ตอนที่ 454 ต้าซือมิ่งหัวฟ้าอันตรายที่สุด! เทียนจุนเปิดผนึก!
“เป็นอะไรหรือ” เยี่ยนอวี๋ที่ประสาทรับรู้ไวรีบถามขึ้นมาทันที
นิ้วเรียวยาวของต้าซือมิ่งจ่อเข้าที่หน้าผากของตนเอง เยี่ยนอวี๋และเด็กน้อยตาเป็นประกายทันที เพราะพวกเขารู้ว่า เขากำลังจะ ‘จับ’ ต้าซือมิ่งตัวน้อยออกมาแล้ว!
ต้าซือมิ่ง “…”
ภายใต้สายตา ‘จับจ้อง’ ของสองแม่ลูก เขาตัวน้อยๆ ก็ถูกปั้นออกมา
“!”
เยี่ยนอวี๋และเด็กน้อยตาลุกวาวเป็นประกายจนเหมือนแสงประกายจะไหลทะลักออกมา หากไม่ใช่เพราะรู้ว่าต้าซือมิ่งกำลัง ‘ทำงาน’ สองแม่ลูกคงจับต้าซือมิ่งตัวน้อยตัวนั้นไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน ต้าซือมิ่งตัวน้อยก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือต้าซือมิ่ง มันโขกศีรษะให้ต้าซือมิ่ง แสงสีฟ้าไหลเข้าไปในอนุสติของต้าซือมิ่งทันที!
จากนั้นต้าซือมิ่งยังไม่ทันเก็บร่างน้อยๆ ของตนเอง เขาตัวน้อยก็สลายกลายเป็นแสงสีฟ้าเข้าไปที่หว่างคิ้วของเขาแล้ว ทำเอาเยี่ยนอวี๋และเด็กน้อยที่กำลังยื่นมือออกไปงงเป็นไก่ตาแตก
“พ่อ?” เด็กน้อยหยิกหว่างคิ้วของท่านพ่อ “พ่อน้อย! ออกมา!”
ขณะที่เยี่ยนอวี๋หดมือกลับไปก็รู้สึกประหลาดใจพลางเอ่ยถามว่า “เหมือนกับว่าครั้งนี้จะหายไปแบบแปลกๆ”
“อืม” ต้าซือมิ่งจับมือน้อยๆ ของเด็กน้อยไว้พลางขมวดคิ้วเป็นปม “ข้าไม่เห็นอะไรเลย เห็นเพียงแสงสีฟ้า”
“ไม่เคยเกิดขึ้นเลยหรือ” เยี่ยนอวี๋รู้ว่าต้าซือมิ่งตัวน้อยนั่นมีความสามารถหยั่งรู้พิเศษ โดยปกติแล้วชายคนนี้สามารถคาดการณ์ถึงคนและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเขาผ่านร่างกายน้อยๆ ของเขาเองได้
“อืม” ต้าซือมิ่งรวบตัวเด็กน้อยที่ดิ้นไปมาเข้ามาในอ้อมอก
แต่เด็กน้อยประท้วงอย่างคนความจำดีว่า “พ่อพูด ให้ พ่อน้อยเป่า! ไม่มี! โกหกเป่า!”
เรื่องนี้เยี่ยนอวี๋ก็จำได้ นางจึงมองต้าซือมิ่งด้วยดวงตาเป็นประกาย แต่นางก็ค่อนข้างกังวลเรื่องข้อเสนอนี้เช่นกัน “หรือไม่เจ้าลองอีกครั้งไหม”
“ใช่! ลองอีกครั้ง! แล้วก็ ให้เป่าเล่น” เด็กน้อยเห็นด้วยอย่างชาญฉลาด
หรงอี้ “…”
สองแม่ลูกนี่…
“ลองน่ะไม่ต้องลองแล้ว” หรงอี้ที่ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดมีลางสังหรณ์ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเหมือนเดิม
แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขาตัวเล็ก ต้าซือมิ่งหยิบรูปปั้นกระเบื้องเคลือบขนาดเล็กสองชิ้นออกมาอย่างคนรักษาสัญญา มันเป็นรูปปั้นที่วิจิตรงดงามและเหมือนจริงมาก สัดส่วนของมันมีขนาดเท่ากับร่างวิญญาณตัวน้อยตัวนั้นของเขา
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้องดีใจ “พ่อน้อย!”
ต้าซือมิ่งพอใจกับเด็กน้อยที่สรรเสริญเยินยอ เขายื่นตัวหนึ่งในนั้นให้เด็กน้อย
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหัวเราะอย่างชอบใจ ดวงตาของเขายังคงบวมจากการร้องไห้เมื่อครู่ บัดนี้ยังไม่ทันหายบวมเขาก็ยิ้มร่าดั่งดอกไม้ สดใสไร้ที่เปรียบ
ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางก็ได้รูปปั้นกระเบื้องเคลือบอีกตัวหนึ่ง แต่นางยังคงไม่พอใจ “ตัวนี้ขยับไม่ได้” แม้ปากปฐมราชินีเยี่ยนจะพูดเช่นนี้ แต่มือของนางก็จับต้าซือมิ่งตัวน้อยที่แสนวิจิตรตัวนี้ไว้แล้ว เพราะว่ามันงดงามวิจิตรและเหมือนจริงมาก
“อยากได้ตัวที่ขยับได้หรือ” ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วถาม น้ำเสียงแฝงเลศนัย
เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ ยังตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “อยากสิ”
ต้าซือมิ่งกัดหูของภรรยาก่อนจะตอบว่า “ได้ กลับไปข้าจะสนองความต้องการเจ้าเอง”
เยี่ยนอวี๋รู้สึกแปลกๆ อย่างไรไม่รู้…
“ที่นี่มันสวรรค์แห่งการพักผ่อนจริงๆ” จิ่วอิงที่สำรวจทะเลสาบสือซ่าไห่อยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกชอบที่นี่เป็นพิเศษ “รู้สึกเต็มไปด้วยไอสังหารและอำมหิต”
“ทำให้กระชุ่มกระชวย” เม่ยเอ๋อร์ก็ชอบที่นี่มากเช่นกัน
“ปัญหาคือจะตุ๋นซุปให้พ่อคุณทูนหัวที่ไหนดี” อินหลิวเฟิงที่สงบอารมณ์ตนเองลงแล้ว ก็ ‘ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่’ ตลอดเวลา ถึงอย่างไรบัดนี้พวกเขาก็ล่องลอยอยู่ในความมืดไร้ที่สิ้นสุด ไม่รู้ว่าที่นี่คือสถานที่บ้าอะไรกัน สถานที่แบบนี้จะก่อไฟทำอาหารได้อย่างไร
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กำลังเล่น ‘พ่อตัวน้อย’ อยู่ก็รีบมองท่านพ่อของเขาทันที “ใช่! ข้าวข้าว!”
“ตามข้ามา” เยี่ยนอวี๋รู้จักที่นี่เป็นอย่างดี นางพาทุกคนไปยังที่ดินขรุขระผืนกว้างราวกับเป็นทุ่งอุกกาบาต แม้รอบทิศยังคงมืดมิดเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยอินหลิวเฟิงก็ ‘เดินได้ด้วยตนเอง’ แล้ว ไม่ต้องพึ่งจิ่วอิงอีก
พูดตามตรง การให้พวกเขานั่งบนตัวของจิ่วอิงที่ดุร้าย สำหรับพวกเขาแล้วรู้สึกกดดันอย่างยิ่ง กลัวว่าตนเองจะถูกธาตุไฟเข้าแทรกอย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเทพไร้ประโยชน์สององค์นั้น ดังนั้นเมื่อพวกเขาลงถึงพื้นได้ก็ถอนหายใจโล่งอกเฮือกใหญ่ จางเจ๋อเหอยังพูดว่า “จะว่าไปแล้ว ทะเลสาบสือซ่าไห่ห่างจากเมืองเซวียนหยวนของข้าไกลเหมือนกัน”
“ข้ามีคำถาม ในเมื่อเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์เมืองเซวียนหยวน เหตุใดจึงไม่ได้แซ่เซวียนหยวนเล่า” อินหลิวเฟิงถาม
“แค่ก! แค่ก…” จางเจ๋อเหอสำลักทันที หลินอวี่ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นอย่างชัดแจ้ง “เพราะว่าเขาไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงสายตรงที่ถูกบ่มเพาะมาอย่างไรเล่า ในเชื้อสายราชวงศ์เมืองเซวียนหยวนมีเพียงบุตรชั้นยอดเพียงไม่กี่คนเท่านั้นคู่ควรกับแซ่เซวียนหยวน”
อินหลิวเฟิงกล่าวอย่างมีมารยาทว่า “ขออภัย”
“ไม่เป็นไรๆ!” จางเจ๋อเหอรีบกล่าว ไม่กล้ารับคำขอโทษของคนข้างกายปฐมราชินีหยวนชู แม้เมื่อครู่นี้จะสงบอารมณ์ตื่นตระหนกลงได้แล้ว แต่… ก็ยังคงตื่นตกใจและหวาดกลัวมาก…
ส่วนอินหลิวเฟิงและเอ้อร์เหมา พวกเขาสงบสติอารมณ์ลงได้มากแล้ว ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกทำลายสามทัศน์ลง เอ้อร์เหมายังทอดถอนใจ “เฮ้อ นายท่านน้อยโชคดีที่ท่านไม่ได้ขอคุณหนูใหญ่แต่งงาน ด้วยสถานะเช่นนี้ ไม่ใช่ผู้ที่ท่านสามารถรับมือได้ด้วยจริงๆ”
“หุบปากก็ได้เจ้าน่ะ!” อินหลิวเฟิงรู้สึกอีกครั้งว่าต้าซือมิ่งมองเขาอีกแล้ว สวรรค์เมตตา! เขาไม่กล้ามีความคิดเช่นนี้มานานแล้ว
ทว่าครานี้ต้าซือมิ่งที่กำลังยุ่งอยู่นั้นเพียงแค่หาเวลาเหลือบมองอินหลิวเฟิงทีหนึ่ง เขากำลังเริ่มเตรียมซุปไก่ฉีกร้อนๆ ให้เด็กน้อยแล้ว
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กำลังเล่น ‘พ่อตัวน้อย’ ก็มองท่านพ่อทำอาหารพลางกลิ้งไปมาอยู่ข้างๆ ท่านแม่ของเขาอย่างมีความสุข ยังส่งเสียงร้องเป็นครั้งคราว “แม่!”
“จ๊ะ” เยี่ยนอวี๋หยิกเด็กน้อยเบาๆ รู้ว่าเด็กน้อยดีใจมาก ในที่สุดก็ได้ทานข้าวร้อนๆ แล้ว ทั้งยังมี ‘พ่อตัวน้อย’ เล่นเป็นเพื่อนด้วย
เด็กน้อยที่ยิ้มร่าตาหยีน่ารักน่าชังเช่นนี้ ทำเอาเยี่ยนอวี๋อดจูบเขาไม่ได้ นางรู้สึกมีความสุขไปด้วย เพียงแต่ภายใต้ความสุขนี้ยังมีความกังวลอยู่ นางหวังเพียงว่าครั้งนี้จะสามารถถอนคำสาปในตัวของบุตรชายอย่างสิ้นเชิงได้อย่างราบรื่น
แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง…
วิ้ง!
ผนึกที่หยวนสื่อเทียนจุนสร้างไว้ในทะเลสาบสือซ่าไห่พลันสะเทือนไหว!