เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 492 เมื่อนางมาเทียนโฮ่วก็ไร้ตัวตน!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 492 เมื่อนางมาเทียนโฮ่วก็ไร้ตัวตน!

“เหนียงเหนียง!” หลิงเย่ว์ที่ได้ข่าวรีบเดินเข้ามาในตำหนัก

ซีเหอลุกขึ้นยืนทันที “ทัวถ่าเทียนอ๋องกลับมาแล้วหรือ”

“…ทูลเหนียงเหนียง เทียนอ๋องยังไม่มีข่าวเพคะ แต่ท่านนั้น… มาถึงสวรรค์ชั้นสองแล้วเพคะ” ข่าวที่หลิงเย่ว์แจ้งมิใช่ข่าวดีที่ซีเหอรอคอย

“สวรรค์ชั้นสองหรือ” ซีเหอยิ้มหยัน “ทั้งที่นางสามารถมาตำหนักสวรรค์ได้เลย กลับขึ้นมาทีละชั้น หลิงเย่ว์เจ้าคิดว่านางดูถูกข้าหรือไม่”

หลิงเย่ว์คุกเข่าลงเสียงดัง ตุบ พูดเบาๆ อย่างเกรงกลัวว่า “เหนียงเหนียง…”

“ลุกขึ้นเถอะ” ซีเหอมิได้โกรธกริ้ว แต่กลับกันนางสงบนิ่งมาก “ในเมื่อนางดูถูกข้าเช่นนี้ ข้าจะทำให้นางได้สัมผัสราคาของการเหยียดหยามศัตรู จัดขบวน! ไปวังทหาร”

“จัดขบวน…” หลิวเย่ว์รีบประกาศก่อนจะลุกขึ้นไปประคองซีเหอออกจากตำหนัก

ในขณะเดียวกัน ณ ตำหนักหงส์เทพ

“หงส์เทพ เทียนโฮ่วเหนียงเหนียงไปวังทหารแล้วขอรับ”

หงส์เทพที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเบาๆ “ไม่มีข่าวอย่างอื่นเลยหรือ”

“เทียนโฮ่วเหนียงเหนียงผนึกค่ายกลย้ายมิติ ข่าวของสวรรค์แต่ละชั้นรวมถึงสวรรค์ชั้นเก้าไม่สามารถส่งเข้ามาตำหนักสวรรค์ได้ขอรับ”

“…เข้าใจแล้ว ออกไปเถอะ คอยจับตามองเทียนโฮ่วให้ดี” หงส์เทพสั่ง

“ขอรับ! ข้าน้อยขอลาไปก่อน”

จนเมื่อลูกน้องออกจากตำหนักแล้ว หงส์เทพก็ยังไม่ได้ละสายตาออกจากตำราโบราณตรงหน้า นางมองภาพของปฐมราชินีหยวนชู เทพผู้สร้างตลอดเวลา ตำราโบราณของนางคือหนังสือคัมภีร์โบราณที่เก่าแก่ที่สุดในตระกูลเฟิ่ง อีกทั้งผู้ที่วาดปฐมราชินีคือนกเฟิ่งหวง หนึ่งในบรรพบุรุษของนาง บรรพบุรุษแห่งปักษา

แม้ตลอดสามหมื่นปีที่ผ่านมานี้ รูปภาพค่อยๆ เลือนรางไป เพราะการจากไปของปฐมราชินี แต่ในบัดนี้… หงส์เทพเห็นการเปลี่ยนแปลงของภาพม้วนที่เลือนรางค่อยๆ กลับมาเป็นภาพที่ชัดเจนแล้ว! ดังนั้นหงส์เทพจึงมั่นใจว่าปฐมราชินีกลับมาแล้วจริงๆ!

“กลับมาแล้ว…”

เมื่อภาพม้วนปรากฏรูปใบหน้าของเยี่ยนอวี๋อย่างแจ่มชัดในตอนท้ายสุด หงส์เทพก็ปิดตำราโบราณที่แผ่ซ่านกลิ่นอายลึกลับและเก่าแก่ลง นางมั่นใจมากว่าเทียนโฮ่วกำลังกบฏต่อปฐมราชินี

“ต้องหาทางไปโลกมนุษย์แล้ว” หงส์เทพพึมพำคนเดียว ในดวงตาที่งดงามลุ่มลึกเผยให้เห็นถึงความเข้าใจในสถานการณ์ยามนี้เป็นอย่างดี ในข่าวที่นางได้รับ นางวิเคราะห์ได้ว่าเทียนโฮ่วต้องส่งทัวถ่าเทียนอ๋องไปโลกมนุษย์แล้วแน่นอน

แต่นางไม่สามารถหาช่องทางไปยังโลกมนุษย์ได้ เนื่องจากทั้งสามโลกถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์แล้ว “คงต้องไปหาเทียนจุนแล้ว หวังว่าเทียนจุนจะยังไม่เป็นอะไร”

เมื่อคิดได้ดังนี้ หงส์เทพก็ออกจากตำหนักอย่างเงียบเชียบ

ในขณะเดียวกัน ซีเหอก็มาถึงวังทหารสวรรค์ นางพบกับจ้านเทียนอ๋อง ผู้ดูแลกองทัพสวรรค์ชั้นเก้าแล้ว ทั้งสองคุยกันลำพังอย่างลับๆ เป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม

จากนั้นเหล่ากองทัพสวรรค์ก็พากันเคลื่อนทัพมาเฝ้าหน้าประตูเคลื่อนย้ายมิติของสวรรค์ชั้นเก้า ความกระวนกระใจของเหล่าเทพสวรรค์ชั้นเก้าพุ่งขึ้นถึงขีดสุด “ความโกลาหลจะเกิดขึ้นจริงๆ แล้ว!”

“แต่ดูท่าท่านนั้นอาจจะไม่ใช่ปฐมราชินี มิเช่นนั้นเทียนโฮ่วจะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร จ้านเทียนอ๋องเองก็คงไม่ส่งกองกำลังออกไป”

“นั่นน่ะสิ อย่างที่เทียนโฮ่วกล่าว หากปฐมราชินีหยวนชูกลับมาจริงๆ ฝ่าบาทและเทียนจุนต้องออกมาต้อนรับด้วยตนเองตั้งแต่แรกแล้ว จะปล่อยจนถึงบัดนี้โดยไม่มีข่าวคราวได้อย่างไร”

ทิศทางการวิพากษ์วิจารณ์ของสวรรค์ชั้นเก้าค่อยๆ เริ่มเชื่อว่าเรื่องปฐมราชินีกลับมาเป็นเพียงข่าวลือ! มหาเทพเบิกฟ้าและมหาเทพองค์อื่นๆ คงคิดผิดไปแล้ว

“ก็ใช่ หากปฐมราชินีกลับมาจริงๆ จะไปอยู่กับเผ่ามารได้อย่างไร ได้ยินมาว่านางยังมีลูกกับจักรพรรดิอสูรด้วย หากคือปฐมราชินีจริงๆ ต้องไม่เกิดเรื่องเช่นนี้แน่นอน!”

“ใช่แล้ว ปฐมราชินีสูงส่งเพียงใด ตั้งแต่สร้างโลกจวบจนทุกวันนี้ผ่านมาเก้าสิบล้านปีไม่เคยได้ยินว่านางแต่งงานกับผู้ใด ในฐานะที่ปฐมราชินีเป็นเทพผู้สร้าง สรรพชีวิตในสายตาของนางล้วนเป็นเพียงลูกของนาง แต่งงานมีลูกกับลูกของตนเองมีที่ไหนกัน!”

“มีเหตุผล! ดูท่าเทียนโฮ่วเหนียงเหนียงจะทำถูกแล้ว ครานี้หากตำหนักสวรรค์เอาชนะได้ เทียนโฮ่วเหนียงเหนียงจะสร้างคุณงามความดียิ่งใหญ่ทีเดียวเชียว!…” คำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งสวรรค์ชั้นหนึ่ง

ส่วนซีเหอ บัดนี้นางยังอยู่ในตำหนักเทียนตี้ เพราะว่านางต้องการให้กองทัพเทียนตี้ในตำหนักเทียนตี้เคลื่อนทัพเช่นกัน! แต่กองกำลังเทียนตี้ฟังเพียงบัญชาของเทียนตี้ ไม่ฟังคำสั่งของผู้อื่น

ทว่าซีเหอไม่ยอมแพ้ บัดนี้นางจึงยังคงอ้อนวอนซานเซิง โอรสคนที่สามของเทียนตี้หรือผู้บัญชาการกองกำลังเทียนตี้ เขาเป็นเทพร่างกำยำที่มีพละกำลังมหาศาลและแข็งแกร่งท่านหนึ่ง!

“ซานเซิง เสด็จแม่ขอร้องเจ้าแล้ว ได้หรือไม่” ซีเหอขอร้องวิงวอนจากใจจริง

ซานเซิงนิ่ง

“ซานเซิง เจ้าไม่เข้าใจที่เสด็จแม่พูดหรือ” ก่อนที่ซีเหอจะอ้อนวอน นางวิเคราะทั้งข้อดีข้อเสียให้ฟังหมดแล้ว พร่ำบอกว่าจอมโจรที่เป็นจักรพรรดิอสูรจากเผ่ามารร่วมมือกันขโมยพลังของปฐมราชินีจู่โจมตำหนักสวรรค์แล้ว! ทว่าซานเซิงยังคงนิ่งเฉย

“ซานเซิง!” ซีเหออยากจะอาเจียนเป็นเลือดจริงๆ นางรู้ดีว่าไม่สามารถว่ากล่าวเจ้าทึ่มไร้ความรู้สึกราวกับท่อนไม้คนนี้ได้ แต่ในมือของท่อนไม้ไร้ค่านี้กลับเป็นผู้ควบคุมกองกำลังอันดับหนึ่งของตำหนักสวรรค์!

หลายปีมานี้แม้ว่ากองกำลังสวรรค์จะอยู่ภายใต้การปกครองในนามของนาง แต่กองกำลังเทียนตี้กลับมีเทียนตี้คอย ‘จัดการ’ มาตลอด หรือก็คือไม่ได้จัดการเลยนั่นเอง

“ซานเซิง ถือว่าเสด็จแม่ขอร้องเจ้าได้หรือไม่ น้องเจ็ดของเจ้าถูกจับไปแล้ว! เสด็จแม่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น!” ซีเหอน้ำตาไหลพรากอย่างสมจริง

ซานเซิงยังคงนิ่งไม่ขยับตัว

ซีเหอ “…”

ซีเหอตบเข้าที่ศีรษะของซานเซิงฉาดหนึ่ง ท้ายสุดก็ต้องถอดหน้ากาก

แต่แล้ว…เพราะการกระทำของนาง ซานเซิงก็ไม่นิ่งเฉยอีกต่อไปแล้ว เขาลุกยืนขึ้นจากท่าคุกเข่าข้างหนึ่ง รัศมีรอบกายพลุ่งพล่านขึ้นจนดีดซีเหอกระเด็น!

ในขณะเดียวกัน…

ซู่!

ตาข่ายสีดำผืนหนึ่งปกคลุมซานเซิงไว้และปิดผนึกพลังของเขากลับไปทันที

“ผู้บัญชาการ!?”

กองกำลังเทียนตี้ที่อยู่นอกตำหนักรีบพุ่งเข้ามาเพราะสัมผัสบางอย่างได้! แต่เมื่อพวกเขาเข้ามา สิ่งที่เห็นกลับเป็นเทียนโฮ่วที่กำลังร้องไห้กล่าวขอบคุณผู้บัญชาการของพวกเขา “ซานเซิงยอมรับปากเสด็จแม่แล้ว ช่างเป็นเรื่องดีเหลือเกิน เราจะช่วยน้องเจ็ดของเจ้าได้แล้ว”

‘ซานเซิง’ ที่แต่เดิมนิ่งไม่ขยับก็ลุกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ “เสด็จแม่เชิญพ่ะย่ะค่ะ”

“ผู้บัญชาการ?!”

แม่ทัพกองกำลังเทียนตี้สองสามนายที่พุ่งเข้ามาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่า ‘ซานเซิง’ เพียงออกคำสั่งว่า “เคลื่อนทัพ! เฝ้าตำหนักสวรรค์! กำจัดมาร!”

“…ขอรับ!” เหล่าแม่ทัพกองกำลังเทียนตี้ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาก็รีบออกไปจัดกองกำลัง

ซีเหอวางใจลงอย่างสมบูรณ์ เมื่อกองกำลังเทียนตี้เคลื่อนทัพ ทั่วทั้งตำหนักสวรรค์ก็อลหม่าน “กองทัพเทียนตี้เคลื่อนทัพแล้ว! ดูท่ามหาอสูรจะมาเยือนจริงๆ ด้วย!”

“ดูท่าเทียนโฮ่วทำถูกแล้วจริงๆ น่าเสียดายที่มหาเทพไม่น้อยออกจากตำหนักสวรรค์ไปแล้ว ไม่รู้ว่าเทียนโฮ่วจะรักษาตำหนักสวรรค์ไว้ได้หรือไม่!”

“คงรักษาได้ ถึงอย่างไรกองทัพเทียนตี้ก็เคลื่อนทัพแล้ว”

“สาส์นด่วนตำหนักเทียนโฮ่ว! ขออัญเชิญเหล่าเทพและเซียนสวรรค์ชั้นเก้า ผู้มีใจต้องการช่วยเหลือตำหนักสวรรค์ โปรดรีบไปที่วังทหารสวรรค์เพื่อร่วมต่อต้านการบุกรุกของมหาอสูรโดยพร้อมเพรียงกัน”

“สาส์นด่วนตำหนักเทียนโฮ่ว!…”

สาส์นด่วนตำหนักเทียนโฮ่วดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแทบจะในเวลาเดียวกันกับที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสวรรค์ชั้นเก้าโน้มเอียงไปทางเทียนโฮ่วซีเหอ เสียงนั้นเรียกระดมเทพและเซียนสวรรค์ชั้นเก้านับไม่ถ้วน แม้แต่มหาเทพที่แต่เดิมไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็มุ่งไปยังตำหนักเทียนโฮ่วเพราะสถานการณ์พลิกผันตามสาส์นด่วนของเทียนโฮ่ว เห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของกองทัพเทียนตี้สร้างอิทธิพลได้อย่างมหาศาลทีเดียว!

บัดนี้เยี่ยนอวี๋ก็มาถึงแล้ว นางกับลูก สามี พร้อมลูกน้องเก่ารวมถึงจิ่วอิงปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าประตูค่ายกลสวรรค์ชั้นเก้าอย่างเปิดเผยแล้ว

“ว้าววว” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ปรากฏตัวก็เห็นแสงสีทองระยิบระยับเต็มไปหมด ดวงตาของเขาเป็นประกายทันที “สวย!”

เหล่ากองกำลังทหารทั่วท้องฟ้า ชุดเกราะสีทองอร่ามดูยิ่งใหญ่ ตรงกับมาตรฐานความงามของเยี่ยนเสี่ยวเป่าเขาจึงเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อยชมเชยไม่หยุดปาก “สวย! สวย”

“นายน้อยน่ารักจังเลย” ซีหวังหมู่ไม่เคยเจอเด็กน้อยเช่นนี้มาก่อน เทียบกับนายน้อยแล้ว เด็กน้อยของเทียนตี้ล้วนเป็นขยะ ดูนายน้อยของพวกเขาสิ แม้ถูกล้อมด้วยกองกำลังจากสวรรค์มากมายก็ยังสามารถชื่นชมความงามของพวกเขาได้ สมแล้วที่เป็นนายน้อย! เก่งที่สุดเลย!

เหล่ากองกำลังที่ถูกเด็กน้อยชมไม่หยุดล้วนแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จ้านเทียนอ๋องเองก็ถูกชมจนเกือบจะชะงักไปเช่นกัน ถึงอย่างไรเสียงของเด็กน้อยก็ไม่เบา และยังชื่นชมจากใจจริงด้วย…

แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้จ้านเทียนอ๋องตกตะลึงจริงๆ ก็คือกองทัพของเยี่ยนอวี๋!

“ซีหวังหมู่ เทพอัสนี จิ่วอิง” จ้านเทียนอ๋องรู้จักซีหวังหมู่เป็นอย่างดี สีหน้าเขาเคร่งขรึมลง รู้ดีว่าเจอศึกหนักแล้ว! แต่แล้ว…

“สวยที่สุด!” เด็กน้อยพูดพลางชี้ไปที่จ้านเทียนอ๋อง เพราะเขายังสวมเสื้อคลุมหลากสี เสื้อคลุมนั่นทำมาจากขนนกศักดิ์สิทธิ์ มันแวววาวเปล่งประกายสีทองงดงามเป็นพิเศษ

“แม่ แม่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเรียกแม่แล้ว

“จ๊ะ” ขณะที่เยี่ยนอวี๋สัมผัสสวรรค์ชั้นเก้าอยู่นั้น นางก็ไม่ลืมขานตอบเด็กน้อย “เป็นอะไรหรือ”

“เป่าจะเอาด้วย!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าชี้ไปทางจ้านเทียนอ๋องทันที

เยี่ยนอวี๋พยักหน้า “ได้”

“ฮ่า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจแทบแย่ “พ่อ! เล่น!”

ต้าซือมิ่งกำลังจะวางเด็กน้อยลงไป รูม่านตาของเยี่ยนอวี๋กลับหดลง!

ในขณะเดียวกัน…

ซีเหอที่เฝ้าอยู่ในตำหนักเทียนตี้ก็เห็นว่าประตูหยวนกวงมีความเคลื่อนไหวแล้ว นางรู้ทันทีว่าทัวถ่าเทียนอ๋องจะกลับมาแล้ว “หยวนชู ข้าจะมอบของขวัญให้แก่เจ้า”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท