เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 370 ช่วยท่านพ่อจับท่านพ่อตัวปลอม!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 370 ช่วยท่านพ่อจับท่านพ่อตัวปลอม! ความสิ้นหวังของเทพเสื่อมทราม!

แต่แล้วหรงอี้ที่โอบภรรยาผู้เย้ายวนและกัดติ่งหูภรรยาเบาๆ แล้วก็พูดด้วยเสียงต่ำแหบแห้งว่า “รอผนึกเสร็จแล้วค่อยมาจัดการเจ้า”

เมื่อพูดเสร็จ เขาก็อุ้มนางหายวับไปทางทิศเหนือ! เพราะว่าเขาสัมผัสถึงความเคลื่อนไหวของ ‘เขา’ คนนั้นแล้ว

สวบ!

สวบสาบ!…

ในขณะเดียวกัน เถาวัลย์สีเลือดเองก็เกิดใหม่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว ทำเอาจิ่วอิงดีใจมาก มันไม่คิดเลยว่าถึงมันจะไม่ได้ออกไปข้างนอก แต่เหยื่อก็จะมาป้อนถึงที่ได้

ทว่าตี๋อูหวนที่ยังเร่งเดินทางไม่ถึงเมืองเนี่ยผานนั้นร้อนรนมาก “ให้ตายเถอะ! ความเร็วเช่นนี้ เกรงว่าคงตามไม่ทัน”

“ท่านเจ้าสำนักเชิญไปก่อน มิต้องรอพวกข้า” ผู้อาวุโสสำนักเนี่ยผานกล่าว พวกเขารู้ตัวว่าเป็นเพราะพวกเขาทำให้เจ้าสำนักต้องล่าช้า

ตี๋อูหวนที่แต่เดิมกังวลความปลอดภัยของลูกน้อง ตอนนี้ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว “ก็ได้ พวกเจ้าระวังตัวด้วย”

“โปรดวางใจ”

“ไว้เจอกัน!” ตี๋อูหวนพูดเสร็จก็กลายร่างเป็นหงส์ก่อนจะหายตัวไป

ในขณะเดียวกัน…

เคร้ง!

อาวุโสมือกระบี่ที่ลงมาเมืองชิงเหลียนราวกับกระบี่สวรรค์ก็มาถึงก่อนผู้ใด! แต่ในเมืองแห่งนี้ไม่มีคนแล้ว

อาวุโสมือกระบี่รีบตัดสินใจหายวับไปเมืองเหยาทันที!

จวินอั้นเทียนเห็นแสงกระบี่นั่นก็เดาได้ว่าช่วยเมืองชิงเหลียนไม่ได้แล้ว เขาอดร้อนรนขึ้นมาไม่ได้ “รีบตามไป!”

ณ เมืองเหยา

เนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกลจากเมืองหลวง อีกทั้งไม่มีแม่น้ำล้อมรอบเมืองจึงดูเหมือนว่าเพิ่งถูกโจมตี

หลังจากที่อาวุโสมือกระบี่เข้าควบคุม เถาวัลย์ไม่น้อยก็ถูกตรึงไว้ชั่วคราว ครั้นกู้หยวนหมิงเร่งตามมาถึงก็รู้สึกตื้นตันใจนัก “ทุกท่านตามข้ามา!”

เมื่อรวบรวมเหล่าผู้แข็งแกร่งของสำนักศึกษา สำนักจวินจื่อและทหารชั้นยอดโยวตูแล้ว พวกเขาก็เข้าไปในสำนักเหยาไถเซียนโดยการนำของกู้หยวนหมิง ทยอยควบคุมตำแหน่งสำคัญไว้ และสร้างค่ายกลป้องกันทันที ประชาชนนับไม่ถ้วนได้รับการช่วยเหลือเข้ามาในสำนัก ศึกแย่งชิงช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มนุษย์และปีศาจเถาวัลย์แข่งกันทำความเร็ว! ทว่าเห็นได้ชัดว่าปีศาจเถาวัลย์ได้เปรียบกว่า! เมืองเหยาค่อยๆ เสียดินแดนไป เถาวัลย์มีจำนวนมากเกินไปจริงๆ ขณะนักฝึกฌานมากมายที่มาช่วยประชาชนก็ถูกกลืนกินไป

“ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปมิได้!” กู้หยวนหมิงยืนอยู่บนหอคอยสูงสุดในสำนักเหยาไถเซียนมองลงไปเบื้องล่างซึ่งกำลังค่อยๆ เปื้อนด้วยโลหิต นัยน์ตาของเขาดูเศร้าสร้อย

ต่อจากนั้น…

“อัญเชิญ! ซีหวังหมู่”

กู้หยวนหมิงอัญเชิญซีหวังหมู่ออกมา เขาใช้พลังจิตวิญญาณทั้งหมดของตนเองต้องการให้พลังฟื้นฟูของซีหวังหมู่รักษาเมืองเหยาทั้งเมืองไว้ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเหล่านั้น เพื่อให้พวกเขาฟื้นตัวและต่อสู้กับเถาวัลย์สีเลือดได้

ทว่าเถาวัลย์สีเลือดกลับเติบโตอย่างบ้าคลั่งราวกับฉีดเลือดไก่เข้าไปเพราะพลังชั่วร้ายที่จู่ๆ ทะลักออกมาจากแดนมืดวิญญาณอสูร การต่อต้านของมนุษย์ล้วนไร้ประโยชน์

ทว่า…

“!”

แสงสีม่วงเจิดจ้าปกคลุมเมืองเหยาไว้อย่างไร้สุ้มเสียง ในชั่วขณะที่เมืองเหยาเผชิญกับการล่มสลาย มันก็กระตุ้นเสาหลักพลังเก้าธาตุอย่างเต็มที่ ก่อนจะจู่โจมเถาวัลย์เหล่านั้น

“ทำลาย”

ในขณะเดียวกันเสียงสวรรค์ไพเราะดั่งพิณก็ดังขึ้นท่ามกลางเมืองเหยา ทำลายเถาวัลย์เหล่านั้นจนหมดสิ้น ทำให้เมืองเหยารอดพ้นจากจุดจบนองเลือดไปได้

ส่วนเมืองชิงเหลียน อาวุโสมือกระบี่จำเป็นต้องพูดขึ้นว่า “เมืองชิงเหลียนตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของเหอสุ่ยและแม่น้ำลั่วเหอ ส่วนเมืองหลวงก็ตั้งอยู่กลางแม่น้ำลั่วเหอ เกรงว่าตั้งแต่ที่เมืองหลวงประสบปัญหา เมืองชิงเหลียนก็ถูก…”

“เถาวัลย์ประเภทนี้อยู่ในระบบน้ำที่สมบูรณ์ก็เหมือนกับปลาได้น้ำ” อินสวินอี้เห็นด้วยกับอาวุโสมือกระบี่ ในขณะเดียวกันเขาก็ตัดเถาวัลย์เส้นหนึ่งที่แอบงอกออกมาและหยิบมันขึ้นมา “อักษรบนเถาวัลย์เหล่านี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว”

“พวกมันก็เลยไม่เพียงดูดเลือดสดได้ แต่ยังทำให้หลังจากผู้แข็งแกร่งในตำนานถูกกักขังแล้ว มิอาจหนีไปได้ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าฮ่องเต้หยวนคังมีความสามารถถึงขนาดทำลายต้าซย่าได้อย่างไร”

จวินอั้นเทียนกลับครุ่นคิด “อาจจะเกี่ยวข้องกับเทพองค์นั้น”

“แต่ถึงแม้จะเป็นเทพ ตามหลักแล้วก็ไม่สามารถแตะต้องแดนมืดวิญญาณอสูรที่ปฐมราชินีหยวนชูผนึกไว้ได้” ในฐานะที่ซ่งเฉินฟางเป็นอาจารย์อาวุโสในสำนักศึกษา เขาจึงมีความรู้กว้างขวาง เขารู้ดีว่าแดนมืดวิญญาณอสูรที่ปฐมราชินีผนึกเอาไว้นั้นแน่นหนามาก

ทว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในต้าซย่าในช่วงนี้กลับข้องเกี่ยวกับแดนมืดวิญญาณอสูร เรื่องนี้ทำให้ซ่งเฉินฟางไม่เข้าใจจริงๆ และเขาก็ไปศึกษาตำราโบราณอยู่นานจนท้ายที่สุดก็มั่นใจว่าเทพก็ไม่สามารถแตะต้องแดนมืดวิญญาณอสูรได้!

ตามที่เล่าลือกันมา อสูรมากมายที่เคยท้าทายปฐมราชินีหยวนชูอยู่หลายคราต่างต้องพ่ายแพ้กลับมา! อีกทั้งเนื่องจากผนึกของปฐมราชินีประกอบด้วยกฎกำเนิดจักรวาลดั้งเดิม ดังนั้นมันจึงสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้ตนเองได้

ดังนั้นตามหลักแล้วผนึกมีแต่จะยิ่งแน่นหนา ไม่มีทางที่ผนึกจะเสื่อมคลาย ว่ากันว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ปฐมราชินีหยวนชูยังป้องกันตนเองไว้ด้วย…

ซ่งเฉินฟางจึงไม่เข้าใจจริงๆ ทว่าสิ่งที่เขาไม่เข้าใจมีมากกว่านี้มาก อย่างเช่นปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนใช้ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลได้อย่างไร ทว่าบัดนี้เขาพูดได้เพียงว่า “ดูท่าคงต้องพึ่งปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนและต้าซือมิ่งแล้ว”

“เราก็ต้องลงมือเช่นกัน แยกเป็นสองทางตามแผนเดิม ท่านอาวุโสมือกระบี่พาศิษย์สำนักไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ช่วยเหลือสำนักเนี่ยผาน ส่วนผู้อาวุโสสำนักศึกษาตามข้าเข้าไปเมืองหลวง ศิษย์สำนักศึกษาที่เหลืออยู่เฝ้าเมืองเหยากับกู้ต้าหลาง” อินสวินอี้จัดแจงอย่างเด็ดขาด

ทุกคนฟังเขา เพราะว่าอินสวินอี้รู้จักขบวนทัพและแผ่นดินต้าซย่าดีที่สุด ก่อนที่ต้าซือมิ่งจะสร้างค่ายกลดาราเรียงราย หากไม่ใช่เพราะอินสวินอี้วางแผนไว้ดี เมืองเหยาย่อมสูญเสียดินแดน คงไม่ทันได้รอต้าซือมิ่งมาถึง

ส่วนต้าซือมิ่ง… เยี่ยนอวี๋ก็กำลังจัดแจงให้เขาพักผ่อน “พักก่อนค่อยไปเมืองหลวง”

ต้าซือมิ่งไม่ต้องพักผ่อน แต่เขาต้องใช้เวลาปรับพลัง อีกทั้งเขายังต้องคอย ‘จับตา’ เขาอีกคนหนึ่งว่ามีความเคลื่อนไหวผิดปกติหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าก่อนจะหลับตาลง

แต่แล้ว เจ้าตัวน้อยก็บิดตัวเล็กน้อยอย่างกระสับกระส่ายเล็กน้อย “อ้ะเนะ?”

“เป็นอะไรหรือ” เยี่ยนอวี๋รีบถามเด็กน้อย

เยี่ยนเสี่ยวเป่าทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบอย่างลังเลว่า “พ่อ? ล่าง ข้างล่าง”

เด็กน้อยพูดพลางชี้ไปข้างล่าง เขายังยื่นลำตัวออกไปด้วยความสงสัยจนเกือบจะตกลงไป ดีที่เยี่ยนอวี๋คว้าเด็กน้อย ‘ตัวไหลลื่น’ ไว้ได้ทัน

หรงอี้ลืมตาขึ้น “เสี่ยวเป่าสัมผัสได้หรือ”

“?” นัยน์ตาเต็มไปด้วยคำถามของเยี่ยนเสี่ยวเป่าบ่งบอกว่าเขาไม่เข้าใจ

หรงอี้ตั้งใจอธิบาย “ประมาณว่าพ่ออีกคนหนึ่ง เจ้าสัมผัสได้หรือ”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงเข้าใจ “ใช่! ข้าง! ล่าง!”

“ใต้เมืองเหยาหรือ” เยี่ยนอวี๋ตกใจถาม

“มิใช่หรอก แต่อยู่ใกล้ๆ จริงๆ ควรจะพูดว่าอยู่ในชั้นมิติใกล้เคียงมากกว่า” เพราะว่าหรงอี้คอยสังเกต ‘เขา’ คนนั้นตลอดจึงรู้ดี แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภายใน ‘ระยะห่าง’ ที่กำหนด เด็กน้อยก็สัมผัสถึงเช่นกัน

“เช่นนั้นตอนนี้ ‘เจ้า’ เป็นอย่างไรแล้ว” เยี่ยนอวี๋อยากรู้ว่า ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร

หรงอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “กำลังพยายามทำลายผนึก”

“หาวิธีได้แล้วหรือ เร็วเช่นนี้เลย!” เยี่ยนอวี๋มีน้ำเสียงร้อนรน “ข้าเองก็ลงมือเลยดีกว่า”

“ไม่รีบ” หรงอี้บีบเอวนางที่อยู่ในอ้อมอกเบาๆ ทำเอาปฐมราชินีเยี่ยนตัวแข็งทื่อ “เจ้า…”

หรงอี้กลับพูดขึ้นว่า “แม้จะออกมาแล้วก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ทางนี้สำคัญกว่า เสี่ยวเป่าช่วยพ่อ ‘เฝ้า’ พ่อตัวปลอมนั่นให้ดี ประเดี๋ยวเราไปจับเขากัน”

“ได้” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างจริงจัง “เป่า! เก่ง!” ไม่มีปัญหา!

เยี่ยนอวี๋รู้สึกผ่อนคลายลง “ใช่แล้ว เสี่ยวเป่าเก่งที่สุด”

หรงอี้เหินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เนื่องจากตี๋อูหวนเร่งกลับมาได้ทันกาล ทำให้เหล่าศิษย์น้อยใหญ่ป้องกันไว้ล่วงหน้า เมืองเนี่ยผานที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในยามนี้จึงปลอดภัยดี

เพียงแต่ว่า…

สวบ!

เถาวัลย์สีเลือดที่เหมือนกับว่ารู้ว่าต้าซือมิ่งจะมาเมืองเนี่ยผานจู่ๆ ก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับกุยช่ายสีเลือดขนาดใหญ่ และหุ้มล้อมเมืองเนี่ยผานอย่างบ้าคลั่งโดยตั้งต้นที่แม่น้ำเฟินเหอที่อยู่รอบนอกภูเขาไท่เย่ว์ เห็นได้ชัดว่ามันต้องการกลืนกิน ‘อาหาร’ มื้อสุดท้ายอย่างตั้งใจ

ไม่เพียงเท่านี้…

เปรี้ยงปร้าง!

สายฟ้าสีเลือดฟาดลงกลางท้องฟ้าต้าซย่า!

ครืน!

เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่ากฎฟ้าดินกำลังสั่นคลอน เห็นได้ชัดว่ามีคนต้องการทำลายม่านพลังที่ต้าซือมิ่งผนึกไว้เงียบๆ ก่อนที่นางจะปิดประตูสวรรค์ลง

ถึงอย่างไรเรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่ควรให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้ารับรู้ โดยเฉพาะเทพทรามคนนั้น ‘เห็น’ ชัดเกินไป มิเช่นนั้นมีแต่จะแหวกหญ้าให้งูตื่น ทว่าเทพทรามองค์นั้นคงถูกผนึกไว้จนทนไม่ไหวแล้ว

ฝ่ายตรงข้ามคงรับรู้ว่าในต้าซย่าเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายจนเริ่มร้อนใจแล้ว!

แต่แล้ว…

เปรี้ยงปร้าง!

สายฟ้าที่ฟาดลงมาไม่หยุดก็ไม่สามารถทำลายม่านพลังของต้าซือมิ่ง กระทั่งไม่สะเทือนแม้แต่น้อย

นี่เป็นผลที่เยี่ยนอวี๋คาดไม่ถึง แต่ต้าซือมิ่งกลับรู้ดีแก่ใจ เขาจึงรวบรวมพลังเก้าดาราอีกครั้ง!

ทว่าในขณะเดียวกัน…

กรร!

เสียงคำรามดังขึ้นในเมืองหลวง

เยี่ยนอวี๋ตั้งสมาธิสื่อจิตสัมผัสไปก็พบว่าอสูรนรกปรากฏตัวในเมืองหลวงแล้ว!?

นี่มัน…

“ฮึ คิดจะขัดขวางข้ารึ” ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วแสยะยิ้ม ในขณะที่กำลังรวบรวมพลังเก้าดารานั้นเอง เขาก็หลอมบางอย่าง… อืม… เหนือเมืองหลวง!

เยี่ยนอวี๋กะพริบตาพยายามมองว่าคืออะไร!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท