ตอนที่ 491 ปฐมราชินีชุบชีวิต!
“ว้าววว” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ออกมาจากประตูย้ายมิติพร้อมแสงประกายระยิบระยับมองไปรอบทิศอย่างตื่นตาตื่นใจ แม้แสงจะสลายไปจนหมดแล้วแต่เขาก็ยังตื่นเต้นไม่หยุด “เอาอีก!”
ต้าซือมิ่งรวบตัวเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมอก ขณะที่เขามองภรรยาที่กำลังหลับตาลงนั้นก็เข้าใจได้ในทันที เขาบอกเด็กน้อยว่า “รอท่านแม่เจ้าก่อน”
“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่รู้ว่าท่านแม่กำลังทำอะไร แต่เขาก็ไม่ได้รีบ เพียงแค่รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก! ทำท่าจะลงไปเดินเล่น “พ่อ ปล่อยเป่า!”
ต้าซือมิ่งสวมรองเท้าให้เด็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยเด็กน้อยลงบนพื้น เด็กน้อยเริ่มเดินเตาะแตะอยู่ที่เดิม ประเดี๋ยวเดินเตาะแตะไปข้างหน้าจิ่วอิง ประเดี๋ยวเดินเตาะแตะไปที่ซีหวังหมู่และเทพอัสนี
เมื่อเยี่ยนอวี๋เก็บจิตเหนือสำนึกที่แผ่กระจายไปทั่วสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลับมา นางก็เห็นเด็กน้อยกำลังเดินเตาะแตะไปที่นั่นทีที่นี่ที เมื่อเด็กน้อยรับรู้ถึงสายตาที่มองมาของนาง เขาก็รีบเดินเตาะแตะไปข้างขาของนางและกอดขาของนางไว้ “แม่…”
“เสี่ยวเป่ามีความสุขเช่นนี้เลยหรือ” เยี่ยนอวี๋ย่อตัวลงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมากำลังจะถอดรองเท้าให้เด็กน้อย ทว่าต้าซือมิ่งยื่นมือเข้ามาห้ามบอกว่า “กินอิ่มจนท้องตึงน่ะ”
“ไม่ใช่เสียหน่อย!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่พอใจที่ถูกว่าหนังท้องตึง เขารู้ว่าเป็นคำบรรยายที่ไม่ค่อยดีนัก “เป่าแค่ ดีใจ! ไม่ใช่ ท้องตึง! เอิ๊กกก”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เรอออกมาหน้าแดง จากนั้นก็พิงอกของท่านแม่นิ่งอย่างอับอาย เหมือนกับแมวเหมียวสีชมพูเนื้อตัวนุ่มนิ่ม ดูน่ารักน่าชังมาก ทำเอาเยี่ยนอวี๋รู้สึกเอ็นดูจนอดจูบแก้มอวบอ้วนของเขาไม่ได้ “เสี่ยวเป่าน่ารักจริงๆ”
“เยาะเย้ยเป่า! แม่ไม่ดี” เยี่ยนเสี่ยวเป่าปิดหน้าไว้ไม่ให้ท่านแม่จูบ เขารู้สึกว่าท่านแม่เขากำลังเยาะเย้ยเขา
เยี่ยนอวี๋ได้แต่ยิ้มไม่ได้อธิบายอะไร จากนั้นนางก็เดินกลับไปที่ประตูค่ายกลย้ายมิติ “ไปกันเถอะ เราไปดูสวรรค์ทั้งแปดกันก่อน”
“นายท่านอย่าได้มีโทสะ ถึงอย่างไรตราบใดที่ท่านรับไม้ต่อ ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขแน่นอน” ซีหวังหมู่รีบสะบัดหางที่เต็มไปด้วยเทพปลอบประโลมเยี่ยนอวี๋
“ข้าโมโหอะไรหรือ” เยี่ยนอวี๋ถามกลับ
ซีหวังหมู่สังเกตสีหน้านางเล็กน้อย ยังคงรู้สึกว่าใต้เท้าที่ดูเหมือนสงบนิ่งนั้นกำลังโมโหอยู่แน่นอน จึงพูดว่า “ไม่มีคนดูแลค่ายกลย้ายมิติ ไว้ข้าจะดูแลเอง!”
“ใช่! เทพไม่รักษากฎ รังแกผู้อ่อนแอเหล่านั้น! ข้าเอง! ไม่ใช่สิ ซีหวังหมู่ เรามาสลับกันเถอะ เจ้าช่ำชองเรื่องโทษทัณฑ์สังหาร ส่วนข้าจะเฝ้าค่ายกลเอง” เทพอัสนีกล่าว
“ก็ได้!” ซีหวังหมู่ตกลงและพูดกับเยี่ยนอวี๋ต่อไปว่า “เอาเป็นว่านายท่านอย่าโมโห มีแต่จะทำร้ายสุขภาพตนเอง เรื่องเล็กน้อยเท่านี้มิใช่เรื่องยากอะไร เราสองพี่น้องจะจัดการเอง หากไม่ไหวก็ยังมีปู่จิ่ว”
“นี่ๆๆ! ข้ายังไม่ได้บอกว่าจะช่วยพวกเจ้านะ! ปู่จิ่วเจ้าน่ะยุ่งจะตาย!” จิ่วอิงรีบคัดค้านการมัดมือชกเช่นนี้
แต่ซีหวังหมู่ไม่ได้สนใจมันแล้ว “นายท่าน เอาเป็นว่าท่านอย่าโกรธเลยนะ”
“ปัญหาที่พวกเจ้าเองรู้ได้อย่างรวดเร็วกลับกลายเป็นเรื่องปกติในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า” เยี่ยนอวี๋ยิ้มหยัน นางกระตุ้นค่ายกลย้ายมิติ เดินทางไปยังสวรรค์ชั้นต่อไปทันที นางอยากจะไปดูให้ชัดๆ เสียที จะได้ให้เวลาซีเหอเตรียมตัวด้วย
นางอยากเห็นเหลือเกินว่าซีเหอจะเล่นลูกไม้อะไรเพื่อไม่ให้นางกลับตำหนักสวรรค์ นางอยากเห็นว่าซีเหอที่ทำให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าเป็นเช่นนี้มีความสามารถเก่งกาจเพียงใด นางต้องหลอกล่อให้ซีเหอหยิบไพ่ทุกใบออกมา แสดงความสามารถและฝีมือที่แท้จริงออกมา เช่นนี้… นางจึงจะมั่นใจได้ว่าในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ซีเหออยู่ในตำแหน่งใด เป็นเพียงหมากธรรมดาตัวหนึ่งหรือเป็นหมากขั้นสูง หรือเป็นหมากที่ไม่สามารถทดแทนได้ หรือเป็นเพียง… หุ่นเชิด
…
ในขณะเดียวกัน ทัวถ่าเทียนอ๋องก็มาถึงโลกมนุษย์แล้ว และสถานที่ที่เขาปรากฏตัวก็บังเอิญเป็นเมืองจิ่วหลีพอดี! เขาจึงแปลงกายเป็นสามัญชนจิ่วหลีคนหนึ่ง
จากนั้นทัวถ่าเทียนอ๋องก็เข้าไปในร้านขายเหล้าแห่งหนึ่ง เมื่อเขานั่งลงก็ได้ยินมนุษย์คุยกันว่า “คิดถึงวันที่ถูกจับเป็นเชลยที่สำนักชางอู๋เมื่อสองปีก่อนแล้ว ยังฝันร้ายจนถึงทุกวันนี้อยู่เลย!”
“นั่นน่ะสิ อสูรร้ายจิ่วอิงนั่นสมแล้วที่เป็นอสูรดุร้ายจริงๆ น้ำลายนั่น… ครานั้นทำเอาข้าตัวเปียกไปหมด ตอนนี้คิดย้อนกลับไปแล้วไม่รู้ว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ตกใจตาย ไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่จะว่าไปตอนนี้ข้ายังขาอ่อนอยู่เลย”
“อย่าว่าแต่เจ้าเลย ทุกคนก็เหมือนกัน โชคดีที่สาวใช้ของคุณหนูใหญ่เยี่ยนคอยคุมประพฤติ ไม่ให้จิ่วอิงนั่นกินพวกเรา สุดท้ายยังส่งพวกเรากลับเมืองจิ่วหลี มิเช่นนั้น…”
เหล่าสามัญชนเมืองจิ่วหลีที่ฝันร้ายถึงจิ่วอิงเหมือนกันทุกคืนล้วนเป็นศิษย์สำนักจิ่วหลีที่ครานั้นถูกพาไปโจมตีเมืองชางอู๋ และเมืองจิ่วหลีในบัดนี้อยู่ภายใต้การปกครองของสำนักชางอู๋แล้ว
สองปีมานี้ ภายใต้การปกครองร่วมกันของสำนักชางอู๋และชือหมินหมิ่น เมืองจิ่วหลีค่อยๆ ฟื้นฟู เหล่าประชาชนของเมืองจิ่วหลีก็ว่านอนสอนง่าย มีระเบียบวินัย ไม่มีใครต่อต้าน เพราะถึงอย่างไรก็ยังตกใจกับจิ่วอิงจนมิอาจลืมได้ลง
ทัวถ่าเทียนอ๋องที่ได้ยินถึงตรงนี้ก็ไม่ได้โพล่งถามอะไรออกไป แต่เท่าที่เขาคาดเดา จิ่วอิงที่มนุษย์ฝึกฌานเหล่านี้พูดถึงน่าจะคือจิ่วอิงที่อยู่ในหมายจับสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เวลาก็ตรงกัน เพราะหนึ่งวันบนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีในโลกมนุษย์ ดังนั้นหลังจากที่ทัวถ่าเทียนอ๋องเดินออกจากร้านขายเหล้าแล้วก็ลอบโจมตีมนุษย์ฝึกฌานคนหนึ่งในที่ที่มีผู้คนน้อยเพื่อค้นหาวิญญาณของเขา สุดท้ายทำให้เขามั่นใจว่าจิ่วอิงทั้งสองตนนี้มีหน้าตาตรงกัน และยังเห็นใบหน้าทั้งสามคนที่ตรงกันอีกด้วย
“สาวใช้ นายน้อยอินและบ่าวใช้อะไรนั่นตรงกับคนที่อยู่ในคำสั่งหมายจับ ดูท่าคุณหนูใหญ่เยี่ยนก็คือตัวตนของท่านนั้นในโลกมนุษย์ นางมีบิดาและพี่น้องอยู่ในโลกมนุษย์ด้วยหรือ” ทัวถ่าเทียนอ๋องคิดไม่ถึงว่าทุกอย่างจะราบรื่นเช่นนี้
ทว่าเขายังคงระมัดระวังมาก นี่ก็เป็นเหตุผลที่ซีเหอเลือกเขาและคิดว่าต้องไม่ทำให้นางผิดหวัง ทัวถ่าเทียนอ๋องท่านนี้รอบคอบมากจริงๆ!
อย่างน้อยจนถึงบัดนี้ อิงหลงโบราณก็ไม่ยังไม่สืบพบตัวเขา ถึงอย่างไรเขาลงมาจากประตูหยวนกวงในตำหนักเทียนตี้ ไม่ใช่ประตูสวรรค์! ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่อิงหลงโบราณจะจับกลิ่นอายของทัวถ่าเทียนอ๋องได้โดยไร้ซึ่งสัญญาณใดๆ มิหนำซ้ำฝ่ายหลังยังระมัดระวังตัวเช่นนี้ ทัวถ่าเทียนอ๋องจึงคลำทางมาถึงเมืองชางอู๋ได้สำเร็จ!
ในขณะเดียวกัน…
เยี่ยนชิงกำลังทำ ‘ภารกิจ’ ประจำวันนั่นคือถอนหายใจมองฟ้า “สองปีแล้ว ไม่รู้ว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง”
“ท่านพ่อวางใจเถอะ เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ต้องมีชีวิตสุขสบายดี ยังมีน้องเขยอยู่มิใช่หรือ” เยี่ยนจื่อเสาเองก็ปลอบท่านพ่อรายวัน
จากนั้นเขาก็ถูกเยี่ยนชิงต่อย “คำก็น้องเขยสองคำก็น้องเขย ไอ้คนไม่เอาไหน!”
“ท่านพ่อ!” เยี่ยนจื่อเสารีบวิ่งหนี เพียงแต่ว่าขณะที่เขากำลังจะวิ่งออกจากประตูก็ถูกขวางไว้!
ทัวถ่าเทียนอ๋องที่ปรากฏกายต่อหน้าพ่อลูกทั้งสองอย่างไร้สุ้มเสียงยังอุตส่าห์หาได้ถูกบ้าน “ในเมื่อคิดถึงเช่นนี้ ข้าจะพาพวกเจ้าไปหาเอง”