ตอนที่ 376 ตายทั้งบาง กวาดล้างแดนมืดวิญญาณอสูร!
หรงอี้ที่กางม่านวงแหวนป้องกันสีม่วงก็เม้มปากแน่นมองโลงศพที่ระเบิดออกโลงนั้น เพราะว่า…
“ว่างเปล่า?”
ข้างในโลงศพว่างเปล่า
แต่เดิมเยี่ยนอวี๋คิดว่านางมองไม่เห็น คิดว่าอีกฝ่ายใช้วิชาลับซ่อนตัวแล้ว แต่หรงอี้รู้ดีว่าข้างในว่างเปล่าจริงๆ ‘เขา’ คนนั้นยังหนีไปแล้วด้วย อีกทั้ง ‘เขา’ ยังหนีไปตั้งแต่ก่อนที่ตนจะสัมผัสได้ บางที…
การปรากฏตัวของวิญญาณอสูรตนนั้นและการโจมตีเหล่านั้นเป็นเพียงวิธีบังตา! ‘เขา’ หนีไปตั้งแต่ครานั้นแล้ว
“ฮึ สมแล้วที่เป็นข้า” หรงอี้ยิ้มเบาๆ หน้าตาเปล่งประกายสดใสน่าหลงใหล
ทำเอาเจ้าตัวน้อยงงงันเล็กน้อย “พ่อ? ดอก… ไม้?” เขาเห็นดอกไม้เบ่งบานในดวงตาท่านพ่อ?
เยี่ยนอวี๋เองก็เห็นเช่นกัน นัยน์ตานางนิ่งขรึมลม จู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “อย่ายิ้มเช่นนี้ให้ใครเชียวล่ะ”
คำพูดนี้… ทำให้หรงอี้อดหันไปจูบภรรยาทีหนึ่งไม่ได้ “เช่นนั้นเจ้าก็รีบแต่งข้าเข้าเรือน ให้ข้าเป็นสามีเจ้า”
“อ้ะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ได้ฟัง เขาเห็นเพียงท่านพ่อจูบท่านแม่ ไม่ได้จูบเขา เขาจึง ‘จุ๊บ’ ท่านพ่อทีหนึ่ง “รัก! พ่อ งาม!”
ส่วนเยี่ยนอวี๋นางก็มิได้เลี่ยงตอบคำถาม นางตอบตรงไปตรงมาว่า “แน่นอน แต่เจ้าต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ก่อน ตอนนี้คนหายไปแล้ว จะยังทำอย่างไร”
“ ‘เขา’ ยังไม่ออกจากแดนมืดวิญญาณอสูร อีกทั้ง…” หรงอี้เดินเข้าใกล้โลงศพ เขามั่นใจว่า “อักษรโบราณนบนโลงศพที่มีไว้ควบคุม ‘เขา’ ตอนที่ ‘เขา’ ทำลายโลงศพและออกมานั้นก็ผนึกลงบนตัวเขาแล้ว ดังนั้น ‘เขา’ จึงยังไปไหนไม่ได้”
เยี่ยนอวี๋จึงถามว่า “ต้องทำลายอักษรเหล่านั้นที่นี่จึงจะออกไปได้?”
“อืม” หรงอี้พยักหน้า “ที่แห่งนี้มีความพิเศษ เนื่องจากอากาศเต็มไปด้วยพลังของเทพเสื่อมทราม ซึ่งสามารถทำลายอักษรศักดิ์สิทธิ์ได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ ‘เขา’ มีโอกาสหนีไปได้”
เรื่องนี้เยี่ยนอวี๋รู้ดี แต่นางอยากถามว่า “เช่นนั้นตอนนี้จะตาม ‘เขา’ อย่างไร เจ้ายังสัมผัสเขาได้หรือไม่”
“ตอนนี้สัมผัสไม่ได้ชั่วคราว อักษรโบราณไม่เพียงผนึกเขาไว้ มันยังผนึกการรับรู้ระหว่างเขาและข้าไว้ด้วย ข้าถึงกับสงสัยว่าหลังจากที่เขาไม่สามารถทำลายผนึกอักษรโบราณแล้ว เขาก็จงใจเคลื่อนย้ายอักษรโบราณที่อยู่บนโลงศพไปบนร่างกายของตนเอง” หรงอี้เดา
เยี่ยนอวี๋พยักหน้าเห็นด้วย “หากเป็นเช่นนี้ ‘เขา’ จึงจะคล่องตัว ดีกว่าซ่อนตัวอยู่ในโลงศพทุกวัน แต่ว่าในเมื่อ ‘เขา’ จำเป็นต้องทำลายผนึกให้สิ้นซาก เช่นนั้นก็ควรหายตัวเข้าไปส่วนลึกของแดนมืดวิญญาณอสูร พลังควบคุมพลังศักดิ์สิทธิ์ของที่นั่นแข็งแกร่งกว่า”
“อืม” หรงอี้เองก็เห็นด้วย ทว่า…
“พื้นที่ของแดนมืดวิญญาณอสูรซับซ้อนวุ่นวาย ยิ่งลึกยิ่งซับซ้อน เจ้าจะใช้วิชาหายตัวเช่นเมื่อครู่นี้ไม่ได้แล้ว” เยี่ยนอวี๋พูดถึงปัญหา ในขณะเดียวกันก็เสนอแผนแก้ไขให้ “มีอสูรชนิดหนึ่งในแดนมืดชื่อว่าตี้อั้น มันคล่องแคล่วว่องไวมาก สามารถหลบหลีกพื้นที่วุ่นวายได้แต่กำเนิด เราไปหามันได้”
“เจ้าหมายถึงตัวที่อยู่ข้างหน้าน่ะหรือ” หรงอี้ชี้ไปข้างหน้าพลางพาภรรยาและลูกไปหยุดอยู่ข้างหน้า ‘เต่า’ สีดำตัวหนึ่ง ฝ่ายหลังผงะอย่างเห็นได้ชัด! เพราะอสูรตี้อั้นที่กำลังเพลิดเพลินกับเวลาว่างยามบ่ายไม่คิดเลยว่ามันจะถูกคน ‘จับได้’ อย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่มันสกัดกลิ่นอายทั้งหมดของตนไว้แล้ว
แต่ไม่ว่าอย่างไร อสูรตี้อั้นก็รวดเร็วยิ่งนัก มันหายตัวไปในทันที! แต่แล้ว…
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าขี่อสูรตี้อั้นกลับมา เขาตบกระดองเต่าสีดำสองสามทีอย่างยินดีปรีดา “เต่า เต่าคลาน”
อสูรตี้อั้นตะลึงงัน จากนั้นมันก็คิดจะพลิกตัวเพื่อสะบัดเด็กน้อยออกไป! ทว่าครั้นมันกำลังจะพลิกตัว เจ้าตัวน้อยก็เหยียบคอมันไว้ทันที!
“โอ๊ย!” อสูรตี้อั้นร้องโอ๊ยทันที เพราะว่าเด็กน้อยเหยียบโดน ‘จุดอ่อน’ ของมัน ทำให้มันไม่สามารถพลิกตัวได้ แต่ว่ามันไม่เข้าใจว่าเจ้าตัวน้อยคนนี้คือใคร ทำไมจึงมีความเร็วเช่นนี้! เร็วกว่ามันอีก!
ไม่เพียงเท่านี้… เขายังแม่นยำมากนัก! รู้จุดอ่อนของมันอย่างดี อีกทั้งพลังขายังน่าตื่นตะลึงมาก! นี่มันช่าง…
ไม่ทันรอให้อสูรตี้อั้นตั้งสติได้ เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ลูบศีรษะของมันพูดว่า “เด็กดี คลาน พาเป่า คลาน”
“คลานปู่เจ้าสิ!” ในที่สุดอสูรตี้อั้นก็ตั้งสติได้ แน่นอนว่ามันไม่ยอมและยังจะหันไปกัดเจ้าตัวน้อยด้วย
แต่แล้วสิ่งที่อสูรตี้อั้นคิดไม่ถึงคือ…
หงับ…
เจ้าตัวน้อยก็พุ่งไปกัดมันก่อนแล้ว! เยี่ยนเสี่ยวเป่ากัดเข้าที่คอของอสูรตี้อั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เจ็บจนมันร้องโอ๊ยไม่หยุด “ปล่อยข้า! เจ้าเด็กบัดซบ! ปล่อยข้า!”
ง่ำ ถึงแม้จะมีเพียงฟันหน้าไม่กี่ซี่ แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าเคี้ยวเก่ง เขากัดไม่ยอมปล่อยและยังทำท่าจะกัดแรงขึ้นอีก! เยี่ยนอวี๋ทนดูต่อไปไม่ไหวจนต้องขึ้นมาดึงเด็กน้อยออก นางไม่ยอมปล่อยให้เด็กน้อยกัดอสูรตี้อั้นสดๆ อย่าง ‘ไม่เลือกกิน’ เช่นนี้แน่ๆ
เพียงแต่ว่าเยี่ยนอวี๋ยังไม่ทันลงมือ อสูรตี้อั้นก็ขอร้อง “เจ้าปล่อยปาก ข้ายอมฟังเจ้า พาเจ้าคลานก็ได้! เจ้าปล่อยข้าก่อน!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่รู้ ‘จิตใจคนนั้นแสนชั่วร้าย’ เขาปล่อยปากออกทันที แต่อสูรตี้อั้นก็หายสาบสูญไปทันที! และยังหายไปเร็วกว่าเมื่อครู่นี้ ทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่ทันตั้งตัวงุนงงไปหมด
ทว่าท่านพ่อของเขาก็ยื่นมือเข้ามาแล้ว อสูรตี้อั้นหนีไม่สำเร็จอยู่ดี มันถูกวงแหวนสีม่วงเจิดจ้าวงหนึ่งคลุมไว้ ไม่สามารถหนีออกไหนได้แล้ว ได้แต่ลอยกลับไปข้างหน้าเยี่ยนเสี่ยวเป่าอย่าง ‘เชื่อฟัง’
เยี่ยนอวี๋กำลังเช็ดปากให้เด็กน้อย “สกปรกเช่นนี้ เจ้ากัดลงไปได้อย่างไร”
“หนี!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าเป็นเพราะเต่าจะหนี ก็เลยต้องกัด!
“เจ้าจับมันไว้ก็ได้นี่” เยี่ยนอวี๋สั่งสอน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าทำหน้ามุ่ย และหันไปมองอสูรเฮงซวยตัวนั้น
“พวกเจ้าเป็นอะไรกัน รู้จักกฎหมายหรือไม่! ข้าบอกพวกเจ้าไว้เลยนะ ข้าเป็นลูกน้องจอมมารเมาโรเชียวนะ! เพื่อนของเพื่อนของพาหนะของอสูรทหารม้า! หากใครกล้าแตะต้องข้า ตายสถานเดียว!” อสูรตี้อั้นต้องการสื่อว่าตนเองมีคนคอยหนุน!
เยี่ยนอวี๋จึงถามว่า “…เมาโร บรรพบุรุษเทียแมทรึ”
“ใช่แล้ว! กลัวแล้วล่ะสิ!” อสูรตี้อั้นถลึงตากลมโตสีเลือดมองพวกเขาอย่างได้ใจ “อย่าหาว่าข้าพูดเลย ในแดนมืดวิญญาณอสูร ราชาของพวกข้าเป็นยอดนักรบอันดับหนึ่ง! ปกป้องลูกน้องเป็นอย่างดี หากเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้า…”
“พอเถอะ ในสูตรอาหารของจอมมารตระกูลหลัว ตี้อั้นอยู่ในรายการแรก”
“ข้า…” อสูรตี้อั้นสะดุ้งโหยง “จะ เจ้ารู้ได้อย่างไร” นี่มันเป็นความลับเชียวนะ! อย่างน้อยก่อนที่มันจะถูกจับไปเมืองมาร มันก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลย!
“ข้าก็ไม่อยากทำให้เจ้าลำบาก ขอเพียงแค่เจ้าพาพวกข้าเข้าไปในเขตใจกลาง ข้าจะช่วยทำลายร่องรอยเอง เจ้าจะได้ไม่ถูกจับกลับไปตุ๋นเป็นอาหาร” เยี่ยนอวี๋กล่าว
“เจ้า…” อสูรตี้อั้นตอบอย่างไม่ลังเล “ก็ได้! ขึ้นมาเถอะ ข้าพาพวกเจ้าไปเอง!” มีหลายคนย่อมช่วยเบี่ยงเบนความสนใจได้ ไม่แน่ว่าถึงเวลาถูกตามล่าจริงๆ จะได้หนีทัน
ในฐานะที่เป็นอสูรที่ ‘มีสมอง’ มากที่สุดในแดนมืดวิญญาณอสูร อสูรตี้อั้นไม่ใช่อสูรประเภทที่มีฝีมือการต่อสู้นัก ซึ่งก็เดาได้จากหน้าตาของพวกมัน
เมื่อตี้อั้นอสูรตกลง หรงอี้จึงปลดผนึกให้ ตี้อั้นตัวนั้นก็ไม่ได้หนีไปอีกแล้ว มันขยายร่างเป็นเต่าตัวใหญ่
“ขึ้นมาเลย!”
“ว้าว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบินไปเป็นคนแรก เขายื่นมือไปดึงเกราะของตี้อั้น
ดึงจนตี้อั้นรีบห้ามปราม “ท่านปู่น้อย! ข้ายอมเรียกเจ้าว่าปู่น้อยแล้ว! หยุดรังแกข้าเสียทีได้หรือไม่”
“ไม่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดึงดัน!
ตี้อั้น “…”
มันจะทำอะไรได้ ได้แต่ยอมทน!
ในเมื่อความสามารถไม่เท่าคนอื่น ตอนนี้ยังตกเป็นทาสรับใช้ เช่นนั้นก็ตามนี้เถิด ไว้คราวหลังค่อยส่งพวกเขาไปเจอกับจอมมารอเฮนด้า! ให้พวกเขาถูกกินให้หมด ทว่าตี้อั้นเพิ่งคิดเช่นนี้ก็ตกใจกับไข่ฟองหนึ่งที่จู่ๆ เยี่ยนอวี๋หยิบออกมา! เพราะว่าในไข่ใบนั้นแผ่ซ่านกลิ่นอายของจักรพรรดิอสูรองค์หนึ่งที่ทำให้มันรู้สึกหวาดกลัวมาก
“เจ้ากลัวมันมากหรือ” เยี่ยนอวี๋สังเกตเห็นความผิดปกติของตี้อั้นชัดเจนจึงถามขึ้น
ส่วนไข่ใบที่เยี่ยนอวี๋นำออกมาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไร นางแค่อยากฟักไข่ใบนี้ด้วยแวดล้อมของแดนมืดวิญญาณอสูร นางอยากรู้ว่าไข่จะถูกฟักออกมาเป็นตัวอะไร
ก่อนหน้านี้ในแดนมืดวิญญาณอสูร ลูกหนูน้อยเคยคาบเปลือกไข่ชิ้นหนึ่งกลับไปจากบริเวณรอบแดนผนึก ต่อมานางจึงเดาว่าสิ่งที่เปลือกไข่เหล่านั้นให้กำเนิดก็คือเถาวัลย์แปลกประหลาดเหล่านั้น
หากนางคาดเดาไม่ผิด เช่นนั้นในไข่ใบนี้จะเป็นอะไรนะ
ส่วน ‘ตัว’ ที่ถูกฟักออกมาจะควบคุมได้ยากหรือไม่ เยี่ยนอวี๋ไม่ค่อยกังวลเรื่องนี้ นางสัมผัสได้ว่าในไข่ใบนี้มีกลิ่นอายของผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของนาง ให้ความรู้สึกใกล้ชิด อีกทั้งนางยังดูแลมันมานานแล้ว ถึงเวลาต้องใช้แล้วล่ะ
เพียงแต่ว่า… คำตอบของตี้อั้นเกินความคาดหมายของเยี่ยนอวี๋ “นะ แน่นอน! มะ มันมีกลิ่นอายจักรพรรดิอสูรแดนมืดของเรา!”
“แดนมืดวิญญาณอสูรมีจักรพรรดิแล้วหรือ” เยี่ยนอวี๋ประหลาดใจ เท่าที่นางทราบ อสูรที่อยู่ในโลกใบนี้ต่างชิงดีชิงเด่นไม่มีตนใดยอมกัน ไม่มีทางมีจักรพรรดิอสูรได้
แต่แล้วเยี่ยนอวี๋เพิ่งจะถามเสร็จ ไข่ที่นางหยิบออกมาก็ขยายใหญ่ขึ้นเองและยังเกิดเสียงดัง แคร่ก จากนั้น…
จิ๊บๆ!