ตอนที่ 485 แผนซ้อนแผน! ซีเหอเสียสติ!
เยี่ยนอวี๋รู้ว่านี่คือหัวใจของวิหคทมิฬจริงๆ แต่ในนี้ไม่มีกลิ่นอายของมัน ไม่มีเลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะซั่วเย่ว์พูดความจริงออกมา เยี่ยนอวี๋คงไม่มีทางรู้ไปจนตายว่าในดวงตะวันขนาดยักษ์ที่แผดเผาไม่หยุดดวงนี้ของอาณาจักรสุริยันจันทรามีหัวใจของลูกน้องเก่านางอยู่ด้วย
“…”
เยี่ยนอวี๋ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ถึงอย่างไรหลังจากที่ลูกน้องเก่าของนางร่วงหล่นไป ตราบใดที่นางได้ไปยังพื้นที่ที่พวกมันร่วงหล่น นางจะต้องสัมผัสถึงกลิ่นอายของพวกมันได้เสมอ
ทว่าบัดนี้นางไม่สามารถทำได้แล้วหรือ ไม่สิ ไม่ใช่เป็นเพราะนาง เป็นเพราะที่นี่ไม่มีกลิ่นอายของเสวียนเสวียนของนางจริงๆ ต่างหาก ไม่มีจริงๆ นางคิดถึงมันยิ่งนัก
ทว่า…
ต้าซือมิ่งที่เข้ามายืนข้างกายเยี่ยนอวี๋เงียบๆ เขาปล่อยพลังของตนออกมาปกคลุมหัวใจของวิหคทมิฬเอาไว้ จากนั้นก็เอ่ยเสียงเบาว่า “วัฏจักร”
“แม่… แม่…” ครานี้เยี่ยนเสี่ยวเป่ากระโจนเข้าไปในอ้อมอกของท่านแม่แล้ว เขาเช็ดน้ำตาให้ท่านแม่เขาด้วยมืออวบอ้วน ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา “ไม่ร้องนะ…”
อันที่จริงเยี่ยนอวี๋หยุดร้องไห้แล้ว นางจูบเด็กน้อย “จ๊ะ แม่ไม่ร้อง”
“โอ๋” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กอดท่านแม่ไว้แน่นก็ตบคอของท่านแม่เบาๆ แสดงให้เห็นว่ากำลังปลอบให้ท่านแม่หยุดร้องไห้จริงๆ แต่ตนเองกลับน้ำตาร่วงไม่หยุดเพราะสงสารท่านแม่
ในขณะที่เยี่ยนอวี๋มองต้าซือมิ่ง นางก็ยังคงลูบหลังของเด็กน้อยเพื่อปลอบเขากลับ “เสี่ยวเป่าก็ไม่ร้องแล้วนะ ไม่เช่นนั้นแม่จะร้องไห้อีกแล้ว”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบสูดน้ำมูกและกลั้นน้ำตาไว้ทันที เขากอดท่านแม่ไว้แน่น ไม่กล้าปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาสักหยดเพราะกลัวว่าท่านแม่ของเขาจะร้องไห้อีกครั้ง
เยี่ยนอวี๋เห็นดังนั้นก็จูบเด็กน้อยอีกทว่าความโศกเศร้าในใจมิอาจเลือนหายเพียงเพราะความน่ารักและความอบอุ่นของเด็กน้อย นางหาเสวียนเสวียนของนางไม่เจอแล้ว
“จวินโฮ่ว! เป็นอย่างไรบ้าง” ซีหวังหมู่มองต้าซือมิ่งตาปริบๆ ขณะที่ต้าซือมิ่งเพิ่งลืมตาสีฟ้าขึ้นไม่นาน มันก็ถามขึ้นทันที
เยี่ยนอวี๋เองก็มองต้าซือมิ่งอย่างอยากจะรู้คำตอบ นางรู้ว่าที่เขาลงมือเป็นเพราะพบบางอย่างเข้า รวมถึงพลังที่เขาใช้ นางเดาว่า…
“มันกลับไปเกิดใหม่แล้ว” ต้าซือมิ่งเอ่ยสิ่งที่เยี่ยนอวี๋คาดเดาในใจออกมา และกล่าวถึงรายละเอียดว่า “มันนำมรดกและพลังที่สำคัญที่สุดของมันกลับไปเกิดใหม่ด้วย ส่วนหัวใจดวงนี้…”
ต้าซือมิ่งที่เว้นจังหวะเล็กน้อย นัยน์ตาแสดงความชื่นชม “หัวใจดวงนี้เป็นเพียงสิ่งประดับ เพลิงวิหคทมิฬบนนี้แปลงมาจากเลือดของตระกูลสุริยันจันทราพวกเขาเอง ซึ่งหมายความว่า หัวใจดวงนี้เป็นของปลอม”
“หมายความว่า นั่นมันตั๊กแตนลอกคราบหรือ!” ซีหวังหมู่ร้อนรนจนเปิดเผยตัวตนที่ไร้การศึกษาออกมา จากจักจั่นลอกคราบก็พูดเสียเป็นตั๊กแตนลอกคราบ
จิ่วอิงก็ ‘ประกาศ’ แก้ไขจากข้างนอกว่า “จักจั่นลอกคราบ!”
ซีหวังหมู่ไม่สนใจยังคงมองต้าซือมิ่งตาปริบๆ ฝ่ายหลังก็พยักหน้า “อืม ลอกคราบได้อย่างสวยงาม หลอกฆ่าทหารเผ่าสุริยันจันทรานับแสนนายแล้วพวกเขาก็ยังไม่รู้ตัวอีกด้วย”
“สมแล้วที่เป็นวิหคทมิฬ! เจ้าเล่ห์จริงๆ!” เทพอัสนีตะโกนจากข้างนอก “ข้าว่าแล้ว! ข้าว่าแล้ว! วิหคทมิฬจะตกหลุมพรางได้อย่างไร ไม่แน่ว่ามันคงมาเพื่อตรวจสอบบางอย่าง จากนั้นก็วางแผนซ้อนแผน!”
“เป็นไปไม่ได้!” ซั่วเย่ว์ที่ยังถูกปกคลุมด้วยวิชา ‘จิตวิญญาณแท้จริง’ ไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้! บรรพบุรุษวิหคทมิฬถูกตระกูลข้าหลอมไปแล้วจริงๆ มิเช่นนั้นที่ตระกูลข้าเจริญรุ่งเรืองหลังจากนั้นได้เป็นเพราะสิ่งใดกันเล่า!”
“นั่นน่ะสิ! ตลอดสามหมื่นปีที่ผ่านมา ตระกูลของเรารุ่งเรืองขึ้นทุกวัน เทพรุ่นหลังก็มีความสามารถมากขึ้นกว่าในอดีต!” ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ไม่อยากจะเชื่อ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าความพยายามทั้งหมดที่ตระกูลสุริยันจันทราทำลงไปเป็นเพียงเรื่องตลกหรือ
ทว่าความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น…
ส่วนเหตุใดเผ่าสุริยันจันทราจึงรุ่งเรืองนั้น เยี่ยนอวี๋เข้าใจดี “เลือดเนื้อของทหารแสนนายหลั่งไหลสู่ดวงอาทิตย์ขนาดยักษ์ ดวงอาทิตย์ขนาดยักษ์ก็ควรตอบแทนพวกเจ้าบ้าง ก็เหมือนกับการรดน้ำใส่ปุ๋ยพื้นดิน พื้นดินก็จะมีสิ่งมีชีวิตที่ดีงามงอกเงย เป็นหลักการเดียวกัน”
“…”
“!!!”
เผ่าสุริยันจันทราน้อยใหญ่ที่ไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้ รู้สึกเพียงเหนือศีรษะมีสายฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา แม้จะเป็นความจริงเช่นนั้นเพราะเทพอัสนีก็ยังปล่อยสายฟ้าออกมาไม่หยุดเช่นเดิมก็ตาม
“เยี่ยมไปเลย!” ซีหวังหมู่ดีใจอย่างยิ่ง “วิหคทมิฬไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว! เราค่อยไปหาว่าวิหคทมิฬไปเกิดใหม่ที่ไหนแล้วเถอะ”
“อืม” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า สำหรับนางแล้วเป็นเรื่องไม่ยากเย็น หลังจากนางจูบเด็กน้อยทีหนึ่งแล้วก็คืนหัวใจวิหคทมิฬให้สามีรูปงามของนาง “ขอบใจ”
“พูดว่าอะไรนะ” หรงอี้เลิกคิ้วถาม
เยี่ยนอวี๋ไม่พูดแล้ว เพียงจูบใบหน้าสง่างามของเขาแทน
จุ๊บ เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็เบียดตัวขึ้นไปจูบท่านพ่อเช่นกัน “พ่อเก่ง!”
ต้าซือมิ่งจึงรับเด็กน้อยมา ก่อนจะแค่นเสียงในลำคอเบาๆ อย่างพึงพอใจ
เยี่ยนอวี๋ย่อมรู้ว่าชายคนนี้แค่นเสียงเพราะอะไร ทว่าขณะนี้เอง…
พลังผิดปกติไม่รู้ที่มาจู่ๆ ก็จู่โจมขึ้นมาจากใต้ร่างของซั่วเย่ว์ เยี่ยนอวี๋ที่สัมผัสได้พลันถีบซั่วเย่ว์กระเด็นออกไปในทันที “ปู่จิ่ว รับไว้”
จิ่วอิงที่ชะงักไปครู่หนึ่งแต่ก็รับร่างอีกฝ่ายไว้ด้วยสัญชาติญาณ มันพโถมศีรษะข้างที่อยู่ใกล้ชั่วเย่ว์ที่สุดออกไปคาบเขาเอาไว้ ทว่าจังหวะที่มันคาบซั่วเย่ว์ไว้นั่นเอง…
ปัง!
หินหนืดอันเยือกเย็นระเบิดขึ้นที่ตำแหน่งเดิมของซั่วเย่ว์ มันเดือดพล่านเป็นฟองก่อนจะกลายเป็นชายชราหน้าตาอัปลักษณ์ มีผมสีขาวและหนังเหี่ยวย่นราวกับไก่
“อดีตหัวหน้าเผ่าอาวุโส?” เหล่าชนชั้นสูงของเผ่าสุริยันจันทราชะงัก ก่อนจะจำได้ว่าผู้อาวุโสอัปลักษณ์ท่านนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับอดีตหัวหน้าเผ่าอาวุโสของพวกเขา!?
ความเป็นจริงคือ ผู้อาวุโสที่ลงมือสังหารซั่วเย่ว์ในพริบตาท่านนี้คือบิดาโดยแท้ของซั่วเย่ว์จริงๆ หรือก็คืออดีตหัวหน้าเผ่าสุริยันจันทราบิดาของซีเหอ
ทว่าหลังจากที่อาวุโสท่านนี้กลายร่างเป็นคนแล้ว เขาก็กระอักเลือดสีดำออกมา ร่างกายก็แตกสลายไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาซีเหอตกใจ “ท่านพ่อ!”
“ซีเหอ พ่อช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้แล้ว” ผู้อาวุโสที่ร่างกายสลายหายกลายเป็นหินหนืดเยือกเย็นอีกครั้ง ลมหายใจก็หายไปโดยสิ้นเชิง
“ท่านพ่อ!” ซั่วเย่ว์ร้องเสียงหลง เขาคิดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อผู้ชราที่กลับคืนสู่ธรรมชาติแล้วจะรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายออกมาสังหารเขาเมื่อครู่นี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเพราะน้องสาวแสนดีคนนั้นของเขาใช้พลังจิตขอร้องให้ท่านพ่อลงมือ…
ซึ่งก็หมายความว่า…ซั่วเย่ว์มีความลับมากกว่านี้
เยี่ยนอวี๋เข้าใจได้ในทันที ทว่าในขณะนั้นเอง!
“แสงอรุณแห่งสุริยันจันทรา!”
ซีเหอลงมือเองแล้วทั้งยังใช้พลังระดับต้นกำเนิดอีกด้วย