ตอนที่ 441 สั่งสอนไม่ฟังก็ฆ่าทิ้ง! ปฐมราชินีหยาบกระด้างสุดร้าย!
เยี่ยนอวี๋ที่รอให้ซื่อฝานเทียนอ๋องแสดงท่าไม้ตายออกมาก็ประเมินซื่อฝานเทียนอ๋องเพียงประโยคเดียว ส่ายศีรษะราวกับมารดาที่ผิดหวังในมาตรฐานของเทียนอ๋องแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
“ฮึ!” ตี้เซินยิ้มหยัน นางรู้สึกว่านังสารเลวคนนี้เสแสร้งเก่งจริงๆ! เก่งกว่าเสด็จแม่ของนางเสียอีก
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินเสียงเปร่งๆ ของนาง เขาก็หันศีรษะไปมองตี้เซิน และก็เห็นว่านางกำลังหัวเราะเสียงประหลาด พลันไม่พอใจขึ้นมา “ห้ามยิ้ม!”
“ชิ!” ตี้เซินปราดตามองเจ้าตัวน้อยทีหนึ่ง รู้สึกว่าตนเองเหมือนกับเสืออกมาจากป่าถูกสุนัขรังแกจริงๆ แม้แต่เด็กฟันน้ำนมที่ยังพูดไม่คล่องยังกล้าสามหาวกับนาง!
“พ่อ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าโมโห “จัดการนาง!”
ต้าซือมิ่งที่ถูกสั่งเหลือบมองตี้เซิน เขาลงมือจริงๆ! นางล้มลงบนหลังของจิ่วอิง แม้จะเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้ลงมือเลยก็ตาม
“แค่ก…” ตี้เซินที่กระอักเลือดใช้ลิ้นเลียเลือดบริเวณมุมปาก แม้จะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แต่ความแค้นเคืองในสายตาก็รุนแรงมาก! ฝากไว้ก่อนเถอะ!
ทางที่ดีเจ้าคนสารเลวเหล่านี้ควรตายที่นี่เสียให้หมด มิเช่นนี้ตกถึงมือนางเมื่อไร นางต้องทำให้พวกเขาได้ลิ้มลองถึงรสชาติการตายทั้งเป็นแน่
เมื่อในเหตุการณ์ไม่มีกลิ่นอายพิกลของตี้เซินแล้ว ทุกคนก็มองไปที่เยี่ยนอวี๋บนท้องฟ้าอย่างพร้อมเพรียง แม้แต่จิ่วอิงก็เบิกตาทั้งสิบเก้าดวงจ้องมองท้องฟ้าอย่างดุดัน อยากชม ‘การแสดง’ ของเยี่ยนอวี๋
“แม่! แม่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้องเรียกอย่างตื่นเต้นดีใจ หากไม่ใช่เพราะพ่อของเขากอดไว้แน่น เขาคงบินขึ้นไปอยู่กับท่านแม่ของเขาแล้ว
ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางก็กำลังรอการโจมตีของซื่อฝานเทียนอ๋อง ทว่าหลังจากฝ่ายหลังพูดจบ แม้จะถูกเยี่ยนอวี๋หาว่าเป็น ‘ขยะ’ ก็ไร้ซึ่งการตอบสนองใดๆ เยี่ยนอวี๋จึงเงยหน้ามองซื่อฝานเทียนอ๋องเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ไม่อ่อนแอเช่นนั้น ไม่ถึงกับรับไม่ได้ที่ถูกด่าว่าเป็น ‘ขยะ’
“…”
ทุกคนในเหตุการณ์เงียบงัน ไม่ว่าจะเป็นคนฝั่งเยี่ยนอวี๋หรือว่าเทพฝ่ายตรงข้าม ต่างรู้สึกถึงแรงกดดันอันหนักอึ้งคล้ายฝนที่กำลังจะเทลงมา เห็นได้ชัดว่านี่คือการลงมืออย่างลับๆ ของซื่อฝานเทียนอ๋อง
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับมือของท่านพ่อของเขาไว้แน่นอย่างตื่นเต้นในบรรยากาศเช่นนี้ ใบหน้าน้อยๆ ของเขาเกร็งแน่น ลูกไก่ก็หยุดร้อง จิ่วอิงคอยสัมผัสรอบทิศ
มาแล้ว! ตี้เซินคิดในใจ กลับไม่แสดงอาการทั้งใบหน้าและร่างกาย นางไม่อยากเผย ‘คำใบ้’ แก่คนสารเลวเหล่านั้น และคิดว่าพวกเขาคงไม่รู้ตัวว่าซื่อฝานเทียนอ๋องลงมือแล้ว
ในความเป็นจริง ซื่อฝานเทียนอ๋องกางตาข่ายสวรรค์ไว้รอบทิศแล้ว! คนสารเลวเหล่านี้กลับยังไม่รู้สึกตัว ยังคงงงงันอยู่เช่นนั้น ฮึ! ก็ไม่เท่าไรนี่
ตี้เซินคิดเสร็จ ก็หัวเราะเย้ยหยันในใจ สุดท้าย…
“ออกมา”
ทันทีที่เยี่ยนอวี๋เปล่งเสียงอันเยือกเย็นขึ้น มือขาวเนียนของนางเพียงประทับลงกลางอากาศ แสงหลากสีที่แผ่กระจายออกมาจากฝ่ามือของนางเผยให้เห็น ‘ใยแมงมุม’ ที่ซ่อนอยู่รอบตัวนางอย่างรวดเร็ว
“!”
ตี้เซินเงยหน้ามอง ดวงตานางเบิกกว้าง ไม่อยากจะเชื่อที่เยี่ยนอวี๋สามารถมองเห็นการจัดเรียงของตาข่ายสวรรค์ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ทั้งที่ซื่อฝานเทียนอ๋องซ่อนไว้เป็นอย่างดีจนรวมเป็นหนึ่งเดียวกับฟ้าดินแล้วแท้ๆ หากไม่ใช่เพราะในร่างกายของนางมีสายเลือดของเทียนตี้อยู่ นางก็คงไม่สามารถรับรู้แผนการของซื่อฝานเทียนอ๋องได้ก่อนผู้ใด ทว่านังสารเลวคนนี้กลับเปิดโปงแผนการของซื่อฝานเทียนอ๋องออกมาได้ด้วยปลายนิ้วเดียวเช่นนี้!
นี่มัน…
อย่าว่าแต่ตี้เซินตะลึงเพียงใดเลย ซื่อฝานเทียนอ๋องก็ตะลึงเช่นกัน
ที่น่ากลัวคือ…
“จงหาย”
เพียงพลิกฝ่ามือ เยี่ยนอวี๋ที่สามารถทำลายการกลืนกินของตาข่ายสวรรค์ เนื่องจากนางคุ้นเคยกับกฎและระเบียบของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเป็นอย่างดี แม้มิต้องใช้พลังสร้างโลกก็สามารถทำลายการโจมตีด้วยกฎเช่นนี้ได้อย่างง่ายดายราวกับดื่มน้ำ
ถึงอย่างไรนางก็เกิดมาเป็นจุดเริ่มต้นของกฎระเบียบอยู่แล้ว!
ดังนั้น…
“ให้ตายเถอะ!”
ซื่อฝานเทียนอ๋องที่ถูก ‘โจมตี’ กลับจนไม่รู้จะทำอย่างไร เขาก็ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก ทว่าเขาก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพทางจิตใจในฐานะที่เทียนอ๋องพึงมีอย่างรวดเร็ว
“กฎแห่งพื้นที่กลวง!” เมื่อซื่อฝานเทียนอ๋องเห็นว่าเยี่ยนอวี๋สามารถควบคุมกฎระเบียบไว้ได้อย่างดี เขาก็ตัดสินใจละทิ้งพลังทั้งหมดของตนเองอย่างเด็ดขาด และใช้พลังของตาข่ายสวรรค์สร้างพื้นที่ว่างแห่งกฎเกณฑ์บริเวณนี้อย่างรวดเร็ว
ซู่!
เหล่าเทพระดับท่านเทพขึ้นไปรู้สึกได้ถึงกฎระเบียบพื้นที่โดยรอบหายไปหมดแล้ว กลายเป็นพื้นที่รกร้าง สสารทั้งหมดที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของเวลาและมิติเดียวกันค่อยๆ สลายไปกลับสู่ยุคโบราณที่แทบจะไม่มียุคกาลเวลา
“หืม?”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากะพริบดวงตากลมโตราวกับองุ่นสีดำของเขา เขามองพื้นที่เหลืองรอบทิศอย่างงุนงง ยังเกาศีรษะโล้นน้อยๆ ของตน
“นี่คือยุคแห่งความแห้งแล้ง ยุคที่ไม่มีอาหาร” ต้าซือมิ่งถือโอกาสให้ความรู้เด็กน้อย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าส่ายศีรษะทันที “เป่า ไม่ชอบ!”
อีกทั้งเมื่อพูดถึงอาหาร เด็กน้อยก็บอกว่า “จ๊อกๆ! พ่อ จ๊อกๆ”
“จอมตะกละน้อย!” ลูกไก่ที่มองเยี่ยนอวี๋พลางบินไปบินมาก็บอกว่านายท่านน้อยทานเก่งเกินไปแล้ว เพิ่งทานไปครู่หนึ่งก็หิวแล้ว
“ห้ามว่าพี่ เป่า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าทำหน้ามุ่ย “พี่ โต! เจ้า ลูกไก่! ไม่โต!”
ลูกไก่ชะงัก กำลังจะทำหน้าหงอย ซื่อฝานเทียนอ๋องที่ปรากฏตัวออกมาจากความแห้งแล้งก็ต่อยหมัดใส่เยี่ยนอวี๋ที่ลอยอยู่กลางอากาศหมายจะเด็ดศีรษะของนางไป!
หลังจากที่ต้องละทิ้งพลังแห่งห้วงเวลาและมิติไป ซื่อฝานเทียนอ๋องจึงสามารถใช้พลังของร่างกายต่อสู้เท่านั้น เนื้อหนังของเทียนอ๋องทุกองค์ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ เป็นร่างกายแข็งแกร่งที่สามารถทนต่อกฎระเบียบสวรรค์ชั้นหนึ่งทุกข้อได้ ดังนั้น…
วิ้ง!
หมัดนี้ของซื่อฝานเทียนอ๋องสร้างความเคลื่อนไหวไม่ธรรมดา เสียงลมหวีดหวิวด้วยความเร็วยิ่งยวด ตั้งแต่ตอนที่มันปรากฏขึ้นก็จะทุบศีรษะของเยี่ยนอวี๋แตกแล้ว
“อ้ะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเกือบจะขว้างค้อน ‘บ๊ะจ่าง’ จิ๋วออกไปอีกครั้ง แต่ถูกท่านพ่อของเขาห้ามไว้ทัน
ในขณะเดียวกัน…
“หมัดสวย!”
ตี้เซินอดกู่ร้องด้วยความยินดีไม่ได้ รู้สึกว่าซื่อฝานเทียนอ๋องมีไหวพริบดี สามารถละทิ้งท่าไม้ตายอันน่าภาคภูมิของเทียนอ๋อง เปลี่ยนมาต่อสู้ตัวต่อตัวได้ทันท่วงที!
น่าเสียดาย…
เพี๊ยะ!
มือเนียนขาวของเยี่ยนอวี๋ยกขึ้นมารับหมัดของซื่อฝานไว้ ทำให้เกิดความความเคลื่อนไหวน่าสะพรึง เสียงสะเทือนดังสนั่นแสบแก้วหู ไม่เพียงเท่านี้…
“ลงมา”
เยี่ยนอวี๋ที่ฮุบหมัดซื่อฝานเทียนอ๋องก็เหวี่ยงซื่อฝานเทียนอ๋องดิ่งลงจากท้องฟ้าสู่พื้นดินอย่างรุนแรง ฝุ่นตลบไปทั่ว ทว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น…
ตุบ!
เยี่ยนอวี๋ปาดขาออกไป นางเตะซื่อฝานเทียนอ๋องราวกับเป็นลูกบอล จนเขาล้มลงบนเนินทรายที่อยู่ไม่ไกล ฝุ่นทรายตลบอบอวลไปทั่ว
หมัดและเท้าอันทรงพลังดังกล่าว ทำเอาซื่อฝานเทียนอ๋องจะอาเจียนเป็นเลือดอยู่แล้ว เห็นได้ว่าหมัดและเท้าของเยี่ยนอวี๋มิได้อ่อนแอดุจหมอนปักที่สวยงามเช่นนั้น
“แค่ก…”
ซื่อฝานเทียนอ๋องที่เจ็บปวดจนกระดูกเคลื่อน เขาเพิ่งจะลุกขึ้นยืน ในศีรษะของเขายังส่งเสียง วิ้ง ไม่หยุด เพราะว่าเขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดแม้แต่เนื้อหนังของฝ่ายตรงข้ามยังแข็งแกร่งเช่นนี้ ราวกับร่างจำแลงของหินที่มีอายุหลายร้อยล้านปี ดื้อรั้นยิ่งนัก!
“แค่ก…”
ซื่อฝานเทียนอ๋องรู้สึกได้ว่าซี่โครงของตนคงจะหักไปแล้ว นี่เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยพบเจอตั้งแต่ที่เลื่อนขั้นเป็นเทพ มันแปลกประหลาดและทุกข์ทรมานจนน้ำตาจะไหลออกมาแล้ว
จากนั้น…
เพี๊ยะ!
เยี่ยนอวี๋ที่เหยียบหลังของซื่อฝานเทียนอ๋องก็ทำให้ซื่อฝานเทียนอ๋องผู้แข็งแกร่งร่างกำยำน้ำตาไหลพราก เสียงกระดูกหักดัง กร๊อบ
นี่ไม่ใช่กระดูกธรรมดา แต่เป็นกระดูกอันศักดิ์สิทธิ์ของเทียนอ๋อง! เดิมทีก็เป็นกระดูกที่แข็งแกร่งมิอาจทำลายได้อยู่แล้ว เมื่อมันแตกหักจึงยิ่งทรมานเป็นธรรมดา ดังนั้นเทพอื่นๆ ที่มามุงดูจึงได้เห็นว่าซื่อฝานเทียนอ๋องถูกเล่นงานจนร้องไห้อย่างไร
อนาถและโหดเหี้ยมจริงๆ!
ความน่าเวทนาของซื่อฝานเทียนอ๋องบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเยี่ยนอวี๋ได้อย่างสมบูรณ์
“เจ้าเป็นใครกันแน่!”
ตี้เซินลุกขึ้นยืนแล้ว นางมองเยี่ยนอวี๋ที่เหยียบอยู่บนหลังของซื่อฝานเทียนอ๋อง รู้สึกว่าสตรีสารเลวคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน! ไม่ใช่อสูรไร้เทียมทานก็ต้องเป็นเทพรุ่นแรกที่ถูกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเนรเทศออกไป!
และในครั้งนี้… เยี่ยนอวี๋ก็ตอบว่า “กูไหน่ไนที่มาสั่งสอนให้พวกเจ้าเป็นเทพที่ดี”
ตี้เซินสีหน้าพลันเปลี่ยน! ซื่อฝานเทียนอ๋องที่ถูกนางเหยียบไว้ข้างใต้กลับตะโกนออกมาพร้อมอาเจียนเป็นเลือดว่า “ล้างตาข่ายสวรรค์!”
แคร่ก!
ท่ามกลางเสียงคำรามของซื่อฝานเทียนอ๋อง ทั่วทั้งสวรรค์ชั้นหนึ่งก็แตกร้าวทันที
สิ่งนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน “เจ้าคิดจะชะล้าง?!”
“ฮ่าๆๆ!” ซื่อฝานเทียนอ๋องแสดงสีหน้าเคียดแค้น “กลัวแล้วล่ะสิ! พวกเจ้าฆ่าอี้หยางก็สมควรตายไปพร้อมนาง!”
“สิ่งมีชีวิตของสวรรค์ชั้นหนึ่งก็ต้องตายไปกับนางด้วยหรือ?!” เยี่ยนอวี๋แสดงแววตาเคร่งขรึม แสงสีม่วงเข้มปรากฏ นางโมโหแล้ว
ซื่อฝานเทียนอ๋องยังดึงดันตอบว่า “แล้วอย่างไร!? ขอแค่ทำลายพวกเจ้าได้เท่ากับตัวข้าเทียนอ๋องทำคุณประโยชน์ ชาวเมืองทั่วไปและเทพชั้นผู้น้อยย่อมไม่มีค่าให้เอ่ยถึง พวกเจ้ากลายเป็นเถ้าธุลีไปพร้อมกันเสียเถอะ!”
เห็นได้ชัดว่าซื่อฝานเทียนอ๋องที่ชะล้างกฎระเบียบอย่างต่อเนื่อง เขาวางแผนอันไร้คุณธรรมนี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว! การระเบิดของมันรวดเร็วจนเยี่ยนอวี๋ไม่ทันโต้กลับได้!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้…
“เช่นนั้นเจ้าจงตายเสีย!”
ฝ่ามือของเยี่ยนอวี๋ที่รวบรวมแสงหม่นไท่ชูไว้ก็ซัดลงไปที่ศีรษะของซื่อฝานเทียนอ๋องทันที!
“เจ้าบังอาจ!”
ตี้เซินกรีดร้อง!
“หยุด!”
จู่ๆ เสียงตวาดอันน่าเกรงขามก็ดังก้องออกมาจากค่ายกลย้ายมิติ!