ตอนที่ 408 รีบแต่งงาน! อสูรขุนเขาและท้องทะเลออกโรง!
อินสวินอี้สะดุ้งลุกพรวด! เพราะว่าเขารู้สึกค่อนข้างคุ้นหูกับเสียงนี้ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าฮ่องเต้หยวนคังอยู่ที่ไหน เขาย่อมตื่นตระหนกเป็นธรรมดา!
“มารดามันเถอะ! คงไม่ใช่หรอกนะ โยวตูของข้าอีกแล้วหรือ” อินหลิวเฟิงเกือบสะอึกอีกครั้ง
แต่เยี่ยนอวี๋เพียงแค่เลิกคิ้วมิได้เผยสีหน้ากังวลออกมา “มิต้องเป็นห่วง เสี่ยวอิงอยู่ในสภาพดีมาก ไม่ได้กลายเป็นมาร โยวตูจะไม่เป็นอะไร”
“แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ” อินสวินอี้ยังคงไม่วางใจ
ทว่าอิงหลงโบราณในครานี้ แน่นอนว่ามันไม่ได้สร้างภัยพิบัติแก่โยวตู และที่มันคำรามก็ไม่ได้เป็นเพราะนึกครึ้มใจอะไร ความจริงคือเป็นเพราะมันสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้ว!
เยี่ยนอวี๋เองก็รู้ว่าลูกน้องเก่าที่เพิ่งถูกชะล้างความชั่วร้ายออกไปไม่มีทางคำรามเพียงเพราะนึกครึ้มอกครึ้มใจ แต่นางก็มิได้รีบร้อนไปถาม
ทว่าราวกับว่าเด็กน้อยตกใจเสียง เขามุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่อราวกับหนอนตัวหนึ่ง ทำให้ต้าซือมิ่งยิ่งรู้สึกเหมือนกับเมื่อครั้งเพิ่งเจอเด็กน้อยไม่นาน แม้ตอนที่เด็กน้อยกระดึ๊บเหมือนหนอนมาข้างกายเขาจะมีอายุเพียงสองสามเดือน ซึ่งมีขนาดตัวเล็กกว่าตอนนี้มาก แต่ในสายตาของต้าซือมิ่งแล้ว เขาก็รู้สึกไม่ต่างกันเลย…
โชคดีที่เขาไม่ใช่พ่อมือใหม่แล้ว สามารถจัดการกับเด็กน้อยที่กระดึ๊บไปมาเช่นนี้ได้สบาย เขาไม่เพียงลูบหลังอันอ่อนนุ่มของเด็กน้อย ยังปลอบเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “โอ๋”
“พ่อ…” เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่ลืมเรียกพ่อแม้ขณะที่หลับอยู่อย่างรู้สึกไม่ปลอดภัย
ต้าซือมิ่งรวบตัวเด็กน้อยเล็กน้อย “พ่ออยู่นี่ ไม่เป็นอะไรนะ”
“แม่…” เด็กน้อยพึมพำเรียกแม่ มิได้เลือกที่รักมักที่ชัง
เยี่ยนอวี๋ก็ขานตอบและปลอบเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน “แม่ก็อยู่นี่จ๊ะ”
เด็กน้อยคว้าตัวแม่ของเขาด้วยสัญชาติญาณ ฝ่ายหลังก็วางมือไว้ข้างหน้าเด็กน้อยอย่างให้ความร่วมมือ เด็กน้อยจับมือนางและแขนของท่านพ่อเข้ามากอดเข้าด้วยกัน
เยี่ยนชิงดูถึงตรงนี้ก็ถือโอกาสพูดถึงงานสมรสของทั้งสอง “หลังจากจัดการฮ่องเต้หยวนคังเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าสองคนก็แต่งงานกันเถอะ” เขาเห็นว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เองก็เปิดใจรับว่าที่ลูกเขยคนนี้แล้ว
ครั้งนี้ต้าซือมิ่งยังไม่ทันได้พูดอะไร เยี่ยนอวี๋ก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “อืม ท่านพ่อเลื่อนวันขึ้นมาให้เร็วกว่านี้สักเล็กน้อยเถอะ”
เยี่ยนชิง “…”
ออกไปครานี้กลับมาบุตรสาวสุดที่รักตั้งตารอแต่งออกแล้วหรือ ก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นเช่นนี้เลย เห็นได้ว่าหรงอี้เจ้าคนบัดซบนี่ทำอะไรลงไปแน่นอน
“ช้าหน่อยก็ใช่ว่าไม่ดีเสียหน่อย ถึงอย่างไรก็ตกลงว่าจะแต่งอยู่แล้ว ก็ไม่ได้รีบร้อนมากอยู่แล้วนี่” เยี่ยนชิงที่รู้สึกหวานอมขมกลืนก็รู้สึกเสียใจที่พูดถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมา
แต่แล้วเยี่ยนจื่อเสาก็ ‘ทรยศ’ พ่อเฒ่า “ท่านพ่อ ท่านปากไม่ตรงกับใจอีกแล้ว ท่านเตรียมสินเดิมให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไว้แล้วนี่ขอรับ”
“พ่อเสียใจตอนนี้ไม่ได้หรือไง!” เยี่ยนชิงได้เหตุผลจัดการลูกอีกหนึ่งเรื่องแล้ว
เยี่ยนจื่อเยี่ยได้แต่ส่ายศีรษะแทนน้องรองผู้โง่เขลา ในขณะเดียวกันก็เป็นคนแรกที่ถามว่า “น้องเขยเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง แก้ปัญหาเรียบร้อยหรือยัง”
สองพ่อลูกอินสวินอี้ได้ยินดังนั้นก็เหงื่อตก เพราะพวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่าต้าซือมิ่งเป็นอะไร ทว่าทั้งสองก็เดาได้ว่า ‘การหายตัวไป’ ของทั้งสองท่านนี้ต้องไปทำการใหญ่มาแน่ๆ ตอนนี้ดูท่ายังเกี่ยวข้องกับต้าซือมิ่งด้วย
“แก้ไขแล้วเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ตอบ ส่วนเรื่องความจำ…
เยี่ยนอวี๋เหลือบมองต้าซือมิ่ง ฝ่ายหลังเองก็กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่พอดี เขามองตอบด้วยดวงตาที่ยังคงเศร้าสลดราวกับเต็มไปด้วยความรู้สึกนับพัน
“แค่ก!” เยี่ยนอวี๋เบือนหน้า “ตอนนี้เหลือเพียงปัญหาเรื่องฮ่องเต้หยวนคัง ต้าซย่าก็จะพ้นภัยแล้ว”
เยี่ยนจื่อเยี่ยเห็นว่าความรักของทั้งสองดีขึ้นกว่าก่อนที่จะไปแดนมืดวิญญาณอสูรมาก เขารู้ว่าเป็นเพราะทั้งสองฟันฝ่าเหตุการณ์ร้ายแรงมาด้วยกัน มิเช่นนั้นคงไม่มีความคืบหน้ารวดเร็วเช่นนี้
นี่คือสิ่งที่เยี่ยนจื่อเยี่ยอยากจะเห็น ในเมื่อเป็นคนที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันตลอดชีวิต การมีความรักยิ่งแน่นแฟ้นย่อมยิ่งดี มิหนำซ้ำหนทางในอนาคตของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เกรงว่าคงไม่ใช่ที่ที่พี่ชายเช่นเขา หรือท่านพ่อและน้องสามารถอยู่เคียงข้างได้ ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ คนที่สามารถอยู่เคียงข้างเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้จะมีเพียงน้องเขยคนนี้แล้ว ดังนั้น… เมื่อเยี่ยนจื่อเยี่ยคิดถึงตรงนี้ก็พูดขึ้นว่า “แต่งเร็วหน่อยก็ดี”
และสิ่งที่เยี่ยนจื่อเยี่ยคิดก็เป็นสิ่งที่เยี่ยนชิงคิดถึงตั้งแต่แรกเช่นกัน มิเช่นนั้นเขาคงไม่กล่าวถึงพิธีสมรส เพียงแต่ว่าเมื่อต้องพูดออกมาจริงๆ เขาก็ยังคงรู้สึกอาวรณ์บุตรสาวสุดที่รัก
ทว่าในตอนนี้… เยี่ยนชิงได้แต่เก็บอารมณ์ที่อยากจะจัดการบุตรชายไว้ กล่าวว่า “ไปเถอะ ข้าพาพวกเจ้าไปหาท่านแม่ของพวกเจ้า”
“ปล่อยข้าและหลิวเฟิงตามอัธยาศัยเถิด” อินสวินอี้พูดขึ้นทันที ในขณะเดียวกันก็พาอินหลิวเฟิงไปด้วย เขาอยากให้เจ้าหมอนี่พาเขาผู้ซึ่งมาสำนักชางอู๋เป็นครั้งแรกเดินชมสำนักชางอู๋สักเล็กน้อย
ส่วนจิ่วอิง มันหนีไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่มันพบว่าต้าซือมิ่งกำลังจะมา มันก็หนีไปแล้ว…
เพียงแต่ว่าอินสวินอี้เพิ่งจะเอ่ยขอตัว ลูกไก่ที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นว่า “แล้วข้าล่ะ”
“เฮ้ย!” อินหลิวเฟิงตะลึงงัน แต่เดิมเขาคิดว่าลูกไก่จิ้มลิ้มตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของคุณชายน้อย เพราะลูกหนูกลายเป็นจิ่วอิงไปแล้ว กอดไว้ไม่ได้แล้ว ใครจะไปคิดว่า… เหมือนกับว่ามันจะไม่ได้เป็นเพียงไก่บ้านธรรมดาๆ
เยี่ยนจื่อเสาเองก็อดถามไม่ได้ “หรือว่ามันเหมือนจิ่วอิง เป็นอะไรนั่นเหมือนกัน?”
“อืม” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า “ลูกไก่มีสายเลือดสามมหาอสุรกายดุร้าย อีกทั้งยังสืบทอดทักษะส่วนหนึ่งของจักรพรรดิอสูร”
“…” ทุกคนในห้องตาเหลือกตาพอง
แม้ว่าสุดท้ายแล้วเยี่ยนชิงจะพาทุกคนไปหน้าหลุมศพของภรรยาสุดที่รักได้ด้วยสัญชาติญาณ เขาก็ยังตะลึงเช่นกัน “เจ้าดูสิ วันๆ พวกเจ้าให้เสี่ยวเป่าเล่นอะไรกัน”
ลูกหนูก่อนหน้านี้คือจิ่วอิงอ๋องสุดยอดอสูรดุร้าย!
ลูกไก่ตอนนี้คือสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าที่รวมความดุร้ายทุกประเภทไว้!
ครั้งแรกที่เจ้าสองตัวนี้ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน พวกมันอยู่ในอ้อดกอดของเจ้าตัวน้อยทุกครั้ง ทว่าลูกไก่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เยี่ยนชิงพูด “ข้าไม่ได้ให้พี่เสี่ยวเป่า ข้าฟักตัวเองออกมาเอง!”
“ก็ได้ๆ” เยี่ยนชิงปาดเหงื่อ หวังว่าหลังจากที่ภรรยาเห็นบุตรสาวแล้วจะไม่ตกใจกับวิธีการเลี้ยงบุตรของทั้งสองคนจนรู้สึก ‘ไม่สบายใจ’
เมื่อเยี่ยนชิงพาทั้งครอบครัวไปไหว้จางอวิ๋นเมิ่ง อิงหลงโบราณในโยวตูที่อยู่ไกลออกไปก็มั่นใจในสิ่งที่ตนเองพบแล้วจึงส่งสาส์นให้เยี่ยนอวี๋ผ่านอากาศ
ตอนนั้นเยี่ยนอวี๋เพิ่งจุดธูปไหว้จางอวิ๋นเมิ่งเสร็จ กำลังจะปลุกเด็กน้อย เสียงของอิงหลงโบราณก็ดังขึ้น “นายหญิง ข้าน้อยพบว่าธาตุน้ำทั้งหมดในต้าซย่าไหลไปยังสถานที่แห่งหนึ่งอย่างแผ่วเบา”
“สถานที่แห่งหนึ่งหรือ” เยี่ยนอวี๋จับประเด็น
ในขณะเดียวกัน…
“รายงานขอรับ!”
เสียงรายงานด่วนจากสำนักดังขึ้นข้างนอกสุสานจางอวิ๋นเมิ่ง
เยี่ยนชิงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ทุกคนในสำนักรู้ดีว่าห้ามรบกวนเขาเวลาที่เขาอยู่ที่นี่กับภรรยา นอกเสียจากว่ามีเรื่องสำคัญมากจริงๆ
เยี่ยนชิงจึงไม่ได้ปล่อยให้เด็กๆ อยู่ต่อ เขาหันไปลูบแผ่นหินจารึกของภรรยาสุดที่รักกล่าวว่า “เมิ่งเอ๋อร์ สำนักมีธุระ เรากลับไปจัดการก่อน เมื่อจัดการเสร็จแล้ว ข้าค่อยพาเด็กๆ มาเยี่ยมเจ้านะ”
แม้จะผ่านไปหลายปี เยี่ยนชิงยังคงเป็นดังเช่นเมื่อก่อน ไม่ว่าทำเรื่องใดก็ตามเขาจะคอยรายงานทุกสิ่งกับภรรยาอย่างละเอียดราวกับว่านางยังอยู่
เยี่ยนจื่อเยี่ยและเยี่ยนจื่อเสาชินแล้ว แต่เยี่ยนอวี๋ที่เห็นเป็น ‘ครั้งแรก’ นางก็อดสงสารท่านพ่อเจ้าน้ำตาที่เสียคนรักไปไวไม่ได้ นางจึงบีบมือของคนที่จับมือนางไว้แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“นายหญิง?” อิงหลงโบราณทางนั้นหลังจากรายงานแล้วไม่ได้เสียงตอบรับก็ส่งกระแสจิตมาด้วยความสงสัย เยี่ยนอวี๋จึงตั้งสติได้ “เจ้ามั่นใจตำแหน่งแล้วหรือ”
“พอจะมั่นใจแล้วขอรับ น่าจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นอกเขตต้าซย่า”
เยี่ยนอวี๋พยักหน้า จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงเดินออกไปจากสุสานของท่านพ่อ และเสียงรายงานที่น่าจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่นางได้รับรายงาน “เจ้าสำนัก! พบจดหมายฉบับหนึ่งที่ประมุขหอราชทัณฑ์ทิ้งไว้ นี่ขอรับ!”
เยี่ยนชิงรีบรับจดหมายมาทันที เขารู้ทันทีว่าเป็นจดหมายจากประมุขหอราชทัณฑ์ที่หายตัวไป ในนั้นมีเนื้อความว่ากองทัพค่ายตะวันตกที่นำโดยเฉิงคั่วเบี่ยงเบนจากเส้นทางที่กำหนด สงสัยว่ามีจุดประสงค์อื่น เขาเตรียมจะตรวจสอบให้รู้เรื่อง!
เห็นได้ชัดว่าตอนที่ส่งจดหมายฉบับนี้ออกมา ประมุขหอราชทัณฑ์จับความผิดปกติบางอย่างได้แล้ว เขาใช้วิธีส่งจดหมายแบบพิเศษจึงโชคดีที่เก็บรักษาจดหมายไว้ได้ แต่เรื่องหลังจากนั้น…
“เกรงว่าประมุขหอราชทัณฑ์คงเกิดเรื่องแล้ว” เยี่ยนจื่อเยี่ยที่อ่านจดหมายฉบับนั้นแล้วก็รู้ดีว่า หากประมุขหอราชทัณฑ์ไม่รู้เรื่องทั้งหมด บางทียังพอมีโอกาสรอด แต่ตอนนี้เขาจับสังเกตแล้ว เกรงว่าคงไม่มีทางรอดไปได้
“ไม่รู้ว่าแม่ทัพเฉิงคั่วไปทางไหนแล้ว! ไม่มีร่องรอยให้ติดตามได้เลย!” เยี่ยนชิงนัยน์ตาเคร่งขรึม
เยี่ยนอวี๋กลับพูดขึ้นว่า “อาจจะไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้”
“ใช่แล้ว เฉาหู” ต้าซือมิ่งเอ่ยชื่อสถานที่ออกมาด้วยเสียงสง่า ดวงตาที่มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขากำลังค่อยๆ กลายเป็นสีแดงด้วยความโหดเหี้ยม!
จากนั้น…