ตอนที่ 434 ร่างไท่สื่อ! ตัวตนถูกเปิดเผย!
“ซึ๊ด!”
ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจจนสูดหายใจเข้าลึก
แม้แต่เทพไร้ประโยชน์สององค์ที่โดยพื้นฐาน ‘แปรพักตร์’ แล้วก็ตกใจเช่นกัน ถึงอย่างไรพวกเขาก็เคยเป็นเทพรับใช้บนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ย่อมรู้จักตำแหน่งขององค์หญิงเจ็ดบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าดี
องค์หญิงเจ็ดที่เพิ่งเติบใหญ่ นางเป็นบุตรหัวแก้วหัวแหวนของเทียนโฮ่ว และยังเป็นความภาคภูมิใจเพียงหนึ่งเดียวที่สืบทอดร่างกายของเทียนตี้ กระทั่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ปกครองสวรรค์ชั้นเก้าคนต่อไป
นางหยิ่งยโส ทะนงตน และไม่สนใจไยดี นางดูแคลนผู้เก่งกาจที่อยู่รุ่นราวคราวเดียวกับนาง นอกจากสถานะนางจะสูงส่งแล้ว ความสามารถของนางก็สูงส่งเช่นกัน!
ดังนั้น… เหล่าเทพและชาวเมืองไป๋เฟิงที่รู้ทุกอย่างก็เงียบงัน
“…”
ความเงียบงันเช่นนี้ดำเนินต่อไป อีกทั้งยังเงียบงันยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เทพและชาวเมืองไป๋เฟิงมากมายต่างหยุดหายใจอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกว่าหายนะกำลังเข้ามา
แม้แต่ท่านเทพอี้หยาง ศีรษะของนางก็มีเหงื่อซึมออกมา นางรู้ดีกว่าผู้ใดว่าการหยามหมิ่นเช่นนี้ สำหรับองค์หญิงเจ็ดแล้วเป็นเรื่องห้ามกระทำอย่างเด็ดขาด! แม้แต่พวกเขาที่ ‘เห็น’ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็อาจจะไม่รอดเช่นกัน
ทว่าท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน เด็กน้อยที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใด จู่ๆ ก็หัวเราะคิกคักออกมา และยังปรบมือเสียงดัง แปะๆๆ ไม่รู้สึกตกใจกับบรรยากาศเงียบงันเลยแม้แต่น้อย
“เก่ง! แม่เก่ง!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังชมแม่ เขายิ้มจนเห็นแต่ฟันไม่เห็นตาแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ เขายังชี้ไปที่ผูเอ้อตัวและเทพองค์อื่นๆ บนฟ้า ส่งเสียงเล็กเสียงน้อยเลียนแบบท่านแม่ว่า “ลงมา!”
ประเด็นคือเขาเพียงเรียกครั้งหนึ่ง ผูเอ้อตัวและเทพองค์อื่นๆ ก็พากันร่วงลงบนพื้นและคุกเข่าลงข้างกายองค์หญิงเจ็ดจริงๆ ทุกคนเหงื่อไหลราวกับฝนตก
“ฮ่า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจดิ้นไปมา ยังคิดว่าเทพเหล่านี้ให้ความร่วมมือกับการเรียกของเขา จึงร่วงลงมาจริงๆ เขายังชมตัวเองอีกว่า “พ่อ! เป่า เป่าเก่ง!”
ต้าซือมิ่งจะพูดอะไรได้ เขาทำได้เพียงลูบศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อย พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ เสี่ยวเป่าเก่งที่สุด”
“ฮี่ๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพิงแผ่นอกท่านพ่อพลางมองผูเอ้อตัวและเทพองค์อื่นๆ ต่อไป ดวงตาของเขายังเปล่งประกายวิบวับสุกใส! ราวกับน้ำในฤดูใบไม้ผลิ ใสสะอาดและนุ่มนวล
ส่วนตี้เซิน ขณะที่นางเงยหน้าขึ้นก็สบตาอันบริสุทธิ์คู่นั้นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เด็กน้อยยังมองตาปริบๆ ทั้งไร้เดียงสาและบริสุทธิ์
“ฮึ” ตี้เชินแสยะยิ้มเบาๆ พลังเทพที่รวบรวมรอบกายนางแน่นหนาขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ กลายเป็นสีม่วงเข้ม พลังเทพทั่วทั้งเมืองก็หยุดนิ่งเพราะเหตุนี้
เยี่ยนอวี๋เลิกคิ้วเล็กน้อย “เจ้าสืบทอดร่างกายไท่สื่อของบิดาเจ้า”
“ใช่แล้ว” ตี้เซินยิ้ม ดวงตาที่มองเยี่ยนอวี๋กลับมีแต่ความเยือกเย็นเฉยชาราวกับมองคนตาย “เสียดายที่เจ้ารู้ช้าเกินไปแล้ว”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา…
เทพองค์อื่นๆ ในเหตุการณ์ต่างแผ่พลังป้องกันออกมาด้วยสัญชาติญาณ แม้แต่ท่านเทพอี้หยางก็กอดศพของลูกชายนางไว้แน่น ในขณะเดียวกัน…
“ไท่สื่อ!”
ตี้เซินที่ระเบิดแสงสีม่วงแน่นหนาและเจิดจ้าออกมา นางระเบิดพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงราวกับดวงดาวและจักรวาลแตกระเบิด
“เฮ้ย!” อินหลิวเฟิงสบถ เขารู้สึกได้ว่าพลังทำลายล้างนี้สามารถทำลายเขาจนไม่เหลือแม้แต่ซาก อีกทั้งไม่เพียงเขาที่รู้สึกเช่นนี้ ชาวเมืองทั้งหมดของเมืองไป๋เฟิง รวมถึงท่านเทพอี้หยางล้วนรู้สึกเช่นเดียวกัน
ถึงอย่างไรพลังที่ตี้เซินปะทุออกมาก็เป็นการโจมตีไม่เลือกหน้า นอกจากนางจะไม่ปล่อยให้กลุ่มคนเยี่ยนอวี๋รอดชีวิตแล้ว นางยังไม่ปล่อยให้เหล่าเทพและชาวเมืองที่เห็นสภาพน่าอนาถของนางรอดชีวิตไปได้เช่นกัน ซึ่งเป็นดั่งที่ท่านเทพอี้หยางคิดไว้
นี่ก็คือตี้เซิน…
วิ้ง!
ตี้เซินที่ระเบิดพลังแข็งแกร่งขั้นสุดออกมาจนสามารถทำลายเมืองไป๋เฟิงได้ในทันที กระทั่งทำให้สวรรค์ชั้นหนึ่งสั่นคลอนได้ ถึงแม้นางจะเพิ่งมีอายุครบสามหมื่นปี ซึ่งในเผ่าสวรรค์แล้วถือว่าเพิ่งเติบใหญ่ แต่พลังทำลายล้างของนางก็น่าทึ่งเช่นนี้แล้ว!
“จบกัน…”
เทพไม่น้อยคิดว่าตนเองต้องกลายเป็นปลาตายหงายท้องแล้วแน่ๆ
ส่วนท่านเทพอี้หยาง ผูเอ้อตัวและเทพองค์อื่นๆ ก็ระเบิดพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา พยายามปกป้อง ‘ชีวิตที่ไร้ค่า’ ของตนท่ามกลางการทำลายล้างนี้
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้บรรยายแล้วยืดยาว แต่ในความเป็นจริงเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเท่านั้น! แม้แต่ครึ่งลมหายใจก็ไม่ถึง เหล่าผู้น้อยใหญ่เมืองไป๋เฟิงคิดว่าตนเองต้องตายแล้วแน่ๆ
ตี้เซินก็เชื่อมั่นว่า ภายใต้พลังเทพไท่สื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของนาง จะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอดในเมืองไป๋เฟิงอีก นางจะทำลายล้างทุกสิ่ง ทำลายสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง! ทว่า…
“เงียบ ตาย” ชั่วขณะที่คลื่นพลังไท่สื่อโจมตีและมาถึงตัวเขา ต้าซือมิ่งที่อุ้มเด็กน้อยก็ปริปากเรียกค้อนลึกลับลายมังกรออกมา
วิ้ง…
คลื่นพลังทำลายล้างแห่งความเงียบงันพวยพุ่งออกมาจากค้อนลึกลับลวดลายมังกรสีดำราวกับภูเขาไฟระเบิดอย่างต่อเนื่องทันที มันกวาดล้างพลังไท่สื่อทั่วทั้งบริเวณ
“ว้าว!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตื่นตากับภาพสาดหมึกที่มีคลื่นสีดำชนปะทะกับแสงสีม่วง โดยเฉพาะแสงประหลาดลึกลับที่แผ่ซ่านออกมาจากค้อนขนาดยักษ์ของท่านพ่อเขายิ่งทำให้เขาตะลึงงัน
“ว้าววว”
“ว้าววว”
ลูกไก่ที่ตกอยู่ในอาการเดียวกับเยี่ยนเสี่ยวเป่า มันก็ถูกแสงประหลาดที่แผ่ซ่านออกมาจากค้อนขนาดยักษ์ดึงดูดความสนใจทั้งหมดไป ยังรู้สึกตื่นเต้นจนอยากจะพุ่งขึ้นไปด้วย!
หากไม่ใช่เพราะขณะที่ต้าซือมิ่งโจมตีศัตรูกลับยังจับเจ้าตัวน้อยทั้งสองไว้แน่น พวกเขาคงพุ่งตัวออกไปแล้ว! เพราะความฮึกเหิมในสายเลือด พวกเขาอดกลั้นแทบจะไม่ไหวแล้วจริงๆ!
“พ่อ! อ้ะ! โอ๊ยโอ๊ยยย” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตื่นเต้นดีใจใหญ่ แก้มน้อยๆ ตื่นเต้นจนกลายเป็นสีแดงระเรื่อเพราะการโจมตีนี้ หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นมาก
ในขณะที่เด็กน้อยตื่นเต้นดีใจอยู่นั้น พลังทำลายล้างแห่งความเงียบของท่านพ่อเขาก็ทำลายพลังเทพไท่สื่อที่ตี้เซินระเบิดออกมาหมดสิ้นไปแล้ว
เขาโจมตีอย่างแม่นยำ ทำลายอย่างสมบูรณ์แบบ! ไม่ทิ้งร่องรอยในเหตุการณ์แม้แต่น้อย ทำความดีอย่างซ่อนเร้นไม่เปิดเผย… ทำให้ผูเอ้อตัว ท่านเทพอี้หยาง และเทพที่เห็นฉากนี้ตะลึง!
ตี้เซินก็ตะลึงเช่นกัน นางจ้องต้าซือมิ่งเขม็ง “เจ้าเป็นใคร!” นางรับรู้ได้ว่า ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ด้วยซ้ำ!
“พ่อ! พ่อข้าไง!” เด็กน้อยตอบคำถามแทนท่านพ่อของเขา แสดงท่าทีภูมิใจและดีใจเป็นพิเศษ เขากอดท่านพ่อไว้แน่น แสดงตัวเป็นผู้คลั่งไคล้พ่ออย่างมิต้องสงสัย
เยี่ยนอวี๋ที่เห็นดังนั้นก็หมดคำพูด นางอยากจะดึงเจ้าตัวน้อยออกมา เพราะกังวลว่าเจ้าตัวน้อยจะเปิดเสื้อของท่านพ่อเขาและมุดตัวเข้าไปข้างใน…
“เจ้ามิใช่เทพเถื่อน เจ้าคือจักรพรรดิอสูรแดนมืด!” ตี้เซินที่พูดประโยคนี้ออกมา ดวงตาของนางก็เปล่งประกายแสงแวววาว “เยี่ยมไปเลย! ในที่สุดเจ้าก็ออกมาแล้ว!”