เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 466 ชดเชย! มือสอดประสานเพื่อรัก

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 466 ชดเชย! มือสอดประสานเพื่อรัก

เยี่ยนอวี๋ที่รู้สึกถึงสายตาของต้าซือมิ่ง นางก็ขึงตาใส่ชายคนนี้ทีหนึ่ง ถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เช่นนั้นซากศพแอนนาก็ถูกเจ้า ‘กลืน’ ลงมาหรือ”

ต้าซือมิ่งผมสีฟ้าที่กำลังลูบเด็กน้อย เขาก็โอบภรรยาขึ้นมาจูบดวงตาคู่นั้น รู้สึกเพียงว่าดวงตาของภรรยางดงามมากจริงๆ ชั่วขณะที่แสดงความโกรธและความอ่อนโยนล้วนสวยงาม บางครั้งก็เยือกเย็นเหมือนหิมะน้ำแข็ง บางครั้งก็ละเอียดอ่อนและสวยงามเหมือนต้นไห่ถัง บางครั้งอ่อนโยนเหมือนน้ำในฤดูใบไม้ผลิ…

เอาเป็นว่าดูอย่างไรก็งาม ดูอย่างไรก็ทำให้เขาหลงไหล…

ต้าซือมิ่งผมสีฟ้าทั้งจูบและคลอเคลียจมูกของภรรยา กล่าวด้วยเสียงเหมือนสายพิณที่ถูกดีดเบาๆ ทั้งอ่อนโยนและนุ่มนวล “ข้าไม่บอกเจ้าหรอก”

เยี่ยนอวี๋ต้านทานต้าซือมิ่งเช่นนี้ไม่ไหว รู้สึกเพียงว่าชายคนนี้ทั้งออดอ้อน ทั้งเย้าแหย่และลูบนางเหมือนแมวตัวหนึ่ง ทำให้นางนอกจากใจอ่อนแล้ว ร่างกายก็อ่อนเปลี้ยไปด้วย รู้สึก… ชอบจัง

อืม…

เยี่ยนอวี๋จูบปากที่มีอุณหภูมิเย็นเล็กน้อยตรงหน้ากลับอย่างเป็นธรรมชาติ น้ำเสียงอ่อนโยนลง ยังเจือความเคอะเขินเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว “เช่นนั้นต้องทำอย่างไรเจ้าจึงจะยอมบอกข้า”

ต้าซือมิ่งหยุดหายใจไปครู่หนึ่งก่อนจะรัดเอวบอบบางของภรรยาไว้แน่น หัวใจของเขาถูกเกี่ยวด้วยเสียงนั้นไปแล้ว ไม่สามารถถอนตัวได้เลย เจ้าปลาตัวน้อยตัวนี้… ช่างเย้ายวนนัก!

ทว่า…

หลังจากกระชุ่มกระชวยขึ้น ต้าซือมิ่งที่ต้องการใช้กิริยาบอกว่าตนอยากได้อะไร เขาก็ได้ยินเสียงหิวโหยดังประท้วง ‘จ๊อก’ จากท้องน้อยๆ ของเจ้าตัวน้อย…

เด็กน้อยที่กำลังจะหลับลึกไปนั้นก็เบิกดวงตากลมโตของตนขึ้นมาทันทีราวกับถูกเปิดเครื่อง “เป่าหิว…”

หรงอี้ “…”

เขาที่เมื่อครู่ยังคิดว่าเด็กน้อยเป็นลูกโดยแท้ ตอนนี้ก็ไม่อยากมีลูกคนนี้แล้ว

“คิกๆ” เยี่ยนอวี๋หัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะดังราวกับนกไป่หลิงในป่า ชัดเจนและไพเราะ ยังเจือน้ำเสียงหยอกล้อ “รีบไปทำอาหารให้เสี่ยวเป่า”

ต้าซือมิ่งผมสีฟ้าที่อ้าปากกัดภรรยาทันทีก็พูดเสียงขรึม “รอก่อนเถอะ!”

“พ่อ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าขยี้ตาสองสามที เขายังปีนลงมาจากไหล่ของท่านพ่ออย่างแข็งแรง ลงมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ข้าวข้าว?”

“จอมตะกละ” ต้าซือมิ่งหยิกใบหน้าน้อยๆ ของเด็กน้อย ถึงอย่างไรก็รู้สึกสงสารเด็กน้อยที่ผ่ายผอมไป ได้แต่ทำอาหารให้เด็กน้อยก่อน แต่เจ้าตัวน้อยหิวเร็วเกินไปแล้ว คงจะเล่นค้อนจิ๋วอีกแล้วสินะ

ต้าซือมิ่งที่รู้สึก ‘จริง’ มากขึ้นเรื่อยๆ ก็กำลังจะวางเด็กน้อยลงบนพื้น เยี่ยนอวี๋กลับกอดคอของเขาไว้ “เจ้าบอกก่อนว่าเจ้าเป็นอะไร เหตุใดเมื่อครู่นี้จึงจำพวกข้าสองแม่ลูกไม่ได้”

“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตาโตจนลืมคัดค้านว่าตนเองไม่ใช่จอมตะกละ! เขาก็อยากรู้เช่นกันว่าเมื่อครู่นี้ท่านพ่อรูปงามเป็นอะไร เหตุใดจึงจำเป่าไม่ได้

ต้าซือมิ่งที่กอดภรรยาและเด็กน้อยไว้ ดวงตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มเล็กน้อย “บางที อาจจะเกือบจะลืมไปแล้วจริงๆ ก็ได้”

“ก็ลองดู!” เยี่ยนอวี๋โพล่งพูด

เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ทุบตีท่านพ่อของเขาอย่างโมโห “ไม่ดี!”

“ฮึ” ต้าซือมิ่งที่หยิกเด็กน้อยและจูบภรรยาทีหนึ่งก็ยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ไม่กล้าหรอก ทำไม่ลงด้วย” ทว่าเขาพอจะเดาได้แล้วว่าเหตุใดจึงไม่มีความจำในคืนนั้น และเหตุใดตนเองจึงยังอยู่ในร่างพรหมจารี ตอนนี้ก็ยังเป็น…

“เชอะ!” สองแม่ลูกเยี่ยนอวี๋แทบจะร้องเชอะในเวลาเดียวกัน ที่ต่างกันคือคนหนึ่งเสียงอ่อนเยาว์ คนหนึ่งเสียงใสและอ่อนโยน

“ถ้าพ่อ จำเป่าไม่ได้ เป่าก็ ไม่รักพ่อ! เชอะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังเพิ่มบทให้ตนเอง บอกว่าเป่าเป็นเด็กที่มีหลักการ ถึงครานั้นก็กล่อมไม่หายแล้วนะ!

แม้เยี่ยนอวี๋ยังไม่ได้พูดอะไร แต่ต้าซือมิ่งย่อมรู้ว่าสองแม่ลูกอารมณ์คุกรุ่นเหมือนกันจึงเริ่มปลอบทั้งเจ้าตัวใหญ่และเจ้าตัวเล็กแล้ว “แล้วพ่อคนนี้ก็เอาไว้ไม่ได้แล้ว ขยะ”

ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็สวนกลับในทันที “เจ้าลืมพวกข้าสองแม่ลูกแล้วครั้งหนึ่งและในครานั้นเจ้าก็ไม่รู้ว่ามีเสี่ยวเป่าด้วย”

“…” หรงอี้อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าภรรยาหมายถึงครั้งไหน แต่ตอนนี้เขาสรุปไม่ได้จริงๆ ว่านี่เป็นเพราะตนเองหรือเพราะภรรยาทำอะไรลงไป

แม้จะรู้สึกว่าเป็นเพราะตนเองมากกว่า แต่ต้าซือมิ่งที่จู่ๆ หน้าหนาขึ้นมาก็มุดศีรษะเข้าไปในซอกคอของภรรยา “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…”

“อ้อนไปก็ไร้ประโยชน์”

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…”

“???” เยี่ยนเสี่ยวเป่าสับสน เขามองท่านพ่ออย่างงงงัน

เยี่ยนอวี๋ที่ไม่มั่นใจว่าตนเองทำอะไรลงไปหรือไม่ นางก็เม้มปากก่อนจะส่งเสียง เชอะ ออกมาบอกว่า “อย่าให้มีครั้งต่อไปอีก มิเช่นนั้นเสี่ยวเป่าไม่เอาเจ้าแล้วแน่ๆ ความจำแย่จริงๆ ขยะ”

“นั่นสิ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ฟังรู้เรื่องก็สำทับ

ต้าซือมิ่งที่ถูกรังเกียจก็แหย่เด็กน้อย “ครั้งหน้าจำไม่ได้ว่าทำอาหารอย่างไร”

“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อนรน จับมือของท่านพ่อมากัดคำหนึ่ง “พ่อไม่ดี!”

ต้าซือมิ่งจับเด็กน้อยขึ้นมากำลังจะไปเตรียมอาหารให้เด็กน้อยแล้ว เอาเข้าจริงก็สงสารเด็กน้อยที่ยังไม่กลับมาอ้วนเหมือนเดิม

ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางก็นั่งพิงใต้ต้นอิงสีเลือดมองสองพ่อลูกด้วยใบหน้าชื่นมื่น ทว่า…

“พ่อ! อิงอิงล่ะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่คิดถึงจิ่วอิงขึ้นมาก็ถามขึ้น

เยี่ยนอวี๋ที่คิดถึงก็พูดขึ้นว่า “ปู่จิ่วมาถึงก่อนพวกข้า เจ้าไม่เห็นมันหรือ”

หรงอี้ที่ไม่เห็นจริงๆ กลับไม่ได้ร้อนรน “ไม่ต้องสนใจมัน มันชอบที่นี่ที่สุด อาจจะไปเตร็ดเตร่ที่ไหนแล้ว คงยังไม่อยากให้เราเจอ จะได้ไม่ถูกคุม”

จิ่วอิงผู้รักอิสระถูก ‘ทิ้ง’ อย่างไร้ความปรานี แม้เยี่ยนเสี่ยวเป่าจะคิดถึงมัน แต่ตอนนี้เขามีข้าวและยังรู้สึกง่วงจึงไม่ ‘คะยั้นคะยอ’ ถามต่อไปแล้ว

ต้าซือมิ่งนึกได้ว่าต้องป้อนเด็กน้อยและกล่อมเขาให้หลับก่อนจึงจะได้เข้าเรือนหอต่อกับภรรยา เขาจึงเลือกทำซุปผักกระดูกหมูที่ง่ายที่สุด

เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่พอใจ “ไม่ กินผักผัก!”

“เลือกกินรึ” ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วมองเด็กน้อย

เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลายเป็นเด็กขี้ขลาดทันที “เป่าชอบเนื้อเนื้อ เพิ่ม หน่อยได้หรือไม่ขอรับ”

“ให้เขาเถอะ” เยี่ยนอวี๋ที่เดินเข้ามาอุ้มเด็กน้อยไว้ก็ช่วยขอร้องแทนเด็กน้อย

เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มตาหยี “เพิ่ม! เพิ่มหน่อย!”

ต้าซือมิ่งก็เพิ่มเนื้อจากกระดูกหมูให้และบดจนเละ…

เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อนรน ทำท่าจะจับกระดูกชิ้นใหญ่นั่นแล้ว “เป่ากัดเอง!”

น่าเสียดายที่กระดูกชิ้นใหญ่หายไปแล้ว…

“อ้ะ! อ้ะๆๆๆ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่โมโหก็กำลังจะไปตีท่านพ่อของเขา แต่ท่านพ่อของเขาเพิ่มเนื้อในซุปให้ไม่น้อยแล้ว ทำเอาเด็กน้อยถูกแหย่จนประเดี๋ยวโมโห ประเดี๋ยวดีใจ

เยี่ยนอวี๋ก็หมดคำพูด…

เมื่อเด็กน้อยทานเสร็จและปล่อยให้ย่อยครู่หนึ่ง เวลาก็ผ่านไปหนึ่งถ้วยชาแล้ว เด็กน้อยที่กำลังสะลึมสะลือใกล้หลับจู่ๆ กลับเบิกตาโตชี้ไปเหนือศีรษะของท่านพ่อเขา “ดอกไม้! สวย!”

“นอน”

“ขอรับ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ง่วงมากจริงๆ ก็อยากจะนอนมาก แต่เขาก็อดมองดอกไม้มากมายเหนือศีรษะของท่านพ่ออย่างประหลาดใจไม่ได้ พูดว่า “เมื่อครู่เป่า ไม่เห็น สวย…”

“อืม ขุดเอากลับไป ต่อไปได้เห็นทุกวัน”

“ดี…” ในที่สุดเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่พึงพอใจก็หลับในอ้อมแขนของท่านพ่อเขา

เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อย “ไม่รู้ผมของเสี่ยวเป่าจะงอกกลับมาเมื่อไร ตอนเด็กเจ้าก็เป็นเช่นนี้หรือ เติบโตแบบย้อนกลับน่ะ”

“…อืม” ต้าซือมิ่งได้แต่ยอมรับและรีบเปลี่ยนเรื่อง “เจ้าปูผ้าให้เสี่ยวเป่าหน่อย” กลัวว่าภรรยาจะถามเรื่องศีรษะโล้นต่อไป

เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้อยากถามต่อ เด็กน้อยตัวเล็กผมหดกลับไป สำหรับนางแล้วเห็นเป็นเรื่องปกติ นางจึงปูผ้าพลางถามว่า “อาการของซีซีเจ้ารักษาได้หรือ”

“ขึ้นอยู่กับดวง” หรงอี้ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน เพราะว่าอาการบาดเจ็บของซีหวังหมู่โบราณสาหัสมาก หากไม่ใช่เพราะมีจิตตานุภาพอันแข็งแกร่ง คงช่วยกลับมาไม่ได้

อีกเรื่องหนึ่งคือ… ต้าซือมิ่งที่คิดถึงเรื่องหนึ่งก็กล่าวเสริมว่า “แขนข้าทั้งสี่ที่มันทำสลายเองสามารถฟื้นคืนได้ เพราะว่าตอนนั้นข้าไม่ได้กลืนกินสิ่งของในเหวแล้ว ถือว่าโชคดี”

“ก่อนหน้านี้กลืนงั้นหรือ” เยี่ยนอวี๋ประหลาดใจ “พลังคำสาปไท่อี้ระดับต้นกำเนิดจักรวาลเจ้าก็กลืนไปด้วยหรือ”

“มิเช่นนั้นจะเรียกว่าควบคุมได้อย่างไร” ต้าซือมิ่งที่วางเด็กน้อยลงอย่างระมัดระวังพลางถามกลับ

“…” เยี่ยนอวี๋พูดไม่ออก นางกำลังจะถามเรื่องอื่น แต่ต้าซือมิ่งที่วางเด็กน้อยลงแล้วก็ดึงภรรยาที่อยู่ข้างกายเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนจะพลิกกดภรรยาไว้บนผ้า “ไม่ชดเชยเรือนหอ อย่าคิดมาหลอกถามเสียให้ยาก”

เยี่ยนอวี๋ที่ถูกโจมตีด้วยลมหายใจของชายคนนี้ไม่ยอมรับ “ไม่ได้หลอกถามเสียหน่อย เจ้าลุกขึ้นก่อน…” เด็กน้อยอยู่ข้างๆ หากจู่ๆ ลืมตามาเห็นจะดูไม่ดีเอา

“จูบข้าก่อนสิ” ต้าซือมิ่งที่ไม่มีทางลุกขึ้นยังประชิดหน้าเข้าใกล้ภรรยา มือข้างหนึ่งลูบไล้ลงไปตามแขนของภรรยาก่อนจะสอดประสานเข้าไปในนิ้วมือของนางและจับไว้แน่น

เยี่ยนอวี๋ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของนางสะท้อนเงาของต้าซือมิ่ง สว่างสุกใสดังเช่นใจนาง แต่นางไม่ได้จูบ กลับยกมือขึ้นกอดคอของชายคนนี้ไว้และลูบเบาๆ “รอข้ากลับตำหนักสวรรค์แล้วจะจัดพิธีสมรสชดเชยให้อย่างยิ่งใหญ่ ดีหรือไม่”

ดวงตาหรงอี้ประกายสีเข้มขรึม เขาประกบริมฝีปากลงไปที่ปากอันหวานหอมนั้นของนาง…

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท