ตอนที่ 465 เอาเขา/นางซะ!
“ภรรยา?” ต้าซือมิ่งผมสีฟ้าเผยอปากเรียกเบาๆ ดูเกียจคร้านและเย้าแหย่
เยี่ยนอวี๋กะพริบตาอีกครั้ง มือของนางสัมผัสสามีผมสีฟ้าที่รับนางไว้ “หรงอี้?” ทำไมเปลี่ยนสีอีกแล้ว ยังดูแปลกๆ อีกด้วย
ทว่าเยี่ยนอวี๋ที่คิดถึงซีหวังหมู่โบราณและเด็กน้อยก็ทำท่าจะลุกมองหาทั้งสองทันที แต่ครั้นนางกำลังจะลุกขึ้น มือที่แต่เดิมเพียงคล้องเอวนางไว้ก็ออกแรงรัดนางไว้ทันที
“ขอไปดูซีซีกับเสี่ยวเป่าก่อน” เยี่ยนอวี๋อธิบายพลางผละตัวออกจากอ้อมแขนของชายคนนี้
ทว่าใบหน้าของต้าซือมิ่งผมสีฟ้ากลับเข้าประชิดใบหน้าของนาง และยังใช้นิ้วเรียวยาวของตนลูบไล้ไปตามคิ้วและดวงตา ก่อนจะไล่ลงไปที่จมูกและปากของนาง “ภรรยาคนงาม”
เยี่ยนอวี๋ “…”
สามีคนนี้แปลกไปจริงๆ หรือว่าสามีสีฟ้าคนนี้เหมือนกับสีแดงคนนั้น เป็นร่างพลังเหมือนกัน?
ไม่สิ ไม่ใช่
เยี่ยนอวี๋มั่นใจว่านี่คือร่างจริง นางสัมผัสตัวเขาได้ “เจ้า… อุบ…”
เยี่ยนอวี๋ที่กำลังจำถามว่า ‘เจ้าเป็นอะไรไป’ ยังไม่ทันถาม เพราะว่าต้าซือมิ่งผมสีฟ้าประกบริมฝีปากลงมาแล้ว
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางกะพริบตาสองสามที และก็เห็น…
“อ้ะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร่วงลงมาล่าช้าไปเล็กน้อยกำลังจะร่วงใส่ศีรษะของท่านพ่อสีฟ้าของเขาแล้ว
เยี่ยนอวี๋คิดว่าต้าซือมิ่งคนนี้น่าจะรับเด็กน้อยไว้ สุดท้าย…
“เนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่ได้ถูกรับไว้แต่อย่างใดก็ร่วงใส่ศีรษะของท่านพ่อสีฟ้าของเขาทันที เยี่ยนอวี๋รู้สึกถึงน้ำหนักบนริมฝีปากที่หนักขึ้นกว่าเดิม แต่ต้าซือมิ่งผมสีฟ้าไม่มีทีท่าว่าจะถอนจูบเลย กลับยังดูดปากของนางด้วย
เยี่ยนอวี๋ยกมือดันแผ่นอกของชายคนนี้ ทำท่าจะผลักเขาออก เพราะตอนนี้เจ้าตัวน้อยโผล่ศีรษะโล้นน้อยๆ ออกมาจากศีรษะของท่านพ่อเขาแล้ว เด็กน้อยมองนางด้วยดวงตาสดใส “แม่! งาม พ่อ!”
ต้าซือมิ่งที่แต่เดิมจะบรรจงจูบต่อไปก็ชะงักเล็กน้อย มือที่แต่เดิมลูบไล้ใบหน้าของภรรยาก็เอื้อมขึ้นไปจับเด็กน้อยลงมาอย่างไม่ยากเย็นนัก
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกจับลงมาก็มองท่านพ่อของเขาอย่างตื่นเต้นดีใจ ต้าซือมิ่งที่ถอนจูบแล้วก็เลิกคิ้วมองเด็กน้อย
เยี่ยนอวี๋จึงทำท่าจะผละออกจากอ้อมอกของชายคนนี้ ในขณะเดียวกันก็สอดส่องมองไปทั่ว กลับไม่เห็นซีซี
ต้าซือมิ่งยังคงโอบเอวภรรยาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้นางลงพื้น ทำให้นางต้องอิงอยู่ในอ้อมอกของเขา ขณะเดียวกันเขาก็มองเด็กน้อยต่อไป
“พ่อ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเริ่มรู้สึกผิดปกติ “พ่อข้า?”
สีหน้าเยี่ยนอวี๋เริ่มเปลี่ยน…
“ลูก?” ต้าซือมิ่งกลับถามขึ้น
“ใช่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าทันที ร่างน้อยๆ ของเขายังลอยอยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะปีนขึ้นไปบนแขนของท่านพ่ออย่างลำบากเล็กน้อย “เป่า ของพ่อ!”
เยี่ยนอวี๋รู้แล้วว่าชายคนนี้ผิดปกติอย่างไร นางแตะหน้าผากเขาทันที “เจ้าเป็นอะไรไป สับสนอีกแล้วหรือ! แม้แต่ข้าและเสี่ยวเป่าก็จำไม่ได้!”
ต้าซือมิ่งผมสีฟ้าหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาเปล่งกระกายแสงหม่นก่อนจะกลายเป็นสีฟ้าครามอีกครั้ง สลับไปมาอยู่เช่นนี้หลายครา สุดท้ายยังคงกลับกลายเป็นสีฟ้าคราม
เยี่ยนอวี๋เห็นดังนั้นก็รู้สึกแปลกพิกล “เจ้าหลอมผสานร่างพลังของเจ้า แต่ถูกกลืนกินกลับหรือ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้… เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ร้อนรนทันที “พ่อ! พ่อ จำเป่าไม่ได้!? แล้ว แล้ว…”
เด็กน้อยที่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของตนเองอย่างร้อนรน ก่อนจะล้วงขนมชิ้นหนึ่งออกมาก็ถามว่า “ขนม ขนมเป่าล่ะ ข้าวข้าวล่ะ” เขาพูดตะกุกตะกักไปหมด
ต้าซือมิ่งมองขนมชิ้นนั้นแล้วกลับมามองเด็กน้อยที่ร้อนรนอีกครั้ง เขาก็อุ้มเด็กน้อยขึ้นไปขี่คอเรียวยาวของเขาราวกับมั่นใจว่าเป็นลูกแท้ๆ ของตนเองแล้ว “จำได้”
“ข้าวข้าวไก่?” เด็กน้อยยังไม่วางใจ เขาปีนลงไปบนไหล่ของท่านพ่อ ใช้มือน้อยๆ ของตนพยายามบิดใบหน้าของท่านพ่อมาให้มองมาที่เขา ถามว่า “ซุป ไก่ฉีก!”
ต้าซือมิ่งหรี่ตาสีฟ้าลงอีกครั้ง พูดว่า “จำไม่ได้”
“!!!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจะร้องไห้แล้ว
ต้าซือมิ่งหยิกแก้มของเขาเบาๆ “พ่อเจ้ามีดีแค่ทำอาหารให้เจ้าอย่างเดียวรึ”
“???” น้ำตายังคลอเบ้าตาเด็กน้อย แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าท่านพ่อจำได้ แต่ตั้งใจพูดว่าจำไม่ได้ เขาก็ยิ้มออกมาทันที “หลอกเป่า! พ่อร้าย!”
เยี่ยนอวี๋โล่งอก นางทำท่าจะลุกขึ้นอีกครั้ง กลับยังคงถูกโอบรัดไว้แน่น “เจ้าปล่อยมือก่อน”
“ไม่” ต้าซือมิ่งปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ทว่าเขาก็พูดขึ้นว่า “ซีหวังหมู่ตัวนั้นกำลังรักษาตัว ยังไม่ตาย”
เยี่ยนอวี๋ถามทันทีว่า “อยู่ที่ไหน”
“ในคำสาป”
เยี่ยนอวี๋ที่เข้าใจก็เดาบางอย่างได้ “ถ้าเช่นนั้นหมายความว่าหุบเหวแห่งคำสาปไท่อี้ที่เราอยู่ตอนนี้ถูกเจ้าควบคุมแล้วหรือ”
การคาดเดานี้แม้แต่เยี่ยนอวี๋ก็ตะลึงมาก! แต่นางรู้ว่านี่อาจจะเป็นเรื่องจริง
ส่วนต้าซือมิ่งที่ถูกถาม เขาก็พูดว่า “จะว่าเช่นนั้นก็ได้”
“เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ฟังหน่อย” เยี่ยนอวี๋อยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้น “หลังจากที่เจ้าหายไปก็มาถึงที่นี่เลยหรือ แล้วก็ผมและดวงตาสีฟ้าของเจ้า เสื้อผ้าที่เปลี่ยนไป คือเรื่องราวอย่างไร แล้วก็เหตุใดเมื่อครู่นี้เจ้าจำข้าและเสี่ยวเป่าไม่ได้”
“ใช่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่า “ถาม” ตาม ถึงอย่างไรเขาก็ยังประกอบคำเป็นประโยคยาวเช่นนี้ไม่ได้
ทว่าต้าซือมิ่งกลับเลิกคิ้วเล็กน้อย “อยากรู้หรือ”
“ก็ใช่สิ!” เยี่ยนอวี๋ตบแผ่นอกของชายคนนี้ทีหนึ่ง ทำท่าเร่งเร้าให้เขารีบตอบ
ต้าซือมิ่งกลับจับมือนางไว้กล่าวว่า “ชดเชยเรือนหอเมื่อไหร่ข้าจะบอกเจ้า”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกัน!
แต่แล้ว…
“แม่! ชด! ชด!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าผู้ไร้เดียงสาพูด “ชดแล้วพูด! พ่อบอก!”
ต้าซือมิ่งยิ้ม ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยกลับไปข้างใบหู มั่นใจว่าเป็นลูกแท้ๆ ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย “เสี่ยวเป่าน่ารักที่สุด”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางหูแดงอยากจะตำหนิชายคนนี้สักสองสามคำ หลอกใช้ลูกช่วยเช่นนี้ได้อย่างไร
“ใช่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับตอบพลางยิ้มตาหยี ยังเร่งเร้าว่า “แม่รีบชด!”
ต้าซือมิ่งตบหลังเด็กน้อยเบาๆ กล่อมเด็กน้อยว่า “เช่นนั้นเสี่ยวเป่านอนก่อน ตื่นมาก็รู้แล้ว”
“ทำ ทำไม” เยี่ยนเสี่ยวเป่าผู้ใสซื่อย่อมเข้าใจ แต่เขาก็รู้สึกง่วงแล้วจริงๆ “หาววว เป่าง่วง”
“เด็กดี” ต้าซือมิ่งลูบศีรษะเด็กน้อยเบาๆ เขาหลุบตามองภรรยาในอ้อมอก ภรรยาผู้บอบบางหูแดงแต่ยังไม่รู้ตัว