ตอนที่ 392 สายเลือดตระกูลหรงตื่นเต็มที่!
ทว่าดวงตาสีเลือดที่มองสองแม่ลูกเยี่ยนอวี๋ นอกจากความโหดเหี้ยมไร้จุดสิ้นสุดแล้วก็ไม่มีความอ่อนโยน ไม่มีความรักหรือความเอาอกเอาใจแสนคุ้นเคยให้สัมผัสได้เลย
เขามองสองแม่ลูกเช่นคนไม่รู้จัก ไม่ต่างอะไรกับมองอากาศธาตุ เด็กน้อยร้องไห้ทันที “แง! พ่อออ… ไม่ เอาพ่อร้าย แงงง”
ส่วนเยี่ยนอวี๋ หัวใจนางกระตุกอย่างรุนแรง เป็นความเจ็บปวดที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนนับแต่ที่นาง ‘เกิดมา’ เหมือนถูกควักอะไรบางอย่างออกไปจากหัวใจ ทำให้จิตใจอันแข็งแกร่งของนางแข็งเกร็งขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว นางจึงได้รู้ว่าชายคนนี้สำคัญเพียงใดในใจนาง กระทั่งทำให้นางไม่หายใจไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง
ไม่เคยประสบมาก่อน… แม้แต่ครั้งเห็นเยี่ยนจื่ออวี๋ในอดีตชาติ แม้แต่ตอนที่รู้ว่าท่านพ่อเจ้าน้ำตาและพี่ชายทั้งสองตายอย่างอนาถ ความเจ็บปวดและเสียใจนั้นแตกต่างจากความเจ็บปวดราวกับถูกควักหัวใจออกไปอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นเยี่ยนอวี๋จึงอุ้มเด็กน้อยเดินไปทางต้าซือมิ่งที่มีสายตาห่างเหินคนนี้ นางจะไม่ปล่อยให้เขาหายไป “หรงอี้” เรียกข้ามา เจ้าก็ต้องกลับมา กลับมาข้างกายข้า กลับมาอยู่กับเสี่ยวเป่า
“พ่อ พ่อออ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้องไห้ไม่หยุด เขาอยากจะกอดพ่อร้ายตัวปลอมคนนี้ อยากจะกอดให้พ่อรูปงามคนเดิมกลับมา เพียงแต่ว่า…
สองแม่ลูกเยี่ยนอวี๋เพิ่งจะเดินเข้าไป ต้าซือมิ่งหัวแดงก็ขยับตัวเล็กน้อยพร้อมทำท่าจะลุกขึ้นยืน
แต่แล้ว…
วิ้ง!
ลวดลายลึกลับสีม่วงอร่ามที่ปกคลุมตัวต้าซือมิ่งหัวแดงไว้ก็ค่อยๆ สว่างขึ้น!
ผ่านไปไม่นาน ยันต์ศักดิ์สิทธิ์แน่นหนาเหล่านั้นที่ก่อนหน้านี้หายไปแล้วก็ห่อหุ้มต้าซือมิ่งหัวแดงไว้เป็นชั้นๆ ทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้เลย ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็ไม่สามารถแตะต้องเขาเช่นกัน
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากะพริบดวงตากลมโตที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา “พ่อ?” เขาสัมผัสได้ว่านี่คือกลิ่นอายของท่านพ่อรูปงามของเขา เขาอยากจับ อยากให้ท่านพ่ออุ้มเขา
“อืม” เยี่ยนอวี๋ก็สัมผัสได้ว่าลวดลายลึกลับชั้นนี้มีกลิ่นอายอันบริสุทธิ์ของต้าซือมิ่งที่อยู่ในใจของนาง! ทำให้หัวใจที่แข็งเกร็งของนางผ่อนคลายลงเล็กน้อย
พลังของเขายังอยู่ อย่างน้อยก็ยังคงบอกได้ว่า เขายังอยู่…
เยี่ยนอวี๋มิอาจมั่นใจได้ ถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน นางก็ได้แต่หวังไว้เช่นนี้
ขณะที่นางเหม่อลอยนั่นเอง เด็กน้อยก็ยื่นมืออวบอ้วนของตนออกไปจับลวดลายลึกลับสีม่วงเจิดจ้าชั้นนั้นแล้ว เยี่ยนอวี๋เห็นดังนั้นก็ตกใจจนรีบคว้ามือของเขาไว้ แต่เด็กน้อยจับโดนแล้ว…
ฟู่!
ลวดลายลึกลับแต่ละบรรทัดที่ปกคลุมต้าซือมิ่งหัวแดงไว้ราวกับถูก ‘เหนี่ยวนำ’ มันกระโดดข้ามมือของเยี่ยนอวี๋ แล่นไปตามมืออวบอ้วนของเด็กน้อย เข้าไปในแขนอวบเหมือนรากบัวของเขา และ ‘ไหล’ เข้าไปในร่างกายน้อยๆ
“อ้ะเนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองร่างกายของตนเองอย่างตะลึง รอบกายเขาเปล่งประกายแสงสีขาวขึ้น ทั้งเรือนร่างของเขา… กลับหดเล็กลง…
ผอมลง!?
เยี่ยนอวี๋ “…?!”
“อ้ะเนะ?!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็มองมือที่ผอมลงเล็กน้อยของตนเองอย่างตะลึงงัน ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกเพียงในร่างกายเหมือนกับจะมีมดตัวเล็กๆ หลายตัวเดินไต่อยู่ด้านใน ทำให้เด็กน้อยจับท่านแม่ไว้อย่างรู้สึกไม่สบายตัว “คัน! เป่าคัน!”
“คันตรงไหน?” เยี่ยนอวี๋ถามทันที ในขณะเดียวกันก็ตรวจดูร่างกายของเด็กน้อยพลางคอยสังเกตลวดลายลึกลับที่ยังคงปกคลุมต้าซือมิ่งหัวแดงไว้ ก็พบว่าราวกับว่าพวกมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย
ต้าซือมิ่งหัวแดงหลับตาลงอีกครั้งราวกับถูกลวดลายศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ควบคุมไว้ หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะสิ่งอื่น เยี่ยนอวี๋เองก็ไม่เข้าใจนัก
ส่วนเด็กน้อย… เขาก็เกาตรงนี้ทีตรงนั้นทีพลางร้องว่า “คัน! เป่าคัน!” แต่เกาไม่ถึง “ข้างใน คัน!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับตัวเองพลางบอกว่าเขารู้สึกคันข้างใน
เยี่ยนอวี๋เข้าใจแล้ว “แม่ขอดูหน่อย เสี่ยวเป่าไม่กลัวนะ”
“ทรมาน…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอึดอัด
ลูกไก่สีเหลืองบินเข้ามา “เจ้าอย่าเกาไปทั่วสิ อย่าเกาเอง”
“น้อง!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูด “น้องไก่ ห้ามว่าพี่ เป่า!”
“เชอะ!” ลูกไก่สีเหลืองส่งเสียงไม่พอใจ แต่กลับบินอยู่ที่เดิมอย่างเป็นห่วง “เจ้านาย นายท่านน้อยเป็นอะไรหรือขอรับ”
เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้ว นางไม่พบว่าเด็กน้อยผิดปกติตรงไหน ในทางกลับกัน นางรู้สึกได้ว่าร่างกายของเด็กน้อยแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม?
ในขณะเดียวกัน ร่างกายของเด็กน้อยก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย สายหมอกสีชมพูที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากำลังไหลออกมาจากร่างน้อยๆ ของเขา?
“…”
สายหมอกไร้เสียง แต่กลับมีกลิ่นอายซับซ้อนนัก
เด็กน้อยร้องหนักกว่าเดิมเพราะหมอกสีชมพูที่ไหลออกมา “แม่… แม่! เป่า คัน!”
“โอ๋” เยี่ยนอวี๋รีบจูบเด็กน้อย นางเองก็รู้สึกร้อนใจเพราะนางไม่พบว่าเด็กน้อยผิดปกติตรงไหนซึ่งทำให้นางตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง ทว่า…
ปฐมราชินีเยี่ยนที่สงบอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วก็คิดบางอย่างได้ นางจูบขนอ่อนบนศีรษะของเด็กน้อย “เสี่ยวเป่าทนหน่อยนะ มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเสี่ยวเป่า นี่คือพลังของท่านพ่อเจ้า เขาย่อมไม่ทำร้ายเจ้าแน่นอน”
“ขอรับ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าลองคิดดูแล้วก็เห็นด้วย เขาจึงหยุดร้อง เขากลั้นไว้ได้จริงๆ เพียงแต่ดวงตากลมโตของเขาคลอไปด้วยน้ำตา ดูก็รู้ว่ากำลังอดกลั้นอย่างทนทรมาน
เยี่ยนอวี๋เห็นดังนั้นก็รู้สึกสงสาร นางจูบเด็กน้อยไม่หยุดและยังพูดอย่างย้อนแย้งว่า “หากรู้สึกทรมานก็พูดออกมานะ อย่าฝืนทน”
“ไม่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคิดว่าในเมื่อท่านแม่บอกแล้วว่าเป็นพลังของท่านพ่อรูปงาม เช่นนั้นย่อมไม่ใช่พลังที่จะรังแกเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าอดทนหน่อยเดี๋ยวก็หาย
เยี่ยนอวี๋กลับยิ่งรู้สึกสงสารเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยรู้ประสา นางได้แต่จูบขนอ่อนบนศีรษะเด็กน้อยต่อไป ทว่า… ไม่ถูก เดี๋ยวนะ นั่นมัน…
“เสี่ยวเป่า ผมของเจ้าล่ะ” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อย รู้สึกถึงความผิดปกติ
ลูกไก่สีเหลืองก็รีบบินเข้ามาดู “จิ๊บ! ไม่เหลือแม้แต่เส้นเดียวแล้วจริงๆ! ใสแจ๋ว!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่า “…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เมื่อครู่นี้ยังกลั้นน้ำตาไว้ได้ดีก็รีบจับศีรษะของตนเอง จากนั้นเขาก็พบว่าผมหายไปหมดแล้วจริงๆ
“แงงง”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าปล่อยโฮ!
เยี่ยนอวี๋รีบจูบเด็กน้อยสองสามที “เสี่ยวเป่าไม่ร้อง อาจจะแค่หดกลับไป เดี๋ยวก็งอกขึ้นมาใหม่ ไม่ร้องนะไม่ร้อง”
“จริงหรือ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าน้ำตาไหลพราก “งอกใหม่หรือ”
เยี่ยนอวี๋ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก เพราะนางเองก็ไม่เคยเจอผมที่งอกมาแล้วยังหดกลับไปได้… แต่นางจำเป็นต้องตอบอย่างหนักแน่นว่า “ใช่จ๊ะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ทว่าเขาก็พบในทันทีว่า…
“อ้ะเนะ?!”
ไม่คันแล้ว? อีกทั้งไม่เพียงไม่คันแล้ว แต่ยัง…
“อืม!”