่าเดิม
เพียงแต่ท่าทางเช่นนี้ของนางทำให้ต้าซือมิ่งมองนางครู่หนึ่ง ก่อนจะจดบัญชีไว้ในใจแล้ว! ถึงอย่างไรแม้เขาจะ ‘ช้าไปเล็กน้อย’ แต่เขาก็สามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ได้ แต่แล้วเหมือนกับว่าปฐมราชินีจะไม่เชื่อ และยังแบ่งสมาธิมา ‘ช่วย’ เขา
“…” ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วเงียบๆ เขาลูบขนอ่อนบนศีรษะเด็กน้อยไม่พูดไม่จา
เด็กน้อยรับรู้ได้อย่างเฉียบไว เขาเงยหน้ามองท่านพ่อ “พ่อ?” พ่อโกรธ?
“เด็กดี” หรงอี้รวบตัวนุ่มนิ่มของเด็กน้อยเข้ามาเล็กน้อย เขาพบว่าภรรยา ‘ใส่ใจ’ สู้เด็กน้อยไม่ได้เลยจริงๆ แม้แต่เด็กน้อยก็รู้ว่าเขาโมโหแล้ว ภรรยากลับยังไม่รู้ เช่นนั้นเขา… คงต้องบอกนางคราวหลังแล้ว เฮ้อ…
“ไม่ ไม่โกรธ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงยิ่งมั่นใจว่าท่านพ่อของเขากำลังโมโห เขาปีนขึ้นไปบนไหล่ของท่านพ่อ กอดพลางปลอบท่านพ่อของเขา “ไม่ โกรธ”
ต้าซือมิ่งที่ลูบหลังเด็กน้อยเบาๆ ก็สูดหายใจเข้าลึก อารมณ์ของเขาค่อยสงบลง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “เจ้าเด็กฉลาด” ไม่เหมือนท่านแม่ของเจ้า
“เป่า ฉลาด!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังพูดอย่างมีความสุขว่า ข้าฉลาดที่สุดอยู่แล้ว!
ส่วนปฐมราชินีเยี่ยนที่ถูกรังเกียจว่าไม่ฉลาดก็ไม่รู้จริงๆ ว่าต้าซือมิ่งโมโหอยู่ ถึงแม้นางจะรู้ว่าเขาไม่เพียงแต่จะจัดการเทพสององค์นั่นได้ และยังปิดประตูสวรรค์ได้ แต่นางก็รู้ดีว่าถึงอย่างไรพลังของเขาก็ไม่เหมือนกับกฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้า การปิดประตูสวรรค์ต้องใช้กฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอันบริสุทธิ์ ดังนั้นนางจึงยื่นมือเข้าช่วย
ดังนั้นแล้วไม่ใช่เพราะว่านางคิดว่าเขา ‘ช้า’ แต่เป็นเพราะนางเป็นห่วงว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ ถึงอย่างไรพลังบริสุทธิ์สองชนิดที่ขัดแย้งกันอาจจะทำให้เกิดการปะทะที่ยากจะคาดเดาได้!
เพียงแต่ว่าไม่มีใครรู้ว่า ‘สองสามีภรรยา’ ต่างคำนึงถึงซึ่งกันและกัน เทพสององค์นั้นจึงพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “ท่านเทพ ข้า พวกข้าเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น” โกรธแค้นอะไรอย่าพาลใส่พวกข้าเลย!
แต่จะทำอย่างไรได้ เยี่ยนอวี๋ไม่มีเวลาสนใจพวกเขา ต้าซือมิ่งเองก็กำลัง ‘โมโห’ ส่วนเด็กน้อยก็กำลังปลอบพ่อ คนที่เหลือก็… ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไร
เทพสององค์นี้จึงประหม่าไปหมด ถึงกับไม่กล้าเงยหน้ามองเยี่ยนอวี๋ พวกเขายืนเหงื่อตกอยู่ที่เดิม ความหยิ่งผยองก่อนหน้านี้ก็หายสิ้นไปแล้ว
อินสวินอี้เห็นดังนั้นก็รู้สึกมหัศจรรย์ อดพึมพำในใจไม่ได้ว่า “เมื่อครู่นี้สองคนนี้ยังเป็นผู้มีบารมีล้นเหลือ ตอนนี้กลับขี้ขลาดตาขาว?”
เสียดายที่พวกเขาไม่รู้ว่าท่านเทพที่สามารถปิดประตูสวรรค์ได้ชั่วพริบตาเช่นเยี่ยนอวี๋ได้ อย่างน้อยต้องเป็นมหาเทพชั้นยอดบนโลกสวรรค์ ซึ่งเป็นเทพชั้นสูงที่แข็งแกร่งไม่เป็นสองรองใคร
เทพสององค์นี้จึงไม่กล้าขยับตัวแล้ว จนเมื่อเยี่ยนอวี๋เร่งรักษาตี๋อูหวน เสียงหงส์เพลิงหวีดร้องขึ้น พวกเขาจึงมองไปตามเสียง จากนั้นพวกเขาก็เห็นสิ่งที่ทำให้เทพสององค์เช่นพวกเขาตะลึง…
วี้ด!
ภายใต้ผลจากไฟอมตะแห่งหงส์เพลิงลุกโชนและวิชาฟื้นคืนชีพ ตี๋อูหวนกำลังกำเนิดอีกครั้งในร่างใหม่ทั้งร่าง!
นี่มัน…
เทพองค์หนึ่งอดอุทานขึ้นไม่ได้ “นี่มันไม่ใช่หงส์เทพเป่ยหมิงถึงจะมีความสามารถเช่นนี้รึ!”
หงส์เทพเป่ยหมิง ทายาทของหงส์และปลาคุน เป็นสิ่งมีชีวิตบนโลกสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีบรรพบุรุษเป็นหงส์และปลาคุนนกเผิง ล้วนเป็นอสูรเทพแห่งขุนเขาและท้องทะเล ครอบครองสายเลือดล้ำค่าและทรงพลัง ปัจจุบันปกครองสัตว์ปีกทั้งหมดในจักรวาล เป็นราชาแห่งสัตว์ปีก!
มีเพียงสิ่งมีชีวิตเช่นนี้จึงมีความสามารถเข้าแทรกแซงทายาทหงส์เพลิงนิพพาน ช่วยเพลิงนิพพานสร้างดวงวิญญาณใหม่ขึ้นมาได้! ดังนั้น… หรือว่าท่านนี้คือเทพหงส์ฟ้า!?
เทพสององค์ประหม่า! ถึงอย่างไรเทพหงส์ฟ้าตามที่เล่าขานก็ดื้อรั้นหัวแข็งนัก ฟังแต่คำสั่งของเทียนตี้ หากเทพองค์อื่นยั่วโทสะนาง มีแต่ตายเท่านั้น!
วี้ด!
วี้ด!…
ร่างกายที่ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นของตี๋อูหวนก็กำลัง ‘พิสูจน์’ การคาดเดาของเทพน้อยสององค์ พวกเขานิ่งเงียบจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ในขณะเดียวกัน…
วิ้ง!
พลังแห่งเพลิงอมตะลุกโชน พุ่งเข้าไปในร่างกายของตี๋อูหวนอย่างรวดเร็ว เขาไม่เพียงฟื้นตัวแล้ว อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าฌานตบะของเขายังไม่ถูกทำลาย
ไม่ ไม่เพียงเท่านี้!
“เลื่อนขั้นแล้ว!”
จวินอั้นเทียนจำได้ว่าฌานตบะก่อนหน้านี้ของตี๋อูหวนเพิ่งจะขึ้นขั้นตำนาน ทว่าบัดนี้เขากลายเป็นตำนานสูงสุด เลื่อนขั้นสองขั้นในคราเดียว! บรรลุขั้นเดียวกับนักกระบี่อาวุโสของพวกเขาแล้ว!
นี่มันขาดแต่ผ่านด่านเคราะห์ก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นเทพได้แล้ว! หากตอนนี้ยังต้องผ่านด่านเคราะห์จึงเป็นเทพได้ หากในบันทึกโบราณกล่าวไว้ไม่ผิดแล้วล่ะก็
“ปาฏิหาริย์…”
อีอิ่นอดทอดถอนใจไม่ได้ เขารู้สึกว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อยหรือไม่ก็อันที่จริงนี่จึงเป็นความสามารถที่แท้จริงของนาง เป็นพลังที่ก่อนหน้านี้นางไม่เคยแสดงให้เห็น
“ท่านเจ้าสำนัก!”
เหล่าคนสำนักเนี่ยผานตื้นตันใจ! โดยเฉพาะเหล่าผู้อาวุโส พวกเขาดีใจจนพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขารู้ดีกว่าผู้ดูแลและศิษย์ในสำนักว่าการเลื่อนขั้นในขั้นตำนานนั้นยากเย็นแสนเข็ญเช่นไร!
แต่เจ้าสำนักของพวกเขาไม่เพียงถูกช่วยชีวิตไว้ แต่ยังเลื่อนขั้นแล้วด้วย! นี่ไม่ใช่การฟื้นคืนชีพตามแบบแผนธรรมดาแล้ว นี่มันคือการได้รับชีวิตใหม่!
ในความเป็นจริง ตี๋อูหวนก็สัมผัสได้ว่าเขาได้รับชีวิตใหม่จริงๆ เลือดเนื้อของเขาถูกชำระล้างใหม่บริสุทธิ์กว่าเดิม บางทีเขาอาจจะลองอัญเชิญหงส์เพลิงออกมาได้แล้ว!?
“นี่มัน…” เมื่อตี๋อูหวนลืมตาขึ้น ความเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้นในนัยน์ตาของเขา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะยังมีชีวิตอยู่และยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองยังได้รับความโชคดีในความโชคร้าย กลายเป็นผู้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก!
แต่พลังที่ท่วมท้นในร่างกายของเขาก็บ่งบอกแล้วว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องคิดไปเอง เขามองไปที่สตรีงดงามตรงหน้าด้วยสัญชาติญาณ “ท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน…”
“ยินดีกับเจ้าสำนักตี๋” เยี่ยนอวี๋กล่าวเสร็จก็หลับตาลงปรับลมปราณ เห็นได้ว่านางสูญเสียพลังไปไม่น้อย
ตี๋อูหวนก็คุกเข่าลงหน้าหน้าเยี่ยนอวี๋ “ขอบคุณปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนที่ช่วยเหลือ!”
“ขอบคุณปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน!” เหล่าสำนักเนี่ยผานเองก็พากันคุกเข่าลง
อินสวินอี้จึงช่วยตอบรับแทน “ลุกขึ้นเถิด ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนปรับลมปราณอยู่ พวกเจ้าทำเช่นนี้มีแต่จะรบกวนนาง”
เมื่อตี๋อูหวนเห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาก็พาคนในสำนักลุกขึ้นยืน ในใจยังคงรู้สึกซาบซึ้งล้นเหลือ จนมิสามารถใช้คำพูดใดๆ มาแทนการขอบคุณได้ เขาถึงกับ…
“ข้าอยากรวมสำนักเนี่ยผานกับสำนักชางอู๋” จู่ๆ ตี๋อูหวนก็พูดขึ้น
“เจ้าจริงจังหรือ” จวินอั้นเทียนถามอย่างแปลกใจ
เหล่าสำนักเนี่ยผานรู้สึกว่าฉุกละหุกเกินไป ถึงแม้พวกเขารู้ว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนมีบุญคุณต่อเจ้าสำนักของพวกเขา แต่รวมเข้ากับสำนักชางอู๋ง่ายๆ เช่นนี้ดูเหมือนจะ…
“จริงจัง” ตี๋อูหวนกล่าว “ตำแหน่งที่ตั้งของสำนักข้าอยู่นอกภูเขาไท่เย่ว์ อันที่จริงไม่เหมาะเป็นสถานที่ให้ศิษย์สำนักเนี่ยผานฝึกฝน ต่างจากสำนักชางอู๋ ข้าสัมผัสได้ว่าในสำนักชางอู๋มีต้นอู๋ถงศักดิ์สิทธิ์ สำหรับผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่มีพรสวรรค์หงส์เพลิงแล้ว ที่ใดมีต้นอู๋ถง ที่นั่นก็คือบ้าน ที่นั่นจึงเป็นถิ่นของเรา เป็นที่ที่เราสยายปีกโบยบินขึ้นสูงได้ แน่นอนว่าหากปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนไม่เห็นด้วย สำนักข้าก็เข้าใจ”
เห็นได้ชัดว่าตี๋อูหวนที่กลายเป็นตำนานสูงสุดสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายต้นอู๋ถงของสำนักชางอู๋ได้อย่างแจ่มชัด ทำให้เขารู้สึกโหยหา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักฝึกฌานผู้มีพรสวรรค์หงส์เพลิงทั่วไป
สำนักเนี่ยผานมีศิษย์ธาตุไฟเป็นส่วนใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วนักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในสำนักอสูรที่อัญเชิญมาคือวิญญาณทายาทหงส์เพลิง ดังนั้นตี๋อูหวนพูดถูก สำหรับพวกเขาแล้ว สำนักชางอู๋ก็คือบ้าน! เป็นดินแดนฝึกวิชาอันศักดิ์สิทธิ์
เพียงแต่ว่า…
“!”
ต้าซือมิ่งที่มิได้พูดอะไรมาตลอดจู่ๆ ก็มองไปทางทิศเหนือ
ในขณะเดียวกัน…
“…”
เขตทางตอน ‘เหนือ’ ทั้งเขตแม่น้ำเย่ว์หมิงทางตอนเหนือที่ถูกแบ่งด้วยแม่น้ำเย่ว์หมิงก็ถูกกลุ่มหมอกสีแดงปกคลุมอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้อีอิ่นเสียงเปลี่ยนทันที “แย่แล้ว! เกรงว่าฮ่องเต้หยวนคังกำลังจะล้างเลือดด้วยเลือดแล้ว เขากำลังเปลี่ยนภูเขาและแม่น้ำในต้าซย่าให้กลายเป็นนรกบนดิน!” แต่ว่าฮ่องเต้หยวนคังแม้จะยังไม่ตาย แต่ก็พิการไปแล้วมิใช่หรือ!?
ในความเป็นจริง ฮ่องเต้หยวนคังพิการไปแล้วจริงๆ และนี่ก็ไม่ใช่การกวาดล้างของเขา แต่เป็น…