ตอนที่ 381 ซือมิ่งจอมหึงที่หึงแม้แต่ตนเอง!
ถึงแม้ตี้อั้นเป็นเพียงอสูรตัวน้อยๆ นอกจากดำรงอยู่ด้วยพรสวรรค์แล้ว ฝีมือการต่อสู้แทบจะเท่ากับศูนย์ ในหมู่อสูรก็ไม่มีคำว่าคุณธรรมอยู่แล้ว แต่สำหรับจักรพรรดิอสูรที่เพิ่งขึ้นตำแหน่ง เห็นได้ชัดว่าอสูรน้อยตัวนี้เคารพนับถือจากใจจริง
เรื่องนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางรู้แก่ใจว่าจักรพรรดิอสูรท่านนี้ไม่เพียงควบคุมพลังของจอมมารแดนมืดไว้ มันยังรวมอาณาจักรแดนมืดในระดับจิตวิญญาณสำเร็จแล้ว เพียงแต่ว่า…
“แล้วเจ้าคิดว่าเราพาจักรพรรดิอสูรน้อยตัวหนึ่งไปวังจักรพรรดิอสูรทำไม” เยี่ยนอวี๋ถามกลับ
ตี้อั้นชะงักเล็กน้อย ลูกไก่สีเหลืองก็ตอบขึ้นเองว่า “กลับบ้าน!” ครานี้มันรู้แล้วว่า ‘จักรพรรดิอสูรน้อย’ ที่พูดถึงหมายถึงมันเอง มันจึงให้ความร่วมมืออย่างดี
“…” ตี้อั้นไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว ถึงแม้มันยังคงคิดว่าแปลกอยู่ดี แต่ดูจากท่าทางของจักรพรรดิอสูรน้อยแล้ว เหมือนกับว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
แต่ว่า…
“เผ่าเทพพวกเจ้ามักจะกดขี่เผ่ามารของพวกข้ามิใช่หรือ” ตี้อั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงว่าอย่าคิดมาหลอกข้า “จักรพรรดิอสูรน้อยถูกพวกเจ้าหลอกลวงหรือไม่”
“จิ๊บ!”
“โอ๊ย!”
ตี้อั้นเพิ่งพูดจบก็ถูกลูกไก่สีเหลืองจิกทีหนึ่ง! มันเจ็บจนร้องโอ๊ยขึ้นมา ลูกไก่สีเหลืองยังไม่ยอม “ข้า! จักรพรรดิอสูรน้อย! ฉลาดจะตายไป! เจ้าน่ะสิถูกหลอกลวง นี่คือท่านแม่หรือเจ้านาย และเจ้าพ่อของข้า”
ตี้อั้นโดนสั่งสอนจนอ้ำอึ้ง มันไม่ทันตั้งสติกลับมาได้ แล้ว ‘เจ้าพ่อ’ คืออะไร ทว่าลูกไก่สีเหลืองก็ถูกหรงอี้จับไปอีกครั้ง “ข้ามิใช่เจ้าพ่อของเจ้า”
“นั่นคืออะไรหรือ” ลูกไก่สีเหลืองไม่เข้าใจ
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับกล่าวอย่างเดือดดาล “เจ้าเลว!” แย่งแม่ข้าแล้วยังจะแย่งพ่อข้าอีก “ไม่ เล่นกับ เจ้า!”
เมื่อพูดเสร็จ เด็กน้อยก็มุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านแม่อย่างโมโห อ้อนท่านแม่ให้นางปลอบประโลมและกอดเขา
“นายท่าน” หรงอี้เอ่ย
ลูกไก่สีเหลืองเองก็ไม่อยากวุ่นวาย “นายท่านก็นายท่าน” ที่สำคัญคือไม่กล้าทำตัววุ่นวาย
ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่าจดบัญชีไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อลูกไก่สีเหลืองถูกปล่อย มันก็ไปเล่นกับเยี่ยนเสี่ยวเป่าอีกครั้ง เด็กน้อยก็งอนมันแล้วและยังงอนแบบง้ออย่างไรก็ไม่หายด้วย
ลูกไก่สีเหลืองก็ถามเด็กน้อยอย่างไร้ศักดิ์ศรีว่า “งั้นข้าเรียกเจ้าว่านายท่านน้อยดีหรือไม่”
เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กน้อยก็เหล่ตามองลูกไก่สีเหลือง
“นายท่านน้อย! นายท่านน้อย…” ลูกไก่สีเหลืองเรียกไม่หยุดและยังจิกขาน้อยๆ ของเด็กน้อยเบาๆด้วย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเตะมันออกไป “เจ้าเลว!”
แต่เยี่ยนอวี๋ดูออกว่าเด็กน้อยให้อภัยลูกไก่ตัวนี้แล้ว ยิ่งเมื่อลูกไก่พูดอย่างฉลาดว่า “ข้าเพิ่งฟักออกมา ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันนี่! เจ้านายและนายท่านหน้าตาดีเช่นนี้ก็ควรจะเรียกพ่อแม่มิใช่หรือ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ยินดังนั้นก็คิดว่ามันพูดได้สมเหตุสมผลจริงๆ! เด็กน้อยจึงพูดกับลูกไก่สีเหลืองว่า “งามที่สุด! คือ พ่อ แม่เป่า!”
“รู้แล้ว จิ๊บ!” ลูกไก่สีเหลืองพยักหน้าหงึกๆ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงอภัยให้ลูกไก่ตัวนี้อย่างฝืนใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้เขารู้สึกง่วงอ้าปากหาวแล้ว เขายื่นมืออวบอ้วนออกไปทางท่านพ่อของเขาด้วยอาการสะลึมสะลือ อยากให้ท่านพ่อกล่อมเขานอน
หรงอี้รับเด็กน้อยเข้ามากล่อม ทำให้ลูกไก่อ่อนที่มีพลังล้นเหลือได้แต่ไปเล่นกับตี้อั้น ตี้อั้นที่ปฏิเสธไม่ได้และหนีไปไหนไม่พ้น มันก็พาพวกเขาทุกคนมุ่งหน้าไปทางเมืองหลวงจักรพรรดิอสูรแล้ว
…
“เจ้าเห็นว่าอย่างไร” หลังจากที่เด็กน้อยหลับแล้ว เยี่ยนอวี๋ก็กางม่านกันเสียงระหว่างพวกเขาและตี้อั้นกับลูกไก่สีเหลืองไว้ ถามชายข้างกายที่กล่อมลูกเบาๆ “ ‘เจ้า’ คนนั้นคือจักรพรรดิอสูรหรือ”
ทว่าหรงอี้ในบัดนี้ก็ไม่แน่ใจเช่นกัน “ไปถึงก็รู้”
“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้สูง” เมื่อเยี่ยนอวี๋คิดถึงความรู้สึกที่ ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนั้นทำให้นางสัมผัสได้ อีกทั้งด้วยการวิเคราะห์ ‘ตนเอง’ ของหรงอี้ ‘ต้าซือมิ่ง’ ร่างโหดเหี้ยมก็ตรงกับอสูรแดนมืดอย่างมิต้องสงสัย
ทำลายล้าง! เข่นฆ่า! ไร้ความปรานี
แต่หรงอี้กลับขมวดคิ้ว “ตามที่ตี้อั้นพูด จักรพรรดิอสูรตั้งตนขึ้นในแดนมืดอสูรมานับพันปีแล้ว แต่ตัว ‘ข้า’ อีกคนหนึ่งที่เรากำลังไล่ล่านั้นเพิ่งจะปลดผนึกเมื่อไม่นานนี้ เวลาไม่ตรงกัน”
เรื่องนี้เยี่ยนอวี๋ก็รู้ แต่นางยังคงคิดว่าใช่เขา ส่วนความจริงจะเป็นเช่นไร คงต้องไปวังจักรพรรดิอสูรจึงจะรู้ แต่แล้ว…
หรงอี้ที่จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วมองไปทางวังจักรพรรดิอสูรพูดขึ้นว่า “ ‘เขา’ กำลังทำลายผนึกแล้ว”
“ต้องการทำลายผนึกก่อนที่เจ้าจะ ‘เร่งเดินทาง’ ไปถึงเพื่อต่อสู้กับเจ้าหรือ” เยี่ยนอวี๋ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม นางกังวลว่าความเป็นไปได้นี้อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะว่านั่นจะหมายถึงหรงอี้ต้องสู้กับ ‘ตนเอง’! นี่ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์แต่อย่างใด
ทว่าเห็นได้ชัดว่าหรงอี้ไม่สนใจ “หาก ‘เขา’ สู้กับข้าได้ก็คงเป็นเรื่องดี”
“เจ้าคิดว่าเขาทำลายผนึกเพื่อหนีหรือ” เยี่ยนอวี๋ถามอย่างประหลาดใจ นางคิดว่าความเป็นไปได้เช่นนี้ไม่สูง ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนั้นทำทุกอย่างเพียงเพื่อหนีต้าซือมิ่งคนนี้หรือ
“เป็นไปได้ห้าส่วน” ขณะที่หรงอี้ตอบ เขาก็นั่งขัดสมาธิและหลับตาลง เห็นได้ชัดว่าจะจับ ‘เขา’ คนนั้นไว้ เพราะว่าถึงแม้จะมีความเป็นไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้ ‘เขา’ คนนั้นหนีไปอีกแล้ว!
เขายอมต่อสู้กับ ‘ตนเอง’ อีกคนหนึ่ง เขาไม่ยอมให้ร่างพลังที่มีหน้าตาเหมือนตนเองลอยนวลไปเช่นนี้ มิหนำซ้ำ ‘ตนเอง’ คนนี้ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความทรงจำในค่ำคืนนั้น ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ ‘เขา’ หนีไปได้แน่ ครานี้เองลมปราณสีขาวบริสุทธิ์ไหลออกมาจากระหว่างคิ้วของหรงอี้ เขาเรียกหรงอี้ตัวน้อยตัวนั้นออกมาอีกครั้ง
“!” เยี่ยนอวี๋ตาเป็นประกาย นางยกมือขึ้นทำท่าจะไปจับอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ เสียดายที่ต้าซือมิ่ง ‘ป้องกัน’ ไว้แต่แรกแล้ว เขาส่ง ‘หรงอี้ตัวน้อย’ ออกไปอย่างรวดเร็วแล้ว
เพียงลมหายใจเดียว…
วิ้ง!
หรงอี้ตัวน้อยที่หายเข้าไปในความว่างเปล่า บัดนี้ก็ปรากฏอยู่ข้างหน้าต้าซือมิ่งจอมโหดเหี้ยมตนนั้นแล้ว มันมุดเข้าไประหว่างคิ้วของ ‘เขา’ โดยที่ต้าซือมิ่งจอมโหดเหี้ยมไม่ทันตั้งตัวทัน! จากนั้น…
ฟู่
ลวดลายศักดิ์สิทธิ์สีทองม่วงมากมายกระจายตัวอย่างรวดเร็วจากระหว่างคิ้วของต้าซือมิ่งจอมโหดเหี้ยมไปทั่วทั้งร่างกายของ ‘เขา’ มันรวมตัวกันเป็นคำว่า ‘ติ้ง’ ที่มีเพียงหรงอี้อ่านออก แต่ก็แทบจะขณะเดียวกันนั้น! ต้าซือมิ่งจอมโหดเหี้ยมคนนั้นไม่เพียงลืมตาขึ้นแล้ว ‘เขา’ ยังส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง “ออกไปซะ!”
“ติ้ง!”
เสียงไพเราะเสนาะหูเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกัน
ครืน!
สุดยอดศึกระหว่างหรงอี้ร่างจริงและร่างพลังโหดเหี้ยมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว