ตอนที่ 424 สวรรค์เก้าชั้นฟ้าขัดขวางภรรยา! ข้าจะทำลายทิ้ง!
สิ่งที่ทำให้ชาวเมืองไป๋เฟิงที่อยู่ใกล้กับเยี่ยนอวี๋หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้คือ เสียงเล็กเสียงน้อยที่ดังตามหลังเสียงของเทพธิดาผู้งดงามขึ้นมาว่า “ไส ไสหัวออกมา!”
ชาวเมืองไป๋เฟิงจึงเห็นว่าบนศีรษะของอสูรขนาดใหญ่ดูดุร้ายนั่นมีทารกน้อยน่ารักน่าชังงดงามดั่งภาพวาดนั่งอยู่!?
“เอ่อ!”
หลายๆ คนคิดว่าตนเองตาฝาด แต่หลังจากพวกเขาขยี้ตาเสร็จแล้วก็พบว่าพวกเขาไม่ได้ตาฝาด บนศีรษะของอสูรดุร้ายจิ่วอิงมีทารกน้อยนั่งอยู่บนนั้นจริงๆ และยังเป็นทารกงดงามที่สวมชุดสีแดงวิจิตรด้วย
การรวมตัวกันของกลุ่มคนดังกล่าวทำให้ผู้พบเห็นตะลึงมากพอแล้ว แต่ดันมีลูกไก่สีเหลืองนวลอีกหนึ่งตัว มันก็พึมพำอย่างดุร้ายว่า “เจ้าเมืองเยี่ยน! ยังไม่รีบออกมาตายอีก!”
เช่นนี้มัน…
“ข้าคิดว่ามันหลุดโลกเกินไปหน่อยแล้ว กูไหน่ไน” อินหลิวเฟิงอดพูดไม่ได้ แม้เจ้าตัวเล็กทั้งสองจะพูดอย่างดุร้าย! แต่ปวกเปียกเกินไป ไม่มีความน่าเกรงขามเลยจริงๆ
เอ้อร์เหมาไม่ได้พูดอะไร แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าตื่นเต้นดีใจจนพูดคล่องแล้ว “ไสหัวออกมา!”
เยี่ยนอวี๋คิดว่าตนเองสอนเด็กน้อยไม่ดี กำลังจะบอกเด็กน้อยว่าเราจะไม่เรียกเช่นนี้แล้ว ทว่าจิ่วอิงก็เปิดกล่องเสียงทั้งเก้าตะโกนออกไปว่า “เจ้าเมืองสุนัข! ไสหัวออกมา…”
“ฮ่า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจแทบบ้า รู้สึกว่าจิ่วอิงคำรามได้สง่างามยิ่งนัก
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการเรียนรู้ของเด็กน้อย
ต้าซือมิ่งโอบภรรยาเข้ามาในอ้อมแขน ยิ้มจางๆ พูดว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ จิ่วอิงรู้ว่าจวนเจ้าเมืองอยู่ที่ไหนแล้ว กำลังมุ่งหน้าไป”
เยี่ยนอวี๋เม้มปากเล็กน้อย นางยกมือขึ้นโอบคอของต้าซือมิ่งไว้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังอิงไหล่ของเขา “เสี่ยวเป่าไม่เป็นอะไรจริงๆ หรือ”
บัดนี้เด็กน้อยร่าเริงขึ้นทุกวัน เยี่ยนอวี๋ก็อดคิดถึงเมื่อครั้นเขาเพิ่งลืมตาดูโลกไม่ได้ เขาดูโง่เขลาจริงๆ นอกจากรู้ว่าหิวแล้วต้องกิน ที่เหลือก็ดูเชื่องช้าซื่อบื้อมาก
ต้าซือมิ่งที่หลุบตามองภรรยาก็หรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะจูบหน้าผากใสเนียนของภรรยา นิ้วโป้งของเขาลูบไล้ริมฝีปากที่ถูกทาด้วยผงชาดจนแดงระเรื่อชวนหลงใหล ทำเอาเขาอดใจลอยไม่ได้ วันนี้ควรจะเป็นวันสมรสของเขาและภรรยา ได้เข้าเรือนหอด้วยกัน แต่แม้จะใจลอย ภายนอกต้าซือมิ่งยังคงขานตอบอย่างหนักแน่นว่า “แม้จะเป็นอะไรจริงๆ ก็มีข้าอยู่ ไม่เป็นอะไรมากหรอก”
อันที่จริงตั้งแต่ที่เทพตกสวรรค์เอ็ดตะโรว่าสายเลือดเสี่ยวเป่ามีปัญหา ต้าซือมิ่งก็ไตร่ตรองดูแล้ว เขาจึงมั่นใจว่านี่เป็นสาเหตุที่ครานั้นเขาพิสูจน์สายเลือดแล้ว เลือดของเด็กน้อยไม่สามารถหลอมรวมกับเลือดของเขาได้
อีกทั้งตลอดสามวันที่ผ่านมา เขาผู้ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวที่ว่างมากก็ทำการพิสูจน์สายเลือดของเด็กน้อยอีกครั้ง และในบัดนี้…
“เจ้าดูสิ” ต้าซือมิ่งที่สังเวยเลือดหยดหนึ่งออกมาก็นำเลือดที่อยู่เหนือฝ่ามือของเขาแสดงให้ภรรยาดู และบอกใบ้ว่า “เจ้าลองสัมผัสดู”
“?” แม้เยี่ยนอวี๋ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามนั้น
จากนั้นนางก็พบว่า ในเลือดหยดนี้ นางไม่เพียงสัมผัสถึงกลิ่นอายของต้าซือมิ่งคนนี้ได้ นางยังสัมผัสถึงกลิ่นอายของเด็กน้อยได้เช่นกัน ดังนั้นนี่คือ…
“เลือดของข้าและเสี่ยวเป่าหลอมรวมกันได้แล้ว” ต้าซือมิ่งที่จูบจอนผมของภรรยาพลางอธิบายก็พูดช้าๆว่า “ยังจำเมื่อครั้นเจ้าใช้ท่าเทวาอัสดงกับข้าได้หรือไม่ว่าเพราะอะไร”
เยี่ยนอวี๋ย่อมจำได้! นางจึงเข้าใจในทันที “ครานั้นเจ้าเจาะเลือดเสี่ยวเป่าเพราะต้องการตรวจสอบว่าเลือดของเขาเข้ากับเลือดของเจ้าได้หรือไม่หรือ”
“อืม” หรงอี้พยักหน้าเล็กน้อย “ถึงอย่างไรข้าก็จำอะไรไม่ได้เลย แต่เดิมอยากจะหาหลักฐานให้เจ้าเสียเล็กน้อย เผื่อว่าเจ้าจะไม่เชื่อ แต่ไม่คิดว่าเจ้าเห็นหน้าข้าก็เชื่อทุกอย่างแล้ว”
“…” เยี่ยนอวี๋รู้สึกว่าคำพูดของชายคนนี้เหมือนกำลังว่านางเป็นหญิงเจ้าชู้ เห็นผู้ชายแล้วอะไรก็ง่ายไปหมด แต่อันที่จริงนางเพียงแค่มองก็รู้ว่าเด็กน้อยและชายคนนี้หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะจึงยอมรับเขาต่างหาก!
แต่เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เยี่ยนอวี๋ที่จับใจความสำคัญได้ก็ถามต่อไปว่า “ดังนั้นในครานั้นเลือดของเจ้าและเสี่ยวเป่าอันที่จริงยังเข้ากันไม่ได้หรือ”
“ใช่แล้ว” ต้าซือมิ่งมิได้ปิดบัง “หากไม่ใช่เพราะลูกหน้าตาเหมือนข้าและพยายามเข้าหาข้าเช่นนี้ เกรงว่าชาตินี้ข้าคงงมโข่งอยู่เลย แต่สายเลือดตระกูลหรงของข้ามีพรสวรรค์ล้นเหลือ แม้สายเลือดลูกมีปัญหา เขายังคงสัมผัสได้ว่าข้าคือพ่อของเขา และตราบใดที่เขามาอยู่กับข้าแล้ว ปัญหาสายเลือดในร่างกายเขาก็จะค่อยๆ ถูกแก้ไข เพราะว่าไม่มีพลังใดสามารถเหนี่ยวรั้งพลังสายเลือดตระกูลหรงของข้าได้”
เยี่ยนอวี๋ชะงักเล็กน้อย นางสัมผัสถึงความภาคภูมิและความมั่นใจของชายคนนี้จากคำพูดเหล่านี้! นางรู้สึกวางใจลงทันที
“มิหนำซ้ำเสี่ยวเป่าไม่ได้มีเพียงสายเลือดของข้า ยังมีของเจ้าด้วย เจ้าคิดว่าใต้หล้านี้มีพลังใดสามารถกักขังพลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าได้หรือ” ต้าซือมิ่งถามกลับ
และในครั้งนี้…
“ไม่มี”
เยี่ยนอวี๋ที่มั่นใจเช่นกันก็มั่นใจในพลังของตนเองเช่นเดียวกับต้าซือมิ่ง แต่ในฐานะที่เป็นมารดา สาเหตุที่นางกังวลมาจากสองเรื่อง
“แต่เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าข้าก็แค่จิตวิญญาณที่กลับคืนสู่ร่างตอนที่ตั้งครรภ์ ซึ่งมีสภาพต่างจากเมื่อครั้นข้ายังอยู่จุดสูงสุดมาก ส่วนเจ้า เกรงว่าครานั้นเจ้าก็อยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก” เยี่ยนอวี๋รู้สึกกังวลใจตลอดเวลาเพราะเหตุผลสองอย่างนี้ ถึงอย่างไรนี่ก็คือตัวแปรสองเรื่องใหญ่! ต้าซือมิ่งเองก็เข้าใจ
ดังนั้นเมื่อเขาลูบไล้ใบหน้าที่สง่าราวกับกระเบื้องเคลือบของนางก็พูดชัดถ้อยชัดคำว่า “แต่พวกเรามายังสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้วมิใช่หรือ พวกเราจะจับตัวเทพตกสวรรค์องค์นั้นได้ในอีกไม่ช้า ถึงครานั้นหากเสี่ยวเป่าไม่มีปัญหาอะไรย่อมดีที่สุด หากมีก็สามารถแก้ไขให้สิ้นได้”
“อืม” เยี่ยนอวี๋ที่จู่ๆ ก็กอดชายคนนี้แนบแน่นเข้าใจทุกอย่างดี เพียงแต่ลูกของนางคือสายใยแรกที่นาง ‘คลอด’ ออกมาในฐานะที่เป็นเทพมาหลายปี นางรักเด็กน้อยของนางมากจริงๆ นาง…
“ข้าเกลียดเทพองค์นั้นจริงๆ” เยี่ยนอวี๋พึมพำในอ้อมอกของต้าซือมิ่งด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าว แม้แต่เสี่ยวเป่าเพียงหนึ่งเดียวของนางยังกล้าแตะต้อง! นางจะต้องทำให้เทพองค์นั้นเสียใจ!
และในครานี้เอง ต้าซือมิ่งที่ฟังน้ำเสียงของภรรยาออกว่าแฝงไปด้วยความคับข้องใจ เกลียดชังและยังเจือไปด้วยความออดอ้อนจึงกอดนางไว้แน่น “ภายในสามวัน เราจับตัวเขาออกมาให้ได้”
“ดี!” เยี่ยนอวี๋ไม่อยากรอแม้แต่นาทีเดียว
ดังนั้นนางจึงไม่ได้ห้ามจิ่วอิงแผลงฤทธิ์ มิหนำซ้ำยังกระตุ้นให้มันดุร้ายยิ่งกว่าเดิม!
สำหรับเยี่ยนอวี๋แล้ว ถึงแม้นางจะมีความรับผิดชอบต่อสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แต่นางมีความรับผิดชอบต่อเด็กน้อยที่นางคลอดออกมาเองในฐานะมารดายิ่งกว่า!
หากว่า… สวรรค์ชั้นเก้าเน่าเฟะจนกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการตามหาตัวร้าย เช่นนั้นนางก็เต็มใจที่จะทำลายสวรรค์เก้าชั้นฟ้านี้และสร้างสวรรค์ขึ้นใหม่!
หรงอี้ที่รับรู้สิ่งนึกคิดของภรรยาได้ เขาก็บรรจงจูบลงไปที่ระหว่างคิ้วของนาง “ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า”
จะทำลายสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็ดี! จะขจัดล้างส่วนที่เน่าเสียออกก็ดี… เขาจะอยู่เคียงข้างนางเสมอ
แม้ประโยคหลัง ต้าซือมิ่งจะไม่ได้พูดออกมา แต่ความเงียบเอาชนะเสียงใดๆ เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ นางจึงกอดชายคนนี้ไว้แน่นเช่นกัน นางชอบความรู้สึกที่นางไม่ต้องพูดอะไร เขาก็รับรู้และเข้าใจได้ทั้งหมดจริงๆ
“สามี”
เยี่ยนอวี๋เปล่งเสียงเรียก ‘สามี’ ออกมาเบาๆ และนุ่มนวลทว่าเต็มไปด้วยความรักอาวรณ์ เป็นรสชาติที่ต้าซือมิ่งต้องการ มันทะลวงเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจเขา!
“อืม!”
ต้าซือมิ่งก้มจูบใบหูของนางอย่างอดกลั้นไม่อยู่ เขาเพียงต้องการกอดเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ที่เนื้อตัวอ่อนนุ่มนี้เข้าไว้แนบแน่น
ช่าง… ไม่มีส่วนใดที่ไม่น่าพอใจเลย
ชอบมากจริงๆ
…
ในขณะที่สองสามีภรรยาหัวใจละลายอยู่นั้น จิ่วอิงก็พาเจ้าตัวน้อยทั้งสองกวาดล้างเทพที่ถูกส่งออกมาจากจวนเจ้าเมืองภายใต้สายตาตะลึงงันของอินหลิวเฟิง เอ้อร์เหมาและเทพไร้ประโยชน์สององค์!
ครานี้เอง…
“รายงานขอรับ…”
“รายงานท่านเจ้าเมือง! เทพเถื่อนแดนมนุษย์บุกมาถึงจวนเจ้าเมืองแล้วขอรับ!”
“รายงานขอรับ…”
ตู้ม!
เสียงรายงานสุดท้ายถูกป้ายสดุดีหน้าจวนหล่นทับลงมาจากข้างนอกจวนเจ้าเมือง! เรือนรับรองทั้งเรือนพังทลายทันที
“เจ้าเมืองเยี่ยน ไสหัวออกมาให้ปู่จิ่วของเจ้าเดี๋ยวนี้” เสียงคำรามดุร้ายของจิ่วอิงดังตามมา ทำเอาเหล่าผู้น้อยใหญ่จวนเจ้าเมืองที่ตกตะลึงอยู่แล้วยิ่งตะลึงหนักกว่าเดิม! เพราะว่าเสียงรายงานครั้งที่สองห่างจากครั้งแรกไม่นานมากนัก ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชาด้วยซ้ำ เทพอาวุโสที่คุยโวยกยอเยี่ยนชื่อเฟิงในงานเลี้ยงเพิ่งจะดื่มสุรากับเยี่ยนชื่อเฟิงหมดไปหนึ่งจอกเท่านั้น!
นี่มัน…
เยี่ยนชื่อเฟิงที่ตั้งสติได้ก่อนผู้ใดก็ตะเบ็งเสียงดังก้องท้องฟ้า “คนถ่อยจากที่ใด บังอาจทำตัวถ่อยถึงจวนเจ้าเมืองของข้า!”
เยี่ยนชื่อเฟิงพูดพลางก้าวออกไปบนท้องฟ้า จากนั้นเขาก็ต้องตกตะลึงกับความงามของปฐมราชินีเยี่ยน!