เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 387 ต้าซือมิ่งทั้งสองรวมร่าง!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 387 ต้าซือมิ่งทั้งสองรวมร่าง!

เสียงที่ดังออกมาจากปีศาจแฝงฝันแปรเปลี่ยนไปชัดเจน! ดวงตาที่แต่เดิมแดงใสของนางก็เต็มไปด้วยประกายแสงแห่งความโหดเหี้ยม

กรร!

ตามมาด้วยเสียงคำรามก้อง นางปล่อยพลังออกมาในทันใด กลุ่มของเยี่ยนอวี๋สะเทือนจนลอยกระเด็นออกไป! ยันต์สีทองม่วงนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากขุมนรกมืดมิดที่อยู่ไกลออกไป เห็นได้ชัดว่า ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนั้นลงมือแล้ว…

“จิ๊บ!”

“อ้ะเนะ!”

“ไม่นะ…”

ลูกไก่สีเหลือง เยี่ยนเสี่ยวเป่าและตี้อั้นอุทานขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน พร้อมกันนั้นพวกเขาก็จมหายเข้าไปในความมืดมิดอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อคิเมียราและพิกซีมาถึง พวกมันก็เห็นเพียงปีศาจแฝงฝันที่สลบไสลไป มารสองตนแสดงอาการตระหนก พิกซีพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “ปีศาจแฝงฝันล่วงเกินฝ่าบาทหรือ”

“ใช่แน่ๆ” คิเมียราตอบเสียงทุ้มเสร็จก็จับปีศาจแฝงฝันขึ้นมา “ข้าส่งนางกลับวังก่อน จะได้ไปจัดการตัวไร้ประโยชน์พวกนั้นด้วย เจ้าเฝ้าไปก่อน”

“ได้” พิกซีตอบ มันก็รู้ว่าเจ้าพวกโง่เขลาที่อยู่ข้างนอกทำเกินไปแล้ว ต้องห้ามพวกมันไว้เสียหน่อย มิเช่นนั้นพวกมันคงสู้จนไส้ไหลออกมาแน่ๆ

ในความเป็นจริง มหาอสูรเหล่านั้นก็สู้กันจนไส้ไหลออกมาแล้วจริงๆ โดยเฉพาะจอมมารนรกสามสี่ตนนั่น พวกมันสู้กับเมาโรอย่างดุเดือด เพราะการยุยงของปีศาจแฝงฝันสองตนนั้น

เสียงฟ้าร้องในวังจักรพรรดิอสูรดังขึ้นรอบทิศอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมืองทั้งเมืองได้รับผลกระทบไปด้วย อสูรในบริเวณนั้นต่างตกใจกลัวจนตัวสั่น

หากมิใช่เช่นนี้ คิเมียราก็คงไม่สนใจแล้ว มันและพิกซีรวมถึงปีศาจแฝงฝัน ในฐานะที่พวกมันเป็นจอมมารที่ทรงพลังที่สุดในแดนมืดคงไม่สนใจที่จะอยู่ร่วมกับอสูรน้อยเหล่านั้นด้วยซ้ำ

ภารกิจของพวกมันคือการเฝ้าขุมนรกมืดมนและฟื้นคืนพลังสายเลือดมาโดยตลอด วันหนึ่งเมื่อพวกเขาทำลายพันธนาการและออกจากแดนมืดวิญญาณอสูรได้ เรื่องที่เหลือก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาแล้ว

และในขณะเดียวกัน ชั่วขณะที่ปีศาจแฝงฝันจู่โจมกะทันหันนั้น…

วิ้ง!

ต้าซือมิ่งก็แผ่แสงสีม่วงเจิดจ้าออกมาคลุมภรรยา เด็กน้อย รวมถึงลูกไก่และตี้อั้นไว้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ตกลงไปในขุมนรกจริงๆ

ลูกไก่สีเหลืองถอนหายใจโล่งอก “เมื่อครู่ทำเอาข้าตกใจหมดเลย”

“ขี้ขลาด” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูด ข้าไม่เห็นกลัวเลย

ลูกไก่กลับไม่สนใจว่าถูกเด็กน้อยว่าเป็นตัวขี้ขลาด มันยังร้องจิ๊บๆ พลางบินอยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋ “เจ้านาย ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนหรือขอรับ”

“ขุมนรก” เยี่ยนอวี๋มั่นใจมาก แต่นางไม่ค่อยเข้าใจ นางจึงหันไปถามชายที่โอบนางไว้ “ ‘เจ้า’ คนนั้นกลัวเจ้ามากมิใช่หรือ ทำไมจู่ๆ ดึงเจ้าลงมาเล่า”

“เพราะว่าเขาพ้นจากพันธนาการแล้ว อาจจะคิดว่าน่าจะสู้กับข้าได้แล้ว” หรงอี้ตอบด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง แต่สิ่งที่เขาพูดกลับทำให้เยี่ยนอวี๋ตื่นตระหนก “พ้นจากพันธนาการแล้ว!?”

“อืม” หรงอี้พาทุกคนดำดิ่งลงไปพลางสำรวจไปรอบทิศ เขารู้ดีว่า ‘เขา’ ที่ ‘เป็นอิสระ’ แล้วคนนั้น ปรากฏตัวได้ทุกเมื่อ

เยี่ยนอวี๋ตระหนก “เช่นนั้น เจ้า…”

ชู่ หรงอี้ปลอบพลางจูบภรรยาเบาๆ ทีหนึ่งเพื่อให้นางหยุดพูด

เยี่ยนอวี๋เม้มปาก ใบหูแดงระเรื่อ นางปิดปากเงียบแล้วและยังซบอกของหรงอี้อย่างเชื่อฟัง

เมื่อเด็กน้อยได้ยินท่านพ่อบอกให้เงียบ เขาก็ปิดปากน้อยๆ ของตนไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน

ลูกไก่และตี้อั้นเองก็รู้งานมาก พวกมันไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาอีก แต่ก็คอยมองไปรอบทิศอย่างกังวลใจ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยมาก

แต่พวกเขาดำดิ่งลงไปเป็นเวลาเกือบหนึ่งกึ่งก้านธูปก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ ราวกับว่าขุมนรกแห่งนี้ไม่มีอะไรเลย!? จึงทำให้ตี้อั้นอดพูดไม่ได้ว่า “นี่คือขุมนรกมืดมิดจริงๆ หรือ”

ทำไมไม่เหมือนกับในตำราที่บันทึกไว้เลย! ขุมนรกแห่งความมืดไม่ใช่ว่ามีอสูรมากมายหรือ มีบางตนยังเป็นมหาอสุรกายที่น่ากลัวกว่าจอมมารสวรรค์ด้วย

เพียงแต่ว่าพวกมันต้องการพลังมืดจำนวนมากเพื่อเอาชีวิตรอด ดังนั้นจึงไม่สามารถออกจากขุมนรกแห่งความมืดได้ แต่แล้ว…

“จิ๊บ!”

ลูกไก่สัมผัสถึงอันตราย มันรีบมุดเข้าไปในอ้อมอกของเยี่ยนเสี่ยวเป่า ฝ่ายหลังก็กอดมันไว้และยังลูบมันเบาๆ บอกมันว่าอย่ากลัว ท่าทางเหมือนพี่ชายที่กำลังดูแลน้อง…

ต้าซือมิ่งพลันรู้สึกว่าท่าทางของเจ้าตัวน้อยสองคนนี้ดูอย่างไรก็รู้สึกแปลก เป็นพี่น้องเช่นนี้จะดีหรือ คนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าลูกของเขาเป็นลูกไก่ที่แปลงร่างเป็นคนแล้ว

ทว่าเยี่ยนอวี๋ในครานี้ก็มองเข้าไปในก้นลึกของขุมนรกแห่งความมืดด้วยตาทิพย์ของนาง นางเห็นแสงสีแดงระยิบระยับอยู่เลือนราง “นั่นมัน…”

“คงจะอยู่ตรงนั้น” หรงอี้พูดพลางพาภรรยาลงไป ในขณะเดียวกันก็กำชับว่า “ประเดี๋ยวข้าลงไปคงดูแลพวกเจ้าไม่ได้…”

เขายังไม่ทันพูดจบ เยี่ยนอวี๋ก็พูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่ใช่สตรีอ่อนแอ ขุมนรกแห่งความมืดก็ไม่สามารถต้านทานพลังของข้าได้ แต่ปัญหาของเจ้า ข้าแทรกแซงไม่ได้ ปัญหาคือข้าไม่เข้าใจสถานการณ์ของเจ้า ข้าก็เพิ่งเคยเจอเรื่องเช่นนี้เป็นครั้งแรก”

ร่างพลังของเขาไม่เพียงสามารถแยกออกมาจากร่างจริง มันยังกลายเป็น ‘คน’ ได้ และยังวางแผนทำลายร่างจริงทิ้ง กระทั่งรู้จักใช้เวลาและสถานที่เพื่อสร้างแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง…

เยี่ยนอวี๋ไม่เคยเจอ ‘คน’ เช่นนี้จริงๆ ถึงแม้นางจะมีความรู้กว้างขวางมากก็ตาม

แต่แล้วหรงอี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็พูดว่า “หากไม่ใช่เช่นนั้น จะดึงดูดเจ้าได้อย่างไร”

“ยังจะมาภาคภูมิใจอีก…” เยี่ยนอวี๋อยากจะหยิกคนนี้จริงๆ! นี่เป็นเรื่องสมควรภาคภูมิใจหรือ จากนั้นนางก็หยิกเขาจริงๆ นางหยิกไปที่เนื้อนุ่มๆ บริเวณเอวของชายคนนี้! เพราะส่วนที่เหลือของเขาแข็งไปหมด ทำให้หยิกยาก

ซี๊ด ต้าซือมิ่งรู้สึกเจ็บจริงๆ เขาซบศีรษะเข้าที่ซอกคอของภรรยา “เจ้ามิต้องเป็นห่วง ข้ามีวิธีจัดการเขา”

“จริง… จริงหรือ” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับถามอย่างกังวล “พ่อ ปลอม ร้าย!”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ราวกับสัมผัส ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนั้นได้ เขาก็เหลือบมองลงไปข้างล่าง จากนั้นก็หดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของท่านพ่อ “ร้ายมากๆ!” ร้ายกว่าท่านพ่อรูปงามมากเลย

ต้าซือมิ่งถือโอกาสสอนลูก “รู้ว่าร้าย เจ้าก็ควรดูแลท่านแม่ของเจ้าให้ดี ใช่หรือไม่”

“ขอรับ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบแล้วก็กอดท่านแม่ไว้แน่น แสดงสีหน้าจริงจัง

ลูกไก่สีเหลืองก็พูดว่า “ข้าก็ปกป้องเจ้านายและนายท่านน้อยได้”

“เช่นนั้นใครปกป้องข้าน้อยเล่า” ตี้อั้นอยากจะร้องไห้ มันถึงจะเป็นผู้น่าสงสารที่อ่อนแอและสมควรถูกปกป้องมากที่สุด ทุกท่านโปรดคิดถึงมันด้วย

“ข้า ดูแลเจ้าเอง!” ลูกไก่สีเหลืองตอบ

ตี้อั้นพลันรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาไหลพราก จนเกือบจะเรียกลูกไก่ว่า ‘ปู่’ แล้ว

หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนอวี๋พูดขึ้นว่า “ระวังตัวด้วย” ตี้อั้นคงส่งเสียงเรียกแล้วจริงๆ

และในขณะเดียวกัน…

“…”

แสงสีแดงไร้เสียงที่ปรากฏขึ้นก็แผ่กระจายไปรอบๆ กลุ่มเยี่ยนอวี๋

หรงอี้นัยน์ตาเคร่งขรึม เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายของ ‘เขา’ คนนั้นกำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว! ดูท่ามหาอสุรกายมากมายที่ควรอยู่ในขุมนรกแห่งความมืดคงถูก ‘เขา’ กินไปหมดแล้ว

เมื่อหรงอี้คิดได้ดังนี้ เยี่ยนอวี๋ก็คิดได้เช่นกัน มือที่กอดเอวของต้าซือมิ่งไว้ก็กอดไว้แน่นกว่าเดิม นางกำลังรู้สึกเป็นกังวล ทำให้เขาพึมพำขึ้นว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…”

“ชู่!” เยี่ยนอวี๋รีบปิดปากเขา ห้ามเขาพูดทันที นางใช้สื่อจิตสัมผัสไปรอบทิศอย่างระแวดระวัง! ทำไมเขาคนนี้ไม่ระวังตัวเลยนะ

ต้าซือมิ่งยิ้มบางๆ ยังจับมือของภรรยาขึ้นมากัดเบาๆ อย่างกระล่อน ทำเอาปฐมราชินีเยี่ยนรีบหดมือกลับทันที “เจ้า…”

“อย่าตระหนกเลย” ต้าซือมิ่งที่ในตาแฝงรอยยิ้มจับมือของนางที่หดกลับไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง ปลอบประโลมนางอย่ากังวล แต่เป็นไปไม่ได้ที่เยี่ยนอวี๋จะไม่กังวล! โดยเฉพาะในนาทีนี้!

“ ‘เขา’ …” เยี่ยนอวี๋อยากจะบอกชายตรงหน้าว่า ‘เขา’ คนนั้นอยู่ข้างหลังเขาแล้ว! ‘เขา’ มาแล้ว แต่แล้วนางยังไม่ทันร้องเตือนด้วยซ้ำ ‘ต้าซือมิ่ง’ โหดเหี้ยมในชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ ผมสีแดงเพลิง ดวงตาสีเลือด ในขณะที่ ‘เขา’ ปรากฏตัวนั้น มือของเขาก็เงื้อมไปที่ต้าซือมิ่งที่อยู่ต่อหน้าเยี่ยนอวี๋แล้ว

หัวใจของเยี่ยนอวี๋ตกลงไปตาตุ่ม! นางรวบรวมพลังรอบกายเหนือฝ่ามือ อีกเพียงเล็กน้อยก็จะต้องประจันหน้ากับ ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนี้แล้ว!

แต่หรงอี้กลับกุมมือของนางพร้อมกดพลังเหนือฝ่ามือนั้นไว้ ไม่เพียงหยุดการโจมตีของนาง แต่ยังห้ามนางลงมือด้วย ทำให้… เยี่ยนอวี๋ได้แต่มองมือเรียวงามดั่งหยกเช่นกันของ ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนั้นจับศีรษะของคนตรงหน้านางไว้แล้ว เพียงชั่วพริบตา…

“หรงอี้!”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท