ตอนที่ 490 แห่นางเปลื้องผ้า!
ทันใดนั้น สวรรค์ชั้นเก้าแตกตื่นฮือฮาขึ้นมา เพราะว่าเสียงของเยี่ยนอวี๋ดังขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งน้ำเสียงที่สงบเยือกเย็นนั่นยังเพียงพอที่จะทำให้เหล่าเทพที่ได้ยินรับรู้ได้ว่าผู้มาเยือนต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ สูงส่งและสง่างามเพียงใด
“ไม่ทราบว่านี่คือผู้ใด”
“ไม่ทราบเหมือนกัน! ทั้งที่เป็นคำพูดบ้าบิ่น แต่เมื่อนางพูดแล้วข้ากลับไม่รู้สึกถึงความบ้าบิ่นใดๆ เลย ตรงกันข้ามกลับให้ความรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่สมควร ควรเป็นเช่นนั้น แปลกจริงๆ เลย”
“นั่นน่ะสิ! ข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่าท่านนี้คือผู้ใดกันแน่ หรือว่าเป็นเทพรุ่นก่อนท่านไหนกลับมาตำหนักสวรรค์แล้ว”
เหล่าเทพและเซียนมากมายที่ไม่ทราบความจริงต่างวิพากวิจารณ์ถึงเสียงสงบเยือกเย็นที่สร้างความแตกตื่นบนสวรรค์ว่าเป็นผู้ใด และเทพเซียนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเทพเซียนจากสวรรค์ชั้นสองถึงสวรรค์ชั้นแปด
ถึงอย่างไรเทพและเซียนของสวรรค์ชั้นเก้าก็พอจะคาดเดาได้ว่าเจ้าของของเสียงนี้น่าจะคือเทพธิดาโหดเหี้ยมที่เข่นฆ่าเจ้าเมืองไป๋เฟิงและท่านเทพอี้หยาง ท่านเทพผิงเฉิง รวมถึงซื่อฝานเทียนอ๋อง!
“นางมาอีกแล้ว!”
“นางต้องออกมาจากประตูค่ายกลย้ายมิติแน่ๆ เรารีบถอยกันเถอะ!”
“ไปๆๆ!…”
เหล่าเทพและเซียนที่รักษาประตูค่ายกลย้ายมิติของสวรรค์ชั้นหนึ่งที่ได้ประจักษ์ความแข็งแกร่งของเยี่ยนอวี๋ก่อนหน้านี้พากันถอยกรูด ถึงอย่างไรเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นหนึ่งของพวกเขาก็ไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะถอนตัวก็ไม่มีใครว่าอะไร
ส่วนเมืองไป๋เฟิงยิ่ง ‘ตกใจ’ กับเสียงของเยี่ยนอวี๋ “มาแล้ว! นางมาอีกแล้ว! ไม่รู้ว่าว่าครานี้นางจะพัดพาเหตุการณ์นองเลือดเช่นใดมาอีก”
“พัดพามาได้ดี! เทพเลวเช่นเจ้าเมืองเยี่ยนนั่น สมควรแต่แรกแล้ว! หลายปีมานี้ไม่รู้ว่าเทพธิดาความสามารถโดดเด่นของเมืองไป๋เฟิงของเราถูกย่ำยีไปเท่าไรแล้ว”
“เช่นนั้นเจ้ายังเรียกเจ้าเมืองเยี่ยนอีกรึ ผู้ปกครองสวะเยี่ยนชื่อเฟิงนั่นชอบย่ำยีเทพสตรีที่มีความสามารถโดดเด่นจริงๆ บอกว่าเทพสตรีที่มีพรสวรรค์เหล่านี้มีความทระนง เขาชอบทำลายความทระนงของพวกนาง เห็นพวกนางถ่อมตัวประจบสอพลอ มารดามันเถอะ! โรคจิตจริงๆ!”
“ไอ้คนโรคจิตนี่กลับยังมีมารดาใจร้าย! ท่านเทพอี้หยางอาศัยที่ตนเป็นน้องสาวของซื่อฝานเทียนอ๋อง ปล่อยให้เยี่ยนชื่อเฟิงผู้ปกครองสวะนั่นทำตามอำเภอใจ มารดามันเถอะ! ตายได้สาสมใจจริงๆ! ไม่รู้ว่าเทพธิดาที่กำจัดภัยร้ายท่านนี้ชื่ออะไร หวังว่าท่านจะปลอดภัยดี”
…
เหล่าเทพเมืองไป๋เฟิงไม่พอใจเยี่ยนชื่อเฟิงมานานแล้ว แต่เยี่ยนชื่อเฟิงมีภูเขาลูกใหญ่สามลูกคอยหนุนหลัง สองในสามลูกนั้นยังใหญ่เป็นพิเศษ! ไม่ใช่สิ่งที่เทพหรือเซียนเมืองไป๋เฟิงท่านใดสามารถล้มได้เลย
ดังนั้นการกระทำต่อเมืองไป๋เฟิงของเยี่ยนอวี๋พูดได้ว่าสาสมแก่ใจเหล่าเทพมากนัก มิหนำซ้ำเยี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้ทำให้เหล่าเทพสามัญถูกลูกหลงไปด้วย เหล่าเทพในเมืองย่อมรู้สึกดีกับพวกเขาเป็นพิเศษ
แต่เหล่าเทพสามัญเมืองไป๋เฟิงก็รู้ดีว่าราคาของการสังหารเยี่ยนชื่อเฟิง ท่านเทพอี้หยางและซื่อฝานเทียนอ๋องนั้นต้องสูงมาก! โดยเฉพาะท่านเทพอี้หยางและซื่อฝานเทียนอ๋อง ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวก็รู้สึกซับซ้อนอย่างมาก
“การลงมือเช่นนี้โหดร้ายไปบ้างจริงๆ แต่ไม่เหมือนกับเทพองค์อื่นๆ เลย พวกเขามิได้ทำร้ายเทพสามัญเลยแม้แต่องค์เดียว”
“…นั่นน่ะสิ ในสายตาของมหาเทพและท่านเทพแล้ว เทพสามัญเช่นพวกข้าก็ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา เทพสามัญที่ถูกลูกหลงขณะที่พวกเขาต่อสู้กันก็ได้แต่ยอมรับในความโชคร้ายของตนเอง”
“แต่ท่านปู่ของข้าบอกว่าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในอดีตไม่ได้เป็นเช่นนี้ เหมือนจะบอกว่าในกฎของเทพมีข้อหนึ่งเขียนไว้ว่า สรรพชีวิตล้วนเท่าเทียม ไม่ว่าตบะจะอยู่ในระดับไหนก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน ห้ามเข่นฆ่าตามอำเภอใจ พวกเราก็ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นเลย”
“…”
ในขณะที่เหล่าเทพสามัญเมืองไป๋เฟิงทอดถอนใจกันนั้น เทพและเซียนสวรรค์ชั้นเก้าต่างตื่นตระหนก ขณะที่สวรรค์ชั้นอื่นๆ งุนงง เหล่าเทพและเซียนของสวรรค์ชั้นเก้าที่รู้เบื้องหลังล้วนรู้สึกไม่ปลอดภัย
เพราะว่าพวกเขาเริ่มสงสัยว่าการคาดเดาของกลุ่มมหาเทพเบิกฟ้าที่ออกจากตำหนักสวรรค์ไปนานแล้วจะถูกต้อง เกรงว่า… ท่านนี้คือปฐมราชินีตัวจริง!!!
ทัวถ่าเทียนอ๋องที่บัดนี้อยู่ในตำหนักเทียนโฮ่ว เขาสงบอารมรณ์ลง “เหนียงเหนียง เกรงว่าท่านนี้จะมิใช่จอมโจรแต่อย่างใด หากแต่คือปฐมราชินีจริงๆ”
“เช่นนั้นเหตุใดฝ่าบาทและเทียนจุนยังไม่ออกมาเล่า” ซีเหอถามกลับ
ทัวถ่าเทียนอ๋องเงียบ เขาไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดจนถึงบัดนี้ทั้งสองท่านนี้ยังไม่ออกมา พวกเขาควรเป็นผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้ไวที่สุด อีกทั้งนอกจากสองท่านนี้แล้ว เหล่าเทพรุ่นแรกเองก็ไม่มีองค์ใดกลับมาสักองค์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทัวถ่าเทียนอ๋องยอมมาตำหนักเทียนโฮ่วเพื่อช่วยเหลือนาง
ทว่าทัวถ่าเทียนอ๋องยังคงกังวล “หากนางคือ…”
“อย่าได้กังวล นางไม่ใช่หรอก!” ซีเหอตอบอย่างแน่วแน่เด็ดขาด
ม่านตาทัวถ่าเทียนอ๋องขยาย ย่อมเข้าใจความหมายของซีเหอ หัวใจเต้นระส่ำ “ไม่ใช่ว่ากระหม่อมดูแคลนเหนียงเหนียง แต่กระหม่อมเกรงว่าเหนียงเหนียงจะทำไม่ได้จริงๆ”
“สามหมื่นปีแล้ว มีคำพูดหนึ่งในมนุษย์ว่า คนจากไปชาก็เย็น หากนางคือปฐมราชินีจริงๆ นางก็จากไปสามหมื่นปีแล้ว เทียนจุนและตี้จวินไม่ไหวติง นี่คือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด อีกทั้งตี้จวินส่งเทียนอ๋องสามท่านไปตามเหล่าขุนเขาและท้องทะเลกลับมาแล้ว เจ้าดูสิว่าพวกมันตนไหนกลับมาแล้วบ้าง อย่าว่าแต่พวกมันเลย เทียนอ๋องทั้งสามท่านก็ยังไม่กลับมาจวบจนทุกวันนี้” ซีเหอบอกเล่าอย่างสงบ
ทัวถ่าเทียนอ๋องตะลึงกับข้อมูลอันหนักอึ้งเหล่านี้เพราะ หนึ่ง เทียนจุนและตี้จวินไม่สนใจปฐมราชินีหยวนชูจริงๆ หรือไม่ก็พวกเขา ‘ตาบอดหูหนวก’ ไปแล้ว สอง เหล่าขุนเขาและท้องทะเลในฐานะที่เป็นลูกน้องผู้ภักดีของปฐมราชินีหยวนชูก็ไม่ได้กลับมาสักตน พวกมันคงจะ… ถูกเทียนโฮ่วจัดการไปนานแล้ว! สามเทียนอ๋องที่ออกตามหาทั้งสามท่านแม้จะไม่ได้ประสบเหตุใดๆ แต่อย่างน้อยก็คงกลับมาไม่ได้ภายในเวลาอันสั้น
“ข้าดูแคลนเหนียงเหนียงไปเอง” ทัวถ่าเทียนอ๋องคิดไม่ถึงเลยว่าเทียนโฮ่วที่มีตบะไม่สูงท่านนี้ลงมือทำเรื่องมากมายได้อย่างเงียบเชียบเช่นนี้ ก็จริง หากเทียนโฮ่วไม่มีฝีมือ สวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็คงไม่ถูกนางควบคุมไว้ในอุ้งมือเช่นนี้ ทำให้อย่างน้อยฝ่าบาทก็เต็มใจมอบหมายงานราษฎร์งานหลวงให้นางดูแล
อย่าเห็นว่าฝ่าบาทบำเพ็ญตลอด ทัวถ่าเทียนอ๋องเชื่อว่าหากไม่ใช่เพราะเทียนโฮ่วจัดการได้อย่างละเอียดรอบคอบ ฝ่าบาทคงไม่ยอมให้นางจัดการงานราชการเป็นเวลาหลายปีเช่นนี้
บัดนี้… เกรงว่าฝ่าบาทก็ทรงหลงกลเทียนโฮ่วด้วยแล้วงั้นหรือ หากเป็นเช่นนี้ก็คุ้มค่าที่จะช่วยเหลือเทียนโฮ่วจริงๆ
ทัวถ่าเทียนอ๋องที่คิดเช่นนี้เสร็จก็พยักหน้ากล่าว “กระหม่อมจะช่วยเหนียงเหนียงลงไปโลกมนุษย์สักครา”
“เทียนอ๋องโปรดวางใจ ตระกูลถานถังของท่านย่อมได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากเผ่าเทพ และจะมั่นคงเจริญรุ่งเรืองนับจากนี้ไป” ซีเหอให้คำมั่นสัญญา ในที่สุดก็ได้ปลดเปลื้องความกังวลใจลงแล้ว
“เช่นนั้นรบกวนเหนียงเหนียงดูแลแล้ว” ทัวถ่าเทียนอ๋องก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “กระหม่อมจะไปโลกมนุษย์เดี๋ยวนี้ แต่ว่าก่อนหน้านี้มหาเทพตกสวรรค์ปิดสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไปหรือยัง…”
“ข้าไม่ปิดบัง ท่านมากับข้า ข้าจะพาท่านไปโลกมนุษย์จากตำหนักเทียนตี้เอง” ซีเหอพูดอย่างเป็นกันเองและสั่งให้หลิงเย่ว์จัดขบวนแล้ว
สิ่งนี้ทำให้ทัวถ่าเทียนอ๋องยิ้มเชื่อมั่นว่าเทียนโฮ่วควบคุมตำหนักเทียนตี้และฝ่าบาทไว้แล้ว เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกวางใจลง และก็เพียงพอที่จะทำให้เขายินดีที่จะใช้ช่วยเทียนโฮ่วซีเหออย่างตั้งใจยิ่งขึ้น ทว่าสิ่งที่ทัวถ่าเทียนอ๋องไม่มีทางคิดถึงคือก่อนที่เขาจะมาหา ตอนที่ซีเหอขอร้องวิงวองเทพรับใช้ตำหนัเทียนตี้นั้นน่าเวทนาเพียงใด
สุดท้ายแล้วทัวถ่าเทียนอ๋องก็ถูกซีเหอส่งไปยังโลกมนุษย์ อีกทั้งก่อนจะส่งทัวถ่าเทียนอ๋องไป ซีเหอก็กัดฟันหยิบเครื่องหมายราชโองการชิ้นหนึ่งออกมา! “เทียนอ๋องช้าก่อน”
“นี่คือ…” ทัวถ่าเทียนอ๋องตากระตุก! เพราะว่าเขาสัมผัสได้ว่าเครื่องหมายที่ซีเหอหยิบออกมามีกลิ่นอายของเทียนตี้ เกรงว่านั่นคือ…
“บัญชาเทียนตี้” ซีเหอกล่าวสิ่งที่ทัวถ่าเทียนอ๋องคาดเดาออกมา “หากพบอุปสรรคในโลกมนุษย์ เทียนอ๋องสามารถใช้มันได้ตามความเหมาะสม แต่จำไว้ว่าอย่าสร้างความเคลื่อนไหวใหญ่โตรบกวนฝ่าบาท”
ทัวถ่าเทียนอ๋องรับบัญชาเทียนตี้มาอย่างเคร่งขรึม “เหนียงเหนียงโปรดวางใจ” ครานี้เขาเชื่อแล้วจริงๆ ว่าเทียนโฮ่วควบคุมทั้งสวรรค์ไว้หมดแล้ว มิเช่นนั้นบัญชาเทียนตี้จะอยู่ในมือของนางได้อย่างไร!
“ไปเถิด” ซีเหออำลา
เมื่อทัวถ่าเทียนอ๋องหายเข้าไปในประตูหยวนกวังแล้ว นางก็พึมพำว่า “หยวนชู ทางที่ดีเจ้าอย่าให้ข้าจับจุดอ่อนของเจ้าได้ มิเช่นนั้น…”
ซีเหอที่แสยะยิ้มมั่นใจมากว่าปฐมราชินีที่มาจากโลกมนุษย์ต้องมีจุดอ่อนอยู่ในโลกมนุษย์แน่นอน บัดนี้นางเพียงแค่ต้องรอทัวถ่าเทียนอ๋องกลับมา ในขณะเดียวกันก็เฝ้าตำหนักสวรรค์ให้ดีก็พอ
ทว่าหลิวเย่ว์กลับรู้สึกกังวล “เหนียงเหนียง หากท่านนั้นไม่ได้มีจุดอ่อนอะไร องค์หญิงเจ็ดกลับอยู่ในมือของนาง เกรงว่า…”
“ฮึ! เจ้าวางใจเถอะ หยวนชูมีดีเรื่องหนึ่ง นางอาลัยรักเก่า เซินเซินคือธิดาของฝ่าบาท และไม่ได้สมรู้ร่วมคิดในเรื่องเหล่านี้ แค่สองเรื่องนี้นางก็จะไม่ทำอะไรเซินเซิน อย่างมากก็แค่ให้เซินเซินทนทรมานเล็กน้อย” ซีเหอมั่นใจมาก
“เช่นนั้นก็ดีเพคะ” หลิงเย่ว์ไม่พูดมากอีก
ซีเหอกลับอดคิดถึงบุตรสาวที่เปลือยกายไม่ได้ นางขมวดคิ้วด้วยสัญชาติญาณ “เซินเซิน เจ้าทนอีกหน่อยนะ รอเสด็จแม่เหยียบนังสตรีนั่นให้จมดินก่อน นางทำให้เจ้าอับอายเช่นใด เสด็จแม่จะเอาคืนร้อยเท่าพันเท่า! เสด็จแม่จะแห่นางเปลื้องผ้า!”
ความคิดเช่นนี้โหดเหี้ยมเป็นที่สุด… แห่ปฐมราชินีผู้สร้างโลก เทพสูงสุดแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเปลื้องผ้าไปตามถนน ซีเหอยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น และยังมั่นใจยิ่งกว่าเดิม “หยวนชู ข้าจะรอเจ้า! ไปตรวจสอบดูว่าพวกเขาถึงที่ไหนแล้ว”
“เพคะ เหนียงเหนียง” หลิงเย่ว์ไปตรวจสอบทันที
ขบวนเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ พวกเขาย่อมมาถึงสวรรค์ชั้นเก้าแล้ว!