ตอนที่ 428 มาเท่าไรตายเท่านั้น! สองสามีภรรยาสุดโหด (2)
ซู่!
เมืองไป๋เฟิงทั้งเมืองสั่นไหวตามทันที! พื้นดินของเมืองบิดเบี้ยวเป็นโพรงเหมือนรากต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันรวมตัวกันอย่างรวดเร็วไปทางกลุ่มคนเยี่ยนอวี๋ ทำเอาชาวเมืองที่ผ่านมามุงดูต่างตกใจ
“ท่านเทพผิงเฉิงเริ่มแผลงพลังพิพากษาแดนเทพแล้ว!”
“ด้วยความสามารถของเมืองไป๋เฟิงของข้า จับกุมได้แม้แต่มหาเทพ คนกลุ่มนี้หนีสวรรค์ไร้ประตู หนีแผ่นดินไร้หนทางแล้ว” แม้ชาวเมืองเมืองไป๋เฟิงยังไม่ใช่เทพทั้งหมด แต่พวกเขาก็รู้ดีว่า สวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่อยู่ในเขตปกครองของสวรรค์โดยตรง เมืองเทพแต่ละเมืองไม่เพียงมีพลังป้องกันอันแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต้านทานการโจมตีของมหาเทพได้ อีกทั้งภายใต้การควบคุมของเจ้าเมือง เมืองเทพส่วนหนึ่งยังมีความสามารถในการโจมตีมหาเทพอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเมืองไป๋เฟิงเพียบพร้อมพลังการโจมตีเช่นนี้! แต่เนื่องจากความสามารถที่แท้จริงของเยี่ยนชื่อเฟิงยังไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นท่านเทพ ดังนั้นอันที่จริงเขาจึงไม่สามารถกระตุ้นใช้งานพลังการโจมตีของเมืองไป๋เฟิงได้
ทว่าท่านเทพซ่านเฉิงสามารถทำได้ แต่เขาไม่มีอำนาจในการใช้งาน! มีเพียงท่านเทพผิงเฉิง เนื่องจากเขาเป็นบิดาของเยี่ยนชื่อเฟิง และยังเป็นอดีตเจ้าเมืองแห่งเมืองไป๋เฟิง บัดนี้เขายังคงมีอำนาจ และสามารถเปิดใช้งานการโจมตีของเมืองไป๋เฟิงได้
ดังนั้นท่านเทพผิงเฉิงจึงกล้านำอยู่ด้านหน้าสุด! เพียงชั่วพริบตา… ท่านเทพผิงเฉิงในบัดนี้ก็เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วทั้งเมือง “ตายซะเถอะ!”
ครืน!
ครืนครั่น!
เหล่าผู้น้อยใหญ่ในเมืองไป๋เฟิงในบัดนี้รู้สึกได้ถึงพลังเทพอันดุร้ายราวกับพายุหมุนโหมพัดไปทางกลุ่มเยี่ยนอวี๋
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้งคือ ไม่ว่าจะเป็นหญิงงามผู้ซึ่งยืนอยู่บนหลังของจิ่วอิงหรือจะเป็นหนุ่มสง่าอุ้มลูก หรือแม้แต่สาวใช้ที่แบกดาบเล่มใหญ่คนนั้น รวมถึงไก่อ่อนที่ดูไม่เหมือนเทพเลยตัวนั้น พวกเขาล้วนสงบนิ่งเหลือเกิน…
!?
ทั้งๆ ที่พลังแห่งสวรรค์อันบ้าคลั่งดุจพายุหมุนกำลังจะโค่นล้มทุกสิ่ง อีกเพียงไม่นานพวกเขาก็จะถูกซัดจนไม่เหลือแม้แต่เศษซากแล้ว แต่พวกเขากลับไม่ป้องกัน และยังมองท่านเทพผิงเฉิงที่กำลังสู้สุดกำลังอย่างนิ่งเฉย
เอ่อ…
นี่เป็นการต่อสู้ที่เหล่าชาวเมืองไป๋เฟิงรู้สึกเหลือเชื่อมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมาอย่างมิต้องสงสัย! แต่พวกเขาไม่ทันได้กะพริบตามองกลุ่มคนที่ ‘รุกราน’ เมืองไป๋เฟิงเหล่านี้ว่าพวกเขาเฉยเมย ไร้ความรู้สึก หรือประมาทเลินเล่อจริงๆ หรือไม่ เหตุการณ์ก็สงบลงแล้ว…
“เอ่อ!?”
ชาวเมืองเมืองไป๋เฟิงงุนงงอีกครั้ง! ไม่มีผู้ใดเห็นสิ่งใดชัดเจนเลย แม้แต่ท่านเทพซ่านเฉิงเองก็ไม่เห็นเช่นกัน!
ในขณะดียวกัน…
“เนะ!”
เยี่ยนอวี๋เดินลงมาจากหลังของจิ่วอิง และเมื่อนางเหยียบลงบนพื้นแล้ว…
ซู่!
ส่วนที่นูนขึ้นคล้ายรากบนพื้นดินของเมืองไป๋เฟิงซึ่งถูกกระตุ้นโดยท่านเทพผิงเฉิงก็ ‘หด’ กลับไปอย่างรวดเร็วราวกับเจอดาวข่ม!
“นี่มัน…”
ท่านเทพซ่านเฉิงมองภาพตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ เขารู้สึกประหลาดใจมากนัก แต่ความจริงก็เป็นดังเช่นนี้ อีกทั้งเท่านี้ยังไม่พอ สิ่งที่ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์ตะลึงที่สุดคือ เมื่อเยี่ยนอวี๋เปล่งเสียงอันเย็นชาขึ้นว่า
“ออกไปซะ!”
ซู่!
ซู่ๆๆ!…
รากของเมืองทั้งเมืองก็พลันล่าถอย! การโจมตีที่เกิดขึ้นจากเมืองสวรรค์ก็ย่อมหายไปพร้อมกัน
ไม่เพียงเท่านี้ ต้นไม้โบราณไป๋เฟิงสีขาวมโหฬารที่งอกเงยขึ้นในเมืองราวกับเป็นเทพพิทักษ์เมืองไป๋เฟิงก็แห้งเหี่ยวหายไป แม้แต่เงาก็ไม่มีให้เห็น
ครานี้อย่าพูดถึงเลยว่าท่านเทพซ่านเฉิงตะลึงงันเพียงใด ท่านเทพผิงเฉิงที่ระเบิดพลังสุดกำลังกระตุ้นพลังการโจมตีทั้งหมดของเมืองสวรรค์ก็ยิ่งงงงันจนเบิกตาโพลง “เป็นไปได้อย่างไร!?”
“ไป๋เฟิง!” ท่านเทพผิงเฉิงที่ไม่เชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า เขาก็พยายามกระตุ้นและสื่อสารกับมันอีกครั้ง ทว่าเมืองไป๋เฟิงไร้ซึ่งการตอบสนองใดๆ
เยี่ยนอวี๋จ้องท่านเทพผิงเฉิงอย่างเยือกเย็น “เจ้าน่ะหรือ คู่ควรกับไม้โบราณเมืองสวรรค์”
เมื่อสิ้นเสียงนาง… เหล่าประชาเมืองสวรรค์ในเหตุการณ์ไม่น้อยก็อึ้งงัน
ท่านเทพซ่านเฉิงสีหน้าซีดเผือด “…เจ้า เจ้าทำอะไรลงไป”
“เจ้าคือปีศาจต้นไม้?!” ท่านเทพผิงเฉิงทึกทักไปเองว่าตนเดาตัวตนของเยี่ยนอวี๋ถูก เพราะนอกจากสิ่งมีชีวิตประเภทปีศาจไม้แล้ว เขาก็คิดไม่ออกอีกว่ายังมีผู้ใดสามารถทำให้ไม้โบราณพิทักษ์เมืองไป๋เฟิงเหี่ยวเฉาลงได้
แต่โดยทั่วไปแล้วปีศาจต้นไม้จะปรากฏตัวในสวรรค์ชั้นเก้า เป็นพลเมืองของเมืองเทพเซวียนมู่ บรรพบุรุษคือผูถีเทียนอ๋องที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งเขายังเป็นเทียนอ๋องของสวรรค์ชั้นห้าด้วย
แต่ว่า…
“แม้เจ้าจะเป็นปีศาจต้นไม้! แต่ในเมื่อเจ้ามาสังหารบุตรข้าในสวรรค์ชั้นหนึ่งของข้า เจ้าก็ต้องชดใช้!” ท่านเทพผิงเฉิงพูดจบก็เก็บพลังของตน ไม่ทำอะไรที่เปล่าประโยชน์อีกแล้ว
ในขณะเดียวกัน…
วิ้ง!
กองทัพสวรรค์สามพันนายปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของท่านเทพผิงเฉิงราวกับปรากฏขึ้นกลางอากาศ
“ว้าววว…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าถูกกองทัพสวรรค์ที่จู่ๆ ปรากฏตัวกลางอากาศดึงดูดไปทันที เพราะว่าพวกเขาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง อีกทั้งยังเปล่งประกายสีทองวิบวับ
แปะ!
แปะๆ!…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจจนปรบมือ เขารู้สึกว่ากองทัพสวรรค์เหล่านี้ดูดีมาก “หล่อ! เป่า เป่าชอบ!”
ขณะที่กำลังพูดนั้น เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังดึงท่านพ่อของเขาพลางชี้ไปที่แม่ทัพสวรรค์ที่อยู่ข้างกายท่านเทพผิงเฉิง พูดว่า “พ่อ! เอา หัว หัวเขา!”
เพราะหมวกเกราะศีรษะของแม่ทัพสวรรค์มีขนนกยูงหลากสีถูกหล่อขึ้น…
การแต่งกายเช่นนี้ทำให้ต้าซือมิ่งมั่นใจว่าภรรยาของเขาเป็นผู้กำหนดชุดเกราะดั้งเดิมของเหล่ากองทัพสวรรค์เหล่านี้อย่างแน่นอน ดูจากชุดเกราะที่แวววาวและขนนกหลากสีนั่นแล้วต้องใช่แน่ๆ
แต่ว่าต้าซือมิ่งที่สำรวจพวกเขาเสร็จแล้วยังไม่ทันตอบตกลงคำขอของเด็กน้อย แม่ทัพสวรรค์ตรงหน้าที่ถูกเด็กน้อยชี้หน้าก็หน้าดำหน้าแดงทันที “บัดซบ!”
วิ้ง!
สิ่งที่ตามมาพร้อมเสียงตวาดดุดันนี้ยังมีกลิ่นอายคาวเลือดอันน่าสะพรึงพุ่งตรงไปยังเด็กน้อย หากเป็นเด็กน้อยทั่วไปคงตกใจกลัวจนขวัญหายและตายทันที ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่าเป็นเด็กน้อยธรรมดาเสียที่ไหน! ดังนั้น…
“ตี! ตีมัน!”
เด็กน้อยส่งเสียงน้อยๆ ของตนไปทางฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ต้องให้ต้าซือมิ่งปกป้องด้วยซ้ำ
จากนั้น
เคร้ง!
เพียงค้อนเดียว! ค้อนจิ๋วที่ทุบลงกลางศีรษะของฝ่ายตรงข้ามเข้าจริงๆ ก็ทำให้ขนนกยูงบนหมวกเกราะหักและร่วงลงมาทันที
ไม่เพียงเท่านี้…
“มา”
ต้าซือมิ่งกางฝ่ามือออกคว้าขนนกยูงที่กำลังจะร่วงลงบนพื้นไว้ เขายื่นให้เด็กน้อยดั่งสำนวน ‘ยืมดอกไม้ถวายพระ’ ทั้งยังเป็นดอกไม้ที่เด็กน้อยเด็ดมาเองด้วย
แต่เด็กน้อยย่อมไม่ใส่ใจ! เขายังคงดีอกดีใจจับขนนกยูงขึ้นมา “ว้าววว…”
แต่ในขณะเดียวกัน แม่ทัพสวรรค์ที่มีไหวพริบดีกว่าท่านเทพผิงเฉิงก็แทงหอกสีแดงในมือออกไปทางต้าซือมิ่งแล้ว “สบประมาทกองทัพสวรรค์ หาเรื่องตาย!”
และเมื่อแม่ทัพสวรรค์เริ่มลงมือ ทหารสามพันนายก็ชักทวนออกมาโดยไม่ต้องรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง เห็นได้ชัดว่าผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี! พวกเขาแทงไปทางต้าซือมิ่ง
ทันใดนั้นเอง…
ซู่!
หอกยาวที่แม่ทัพสวรรค์แทงออกมากลายเป็นหอกสีเลือดสะพรึงอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายสังหารเต็มเปี่ยม มันแทงทะลวงอากาศเมืองไป๋เฉิง พุ่งไปยังตำแหน่งระหว่างคิ้วของต้าซือมิ่ง
“อ้ะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อนรน! แต่ค้อนจิ๋วของเขาเพิ่งจะหายไป ไม่สามารถ ‘เรียก’ ใช้มันอีกครั้งได้ทัน
ซู่!
หอกยาวสีเลือดแทงลงระหว่างคิ้วของต้าซือมิ่งอย่างแม่นยำ! ทำเอาเด็กน้อยตกใจจนร้องเสียงหลง ทำท่าจะดึงหอกสีเลือดนั่นด้วยมืออันน้อยๆ ของตนเองแล้ว แต่ทุกคนในเหตุการณ์กลับต้องตกใจพร้อมกัน! เพราะว่าหอกสีเลือดที่ดูเหมือน ‘แทงโดน’ ต้าซือมิ่งแล้ว อันที่จริงยังแทงไม่เข้าเลยสักนิด!
ที่น่ากลัวคือ…
“เขามิได้ป้องกัน!”
“ไม่ใช้ใช้พลังใดๆ!?”
“นี่มัน… ใช้พลังกายล้วนๆ?!”
เทพบางส่วนของเมืองไป๋เฟิงที่มีสายตาเฉียบแหลมก็อดอุทานออกมาท่ามกลางเหล่าชาวเมืองไม่ได้ เพราะว่าร่างกายของต้าซือมิ่งวิปริตเกินไปแล้ว!
ถึงอย่างไรก็เป็นหอกที่แทงออกไปพร้อมกับทหารสวรรค์สามพันนาย! ด้วยพลังพิเศษของกองทัพสวรรค์ พลังที่พวกเขารวบรวม แม้จะเป็นมหาเทพก็ไม่สามารถต้านทานด้วยเนื้อหนังเช่นนี้ได้
แต่สุดท้าย…
“พวกเขาคือใครกันแน่!?”
“ไม่รู้สิ!”
“เหมือนว่าจะเก่งมากเลย!”
ขาวเมืองไป๋เฟิงรอบทิศต่างรู้สึกว่าท่านเทพผิงเฉิงพวกเขาคงเจอของแข็งเข้าให้แล้ว
ท่านเทพผิงเฉิงสีหน้าพลันเปลี่ยน “แม่ทัพกัว นี่…”
“พวกเจ้าคือผู้ใด เหตุใดจึงก่อความรุนแรงในเมืองไป๋เฟิง” แม่ทัพกัวเทาที่สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน เขากลับไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเท่าไรนัก “บัดนี้ยังไม่แสดงความเคารพข้าอีก จงบอกชื่อเจ้ามา! โทษจะลดลงตามสมควร!”
“ฮึ!” เม่ยเอ๋อร์ที่ฟังถึงตรงนี้ก็แสยะยิ้มตอบว่า “เจ้านี่นะ คู่ควรกับการรู้ชื่อของคุณหนูใหญ่ของเราด้วยรึ คู่ควรกับการพูดถึงเรื่องลดโทษรึ”
“เจ้า…” กัวเทานัยน์ตาเคร่งขรึมทำท่าจะดุด่า
เยี่ยนอวี๋เอ่ยปากขึ้นก่อนว่า “ปิดเมือง”
ซู่!
ต้นไม้โบราณไป๋เฟิงสีขาวบริสุทธิ์ที่ปรากฏขึ้นอีกครั้งพลันปิดล้อมเมืองไป๋เฟิงทั้งเมืองไว้ภายใต้การปลุกเร้าของเยี่ยนอวี๋อย่างรวดเร็ว
ทันทีหลังจากนั้น…