ตอนที่ 488 อุ้มภรรยาเข้านอน!
เยี่ยนอวี๋มองกระจกวิเศษเฮ่าเทียนที่แตกละเอียดอย่างนิ่งเฉย นางรู้ว่านี่หมายความว่าหยวนสื่อเทียนจุนเริ่มหวั่นไหวแล้ว ถึงอย่างไรนางก็ปฏิเสธวิถีกลับคืนสู่ธรรมชาติของเขา เป็นไปได้มากว่าอาจเป็นเพราะสิ่งนี้ทำให้หยวนสื่อเทียนจุนกลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ แต่เยี่ยนอวี๋คิดว่าหากหยวนสื่อเทียนจุนกลับคืนสู่ธรรมชาติเช่นนี้จริงๆ ก็ถือว่า ‘สมปรารถนา’ แล้ว ถึงอย่างไรเขาก็อยากกลับคืนสู่ธรรมชาติตามที่ปรารถนา
หยวนสื่อเทียนจุนที่ได้รับสาส์นนั้นก็พลันลืมตาขึ้น หลังจากนั้นเนิ่นนาน…
พรูด
หยวนสื่อเทียนจุนที่อาเจียนเป็นเลือดออกมาเผยรอยยิ้มเจื่อน ทว่านี่กลับเป็นการแสดงอารมณ์มากที่สุดของเขาตลอดสองสามหมื่นปีที่ผ่านมา
ผ่านไปครู่หนึ่ง หยวนสื่อเทียนจุนที่สงบสติอารมณ์ลงได้ก็ถอนหายใจเสียงเบากล่าวว่า “สมแล้วที่เป็นปฐมราชินี แม้จะผ่านกระจกวิเศษเฮ่าเทียนก็ยังสามารถหยั่งรู้ได้ ข้ามิได้กลับคืนสู่ธรรมชาติจริงๆ เพียงแค่กำลังศึกษาวิถีกลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่เจ้ากลับไม่รู้…”
หยวนสื่อเทียนจุนไม่ได้พูดคำพูดที่เหลือออกมาเพราะร่างกายของเขาไม่เอื้ออำนวย เขาจำเป็นต้องจำศีลอย่างจริงจังอีกครั้งเพื่อฟื้นฟูร่างกายตนเอง มิเช่นนั้นเขาคงต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติจริงๆ แล้ว
ทว่าสิ่งที่หยวนสื่อเทียนจุนไม่รู้คือ เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้รู้ดีว่าหากไม่ใช่เพราะนางได้ทบทวนชีวิตชาติที่แล้วของตนเองที่ใต้แดนมืดนิรันดร์นั้น นางคงจะดูไม่ออกว่าหยวนสื่อเทียนจุนมีปัญหา เพราะว่าสภาพของเขาไม่ต่างจากสภาพของนางเมื่อครั้นก่อนจะร่วงหล่น เป็นสภาวะที่รู้สึกว่าใช้ชีวิตมานานเกินไปจนเห็นทุกอย่างจืดจาง ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ
ในอดีตเยี่ยนอวี๋ไม่คิดว่าเป็นปัญหาอะไร เพราะไม่ว่าจะเป็นนางหรือหยวนสื่อเทียนจุน พวกเขาก็มีชีวิตมายาวนานเพียงพอแล้ว หัวใจหยุดนิ่งดั่งน้ำที่หยุดไหล ตกอยู่ในสภาวะที่พร้อมจะสิ้นสุดชีวิตลง ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย แต่ว่า…
“มีปัญหาจริงๆ ด้วย” เยี่ยนอวี๋รู้สึกได้ว่าหลังจากหยวนสื่อเทียนจุนเหมือนจะ ‘สะดุ้งตื่น’ ก็ได้กลับเข้าสู่สภาวะฟื้นฟู ‘พลังชีวิต’ อีกครั้ง นางรับรู้ได้ทันทีสัญชาติญาณของนางถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นนางก่อนที่จะร่วงหล่นหรือหยวนสื่อเทียนจุนในบัดนี้ล้วนตกอยู่ในสภาวะผิดปกติจริงๆ…ดูท่าหลังกลับไปตำหนักสวรรค์ลงโทษซีเหอแล้ว นางคงต้องคุยกับหยวนสื่อดีๆ เสียแล้ว เจ้าหมอนี่คงรู้อะไรบ้าง
เยี่ยนอวี๋ที่คิดเสร็จก็รู้สึกว่าด้านหน้ามืดดำไปอีกครั้ง นางรู้ตัวว่าเป็นเพราะสูญเสียพลังงานมากเกินไปจึงมิได้ฝืนตัวเอง เตรียมจะกลับไปพักผ่อนที่ข้างกายต้าซือมิ่ง
ทว่าต้าซือมิ่ง ‘หาม’ เด็กน้อยมาอยู่ข้างกายนางล่วงหน้าแล้ว ขณะที่นางหน้ามืดอีกครั้งนั้น เขาก็อุ้มนางขึ้นมาแล้ว
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางอยากจะพูดว่าทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม แต่ต้าซือมิ่งกลับตบหลังของนางเบาๆ และกล่อมว่า “โอ๋ พักหน่อยเถอะ”
“ใช่!” เด็กน้อยที่นั่งบนไหล่ของท่านพ่อก็พยักหน้าท่าทีจริงจัง เขายังยื่นมืออวบอ้วนออกไปลูบใบหน้าของท่านแม่ “พัก ผ่อน เป่าก็หิวแล้ว”
เมื่อพูดจบ ท้องของเจ้าตัวน้อยก็ร้อง จ๊อกๆ อย่างให้ความร่วมมือ เยี่ยนอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มให้ “จ๊ะ พวกเราพักผ่อน ให้เสี่ยวเป่ากินข้าว”
“รักแม่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มตาหยี
“นายน้อยน่ารักจริงๆ เลย” ซีหวังหมู่พูดจากใจ บนโลกใบนี้ไม่มีเด็กน้อยคนไหนน่ารักกว่านายน้อยแล้ว หากจะมีก็ต้องเป็นน้องสาวของนายน้อย
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังชมซีหวังหมู่กลับว่า “ซีซี สวย! สวยเหมือน อิงอิง!”
เทพอัสนีที่ถูก ‘ลืม’ รู้สึกน้อยใจ “นายน้อย แล้วข้าน้อยหน้าตาไม่ดีหรือ” เทพอัสนีที่คิดว่าตนเองมีหน้าตางามสง่าและสดใสนานๆ ทีจะสนใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
“หล่อ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าไม่เหมือนกัน!
จิ่วอิงรู้สึกตงิดใจ “แล้วทำไมอิงอิงถึงไม่หล่อ แต่สวยเล่า”
“สวย! อิงอิง สวย!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูดพลางบินไปอยู่เหนือศีรษะของจิ่วอิง สัมผัสหนามที่ดุร้ายของมันพลางชมว่า “สวย!”
จิ่วอิง “…”
มันเองก็ไม่รู้ว่าคำว่าสวยและหล่อของเจ้าเด็กน้อยคนนี้แตกต่างกันอย่างไร
เยี่ยนอวี๋มองเด็กน้อยที่ร่าเริงพลางพิงแผ่นอกของสามี จู่ๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน นางจึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
“จุ๊ๆ” ซีหวังหมู่ที่เห็นนายท่านหลับเป็นคนแรกก็บอกให้ทุกคนเบาเสียงลง นางยังถอนหายใจอาลัยอาวรณ์ว่า “ครั้งล่าสุดที่เห็นนายท่านนอนหลับสนิทเช่นนี้ก็เมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว ข้าเองก็จำไม่ได้แล้ว”
“นายท่านเหนื่อยแล้ว” เทพอัสนีรู้ว่าเป็นเพราะตาแก่เช่นพวกเขาทำให้นายท่านเหนื่อยทั้งกายและใจทำให้นายท่านเหนื่อยเช่นนี้ ไม่สมควรเลยจริงๆ
“หาที่ให้ท่านพักผ่อนก่อนเถอะ จะได้ให้ดอกบัวขาวซีเหอนั่นเตรียมตัวให้ดีๆ นางจะได้ไม่ลำพองจนตัวระเบิดเสียก่อน พวกข้าจะไม่ทันได้ออกแรง” ซีหวังหมู่กล่าวพลางวิ่งไปข้างหน้าเพื่อสำรวจหาที่ทางแล้ว
ทว่า…
“เอ๋?”
ซีหวังหมู่ที่เห็นมหาเทพเบิกฟ้าและเทพองค์อื่นๆ ก็ประหลาดใจ เพราะว่ารอบกายของเทพเหล่านี้แผ่ซ่านกลิ่นอายของขุนเขาและท้องทะเลที่ทำให้มันรู้สึกสบายใจ ทันใดนั้นมันก็เข้าใจทันทีว่า “เป็นเหล่าผู้ภักดีของนายท่านทั้งนั้น มิน่าจึงได้รับการคุ้มครองจากนายท่านและยังได้โอกาสเลื่อนขั้นอีกด้วย”
ซีหวังหมู่ไม่ได้เข้าไปรบกวนพวกเขา มันแผ่กระแสจิตไปทางอื่น สุดท้ายก็เลือกแดนสวรรค์เล็กๆ ที่ลึกลับและมีสภาพแวดล้อมที่ดีแห่งหนึ่ง จากนั้นมันก็พาพวกต้าซือมิ่งไปที่นั่น
มหาเทพเบิกฟ้าและเทพองค์อื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้กับทะเลสาบสือซ่าไห่ยังคงนั่งสมาธิบำเพ็ญเพียร พวกเขามีด้วยกันยี่สิบกว่าองค์ พูดได้ว่ามหาเทพเจ็ดถึงแปดส่วนของสวรรค์ชั้นเก้าล้วนอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว ที่เหลืออีกสองสามส่วนโดยพื้นฐานแล้วเป็นผู้สนับสนุนซีเหอ บัดนี้พวกเขาต่างรู้สึกพะวง “ปรากฏการณ์ท้องฟ้าผิดปกติ สายฟ้าเหล่านี้เกรงว่าคือโทษทัณฑ์สายฟ้า”
ในฐานะที่พวกเขาเป็นมหาเทพที่ยังอยู่ในตำหนักสวรรค์ ย่อมไม่ถูกหลอกลวงอย่างง่ายดายเช่นเทพเซียนชั้นผู้น้อยเหล่านั้น พวกเขาสัมผัสได้ว่าสวรรค์ชั้นเก้าเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว!
“หรือว่าปฐมราชินีกลับมาแล้วจริงๆ”
“หากใช่…”
เทพเหล่านี้ที่ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกพะวงจู่ๆ ก็เสียใจที่ไม่ได้ออกไปพร้อมมหาเทพเบิกฟ้า พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปยังสถานที่เดียวกันกับมหาเทพเบิกฟ้าก็ได้ พวกเขาเลือกที่ทำอะไรอย่างอื่นได้!
ไม่รู้ว่าออกไปตอนนี้จะทันหรือไม่ มหาเทพส่วนหนึ่งที่คิดเช่นนี้อยากจะออกจากสวรรค์ชั้นเก้า ทว่าน่าเสียดายที่ค่ายกลย้ายมิติใช้การไม่ได้อีกแล้ว
สถานการณ์เช่นนี้… เห็นได้ชัดว่าซีเหอคาดคิดไว้แต่แรกแล้ว ดังนั้นเมื่อนางลืมตาขึ้นก็ถามทันทีว่า “ในบรรดามหาเทพมีใครอยากออกไปบ้าง”
“เหนียงเหนียง…” หลิงเย่ว์ลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะทูลตอบอย่างตรงไปตรงมา
“หงส์เทพไม่ได้อยากไปหรือ” ซีเหอถามกลับ
“ไม่เพคะ เหนียงเหนียง”
“เข้าใจแล้ว กลับตำหนักเทียนโฮ่วกันก่อน” ซีเหอกล่าวเสร็จ หลิงเย่ว์ก็รีบจัดแจงราชรถทันที
จากนั้นซีเหอที่กลับถึงตำหนักเทียนโฮ่วก็เรียกพบหงส์เทพทันที นางถามหงส์เทพอย่างระมัดระวังว่า “หงส์เทพมั่นใจหรือไม่ว่าจอมโจรเหล่านั้นมาจากโลกมนุษย์”
“ใช่เพคะ” หงส์เทพหยักหน้า “กลิ่นอายของผู้ต้องหาห้าคนที่มีรางวัลนำจับสูงนั้นแยกแยะได้ยาก แต่อีกสองคนในกลุ่มพวกเขาเป็นเผ่ามนุษย์จริงๆ อีกทั้งยังไม่ถึงระดับเลื่อนขั้นขึ้นสวรรค์ด้วยซ้ำ ต้องมาจากโลกมนุษย์แน่นอนเพคะ”
“เข้าใจแล้ว” ซีเหอตอบเสร็จจู่ๆ ก็คุกเข่าลงข้างหน้าหงส์เทพ
หงส์เทพตกใจรีบประคองซีเหอ “เทียนโฮ่วทำอะไรเพคะ หม่อมฉันมิอาจรับไว้ได้เพคะ”
“ข้ามีเรื่องขอร้องให้หงส์เทพช่วยเหลือ” ซีเหอไม่ได้ลุกขึ้น นางคุกเข่าลงราวกับจริงใจเป็นอย่างมาก “หงส์เทพโปรดลงไปโลกมนุษย์เพื่อช่วยข้าตรวจสอบที่มาที่ไปของจอมโจรเหล่านั้น ถ้าให้ดีพาพยานมาสองสามคนด้วย”
“เกรงว่าจะเป็นตัวประกันมากกว่า” หงส์เทพกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“…ใช่แล้ว” ซีเหอก็ไม่ได้ปฏิเสธ นางมองหงส์เทพอย่างแน่วแน่ “หากเรื่องนี้ลุล่วง ข้าจะขอให้เทียนตี้แต่งตั้งสองตระกูลเฟิ่งและคุนเป็นเผ่าเทพ”
ดวงตาหงส์เทพมีแสงประกายวาบผ่าน ยังคงยืนกรานประคองซีเหอขึ้นมา ทว่านางกลับปฏิเสธ ขณะที่ซีเหอคิดว่านางจะตอบตกลงนั้นเองหงส์เทพกลับตอบว่า “ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันฟังเพียงบัญชาของเทียนตี้ บัญชาก่อนหน้านี้ของพระองค์ หม่อมฉันละเลยหน้าที่ ความผิดยังติดตัว มิอาจออกไปโดยมิได้รับอนุญาตได้อีก”
“หงส์เทพ…” ซีเหอย่อมไม่พอใจ นางยังคงยื่นข้อเสนอด้วยรางวัลใหญ่กว่าเดิม
หงส์เทพกลับลุกขึ้นกล่าวว่า “เทียนโฮ่วโปรดให้ผู้ปราดเปรื่องท่านอื่นไปเถิด หม่อมฉันขอทูลลา”
“เช่นนี้ข้าก็มิอาจบังคับฝืนใจ” ซีเหอมองส่งหงส์เทพด้วยสายตาเสร็จก็บีบแก้วชาในมือจนแตก “ยื่นแก้วให้วานรโดยแท้!” ไอ้พวกบัดซบ!
“เหนียงเหนียง…” หลิงเย่ว์เองก็ไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรแล้ว ยิ่งไม่กล้าพูดถึงตระกูลสุริยันจันทรา นางรู้ว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตระกูลสุริยันจันทราแน่นอน แล้วนางจะกล้าถามได้อย่างไร ถึงอย่างไรผู้ที่สามารถลงมือทำเรื่องไม่โปร่งใสเช่นนี้ก็มีเพียงตระกูลสุริยันจันทราเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือและยอมช่วยเหนียงเหนียง ทว่าบัดนี้ไม่มีการช่วยเหลือจากตระกูลสุริยันจันทรา หรือว่า…
“หลิงเย่ว์ เชิญทัวถ่าเทียนอ๋องมา! บอกเขาว่าสิ่งที่เขาต้องการ ข้าตกลง!” ซีเหอกัดฟันพูด เพราะว่านางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นางทำได้เพียงทุ่มสุดตัว นางต้องฆ่าเยี่ยนอวี๋ให้ตาย!
ดังนั้นนางต้องหาจุดอ่อนของสตรีคนนี้ให้ได้ ถือโอกาสเมื่อฝ่าบาทยังไม่ออกมาจัดการนางเสียให้สิ้นซาก มิเช่นนั้นคงจะไม่มีโอกาสอีก
นี่เป็นเพียงโอกาสเดียว! หาได้ยากนักที่จนถึงบัดนี้ฝ่าบาทยังไม่ออกมา นางต้องคว้าโอกาสไว้ให้ดี มิเช่นนั้นนางจะสูญสิ้นทุกอย่าง กระทั่งตนเองก็คงไม่ตายดี
“ไม่แน่นอน!”
ซีเหอที่ตกอยู่ในสภาพเหมือนกับคนเสียสติ แต่นางก็เสียสติไปแล้วจริงๆ
ส่วนเยี่ยนอวี๋…นางกลับกำลัง ‘เลื่อนขั้น’ !
นางที่กำลังพักผ่อนถูกกลุ่มดาวปกคลุมเอาไว้อีกครั้ง มีทั้งหมอกเพลิงที่ส่งแสงกะพริบไม่หยุดและกระจุกแสงสีขาวพร่างพราว ทั้งยังมีดาวยักษ์สีแดงสดและหลุมดำอันลึกลับ ยิ่งไปกว่านั้นยังมี…ภาพเงาของเทพเจ้ามากมาย!?
นี่มัน…