ตอนที่ 395 อสูรร้ายขุมนรกแห่งความมืดถูกรังแกจนร้องไห้!
โครม!
เป็นเพียงค้อนจิ๋วแท้ๆ แต่กลับสร้างแรงโจมตีมหาศาล มหาอสุรกายระดับเทพมารถูกทุบจนชะงักไปครู่หนึ่ง! และในชั่วจังหวะนั้นก็เพียงพอให้เยี่ยนอวี๋จู่โจมกลับ ขณะที่นางกำลังจะซัดมหาอสุรกายเทพมารนั้น…
ตู้ม!
มือของเยี่ยนอวี๋ยังไม่ทันถึงตัวมหาอสุรกายระดับเทพมารที่ลอบจู่โจมตนนี้ ฝ่ายหลังก็ถูกแสงสีแดงนับไม่ถ้วนแยกร่างออกจนสลายกลายเป็นส่วนหนึ่งของแดนมืดวิญญาณอสูรเสียแล้ว
ภาพเช่นนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋หันกลับไปมองต้าซือมิ่งทันที “หรงอี้!” นางมั่นใจว่าเขาคือคนที่ยื่นมือเข้ามา แต่นางไม่แน่ใจว่าคือเขาที่โหดเหี้ยมหรือเขาที่อ่อนโยน
แต่นางเพิ่งจะมีความคิดเช่นนี้ จู่ๆ เยี่ยนอวี๋ก็รู้สึกว่าจะเป็นเขาคนไหนก็ไม่สำคัญแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเขาที่โหดเหี้ยมหรือเขาที่อ่อนโยนนั่นก็คือเขา เขาคนนั้นที่ปกป้องนางด้วยสัญชาติญาณเสมอ
“มิน่าพวกมันจึงไม่จู่โจมข้าโดยตรง เพียงแค่ผ่านข้าไปเพื่อไปหาเจ้า” เยี่ยนอวี๋เข้าใจแล้ว นางเข้าใจทุกอย่างแล้ว
ทว่าเหล่ามหาอสูรไม่เข้าใจ หากพวกมันพูดได้ คงถามไปแล้วว่า ‘ท่านหรง! ท่านต้องการทำอะไรกันแน่ คนที่เรียกพวกข้าออกมาคือท่าน คนที่ฆ่าพวกข้าก็คือท่าน ท่านต้องการทำอะไรกันแน่! บอกหน่อยเถิด!?’
น่าเสียดายที่พวกมันพูดไม่เป็น พวกมันทำได้เพียงเคลื่อนไหวไปตามนั้น แต่ถึงแม้จะทำตามสัญชาติญาณ มหาอสุรกายทั้งสิบตนในบัดนี้ก็ถอยห่างไปเล็กน้อยและจ้องต้าซือมิ่งด้วยแววตาหวาดกลัว
แต่แล้ว ‘ต้าซือมิ่ง’ ก็ระเบิดเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ากำลังเร่งเร้าพวกมัน!
“เอ่อ…” ครานี้ตี้อั้นเข้าใจแล้ว มันจึงรู้สึกเห็นอกเห็นใจเหล่ามหาอสุรกาย “แม้ร่างอ่อนโยนจะกลายเป็นจักรพรรดิอสูรแล้ว เขาก็ยังจำสองแม่ลูกนี้ได้! อีกทั้งเขายังอนุญาตให้เทพธิดาจัดการมหาอสุรกาย กระทั่งฆ่ามหาอสุรกาย แต่ไม่ยอมให้พวกมัน ‘รังแก’ เทพธิดา แต่เขาก็ต้องการให้เหล่ามหาอสุรกายช่วยทำลายยันต์เหล่านี้?!”
“เป็นคำตอบที่ถูกต้อง แต่ไม่มีรางวัลให้หรอกนะ!” ลูกไก่สีเหลืองให้รางวัลความฉลาดของตี้อั้น “พ่อข้าเก่งเช่นนี้เอง!”
“ไม่! พ่อ เป่า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคิดว่าไม่ใช่พ่อตัวปลอมช่วยแม่ แต่เป็นพ่อรูปงามที่ช่วย!
ทว่าลูกไก่สีเหลืองไม่โต้เถียงเรื่องนี้ มันกำลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยด้วยความสนอกสนใจ “ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า ค้อนเมื่อครู่นี้สุดยอดไปเลย! นายท่านน้อย ท่านทำได้อย่างไรกัน”
“อ้อใช่!” ตี้อั้นเองก็เคลื่อนดวงตาสีแดงที่ตกตะลึงของตนไปมองเด็กน้อยผู้น่ารักน่าชัง ฝ่ายหลังกลับงงงันเช่นกัน “ก็ เขวี้ยงออกไป!”
“เขวี้ยงออกไปก็พอ?” ตี้อั้นอิจฉา “ใช้กันง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยความภาคภูมิ “แน่นอน! เหมือนพ่อ!”
“ข้าขอเล่นสักหน่อยได้หรือไม่” ลูกไก่สีเหลืองก็อิจฉา “ต่อไปข้าจะมีหรือไม่”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าสั่นศีรษะ “ไม่ได้แล้ว เป่าหิวแล้ว เจ้าเป็นไก่ ไม่มีแน่นอน”
“ทำไมเล่า นั่นก็พ่อข้าเช่นกันนะ!” ลูกไก่สีเหลืองอยากได้ค้อนอันจิ๋วสุดแจ๋วแบบนี้
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่มีเวลาสนใจมันแล้ว เขาหยิบเสบียงของตนออกมาและเริ่มกินขนมของตนเอง ง่ำๆ…
ลูกไก่สีเหลือง “…”
พี่ใจดำคนนี้นี่นะ!
“แบ่งให้ข้าชิ้นหนึ่งได้หรือไม่” ลูกไก่สีเหลืองที่ขอค้อนจิ๋วไม่ได้ก็เริ่มขอขนมแทน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็แบ่งให้เขาอย่างใจกว้าง ทำเอาตี้อั้นก็อยากได้สักชิ้น แต่มันรู้สึกอายที่จะต้องเอ่ยปากขอ ถึงอย่างไรแม้มันจะเป็นอสูรชั้นต่ำ แต่มันก็มีอายุหลายสิบปีแล้ว
ในขณะที่ฝั่งนี้ออกนอกเรื่องไปไกล…
เยี่ยนอวี๋ยังคงจับตามองมหาอสุรกายระดับเทพมารเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่ามหาอสุรกายเหล่านี้ก็กำลังเติมพลังเตรียมบุกทะลวงแนวป้องกันของเยี่ยนอวี๋ให้สิ้นในคราเดียว
เพียงแต่ว่าขณะที่เติมพลังเข้าไปเรื่อยๆ นั้นกลับกลายเป็นว่าทุกอย่างพลันทลายลงเกิดเสียงดังตูมตาม!?
“หืม?”
เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าในทีแรก แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นานนางก็พบเบาะแสบางอย่าง เพราะหลังจากที่มหาอสุรกายระดับเทพมารรวมถึงมหาอสุรกายแตกสลายไปนั้น พลังงานชั่วร้ายของขุมนรกแห่งความมืดอันบริสุทธิ์ที่หลงเหลืออยู่กลับ ‘ไหล’ ไปหาต้าซือมิ่งอย่างไร้สุ้มเสียง!?
การค้นพบเช่นนี้…
“แย่แล้ว!”
เยี่ยนอวี๋ที่คิดได้เช่นนั้นก็รีบหายตัวไปยังข้างกายต้าซือมิ่ง แต่เห็นได้ชัดว่าสายไปแล้ว
แซ่ด!
แซ่ด!…
พลังงานชั่วร้ายของขุมนรกแห่งความมืดที่มาจากการสลายร่างของมหาอสุรกายระดับเทพมารก็กัดกร่อนยันต์ศักดิ์สิทธิ์ของต้าซือมิ่งและเริ่มกลืนกินพลังงานเหล่านั้นแล้ว!
“ให้ตายเถอะ!” ขณะที่เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วสบถ นางก็พยายามทำลายพลังงานเหล่านี้ แต่พลังงานที่กัดกร่อนเข้าไปในยันต์ศักดิ์สิทธิ์ก็ผสานรวมเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์แล้วจึงไม่สามารถทำลายมันเดี่ยวๆ ได้ หากฝืนทำเช่นนี้ย่อมกระทบต่อโครงสร้างของยันต์ศักดิ์สิทธิ์
เพียงแต่ว่าเยี่ยนอวี๋ผู้เด็ดเดี่ยวก็คงต้องฝืนทำ! แม้จะต้องขูดกระดูกรักษาพิษก็ย่อมดีกว่าปล่อยให้มันกัดกร่อนจนหมด เรื่องหลังจากนั้นค่อยว่ากัน แต่ครั้นเยี่ยนอวี๋กำลังจะลงมือ ในขุมนรกแห่งความมืดก็เกิดความเคลื่อนไหวใหม่ นอกจากนี้…
“ข้าเอง!” เด็กน้อยยื่นมือน้อยๆ ของตนไปแตะอักษรศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกกัดกร่อนเหล่านั้นแล้ว
ครั้งนี้เยี่ยนอวี๋ห้ามไว้ทัน แต่กลับพบว่ามือนุ่มนิ่มของเด็กน้อยเพิ่งจะเข้าใกล้ พลังงานชั่วร้ายเหล่านั้นก็สลายไปเล็กน้อย?!
เยี่ยนอวี๋มั่นใจว่าตนเองดูไม่ผิด! นางจึงไม่ได้ห้ามเด็กน้อย เพราะว่านางคิดถึงจอกเพลิงปทุมที่กลายเป็นมารทว่านางก็ไม่วางใจอย่างเต็มที่ที่จะปล่อยให้เด็กน้อยแสดงฝีมือ นางจึงชี้แนะอยู่ข้างๆ ว่า “เสี่ยวเป่าไม่ต้องสัมผัสมัน ค้างไว้แบบนี้ก็พอ”
“ค้างไว้?” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังงุนงง แต่เขาก็เชื่อฟังท่านแม่ไม่ได้แตะลงไป เพียงแค่ยกมือค้างไว้เหมือนกับจะแตะลงไปเช่นนั้น
ปาฏิหาริย์ยังคงบังเกิด ร่างของเด็กน้อยเปล่งประกายแสงสีขาวด้วยตนเองอีกครั้งและแสงเหล่านี้แผ่กระจายไปทางกลุ่มอักษรศักดิ์สิทธิ์ผ่านมือน้อยๆ ของเขา ปัดเป่าพลังงานกัดกร่อนชั่วร้ายของขุมนรกแห่งความมืดเหล่านั้น
“อ้ะเนะ?!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองยังตกใจ “หายไป จริงๆ ด้วย!”
เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นของเขากำชับว่า “ใช่แล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว แม่ไปสู้กับปีศาจต่อนะ เสี่ยวเป่าช่วยพ่อเจ้าเช่นนี้ต่อไปนะ”
“ขอรับ ต้อง ต้องปกป้องแม่ด้วย!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่า ข้าเก่งที่สุด!
เยี่ยนอวี๋จูบใบหน้านุ่มๆ ของเด็กน้อย “อย่าฝืนตัวเองเกินไปล่ะ แม่เองก็เก่ง ไม่เป็นอะไรหรอก”
“ขอรับ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ทำให้เขาน่าเอ็นดูเป็นพิเศษ ทำเอาเยี่ยนอวี๋อดจูบเด็กน้อยอีกสองสามทีไม่ได้
ทว่าในครานี้เอง ต้าซือมิ่งก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว หัวสีแดงเพลิงของเขาจู่ๆ ก็พลันเปลี่ยนเป็นสีม่วงอร่ามจนเกิดเสียงดัง ฟู่ ในทันที?
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะโกนสุดเสียง “พ่อ! พ่อออ…”