ตอนที่ 468 ถล่มสวรรค์ด้วยกัน!
จิ่วอิงที่ ‘อุดหู’ ของเด็กน้อยไว้ มันก็มองซีหวังหมู่โบราณร้องห่มร้องไห้ด้วยดวงตาทั้งสิบแปดดวง สายตาสอดรู้สอดเห็นของมันทำให้รู้สึกเหมือนถูกผู้คนมากมายมุงดู
ซีหวังหมู่ที่ดุร้ายและรู้สึกไวต่อความรู้สึกย่อมสัมผัสได้ มันมองจิ่วอิงทันที ฝ่ายหลังกะพริบตาทั้งสิบแปดดวง ยังคงจ้องดูต่อไปอย่างไม่เกรงกลัว
“ปิดตาสุนัขของเจ้าซะ!” ซีหวังหมู่ตวาดใส่อย่างโหดเหี้ยมด้วยแววตาอันดุร้าย!
จิ่วอิงไม่กลัวหรอก “ปู่จิ่วของเจ้าไม่มีดวงตาสุนัขหรอกนะ เก่งจริงเจ้าปิดเองสิ”
พลังเหี้ยมโหดในตัวซีหสังหมู่พุ่งปรี๊ด มันเกือบจะซัดกับจิ่วอิงแล้ว
ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็ ‘ลูบ’ ศีรษะของมัน พลังอำมหิตในตัวซีหวังหมู่มลายหายไปทันที มันกลับมาอ่อนโยนเชื่อฟังนายท่านของพวกมันเหมือนเดิม เยี่ยนอวี๋เอ่ยว่า “ปู่จิ่วเป็นคนครอบครัวเดียวกัน อย่าถือสาเลย”
เยี่ยนอวี๋พูดพลางให้จิ่วอิง ‘อุ้ม’ เด็กน้อยที่หลับสนิทมาให้ต้าซือมิ่งอุ้ม ก่อนจะแนะนำให้ลูกน้องเก่านางรู้จักว่า “ลูกข้า สามีข้า”
ซีหวังหมู่ “??!!!”
สายตาทั้งสับสันและงงงันแสดงออกมาอย่างเต็มที่จากดวงตาของซีหวังหมู่ แน่นอนว่ามันคิดไม่ถึงเลยว่านายท่านผู้สูงส่งจะแต่งงานมีลูกในวันหนึ่ง ไม่ใช่แค่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่คือไม่เคยคิดมาก่อนเลย! ไม่เคยเลยจริงๆ เพราะว่าหยวนชู ปฐมราชินีสร้างโลกที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่ที่นางปรากฏกายต่อหน้าสิ่งมีชีวิต นางก็คือเทพผู้อยู่บนจุดสูงสุด! ยากที่สรรพสัตว์จะรู้สึกถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากความรู้สึกบูชา คอยติดตาม และจงรักภักดีต่อนาง แม้สิบสองเทพมารและเผ่ามารจะเป็นข้อยกเว้น แต่พวกเขาก็เกรงกลัวปฐมราชินีเยี่ยนเช่นกัน
ความนับถือ คือความคิดและทัศนคติหนึ่งเดียวที่เหล่าสรรพสัตว์มีต่อเยี่ยนอวี๋ ไม่มีความรู้สึกอื่นใดมาครอบงำ ‘ความนับถือ’ นี้ได้ เช่นนั้นด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ ใครจะคิดเรื่องปฐมราชินีแต่งงานมีลูกได้ แน่นอนว่าไม่มี และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดคิดอยากจะตามจีบหรือมีความรักเชิงชู้สาวกับปฐมราชินี
อย่าว่าแต่คิดเลย! แม้แต่แอบฝันเฟื่องก็ยังไม่มี
แม้แต่ซีเหอที่คิดแค้นเยี่ยนอวี๋ แม้นางจะริษยาเยี่ยนอวี๋ แต่ก็ไม่เคยคิดเหลวไหลว่าเยี่ยนอวี๋กับเทียนตี้จะมีความสัมพันธ์กันในเชิงนั้น
อย่างน้อยก่อนที่เยี่ยนอวี๋ยังไม่ตายก็ไม่เคยคิด แต่ตอนนี้…
“!!!”
ซีหวังหมู่ที่สับสนจนรู้สึกประหลาดใจ มันก็มองต้าซือมิ่งผมสีฟ้าและทารกน้อยน่ารักน่าชังในอ้อมอกของเขาอย่างนิ่งงัน
“ตะลึงไปเลยล่ะสิ!” จิ่วอิงเอ่ย “ตื่นมาเจ้านายก็มีสามีมีลูกเสียแล้ว ตะลึงหรือไม่ ไม่คาดฝันเลยสิ”
ซีหวังหมู่ที่ครานี้ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ มันพึมพำอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ตะลึงจริงๆ ไม่คาดฝันจริงๆ…” ไม่ใช่แค่ประหลาดและตกใจเท่านั้น แต่ยังตะลึงและคาดไม่ถึงอีกด้วย! ตื่นเต้นจริงๆ…
หากไม่ใช่เพราะซีหวังหมู่มีจิตตานุภาพอันแรงกล้า เกรงว่าคงสะเทือนใจจนสลบไปแล้ว
ทว่าจิตใจของซีหวังหมู่ทะลายลงทันทีเมื่อได้สบตาของเด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาขึ้นหลังงีบเสร็จอย่างบังเอิญ!
หาววว
เด็กน้อยที่งีบเสร็จก็อ้าปากหาวอย่างเกียจคร้าน เห็นได้ชัดว่าดวงตากลมโตมองซีหวังหมู่อย่างงัวเงีย เพราะเขายังไม่ตื่นดี
เขางีบไปเพียงไม่นาน อันที่จริงยังนอนไม่พอ แต่เพราะคิดถึงท่านพ่อรูปงาม เขาจึงตื่นขึ้นมาก่อนและยังจับเสื้อของท่านพ่อเขาไว้ด้วยสัญชาติญาณ ก่อนจะขดตัวในอ้อมอกของท่านพ่อเขา
ตัวเล็กๆ นุ่มนิ่มดูน่ารักน่าชังเช่นนี้ได้ซีหวังหมู่มาเป็นแฟนพันธุ์แท้อีกหนึ่งตัวได้สำเร็จ “น่ารักจังเลย! นายท่าน นายน้อยน่ารักจังเลย! น่ารักจริงๆ! อา…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าสะดุ้งตื่นทันที! เขากะพริบตาสองสามที เรียกเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ซีซี?”
“อ๊า!…” ซีหวังหมู่ไม่ไหวแล้ว!
จิ่วอิงกลอกตาทั้งสิบแปดดวง
เยี่ยนอวี๋กลับเข้าใจลูกน้องเก่า “ใช่หรือไม่ เนอะ! ข้าก็ว่าเสี่ยวเป่าน่ารักมากจริงๆ!”
“น่ารัก! น่ารัก!” ซีหวังหมู่กลั้นหายใจพลางเข้าใกล้เด็กน้อย จู่ๆ ก็คิดได้ว่าตนเองหน้าตาดุร้ายไปหน่อย กำลังคิดว่าควรจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ก่อนหรือไม่
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับยิ้มตาหยีและยื่นมืออวบอ้วนของตนออกไปสัมผัสสีสันสดใสของซีหวังหมู่แล้ว “สวย! ซีซีสวย! อิงอิงสวย!”
“นี่! ใจดำจริงๆ ไม่ใช่ปู่จิ่วของเจ้าสวยกว่ารึ!” จิ่วอิงไม่ยอม มันยังสะบัดหางอัน ‘งดงาม’ ของมัน
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจมาก “สวยๆ!”
ซีหวังหมู่ใจละลายไปหมดแล้ว…
เยี่ยนอวี๋กลับสัมผัสถึงกลิ่นอายผิดปกติตามแขนขาของซีหวังหมู่ที่ฟื้นตัวแล้ว นางรีบใช้มือแตะเพื่อตรวจสอบและนางก็พบว่าตามแขนขาทั้งสี่ข้างที่ถูกผมยาวหยักศกสวยงามของซีหวังหมู่ปกคลุมไว้มี ‘หลุม’ เต็มไปหมด
“เกิดอะไรขึ้น” ขณะที่เยี่ยนอวี๋ถาม นางก็มองไปที่ต้าซือมิ่งผมสีฟ้าที่กลายเป็นคนไร้ตัวตน ‘ไปโดยปริยาย’ ฝ่ายหลังถูกซีหวังหมู่เมินอย่างสิ้นเชิง
ถึงอย่างไรซีหวังหมู่โบราณก็เพิ่งสังเกตว่ามีต้าซือมิ่งอยู่ มันก็ตะลึงกับชายผู้เป็นที่โปรดปรานของนายท่าน รู้สึกเขามีความสามารถไม่ธรรมดา ไม่ได้มีเพียงหน้าตาที่งดงาม
ต้าซือมิ่งที่ในที่สุดก็มีตัวตนแล้ว เขาก็นำหมุดยึดกองหนึ่งให้ภรรยาดู ฝ่ายหลังเห็นก็รู้ทันที “คือหมุดตรึงมารที่มีเพียงเผ่าเทพสุริยันจันทราของเทียนโฮ่วเท่านั้นที่ทำได้”
หมุดตรึงมารเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้สังหารมารในยุคมหาสงครามเทพและมาร!
ทว่าบัดนี้…
“ฮึ”
เยี่ยนอวี๋ยิ้มเย็นชาพลางเก็บหมุดยึดเหล่านี้ นางหันไปต่อยศีรษะของซีหวังหมู่ทันที “ความอำมหิตของเจ้ากัดกร่อนหมุดเหล่านี้ให้สิ้นได้ แต่เจ้ากลับปล่อยให้มันกระทำกับเจ้าเช่นนี้รึ”
ซีหวังหมู่ที่ถูกต่อยรู้สึกเจ็บ แต่กลับยิ้มกว้างขึ้นมา “ก็เพราะนายท่านท่านไม่อยู่ ไม่มีใครสั่งสอนข้าน่ะสิ”
“บัดซบจริงๆ” เยี่ยนอวี๋ต่อยลูกน้องซื่อบื้อไปอีกหมัดหนึ่งแล้วรู้สึกปวดศีรษะเอง สมแล้วที่ลูกน้องเก่าหัวแข็งเหล่านี้เป็นลูกน้องที่นางปล่อยไว้ไม่ได้ครั้นนางยังไม่ตาย
หากไม่ใช่เพราะครั้งนี้นางมาทัน ลูกน้องซื่อบื้อก็คงตายไปแล้ว…
เยี่ยนอวี๋ถอนหายใจพลางนวดระหว่างคิ้วเบาๆ จากนั้นนางก็ถามซีหวังหมู่ที่ยังยิ้มแป้นดูซื่อบื้อว่า “แล้วเทพอัสนีเป็นอะไร เจ้ารู้หรือไม่”
“เทพอัสนีหรือ” ซีหวังหมู่โบราณทำท่าครุ่นคิดก่อนจะจำอะไรได้ “มันไปเมืองต้าจ้างฟูแล้วมิใช่หรือ เห็นบอกว่าที่นั่นมีกระบี่ไท่ชางที่ท่านทิ้งไว้ก่อนจะตายไป”
“ไร้สมอง!” เยี่ยนอวี๋นวดระหว่างคิ้วต่อ “กระบี่ไท่ชางเกิดพร้อมข้า ในเมื่อข้าตายแล้ว มันก็ต้องสลายหายไปเช่นกัน”
“หลักการนี้พวกข้ารู้ดี เพียงแต่ว่า…” ไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง ซีหวังหมู่รู้เหตุผลที่เทพอัสนีไปเมืองต้าจ้างฟูดี มันจึงไม่ได้ห้าม ก็เหมือนกับที่มันมาทะเลสาบสือซ่าไห่ในเวลาต่อมา พี่น้องขุนเขาและท้องทะเลก็ไม่ได้ห้ามมัน
ถึงแม้พวกมันจะสัมผัสถึงอย่างชัดเจนว่านายท่านของพวกมันจากไปแล้วจริงๆ พวกมันก็ยังคงเชื่อเช่นนั้น อีกทั้งยังไปพิสูจน์เบาะแสที่มีทั้งหมดที่เกี่ยวกับนายท่าน แม้จะรู้ว่าเบาะแสที่ว่าจะเป็นเพียงข่าวลือก็ตาม
แต่ไม่แน่ล่ะ แม้จะเป็นเพียงหนึ่งในโอกาสนับล้านพัน พวกเขาก็หวนแหนมาก
เยี่ยนอวี๋สูดหายใจเข้าลึก นางรู้ดีว่าลูกน้องเก่าเหล่านี้ดื้อรั้นเพียงใดจึงทำใจดุด่าต่อไปไม่ได้ ได้แต่เปลี่ยนจาก ‘โมโหแต่ไม่โต้เถียง’ เป็นความเกรี้ยวกราด “ไปเมืองต้าจ้างฟูต่อ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เยี่ยนอวี๋ก็หยุดจังหวะลงเล็กน้อยมองต้าซือมิ่ง “เจ้าไปได้หรือยัง”
“แน่นอน” ต้าซือมิ่งที่พยักหน้าเสร็จก็เรียกจิ่วอิงไปถอนต้นอิง เด็กน้อยจะได้ไม่เอาแต่คิดถึง ประเดี๋ยวจะหาว่าเขาหลอกเด็กอีก
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินคำสั่งของท่านพ่อก็ดีใจมาก “รัก! รักพ่อ!”
“นายน้อยน่ารักมากจริงๆ…” ซีหวังหมู่ชอบเด็กน้อยของนายท่านมากจริงๆ เขาคล่องแคล่วเป็นพิเศษ วิจิตรงดงามทั้งยังเหมือนนายท่านมากด้วย
หากจิ่วอิงได้ยินความในใจของซีหวังหมู่ มันต้องเถียงแน่ๆ! เสี่ยวเป่าเหมือนต้าซือมิ่งราวกับแกะ ไม่ทราบว่าตาดวงไหนของท่านเห็นว่าเหมือนนายท่านของพวกเจ้า ตาฝาดชัดๆ!
เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันในวันข้างหน้า แต่ตอนนี้จิ่วอิงไปขุดต้นไม้อย่างรวดเร็วแล้ว เยี่ยนอวี๋ก็ถามต้าซือมิ่งเพื่อตรวจสอบความมั่นใจอีกครั้ง “คำสาปในตัวเสี่ยวเป่าไม่มีปัญหาแล้วใช่หรือไม่”
ในตอนที่เยี่ยนอวี๋รู้ว่าต้าซือมิ่งกลืน ‘เหวลึก’ คำสาปไท่อี้ไป นางก็รู้ว่าคำสาปของเด็กน้อยไม่มีปัญหาแล้ว ตอนนี้ก็แค่รู้สึกกังวลใจอย่างมารดาทั่วไปจึงถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
“แน่นอน เทพตกสวรรค์ก็สูญสิ้นแล้ว” ต้าซือมิ่งที่ตอบกระชับได้ใจความเสร็จ เขาก็โอบเอวอันบอบบางของภรรยาออกจาก ‘เหวลึก’ คำสาปในทันที จิ่วอิงที่ตามหลังไปยังแบกซีหวังหมู่ไปด้วยอย่างรู้งาน
ในขณะเดียวกัน….
ณ สถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งในเมืองเซวียนหยวน
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ พวกเราอยู่ที่นี่ปลอดภัยจริงๆ หรือ” อิงหลิวเฟิงถามอย่างกังวล ก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ที่ทุ่งอุกกาบาต แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะตี้เซินเริ่มค้นหาพวกเขาแล้ว!
จางเจ๋อเหอจึงเสนอให้เขามาเมืองเซวียนหยวน เพราะเขาคุ้นเคยกับที่นี่ดี! แต่อินหลิวเฟิงที่ตอนนี้ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งรู้สึกเสียวระแวงอย่างไรไม่รู้และด้วยลางสังหรณ์ของคน ‘ปากอีกา[1]’ เช่นเขา ‘ความโชคร้าย’ ก็บังเกิดกลายเป็นจริงอีกครั้ง
“ล้อมถ้ำไว้!” เสียงของตี้เซินดังเข้ามาทันทีที่อินหลิวเฟิงพูดจบ
เอ้อร์เหมา “…”
เขาจะพูดอะไรได้อีก เขายอมปากอีกาของนายท่านน้อยเขาแล้วจริงๆ!
ในขณะเดียวกัน…
[1] ปากอีกา หมายถึง คนที่พูดเรื่องดีๆ กลับไม่สำฤทธิ์ผล แต่หากพูดเรื่องไม่ดีมักจะกลายเป็นจริง