ตอนที่ 451 หมายจับแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า! มารร้ายหรงถูกปลุกตื่น!
แทบจะในเวลาเดียวกัน…
“เสด็จแม่?!”
ตี้เซินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเสด็จแม่ซีเหอของนางแผ่ซ่านออกมาจากค่ายกลย้ายมิติ
แต่ในขณะเดียวกันนั้น แสงสีม่วงอร่ามที่ต้าซือมิ่งกางออกมาก็ปกคลุมทุกคนเอาไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อซีเหอออกมาจากค่ายกลย้ายมิติพร้อมเหล่าทวยเทพอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร ร่างของกลุ่มเยี่ยนอวี๋ก็ค่อยๆ ‘เลือนหาย’ ไป เซินเซินอยากจะขัดขวางจึงตะโกนว่า “เสด็จแม่รีบขวางพวกเขาไว้!”
“ลงมา!” ซีเหอปล่อยพลังกดดันศักดิ์สิทธิ์ไปยังทุกคนที่เลือนหาย พยายามบิดเบือนมิติ หยุดโจรกลุ่มนี้ไม่ให้หนีไป! แต่น่าเสียดาย…
เยี่ยนอวี๋ทั้งกลุ่มยังคงเลือนหายไป ก่อนจะลับขอบฟ้าไปกลายเป็นเพียงแสงสีม่วง อีกเพียงพริบตาก็จะหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
“จันทราโคจร”
มหาเทพอาวุโสหลันเย่ว์จู่โจมใส่เป็นคนแรก เขาปล่อยพลังแสงสีขาวไปทางกลุ่มคนเยี่ยนอวี๋ที่กลายเป็นลำแสงสีม่วงไปแล้ว
“บัญชาสวรรค์!”
ปัวเหร่อเทียนอ๋องก็ร่ายมนต์โบราณชุดหนึ่งออกไปทางลำแสงสีม่วง เสียงสวดมนต์ดังทั่วท้องนภา แสงพระธรรมนับไม่ถ้วนจู่โจมกลุ่มเยี่ยนอวี๋ ดูแล้วตระการตาอย่างยิ่ง
มหาเทพองค์อื่นๆ ก็พากันแสดงอิทธิฤทธิ์ของตนเพื่อขัดขวางกลุ่มเยี่ยนอวี๋อย่างพร้อมใจกัน ทว่าน่าเสียดาย…
“…”
การไล่ล่าทั้งปวงล้วนไร้ประโยชน์ราวกับหินที่จมลงสู่มหาสมุทร มิอาจสร้างได้แม้เพียงคลื่นทะเล พวกเขาที่จะต้องหายไปก็ยังคงหายไป ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการขัดขวางของเหล่าทวยเทพเลย
“อย่าเสียแรงเปล่าเลย” หงส์เทพกล่าวอย่างสงบ ในขณะเดียวกันก็สลายเชือกที่มัดตัวนางไว้กลายเป็นฝุ่น สีหน้าเคร่งขรึมประหนึ่งเมฆครึ้ม
“หงส์เทพ…” เหล่ามหาเทพมองหงส์เทพด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างตกใจกับการที่นางถูกมัดไว้เมื่อครู่นี้ เพราะถึงอย่างไรมหาเทพหลายองค์ก็รู้ถึงความสามารถของหงส์เทพเป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกัน ซีเหอก็ทำลายเชือกที่มัดตี้เซินเอาไว้ ครั้นนางอยากจะสวมกอดบุตรสาว ตี้เซินกลับปฏิเสธพลางก้าวถอยหลัง “เสด็จแม่”
“เซินเซิน แม่ขอดูหน่อยว่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ซีเหอจับมือบุตรสาวไม่ปล่อย มองบุตรสาวอันเป็นที่รักอย่างละเอียดลออ เมื่อมั่นใจแล้วว่าบุตรสาวมิได้บาดเจ็บ นางค่อยโล่งใจ
แม้ตี้เซินจะรู้สึกอึดอัด แต่นางก็ฝืนทนให้ซีเหอมองดูสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อล่ะเพคะ เขาออกจากการจำศีลแล้วมิใช่หรือ”
“…เสด็จพ่อของเจ้าไม่ว่าง” ซีเหอได้แต่ตอบเช่นนี้และหันไปมองหงส์เทพที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง
หงส์เทพจึงก้มศีรษะคารวะซีเหอ “เทียนโฮ่ว”
ซีเหอจึงปล่อยมือตี้เซิน ถามหงส์เทพเสียงขรึมว่า “หงส์เทพรู้หรือไม่ว่าโจรที่หนีไปคือผู้ใด เทพตกสวรรค์ประสบภัยร้ายหรือ”
“ใช่แล้วเพคะ แต่ตบะของเทพตกสวรรค์ไม่ธรรมดา อาจจะมีโอกาสฟื้นตัวได้เพคะ โจรกลุ่มนี้ก็ไม่ได้หนีไปไหน พวกเขาแค่ไล่สังหารเทพตกสวรรค์เท่านั้น” หงส์เทพรู้ดีแก่ใจว่า สำหรับ ‘โจร’ กลุ่มนี้แล้ว การมาเยือนของเทียนโฮ่วไม่ได้สำคัญอันใด
สิ่งที่ทำให้พวกเขารีบไปจากที่นี่มีเพียงคำสาป ‘สังหารโกลาหล’ ของเทพตกสวรรค์ นางไม่รู้เลยว่า… อันที่จริงแล้วเทพตกสวรรค์ศึกษาคำสาปสังหารโกลาหลอย่างลึกซึ้งด้วย
หงส์เทพที่คิดถึงตรงนี้ก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม “หากเทียนโฮ่วต้องการจับพวกเขา ให้มุ่งไปทางทะเลสาบสือซ่าไห่”
“ทะเลสาบสือซ่าไห่?” ซีเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย “หงส์เทพหมายความว่าอย่างไร ทะเลสาบสือซ่าไห่เป็นเขตอาคมของจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้า อีกทั้งนอกจากเทพรุ่นแรกเพียงไม่กี่องค์ที่แข็งแกร่งที่สุดสามารถเข้าไปได้แล้ว เกรงว่าเทพองค์อื่นมิอาจเข้าไปได้”
“เพราะว่าเป็นไปได้มากว่าโจรกลุ่มนั้นไปยังทะเลสาบสือซ่าไห่แล้ว” ตี้เซินที่อยู่ด้านข้างพูดเสริม “เสด็จพ่อยุ่งอะไรอยู่กันแน่ ผู้ที่มาเป็นถึงจักรพรรดิอสูรแห่งแดนมืดเชียวนะ หากไม่รีบจับตัวเขา ไม่รู้ว่าเขาจะเล่นลูกไม้อะไรอีก มิหนำซ้ำข้างกายเขายังมีเทพรุ่นแรกที่ทรยศสวรรค์เก้าชั้นฟ้า! ไม่สิ เป็นโจรที่สืบทอดพลังของปฐมราชินีหยวนชู!”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซีเหอพลันเปลี่ยนเป็นแตกตื่นทันที “หมายความว่าอย่างไร!”
“ผู้สืบทอดพลังปฐมราชินีหยวนชูรึ!” เหล่ามหาเทพและหลันเย่ว์สีหน้าพลันเปลี่ยน
หงส์เทพพยักหน้า “ใช่แล้ว สตรีที่มาสวรรค์เก้าชั้นฟ้าพร้อมจักรพรรดิอสูรแดนมืดสามารถใช้พลังไท่ชูได้ หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ซื่อฝานเทียนอ๋องและเทพตกสวรรค์คงไม่จากไปง่ายๆ เช่นนี้”
เหล่าทวยเทพส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่! พวกเขาตระหนกตกใจกับข่าวที่หงส์เทพแจ้ง
ปฐมราชินีหยวนชู!
ปฐมราชินีหยวนชู…
ปฐมราชินีหยวนชูเชียวนะ!
“ผู้สืบทอดพลังของปฐมราชินี เหตุใดจึงเข้าไปพัวพันกับเผ่ามารได้” มหาเทพหลันเย่ว์ไม่เข้าใจ “เข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่”
“นั่นน่ะสิ! ปฐมราชินีเกลียดเผ่ามารมาโดยตลอด จะอยู่กับจักรพรรดิอสูรของเผ่ามารได้อย่างไร” ปัวเหร่อเทียนอ๋องก็คิดว่าเรื่องนี้แปลกประหลาดเกินไป
ตี้เซินกลับกล่าวเหน็บแนมว่า “ผู้สืบทอดพลังปฐมราชินีท่านนี้ไม่ได้เกลียดเผ่ามารแม้แต่น้อย นางถึงกับเรียกจักรพรรดิอสูรว่าสามี ไร้ยางอายที่สุด! สารเลวชัดๆ!”
“อะไรนะ!”
เหล่าทวยเทพตกอกตกใจอีกครั้ง!
การที่ผู้สืบทอดพลังปฐมราชินีอยู่กับเผ่ามารก็ทำลายสามทัศน์มากพอแล้ว ครานี้มาบอกพวกเขาว่าผู้สืบทอดแต่งงานกับจักรพรรดิอสูรแห่งแดนมืดอีก?!
นี่มันตบหน้าตัวเองชัดๆ!?
“เป็นไปไม่ได้! ต้องเป็นผู้สืบทอดตัวปลอมแน่ๆ! ข้าไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง!” ปัวเหร่อเทียนอ๋องยืนกรานไม่เชื่อ “ปฐมราชินีเป็นอัครราชินีแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า มหาสงครามวันสิ้นโลกในครานั้นนางกำจัดสิบสองเทพมารจนสูญสิ้น ทั้งแข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์! จะปรามาสเช่นนี้มิได้เด็ดขาด!”
มหาเทพไม่น้อยพากันพยักหน้า ต่างไม่พอใจกับคำพูดของตี้เซิน “องค์หญิงเจ็ดโปรดระวังคำพูด เท่าที่ฟังองค์หญิงกล่าว นั่นต้องเป็นผู้สืบทอดตัวปลอมแน่ อาจจะขโมยพลังของปฐมราชินีไปก็เป็นได้! หรือไม่ก็ถูกหลอกลวง พวกข้าจำเป็นต้องเรียกร้องความถูกต้อง”
“ใช่แล้ว!” ปัวเหร่อเทียนอ๋องเห็นด้วยอย่างยิ่ง “พวกข้าจะกลับตำหนักสวรรค์ เชิญเทียนตี้ออกจากการจำศีล! ไปทะเลสาบสือซ่าไห่ ท่านเคารพปฐมราชินีมาโดยตลอด หากได้ยินข่าวนี้ต้องออกมาจากการจำศีลและไปที่นั่นแน่นอน! ผู้สืบทอดนั่นเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม เพียงท่านพิสูจน์ก็รู้ได้”
“มิได้” ซีเหอคัดค้านทันที “เกรงว่าท่านเทพกำลังจำศีลอยู่ในช่วงสำคัญ กำลังเลื่อนขั้นเข้าสู่ระดับสร้างโลก! หากต้องออกจากการจำศีลกลางคันเพื่อปฐมราชินีที่ไม่รู้ว่าเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม เช่นนั้นไม่ใช่ว่าเสียเวลาเปล่าหรือ เรื่องนี้คงมิใช่สิ่งที่ปฐมราชินีต้องการแน่”
“…” ปัวเหร่อเทียนอ๋องอ้ำอึ้ง “เช่นนั้นเหนียงเหนียงจะทำอย่างไร”
ซีเหอยิ้มชั่วร้ายในใจขัดกับใบหน้าที่แสดงสีหน้าจริงจัง “ออกหมายจับสวรรค์เก้าชั้นฟ้า!”
“มิได้!” มหาเทพหลันเย่ว์ห้ามปราม และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง…
ซีเหอกลับตัดสินใจเด็ดขาด “ต้องทำเช่นนี้! ทุกท่านเคยคิดหรือไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามไปทะเลสาบสือซ่าไห่ทำไม!”
หงส์เทพคิดอะไรขึ้นได้ สีหน้าก็ซีดลงเล็กน้อย “เทียนโฮ่วหมายถึง พวกเขาไปทะเลสาบสือซ่าไห่เพื่อชุบชีวิตสิบเทพมารหรือเพคะ!”
ทุกคนสีหน้าพลันเปลี่ยน!
เพราะว่าในทะเลสาบสือซ่าไห่มีซากศพของสิบเทพมารอยู่จริงๆ
ในปีนั้น เหล่าสิบสองเทพมาร นอกเหนือจากเทียแมทและคาร์ลีที่กลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว สิบเทพมารที่เหลือที่แข็งแกร่งที่สุดยังหลงเหลือซากไว้ และถูกหยวนสื่อเทียนจุนผนึกไว้ในทะเลสาบสือซ่าไห่
ซีเหอกวาดตามองเหล่าทวยเทพอย่างพึงพอใจ “ดังนั้นบัดนี้ยิ่งมิสมควรทำให้ฝ่าบาทต้องคว้าน้ำเหลว พวกเราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ฝ่าบาทจะต้องเลื่อนขั้นให้ได้ จึงจะยับยั้งภูตผีปีศาจทั้งปวงได้”
“…มีเหตุผล” มหาเทพอาวุโสหลันเย่ว์ชื่นชมจากใจจริง “เทียนโฮ่วมองการณ์ไกลยิ่งนัก”
“แต่หากเป็นเช่นนี้จริงๆ เกรงว่าต้องเชิญเทียนจุนให้ออกหน้า เขาคุ้นเคยกับทะเลสาบสือซ่าไห่ที่สุด” หงส์เทพพูดอย่างเคร่งขรึม “ข้ามิได้ต้องการทำลายขวัญกำลังใจของพวกเราเหล่าเทพ แต่มหาเทพทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาจริงๆ”
“ข้าจะไปตำหนักเทียนจุนขอให้ท่านช่วยเหลือเอง” หลังจากซีเหอจัดการทุกอย่างแล้วจึงกล่าวว่า “บัดนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องออกหมายจับทันทีจึงจะสร้างอิทธิพลต่อจักรวาลได้ ต้องเชิญชวนให้เทพรุ่นแรกที่ไม่ข้องแวะเรื่องภายนอกเหล่านั้นออกมาให้ได้”
“หลังจากข้ากลับตำหนักสวรรค์แล้วจะไปตำหนักซือมิ่งสวรรค์เพื่อออกหมายจับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าทันที!” เมื่อหงส์เทพคิดถึงความแข็งแกร่งของเยี่ยนอวี๋ นางก็รู้ว่าจะประมาทมิได้
ท่านเทพซือมิ่งที่ได้ยินดังนั้นก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “ข้าจะรอคำบัญชา”
“ดี! เช่นนั้นก็ลงมือได้เลย! อย่าได้ล่าช้า” เมื่อซีเหอกล่าวจบ นางก็พาตี้เซินกลับสวรรค์ชั้นเก้าและมุ่งไปทางตำหนักหยวนสื่อเทียนจุนแล้ว
ตี้เซินยกมุมปากเล็กน้อย นางรู้ดีว่าเสด็จแม่ท่านนี้ของนางต้องการเหยียบผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นปฐมราชินีหยวนชูให้จมดิน! เพราะว่าเสด็จแม่ของนางน่ะ เกลียดปฐมราชินีหยวนชูที่สุด!
ดีเลย! ตี้เซินตามเสด็จแม่กลับตำหนักสวรรค์อย่างพึงพอใจ
เพียงไม่นาน…
วิ้ง
บัดนี้เยี่ยนอวี๋ทั้งกลุ่มที่ถูกต้าซือมิ่งพามาก็ปรากฏตัวอยู่ใกล้ทะเลสาบสือซ่าไห่แล้ว
กลิ่นอายชั่วร้ายอันคลุมเครือจากทะเลสาบสือซ่าไห่ปกคลุมพวกเขาทุกคนไว้ทันที ทำเอาเด็กน้อยหนาวจนมุดตัวเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่อ “พ่อ?” เด็กน้อยที่ยังมีน้ำตาคลอเบ้ายังคงเป็นห่วงท่านพ่อของเขา เพราะท่านพ่อเพิ่งอาเจียนเป็นเลือดไปเมื่อครู่นี้เอง
ทว่าต้าซือมิ่งก็ยังกระอักออกมาเป็นเลือดอีก เยี่ยนอวี๋จับข้อมือเขาเพื่อตรวจชีพจรอีกครั้งแล้ว และในครานี้เยี่ยนอวี๋ก็พบว่าชายคนนี้มีอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ! เพราะเส้นเลือดและอวัยวะภายในของเขาปรากฏรอยร้าว!
แต่แล้ว… ต้าซือมิ่งที่ถูกสัมผัสข้อมือกลับกล่าวว่า “ไม่เป็นอะไรหรอก แค่อาหารไม่ย่อย”
ทว่าในขณะเดียวกันนั้นเอง…
วิ้ง!
เลือดที่ต้าซือมิ่งไอออกมาถูกพลังไร้รูปร่างที่มองไม่เห็นดูดกลืนไป!
จากนั้น…
ซู่!
ดวงตาสีฟ้าคู่หนึ่งลืมตาขึ้น