เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 389 วายร้ายต้าซือมิ่งแห่งความมืดสุดวิปริต!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 389 วายร้ายต้าซือมิ่งแห่งความมืดสุดวิปริต!

“ ‘เขา’ คนนั้นผสานรวมกับขุมนรกแห่งความมืดแล้ว!?” เยี่ยนอวี๋ร้องอุทานด้วยใจเต้นแรง นี่เป็นเหตุการณ์ที่นางคิดไม่ถึงเลย

ขุมนรกแห่งความมืดเป็นจุดตั้งต้นของแดนมืดวิญญาณอสูร นางรู้ดีว่ามันรับมือด้วยยากเพียงใด มันเกิดขึ้นพร้อมกับโลกไท่ชูของนาง หรือบางทีอาจจะเกิดขึ้นก่อนด้วยซ้ำ! เพราะว่านางไม่เคยรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วนางเกิดขึ้นในช่วงใด แต่หากวิเคราะห์จากการที่นางสามารถควบคุมพลังไท่ชูได้ นางน่าจะเกิดช่วงศักราชไท่ชู

นางจำได้เลือนรางว่า ในตอนนั้นโลกทั้งใบมีเพียงนาง ‘คนเดียว’ แต่หากย้อนไปก่อนหน้านั้นอีกนางก็ไม่รู้แล้ว หลังจากที่นาง ‘เอ้อระเหย’ มาช่วงหนึ่ง โลกจึงค่อยๆ กำเนิด ‘สิ่งมีชีวิต’ อื่น

นางรู้ว่าเหล่าทวยเทพช่วงต้นศักราชเช่นหยวนสื่อเทียนจุน[1] ยักษ์ผานกู่ เทพบิดรฝูซี เจ้าแม่หนี่ว์วา เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่นางกลับไม่รู้ว่า ขุมนรกแห่งความมืดก่อเกิดอย่างไร

ในยุคโกลาหลของอสูร นางเคยคิดจะทำลายขุมนรกแห่งความมืดทิ้ง แต่นางทำไม่ได้ เพราะเหมือนกับว่ามันเก่าแก่โบราณเช่นเดียวกันนาง เกิดขึ้นในช่วงยุคสมัยเดียวกัน ดังนั้นตั้งแต่ครานั้นเป็นต้นมา นางจึงรู้ว่าไม่สามารถกวาดล้างอสูรให้หมดสิ้นได้ทำได้เพียงผนึกไว้เท่านั้น มิหนำซ้ำตอนนี้มาคิดดูแล้ว อันที่จริงอสูรก็เป็นสิ่งมีชีวิตส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ตราบใดที่พวกมันไม่ทำลายเผ่าพันธุ์อื่น พวกมันก็มีสิทธิ์ในการดำรงอยู่

ทว่าในอดีตนางไม่เคยคิดถึงความจำเป็นของสิ่งมีชีวิตอสูรเหล่านี้เลย หากไม่ใช่เพราะไม่สามารถกวาดล้างให้หมดสิ้นได้ นางคงไม่เพียงแค่ผนึกพวกมันไว้ ปล่อยให้พวกมันยังมีชีวิตอยู่ต่อไป

เช่นนั้นปัญหาก็คือ…

“ในยุคที่ข้าเรืองอำนาจ ไม่เพียงไม่สามารถจัดการขุมนรกแห่งความมืดได้ มันไร้ซึ่งความรู้สึกและจิตนึกคิด ไร้ตัวตนและจุดสิ้นสุด ร่างพลังของหรงอี้กลับผสานรวมกับมัน…” เยี่ยนอวี๋รู้สึกปวดศีรษะและยุ่งเหยิง

เยี่ยนเสี่ยวเป่าฟังแล้วก็งุนงง แต่เขาก็ไม่คิดจะถามอะไรแล้วเพราะเขาเริ่มรู้สึกง่วงนอน การ ‘วิเคราะห์’ คำถามเมื่อครู่นี้ทำให้สมองน้อยๆ ที่ยังนอนไม่เต็มอิ่มของเขาอ่อนล้ามาก ตอนนี้เขาไม่สามารถคิดอะไรได้อีก รู้สึกอยากนอนเพียงอย่างเดียว

เยี่ยนอวี๋เองก็รู้ว่าเด็กน้อยง่วงแล้ว นางจึงลูบแผ่นหลังของเด็กน้อยเบาๆ และไม่ส่งเสียงพึมพำอีก พยายามระงับอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้

นางคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าร่างพลังของพ่อเด็กคนนี้จะมีความสามารถเหลือเชื่อเช่นนี้ เหตุใดจึงผสานรวมกับขุมนรกแห่งความมืดได้!?

“เดี๋ยวนะ ข้าไม่เข้าใจ…” ครานี้เองตี้อั้นก็อดถามไม่ได้ว่า “ผสานหมายความว่าอย่างไร” นางพูดออกมาเพียงครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งกลับเก็บงำไว้ ช่างลำบากอสูรที่สมองไม่ดีจริงๆ

ลูกไก่สีเหลืองแสนฉลาดจึงตอบว่า “ก็คือขุมนรกทั้งขุมตอนนี้กลายเป็นร่างพลังคนนั้นของนายท่านแล้ว! โห… รู้สึกเก่งระเบิดไปเลย”

“…!” ตี้อั้นอ้าปากกว้าง มันจำเป็นต้องพูดว่า “ไม่ใช่แค่รู้สึก นี่มันเก่งกาจไร้เทียมทานชัดๆ! แต่ว่าเป็นไปได้อย่างไร อย่ามาโกหกข้า!”

ขุมนรกแห่งความมืดคือจุดเริ่มต้นของแดนมืดวิญญาณอสูรของพวกเขา ว่ากันว่ามันไร้ที่สิ้นสุดแล้วจะผสานรวมกันได้อย่างไร อย่าคิดว่ามันเป็นอสูรไม่มีสมองแล้วจะหลอกลวงอย่างไรก็ได้!

แต่เยี่ยนอวี๋ที่ไม่ได้ตอบตี้อั้นก็รู้ว่านี่คือความจริง อย่างน้อยในขอบเขตที่นางสัมผัสได้ก็คือแสงสีแดงที่ร่างพลังโหดเหี้ยมแผ่ซ่านออกมา!

มิหนำซ้ำ หากไม่ใช่เพราะต้าซือมิ่งร่ายมนต์ไว้ นางคงไม่สามารถแยกแยะได้ว่ามันเป็นแสงแห่งความโหดเหี้ยมจากขุมนรกแห่งความมืด ดังนั้นสรุปได้เพียงว่า ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนั้นผสานรวมกับขุมนรกแห่งความมืดอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ทำอย่างไรดี…” เยี่ยนอวี๋รู้สึกกังวลใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นางเป็นห่วงว่าต้าซือมิ่งจะนำร่างพลังของตนกลับมาไม่ได้ หากเป็นเช่นนั้นจะมีแต่ปัญหาไม่รู้จบ แต่ก็จำเป็นต้องยอมรับว่าร่างพลังร่างนี้ของเขาฉลาดเป็นกรดเสียจริงๆ! และก็เก่งมากด้วย ถึงกับคิดได้ว่าต้องผสานกับขุมนรกแห่งความมืด อีกทั้งยังทำสำเร็จด้วย เกรงว่า ‘เขา’ คงมีความคิดนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว

เยี่ยนอวี๋ยืนยันไม่ได้ นางเพียงรู้ว่าเมื่อลายลักษณ์อักษรที่ชายที่อยู่ไม่ไกลคนนั้นเขียนเพิ่มขึ้นและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ พลังของทั้งขุมนรกแห่งความมืดก็กำลังเปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน

ซู่…

ความเคลื่อนไหวราวกับกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากพลันเกิดขึ้นในอากาศของขุมนรกแห่งความมืด

วี้ด…

เสียงลมแปลกประหลาดก็ดังขึ้นในขุมนรกแห่งความมืดที่ไม่น่าจะเกิดความเคลื่อนไหวใดๆ ได้

วิ้ง!

เยี่ยนอวี๋รู้สึกกระทั่ง ‘ขุมนรกแห่งความมืด’ กำลังสั่นสะเทือน

วังจักรพรรดิอสูรทั้งวัง! เมืองจักรพรรดิอสูรทั้งเมือง! กระทั่งแดนมืดวิญญาณอสูรทั้งแดนก็กำลังสั่นสะเทือนเพราะสิ่งนี้เพราะว่าขุมนรกแห่งความมืดคือรากฐานของแดนมืดวิญญาณอสูร เมื่อมันเคลื่อนไหว แดนมืดทั้งแดนจึงเคลื่อนไหวตามไปด้วย

ดังนั้น… ในแดนลับบางแห่งบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

วิ้ง!

วิ้ง!…

แดนลับที่สะเทือนไหวไม่หยุดมีกลิ่นอายโหดเหี้ยมและทำลายล้างไหลทะลักออกมา! ทำเอาสิ่งมีชีวิตบางอย่างส่งเสียงอีกครั้ง “เกิดอะไรขึ้น เหตุใดกลิ่นอายโหดเหี้ยมและทำลายล้างจึงรุนแรงเช่นนี้ หรือว่า…”

สิ่งมีชีวิตบางสิ่งที่คิดอะไรขึ้นได้ก็รีบสื่อสารกับฮ่องเต้หยวนคังที่อยู่ในต้าซย่าแสนไกลท่านนั้นทันที แต่ตอนนี้ทั้งต้าซย่ายังถูกภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลและค่ายกลดาราเรียงรายทั้งหกแห่งที่ต้าซือมิ่งสร้างขึ้นปกป้องเอาไว้ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตบางสิ่งที่ล้มเหลวอีกครั้งก็อดสบถไม่ได้ “ให้ตายเถอะ! ปฏิกิริยาสะท้อนของปฐมราชินีหยวนชูยังไม่สลายไปหรือ หรือว่า…” อันที่จริงปฐมราชินีหยวนชูยังไม่ตาย!? กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าจะฟื้นคืนแล้ว!? มิเช่นนั้นเหตุใดปฏิกิริยาสะท้อนนี้จึงคงอยู่ได้นานเช่นนี้

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าคงต้องออกโรงเองแล้ว!” เมื่อพูดถึงตรงนี้ มันก็กลับไปเงียบอีกครั้งราวกับว่ามันจากไปแล้ว แต่ก็เหมือนกับว่ากำลังเตรียมตัวอยู่

ต้าซย่าในบัดนี้กลับคืนสู่ความสงบอีกครา เหล่าลูกมือของฮ่องเต้หยวนคังเช่นสำนักเหยาไถเซียนก็หาโอกาสถอยทัพกลับราชสำนักไปและเฝ้าอยู่ทุกแห่งของราชสำนัก

กู้ปิ่งคุนและเจ้าสำนักแห่งสำนักนิรนามเองก็เก่งไม่เบา เมื่อพบว่าเมืองหลวงเกิดเรื่องผิดปกติ พวกเขาไม่เพียงหยุดการล้อมโจมตีตำหนักซือมิ่ง แต่ยังสั่งให้ทหารราชสำนักหยุดการจับกุมและถอยกลับไปยังราชสำนักทันที

ทำให้เมื่อกลุ่มอินสวินอี้ไปถึงก็ทำอะไรกู้ปิ่งคุนที่ถอนทัพไปไม่ได้แล้วและยิ่งไม่สามารถทำอะไรฮ่องเต้หยวนคังที่ถูกพิทักษ์ไว้อย่างแน่นหนาได้ ถึงอย่างไรการป้องกันของราชสำนักก็ดีอยู่แล้ว เมื่อมีกู้ปิ่งคุนและกองกำลังของเขาคอยปกป้องอยู่ด้วยย่อมโจมตีได้ยากกว่าเดิม ตอนนี้จึงทำได้เพียงคอยคุมเชิงกัน

“ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปก็ไม่ใช่วิธีที่ดี ต้องหาวิธีกำจัดฮ่องเต้หยวนคังนั่น! มิเช่นนั้นต้องกลายเป็นหายนะแน่ๆ” อินสวินอี้ไม่รู้ว่าเหตุใดสามีภรรยาต้าซือมิ่งคู่นั้นจึงยังไม่มาจัดการฮ่องเต้หยวนคัง แต่เขาก็เดาได้ว่าพวกเขาคงมีเรื่องที่สำคัญกว่านี้ อีกอย่าง อินสวินอี้ก็รู้ว่าจะรอให้สามีภรรยาต้าซือมิ่งลงมือเองทุกเรื่องไม่ได้ ถึงแม้คนเก่งย่อมต้องทำงานหนักกว่าผู้อื่น แต่พวกเขาก็ควรทำสิ่งที่ตนทำได้ อินสวินอี้จึงพูดขึ้นว่า “ผู้พิทักษ์หลาน ตอนนี้หัวหน้าเหออยู่ที่ไหน”

“ท่านอ๋องต้องการพบเขาหรือขอรับ” หลานชังถาม

อินสวินอี้กำลังจะพยักหน้า เมืองหลวงทั้งเมืองกลับสั่นสะเทือน! เพราะว่าแดนมืดวิญญาณอสูรมีความเคลื่อนไหวผิดปกติแล้ว! ต้าซือมิ่งเองก็มีความคืบหน้าแล้ว…

———————————————

[1] หยวนสื่อเทียนจุน หมายถึง หนึ่งในสามมหาเทพตามความเชื่อของเต๋า เชื่อว่าเป็นบุตรของผานกู่ผู้ให้กำเนิดโลก

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท