ตอนที่ 432 ตบหน้าดุอย่างเสือ! ต้าซือมิ่งตามใจเมีย!
“อุแว้!” ครานี้จิ่วอิงดีใจมาก “ข้าชอบความเด็ดขาดเช่นนี้ของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จริงๆ เหมือนกับปู่จิ่วของเจ้าไม่มีผิด! เอาจริงขึ้นมาไม่ไว้หน้าใคร! มา! เม่ยเอ๋อร์ รีบมัดกากเดนพวกนี้ให้ปู่จิ่วที!”
“มัด!” เด็กน้อยผู้ยุ่งเรื่องผู้อื่นเพื่อความบันเทิงก็ส่งเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างตื่นเต้นดีใจจนตนเองเกือบจะร่วงออกจากอ้อมอกของท่านพ่อ จะได้ไปช่วยอิงอิงของเขามัดคนแล้ว
ทว่าต้าซือมิ่งมิได้ปล่อยเขาไป มิหนำซ้ำยังกอดเด็กน้อยไว้แน่นกว่าเดิม “เด็กดี” ประเดี๋ยววิ่งไปวิ่งมาแล้วเนื้อตัวสกปรกกลับมาก็ถูไถบนตัวเขาอีก เด็กคนนี้ดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องรักสะอาด
ส่วนลูกไก่ที่ไม่มีใครสนใจก็บินไปช่วยมัดแล้ว ทำเอาเด็กน้อยยิ่งอยากลง “พ่อ! ปล่อยเป่าไปมัด!”
“พ่อคุณทูนหัว เจ้าอย่าตามไปเลย ลูกมือมากพอแล้ว” อินหลิวเฟิงไม่กล้าให้พ่อคุณทูนหัวไปช่วยหรอก กลัวว่าจะเกิดอันตรายอะไร หากพ่อคุณทูนหัวเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะทำเช่นไรเล่า
เขาที่ร่างกายเพิ่งเลื่อนขั้นเป็นขั้นถอดจิตได้ เตรียมจะเลื่อนขั้นเป็นเทพบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสถานที่ที่ดีเยี่ยมเช่นนี้! หากกลับโยวตูในอนาคตคงสร้างชื่อเสียงให้ไม่น้อย ตาแก่ที่บ้านก็คงดีใจตาย
“ไม่ ไม่พอ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าต้องมัดคนเยอะมาก คนไม่พอ!
อินหลิวเฟิงย่อมไม่เห็นด้วย “เช่นนั้นคนตัวเล็กเช่นเจ้าก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี อยู่นิ่งๆ ที่นี่เถอะ”
“เชอะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่รู้สึกถูกดูแคลนก็ยิ่งอยากไป “พ่อ! พ่อ! ปล่อยเป่า!”
“หิวแล้วใช่หรือไม่” ต้าซือมิ่งเอ่ยถาม
ท้องของเยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ขานตอบเสียง จ๊อกๆ ทันที เด็กน้อยก้มหน้างุด “หิว”
อินหลิวเฟิงเกือบจะสงสัยแล้วว่าต้าซือมิ่งเป็นผู้ควบคุมความหิวของพ่อคุณทูนหัวหรือไม่
ทว่าต้าซือมิ่งแค่เดาได้ว่าเด็กน้อยใช้พลังงานไปนานเพียงนี้ต้องหิวแล้วแน่นอน แต่ที่ไม่ได้บอกว่าหิวคงเป็นเพราะมัวแต่ตื่นเต้นจนลืมหิว
แต่ท้องของเด็กน้อยให้ความร่วมมือดีเช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่หรงอี้คิดไม่ถึงเช่นกัน ทำเอาเยี่ยนอวี๋ที่เดินเข้ามาใกล้มองเขา “คงหิวมากจริงๆ”
“ใช้พลังงานไปมากน่ะ” ต้าซือมิ่งพูดด้วยสีหน้าคงเดิมพลางหยิบนมแพะที่ยังอุ่นออกมาป้อนเด็กน้อย
เยี่ยนอวี๋มิได้สงสัยว่าเด็กน้อยหิวหรือไม่หิวจะเกี่ยวข้องกับการควบคุมอย่างลับๆ ของต้าซือมิ่ง แต่นางรู้ดีว่าที่ชายคนนี้อุ้มเด็กน้อยไม่ยอมปล่อยเพราะไม่ชอบให้เด็กน้อยมุดไปทั่วจนตัวมอมแมม
เยี่ยนอวี๋ก็ชอบเด็กน้อยที่สะอาดสะอ้านเช่นกัน ดังนั้นนางจึงมิได้เปิดโปง เพียงแค่หันไปหาอินหลิวเฟิง “ใช้ได้ พัฒนาไปไม่น้อย”
“เพราะบารมีของกูไหน่ไนแท้ๆ!” อินหลิวเฟิงตอบอย่างยินดีปรีดา รู้สึกว่าการเลื่อนขั้นของตนเองครั้งนี้รวดเร็วและสบายมาก รู้สึกสุขท่วมท้นแล้ว
เยี่ยนอวี๋พยักหน้าพูดว่า “ในเมื่อเลื่อนขั้นแล้ว ยังไม่ไปช่วยเม่ยเอ๋อร์มัดพวกเขาอีก”
“หืม? อ้อ! แต่ข้าไม่เป็นนี่นา!” อินหลิวเฟิงบอกว่าตนไม่เคยลงมือทำงานหยาบเช่นนี้มาก่อน
“โง่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กำลังยุ่งก็สละเวลามาดูถูกอินหลิวเฟิง
อินหลิวเฟิงรู้ว่าพ่อคุณทูนหัวอิจฉาริษยาจึงมิได้โต้กลับ เพียงแค่พูดว่า “แต่ข้าเรียนรู้ได้ พ่อคุณทูนหัวเจ้าดูเฉยๆ ก็พอนะ!”
เมื่อพูดจบ อินหลิวเฟิงก็ไปช่วยเอ้อร์เหมามัดคนเหล่านั้นอย่างมีความสุข สุดท้ายกลับถูกเอ้อร์เหมาบ่นว่ามัดไม่แน่นอยู่หลายครา ทำเอาเด็กน้อยดื่มนมพลางหัวเราะใส่ “โง่!”
“เจ้านี่นะ” เยี่ยนอวี๋หยิกใบหน้าน้อยๆ ของเด็กน้อย นางมักจะรู้สึกว่าเด็กน้อยชอบแกล้งอินหลิวเฟิงเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญญานั่น หรือเพราะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก ยังคงจำเรื่องที่อินหลิวเฟิงเคยรังแกเมื่อครั้นยังเล็กได้
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่รู้ความคิดของแม่ก็หัวเราะ เมื่อเขาดื่มนมหมดแล้วก็ทำท่าอยากจะลงไปช่วยมัดคนอีกแล้ว
ถึงอย่างไรบรรยากาศจับมัดคนในบัดนี้กำลังดำเนินไปอย่างคึกคักและกระตือรือร้น เอ้อร์เหมาและเม่ยเอ๋อร์เป็นกำลังหลัก พวกเขามัดกองทัพสวรรค์ รวมถึงแม่ทัพสวรรค์กัวเทาและท่านเทพผิงเฉิง ท่านเทพซ่านเฉิงเสร็จแล้ว
ชาวเมืองไป๋เฟิงรอบทิศที่ดูถึงตรงนี้ก็มิอาจใช้คำพูดอธิบายความรู้สึกของตนเองได้อีกต่อไป เพราะว่าบัดนี้พวกเขาสูญสิ้นสติจนรู้สึกตัวเบาหวิว ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังเห็นคือภาพอะไรกันแน่!
ส่วนเมืองไป๋เฟิง ต้นไม้โบราณไป๋เฟิงก็หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว สายสืบของตำหนักอี้หยางที่ซุ่มอยู่บริเวณใกล้ๆ ต่างมองหน้ากันไปมา ไม่รู้ว่าควรเข้าเมืองหรือไม่
“อุแว้!”
และจิ่วอิงที่ดีอกดีใจเป็นพิเศษในครานี้ก็สะบัดหางของมันทีหนึ่งอย่างอดใจไม่ไหว! ทำเอาเหล่ากองทัพสวรรค์ที่ผูกไว้กับหางของมันทั้งพวงถูกเหวี่ยงจนหน้ามืดตาลาย
วืด!
ตุบๆ! ตุบ…
เสียงเหวี่ยงและเสียงร่วงหล่นอย่างมีจังหวะ ทำเอาจิ่วอิงสนุกสนานยิ่งนัก “เร็ว! เร็วเข้า! มัดให้หมด!”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตบแขนของท่านพ่ออย่างร้อนรน “พ่อ! ปล่อยเป่า!”
เยี่ยนอวี๋กลับกำลังมองกองทัพสวรรค์ทั้งยวงนั้นด้วยสีหน้าสงบ “แต่เดิมข้าไม่หวังให้เป็นเช่นนี้”
“พวกเขาหาเหาใส่หัวเอง” ต้าซือมิ่งที่รู้ความคิดของภรรยาดี ขณะที่เขาสงบอารมณ์เด็กน้อยที่กระวนกระวายนั้นก็ยังสามารถโอบภรรยาที่อยู่ข้างกายไว้ “ทำตามที่เจ้าต้องการก็พอ ยังมีข้าอยู่ที่นี่”
“อืม” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า
เจ้าตัวน้อยที่แต่เดิมกระวนกระวายก็หันกลับไปมองท่านแม่ของเขา “ยัง ยังมีเป่า!”
ทำเอาเยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้นหยิกแก้มน้อยๆ ของเด็กน้อยแล้ว “เจ้ารู้ว่าแม่คุยอะไรกับท่านพ่อหรือ”
“รู้!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่า ข้ารู้ทุกอย่าง
เยี่ยนอวี๋มีความสุข นางจูบเด็กน้อยอย่างอดใจไม่ไหวทีหนึ่ง และยังยื่นมือออกไปเกาแก้มอวบอ้วนของเขา “ใช่จ๊ะใช่ แม่ชอบเสี่ยวเป่าที่สุดด้วย”
“คิกๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ยิ้มตาหยีถูกท่านแม่ของเขาหยอกเล่นจนหัวเราะคิกคัก เขากลิ้งไปมาในอ้อมอกของท่านพ่อจึงลืมเรื่องที่จะไปช่วยมัดคนแล้ว
เมื่อเยี่ยนอวี๋หยอกเด็กน้อยน่ารักน่าชังเสร็จ เอ้อร์เหมาที่คล่องแคล่วว่องไวก็มัดกองทัพสวรรค์ที่เหลือเสร็จนำหน้าเม่ยเอ๋อร์ เทพไร้ประโยชน์ทั้งสอง และนายท่านน้อยของเขาไป
ดังนั้นเมื่อองค์หญิงเจ็ดและท่านเทพอี้หยางเร่งเดินทางมาถึงเมืองไป๋เฟิง สิ่งที่พวกเขาเห็นจึงเป็นภาพเช่นนี้…
เมืองไป๋เฟิงที่ถูกปิดลงอย่างสมบูรณ์ตามข่าวที่ได้รับ นอกจากจะไม่ได้ถูกปิดแล้วกลับคึกคักมาก! ชาวเมืองมากมายพากันมุงดูอสูรร้ายจิ่วอิงสีเลื่อมทองขนาดยักษ์ตนหนึ่งสะบัดหางของมันไปมาบนถนนสายหลักทางตะวันตกของเมือง
เพียงเสียงดัง วืด เงี่ยงหางขนาดยาวและดุร้ายของอสูรร้ายจิ่วอิงก็เหวี่ยงขึ้นกลางอากาศอย่างแรง! ทำเอากองทัพสวรรค์สามพัน… ใช่ สามพันนายปรากฏขึ้นกลางอากาศ!
จากนั้น…
เพี๊ยะ!
ทันทีที่จิ่วอิงตวัดหางลงพื้น!
ตุบ!
ตุบๆ!…
กองทัพสวรรค์สามพันนายก็ล้มระเนระนาดบนพื้น!
ทั้งท่วงท่า น้ำเสียง และการต่อสู้นั้น ทำเอา…
“บัดซบ! อสูรป่าเถื่อนจากที่ใดกัน! ตายซะเถอะ!”