ตอนที่ 493 หยวนชู เทพสูงสุด!
เทียนหยวนเก้าสิบล้านปี ปฐมราชินีหยวนชูพาสวามีและโอรสกลับสวรรค์อีกครา พร้อมเหล่าขุนเขาและท้องทะเลอันได้แก่ซีหวังหมู่และเทพอัสนีเคียงข้าง ครานั้นเทียนโฮ่วซีเหอคิดว่าเป็นปฐมราชินีตัวปลอมจึงระดมกองกำลังทหารนับล้านก่อกบฏ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกขนานนามในประวัติศาสตร์ว่า ‘การเปลี่ยนแปลงซีเหอ’
นี่คือการบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ของชนรุ่นหลังซึ่งตรงกับฉากในบัดนี้ กองทัพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าบวกกับกองทัพเทียนตี้รวมแล้วมีถึงหกแสน!
ทว่าซีเหอยังไม่ยอมจบเพียงเท่านี้ นางยังรอตัวประกันจากโลกมนุษย์ นางรับรู้ได้ว่าข้างหลังประตูหยวนกวงนอกจากมีกลิ่นอายของทัวถ่าเทียนอ๋องแล้ว ยังมีกลิ่นอายของมนุษย์ด้วย! นางจึงมั่นใจว่าทัวถ่าเทียนอ๋องไม่ทำให้นางผิดหวังนำตัวประกันมาให้นางแล้วอย่างแน่นอน
น่าเสียดาย…
วิ้ง
หลังจากที่ประตูหยวนกวงสาดประกายออกมาเล็กน้อยก็กลับคืนสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว ราวกับเมื่อครู่นี้ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้น ทำให้ซีเหอมองไปทางทิศตะวันตกอย่างงุนงงเล็กน้อย
ในเวลานั้นซีเหอรู้สึกราวกับมองเห็นดวงตาเฉยชาเยือกเย็นคู่หนึ่ง แม้จะอยู่ห่างกันไกลแต่นางก็ยังคงสัมผัสได้อย่างแจ่มชัดถึงความดูแคลนในสายตาคู่นั้น ราวกับว่า…ในสายตาของอีกฝ่ายตัวนางซีเหอเป็นเพียงมดปลวก ไม่มีค่าให้สนใจแม้แต่น้อย สิ่งที่ดวงตาคู่นี้สนใจก็คือประตูหยวนกวงที่ปรากฏขึ้นและหายไปจากด้านหลังของนางต่างหาก
ความรู้สึกอันชัดเจนเช่นนี้ทำให้ซีเหอหายใจไม่ทั่วท้อง ทั่วทั้งร่างราวกับถูกแผดเผา “หยวนชู!” จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่เห็นนางในสายตาเช่นนี้!?
ในความเป็นจริงเยี่ยนอวี๋ก็ไม่เห็นซีเหออยู่ในสายตาจริงๆ เพราะนางกำลังมุ่งความสนใจไปที่ประตูหยวนกวง อีกทั้งนางยังมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่าซีเหอจึงจับสัมผัสได้ว่าข้างหลังประตูหยวนกวงนั้นมีกลิ่นอายของท่านพ่อเจ้าน้ำตาและพี่รองจอมซื่อบื้อของนาง
ต้าซือมิ่งเองก็รู้สึกได้แล้วเช่นกัน เขาหรี่ดวงตาสีฟ้าของตนลงเล็กน้อย “เทียนตี้ช่างเป็นสวะจริงๆ”
“สวะจริงๆ!” ซีหวังหมู่สำทับ ปล่อยให้ซีเหอควบคุมกองทัพสวรรค์ไม่พอ แม้แต่กองทัพเทียนตี้ก็ถูกซีเหอควบคุม นางไม่มีพี่น้องเช่นนี้! มารดามันเถอะ! โมโหจริงๆ!
“น่าอาย!” เทพอัสนีเหน็บแนม ดูแลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจนกลายเป็นเช่นนี้ไม่ว่า ยังถูกยึดอำนาจไปด้วย?! นี่ยังเป็นพี่น้องของเขาอีกหรือ ไม่ๆๆ ข้าไม่รู้จัก
“สวะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ก่นด่าเสียงเล็กเสียงน้อยก็ส่งเสียงขึ้นตาม สายตากลับหยุดลงที่หมวกเกราะและชุดคลุมของจ้านเทียนอ๋อง แสดงท่าทางอยากได้จน ‘น้ำลายไหลยืด’
จิ่วอิงทนดูไม่ไหว “เบาได้เบา…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินดังนั้น ดวงตาก็เปล่งประกายกว่าเดิมพูดว่า “อิงอิง! จับให้เป่า!”
“จับอะไรเล่า กลับไปให้ท่านพ่อเจ้าทำขนาดที่เหมาะสมกับเจ้านู่น ขนาดใหญ่เช่นนี้ เจ้าเอามาก็ใส่ไม่ได้ ไม่คิดหน่อยเลยหรือ” จิ่วอิงหมดคำพูดแล้วจริงๆ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ยินดังนั้นก็รีบยื่นศีรษะมาข้างหน้าท่านพ่อ “พ่อ! ให้เป่า!”
ต้าซือมิ่งที่กดเด็กน้อยกลับไปตอบ “ให้ท่านแม่เจ้าเสร็จธุระก่อน พ่อว่างแล้วจะช่วยเจ้า”
“ขอรับ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพิงกลับเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่ออย่างพึงพอใจ ทำตัวเป็นเด็กน้อยเชื่อฟังแล้ว
เยี่ยนอวี๋เองก็มองกลับมาและยังยื่นมือออกไปลูบเด็กน้อยแสนน่ารักน่าชัง สีหน้ายังคงสงบนิ่ง ราวกับไม่เคยรู้สึกถึงท่านพ่อเจ้าน้ำตาและพี่รองจอมทึ่มของนางมาก่อน
ในขณะเดียวกันซีเหอที่ปรากฎตัวขึ้นกลางอากาศก็สถิตอยู่เหนือเยี่ยนอวี๋ มองลงมาที่พวกเขาพลางพูดว่า “ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว”
ท่าทางเช่นนี้… จิ่วอิงยังไม่ทันทำอะไร ซีหวังหมู่ก็ระเบิดอารมณ์ก่อนผู้ใดแล้ว “ลงมา!”
เสียงคำรามแหลมคมที่สามารถเจาะทองทะลุหินแตกได้โถมเข้าใส่ใบหน้าของซีเหอในทันที! วงแหวนป้องกันด้านข้างซีเหอแตกละเอียด หากไม่ใช่เพราะ ‘ซานเซิง’ เข้ามาขวางข้างหน้าปกป้องซีเหอไว้ ใบหน้านางคงถูกระเบิดเละและร่วงลงไปที่พื้นแล้ว
แม้แต่ซานเซิง ทายาทแข็งแกร่งที่มีจิตวิญญาณของเทพโบราณ บัดนี้ก็ถอยหลังไปสิบกว่าก้าวเพราะเสียงคำรามของซีหวังหมู่จนเกือบจะตีลังกากลางอากาศ
“!!!”
ทหารหกแสนนายเคร่งเครียดเพราะเสียงคำรามของซีหวังหมู่ทันที พวกเขาล้วนรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ทหารสวรรค์ไม่น้อยยังเริ่มเหงื่อแตกแล้วด้วย
“บัดซบ!” ซีเหอเองก็ตกใจจนใจเต้นรัว นางรู้ว่าหากไม่ใช่เพราะซานเซิงเข้ามาช่วยไว้ บัดนี้นางคงกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว ดังนั้นยากนักที่นางจะคุมสติอารมณ์ตนเองไว้ได้ นางตะโกนอย่างกระวนกระวายว่า “ฆ่ามัน!”
วิ้ง!
กองทัพหกแสนนายระเบิดพลังออกมาอย่างพร้อมเพรียง เสียงอาวุธอันน่าเกรงขามดังก้องไปทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ทวยเทพมากมายที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ล้วนขนหัวลุก ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ๆ
มิหนำซ้ำ…
วิ้ง!
วิ้ง! วิ้ง!
ค่ายกลย้ายมิติข้างหลังเยี่ยนอวี๋ บัดนี้พลันเกิดความเคลื่อนไหวรุนแรงระลอกใหม่
ทันใดนั้น…
“เมืองสวรรค์ชั้นหนึ่ง เมืองซานเหมียวสนองบัญชามายังตำหนักสวรรค์ กำจัดจอมมาร เสริมพลังแก่เหล่าเทพ!” ผู้ที่ปรากฏกายพร้อมเสียงอันน่าเกรงขามนี้คือทหารเซียนแสนนายที่นำทัพโดยชือเซวี่ย เจ้าเมืองแห่งเมืองซานเหมียว
ชือเซวี่ยมือถือหอกสามแฉก เสียงของเขานอกจากจะดังสง่า เต็มไปด้วยพลังแล้ว สายเลือดทวยเทพรุ่นแรกที่สืบต่อจากชือโหยวยังถูกปลุกจนตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ ศีรษะวัวคู่หนึ่งยังเปล่งประกายรัศมีน่าหลงใหล
เทียบกับเจ้าเมืองแห่งเมืองต้าจ้างฟูแล้ว เห็นได้ชัดว่าความสามารถของชือเซวี่ยแข็งแกร่งกว่ามากนัก แม้แต่ทหารเซียนที่เขานำทัพมาก็แข็งแกร่งมาก มีเซียนในกองทัพถึงหนึ่งส่วนสาม!
สิ่งนี้ทำให้ซีเหอที่เมื่อครู่นี้ตกใจจนหวาดหวั่น ตะโกนออกมาในบัดนี้ว่า “ดี!” นางที่เลี้ยงดูพวกเขาอย่างดีในช่วงหลายปีมานี้ถือว่าไม่เสียเปล่า ในที่สุดวันนี้ก็ได้ใช้ประโยชน์แล้ว
“ถวายพระพรเหนียงเหนียง” ชือเซวี่ยนำทัพคารวะซีเหอ ทำให้จ้านเทียนอ๋องเหลือบมอง เดิมทีเขาคิดว่ากองทัพสวรรค์เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวของเทียนโฮ่วเสียอีก
“ลุกขึ้น เจ้าเมืองชือรีบลุกขึ้นเถิด” ซีเหอรู้สึกได้หน้า นางมองไปที่เยี่ยนอวี๋เพราะอยากรู้ว่าปฐมราชินีจะมีสีหน้าอย่างไร คงจะตื่นตะลึงมาก ไม่อยากจะเชื่อ หรือไม่ก็ใจสลายไปแล้วกระมัง
แต่จะทำอย่างไรได้ เยี่ยนอวี๋ไม่แม้แต่จะมองชือเซวี่ย นางกำลังลูบเด็กน้อยของนาง
ซีเหอ “…”
ซีเหอที่พยายามอดกลั้นอารมณ์ไว้แต่ก็ยังสงบสติอารมณ์ลงไม่ได้ “นังโจร! เจ้าอย่ามาทำเสแสร้ง! ข้าขอเตือนเจ้าจงปล่อยบุตรสาวของข้าเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นเจ้าจะต้องเสียใจ!”
“…” ตี้เซินที่อยากพูดอะไรบางอย่าง เนื่องจากถูกจิ่วอิงกักขังไว้จึงไม่สามารถเอ่ยอะไรได้ ได้แต่มองเสด็จแม่ของตนรนหาที่ตายแต่ไม่อาจช่วยอะไรได้
ซีเหอที่ถูกตี้เซินมองก็คิดไปว่าบุตรสาวกำลังขอความช่วยเหลือ น้ำเสียงนางจึงดุร้ายยิ่งกว่าเดิม “นังโจร! เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ!”
“เจ้าลองเรียก ‘นังโจร’ อีกครั้งสิ” ซีหวังหมู่ทนไม่ไหว มันอยากจะฉีกตำหนักสวรรค์นี้ทิ้งจริงๆ! ฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทั้งหมด รอบกายของมันพลุ่งพล่านไปด้วยพลังอำมหิตอันน่าสะพรึง เสียงโหยหวนของเหล่าเทพดังประกอบฉากในทันที
ซีเหอตีหน้าขรึมเอ่ยต่อว่า “ซีหวังหมู่ เจ้าแยกแยะไม่ออกหรือว่านางคือโจรที่ขโมยพลังของปฐมราชินีไป?! มิเช่นนั้นเหตุใดตี้จวินและเทียนจวินจึงยังไม่ออกมาต้อนรับนางเล่า!”
เมื่อสิ้นเสียงนาง…ซีหวังหมู่ยังไม่ทันระเบิดอารมณ์! เยี่ยนอวี๋ก็เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าต้องการให้ข้าเรียกพวกเขาออกมาจริงๆ หรือ”