เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 472 ปฐมราชินีซัดแหลก!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 472 ปฐมราชินีซัดแหลก!

“ว้าว! เสี่ยวเหลย ฟื้น!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เห็นเทพอัสนีลืมตาขึ้นเล็กน้อย เขาก็ชี้เทพอัสนีพลางส่งเสียงดีอกดีใจ ยังตีแผ่นอกของท่านพ่อราวกับกลัวท่านพ่อของเขาไม่เห็น

เทพอัสนีสับสนงุนงง ถึงอย่างไรมันก็รู้จักร่างกายของตนเองดี รู้ว่าร่างที่แห้งเหี่ยวไร้ชีวิตของตนไม่มีทางฟื้นตัวได้แล้ว มันเองก็ไม่อยากให้นายท่านหนักใจ มิหนำซ้ำมันก็เหนื่อยมากแล้ว…

“ฟื้นแล้วหรือ” เยี่ยนอวี๋ถามอย่างสงบนิ่ง

ซีหวังหมู่สะดุ้งกลัว มันไว้อาลัยในใจให้เทพอัสนีแล้ว เพราะว่าน้ำเสียงของนายท่านพวกเขาราบเรียบเกินไป คงโมโหมากแน่ๆ!

เทพอัสนีก็รู้สึกสั่นสะท้าน มันมองเยี่ยนอวี๋ นายท่านของมันที่อยู่ใกล้ๆ มันก็… ก็รู้สึกกลัว “นาย… ท่าน”

“ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วรึ เมื่อครู่นี้ยังตายอย่างไม่สนใจไยดีอยู่เลย” เยี่ยนอวี๋ถามพร้อมรอยยิ้มจางๆ

ซีหวังหมู่หวาดกลัวจนต้องไปแอบอยู่ข้างหลังจิ่วอิงแล้ว…

เทพอัสนีก้มศีรษะที่ผอมแห้งจนกลายเป็นหนังหุ้มกระดูก “ข้าน้อย…”

“หยุดเพ้อเจ้อเสียที! ข้าขอบัญชาเจ้าให้ฟื้นกลับมาเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นจะตายด้วยหมัดเดียวของข้า” เยี่ยนอวี๋ปวดใจจริงๆ แต่ก็โมโหมากจริงๆ

แม้จะโง่เขลาคนละแบบกับซีหวังหมู่ เทพอัสนีที่ถูกหมุดตะปูมารตรึงไว้ไม่สามารถหลุดพ้นได้ด้วยตัวเอง แต่ทั้งๆ ที่เทพอัสนีรู้ว่านางมาแล้ว กลับยังยืนกรานตายจากไปเช่นนี้ นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ!

เทพอัสนีไม่กล้าเถียง มันกำลังให้ความร่วมมือเยี่ยนอวี๋ด้วยการฟื้นฟูตัวเองอย่างตั้งใจและสุดความสามารถ ในขณะเดียวกันยังแอบมองเยี่ยนอวี๋เป็นครั้งคราวด้วยดวงตาหงส์ของมันอย่างระมัดระวัง…

“เอ๋?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าท่านแม่ของเขาถลึงตาใส่ เทพอัสนีก็ตกใจจนคอหดทันที ทั่วทั้งร่างระเบิดแสงสายฟ้าสีแดงและม่วงออกมา เขาก็หัวเราะ ฮ่า ทันที

เทพอัสนีมองไปตามเสียงหัวเราะของเยี่ยนเสี่ยวเป่าทันที มันเห็นดวงตากลมโตที่กำลังยิ้มของเด็กน้อยคู่นั้น ฝ่ายหลังยังยื่นมือไปจับมัน “เสี่ยวเหลย! ตลก!”

“เจ้าตัวแสบได้ใหม่ลืมเก่า เช้าสามเย็นสี่!” จิ่วอิงประท้วงทันที

เยี่ยนเสี่ยวเป่าปีนออกมาจากอ้อมอกของท่านพ่อ มองไปทางจิ่วอิงที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นดวงตามันก็เป็นประกายเมื่อพบว่าหางของจิ่วอิงผูกคนไว้อีกแล้ว!

“ว้าววว…”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าตาเป็นประกาย “อิงอิง! แบกเป่า!”

“ไม่เอาหรอก!” จิ่วอิงที่ปฏิเสธพลางสะบัดหางก็กำลังแสดงท่าทีภาคภูมิอย่าง ‘นกยูงรำแพนหาง’

เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงบินไปหาเอง เขาเกาะบนศีรษะที่อยู่กลางลำตัวของจิ่วอิงทันที “จับอิงอิงได้แล้ว!”

“เฮ้อ!” จิ่วอิงคิดในใจ หากไม่ใช่เพราะข้าไม่หลบ เจ้าตัวน้อยเช่นเจ้าจะจับข้าได้รึ พูดเป็นเล่น

เทพอัสนีดูถึงตรงนี้ก็ตะลึงงัน! เพราะว่ามันได้กลิ่นอายของนายท่านบนเจ้าตัวน้อยน่ารักน่าชัง นั่น… นั่น… นั่นมัน…

“เจ้ายังกล้าวอกแวกอีกหรือ” เยี่ยนอวี๋ถาม “หายดีแล้วหรือ”

เทพอัสนีไม่กล้ามองอย่างอื่น มันรักษาตัวเองอย่างใจจดใจจ่อต่อไปทันที จะได้ไม่ถูกนายท่านจัดการ

แต่เยี่ยนอวี๋ก็ยื่น ‘มือที่เป็นพิษ’ ใส่มัน พูดว่า “ซีซี ไปช่วยถอนหมุดตะปู ถอนทีละอัน”

เทพอัสนีร้อง ซี๊ด ในใจ แต่ภายนอกก็ไม่กล้าคัดค้าน

ซีหวังหมู่เริ่มลงมือ “เจ้าเหลย สนุกกับมันเสียเถอะ รู้ว่านายท่านมาแล้วเจ้ายังกล้ายอมแพ้ ฮึๆๆ…”

“หากเป็นเจ้า เจ้าก็จะทำเหมือนกัน!” เทพอัสนีไม่ยอม คิดว่าซีหวังหมู่ต้องเป็นเหมือนนางแน่นอน

ซีหวังหมู่ยิ้มเย็นชา ลงมืออย่างไม่เกรงใจ มันถอนหมุดตะปูที่ตอกลงบนเส้นเอ็นของเทพอัสนีทันที ความเจ็บชานั้น… เทพอัสนีร้อง ‘โอ๊ย’ อย่างทนไม่ไหว

ทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่าถูกดึงดูดความสนใจไป “โอ๊ยยย” ดูเจ็บจังเลย

“ไม่กลัวหรือ” จิ่วอิงถาม ถึงอย่างไรซีหวังหมู่ก็ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ถอนจนกระดูกและเนื้อของเทพอัสนีปลิวว่อน สมชื่ออสูรร้ายใจอำมหิตจริงๆ แม้แต่สหายเก่ายังกล้าลงมือรุนแรงเช่นนี้

เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับไม่รู้สึกกลัว เขาส่งเสียงหน่อมแน้มว่า “ซีซีกำลังช่วยเสี่ยว เหลย! ไม่ใช่ทำ ร้าย เป่ารู้ ไม่กลัวหรอก!”

“ฉลาดเป็นกรด”

“คิกๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าชอบถูกชมมากที่สุด

เยี่ยนอวี๋จึงรักษาร่างกายของเทพอัสนีในบรรยากาศที่ค่อนข้างผ่อนคลายนี้อย่างตั้งอกตั้งใจ หลังจากที่ฝ่ายหลังร้องเสร็จ มันก็เริ่มรักษาบาดแผลอย่างตั้งใจแล้ว ไม่เช่นนั้นจะถูกถอนจนร้อง โอ๊ย ไม่หยุดอีก ต้องฝืนทนไว้! มิเช่นนั้นจะถูกมองว่าเป็นตัวตลกอีก

และในขณะเดียวกัน กองทัพเมืองต้าจ้างฟูก็ถูกรวมตัวกันมาแล้ว แต่แม่ทัพหญิงเมืองต้าจ้างฟูที่นำทัพมาถึง บัดนี้ยังไม่ได้เข้าไปในเขตต้องห้ามแดนมืดนิรันดร์

“แม่ทัพลี่ว์ซา เหตุใดท่านจึงไม่ส่งกองหนุนเข้าช่วยเหลือเจ้าเมืองอีก!” เหล่าขุนนางเมืองต้าจ้างฟูที่สติกระเจิดกระเจิงไม่เข้าใจจริงๆ “ตามคำสั่งของเจ้าเมือง คือให้พวกท่านรวมตัวโดยเร็ว เพื่อตามเจ้าเมืองลงไปฆ่าโจรร้ายนะ!”

“เจ้าเป็นแม่ทัพหรือ” ลี่ว์ซาถามกลับ

“ข้า…” ขุนนางคนนั้นทำท่าจะพูดอะไรกลับถูกลี่ว์ซาแทรกขึ้นว่า “ไม่รู้จักกลยุทธ์ศึกสงครามก็จงหุบปาก! ข้าเป็นแม่ทัพสวรรค์ชั้นหนึ่งที่แต่งตั้งโดยตำหนักสวรรค์ เจ้าจะมาชี้นิ้วสั่งข้ามิได้”

“แม่ทัพลี่ว์โปรดอย่าได้โมโห ใต้เท้าเหวินป๋อเพียงแค่กังวลความปลอดภัยท่านเจ้าเมือง ท่านก็เห็นว่าข้างล่างนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย พวกข้าจะไม่กังวลได้อย่างไร ตามหลักแล้วค่ายกลอัสนีในบัดนี้ควรเริ่มทำงานแล้ว ไม่ควรเงียบเหมือนไก่ตายเช่นนี้…”

“ใช่แล้ว แม่ทัพลี่ว์คิดเห็นอย่างไร”

อัครเสนาบดีเมืองต้าจ้างฟูและน้องชายของเจ้าเมืองผู้อาภัพ พวกเขาคิดว่าสถานการณ์ในบัดนี้ผิดปกติ ส่วนขุนนางและเหล่าเจ้าเมืองต่างก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย

แดนมืดนิรันดร์แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหว พวกเขากลับกังวลใจมาก ถึงอย่างไรความเคลื่อนไหวของค่ายกลอัสนีก็ไม่ธรรมดา เมื่อค่ายกลนี้ถูกกระตุ้น เมืองทั้งเมืองจะรับรู้ได้ ทว่าบัดนี้…

“ข้าย่อมรู้ว่าผิดปกติ! จึงไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าไป หากเจ้าเมืองตกอยู่ในอันตรายจริงๆ พวกข้าลงไปก็เท่ากับลงไปตาย รออยู่ที่นี่ไม่ดีกว่าหรือ รอให้เจ้าโจรเหล่านั้นออกมาจากแดนมืดนิรันดร์ค่อยกวาดล้างพวกเขาในพริบตา!” เห็นได้ชัดว่าลี่ว์ซาผ่านการคิดมาแล้ว

ทว่าวาจาของนางทำให้ท่านอ๋องท่านนั้นร้อนรน “หากเจ้าเมืองกำลังรอท่านลงไปช่วยเล่า หากท่านไม่ไป เจ้าเมืองจะไม่ตายในเงื้อมมือของคนเลวเหล่านั้นหรือ”

ลี่ว์ซากำลังจะตอบ…

“รายงานขอรับ…”

ผู้แข่งแกร่งของทูตเมืองต้าจ้างฟูมารายงานด้วยตนเองแล้วว่า “เรื่องด่วน! องค์หญิงเจ็ดบังเอิญอยู่เมืองเซวียนหยวนใกล้ๆ นี้ ท่านบัญชาให้พวกข้าส่งข่าวให้กลุ่มโจรร้ายโดยเร็วว่าผู้ต้องหาในหมายจับหนึ่งร้อยเหรียญสวรรค์สองสามคนนั่นถูกจับเป็นแล้ว หากไม่อยากให้สหายถูกประหารชีวิต จอมโจรที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในแดนสวรรค์ให้รีบไปมอบตัวที่เมืองเซวียนหยวนบัดเดี๋ยวนี้!”

คำพูดนี้… ต้าซือมิ่งที่อยู่ในแดนมืดนิรันดร์ได้ยินแล้ว

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท