ตอนที่ 501 เทียนตี้ระดับผู้สร้างออกจากการจำศีล!
“เสด็จแม่…” ตี้เซินอยากจะห้ามปราม แต่ซีเหอไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้พูด “เซินเซินเจ้าอย่ากลัว! เสด็จแม่ไม่ปล่อยให้เจ้าเสียเกียรติยศที่ควรมีแน่นอน”
ตี้เซินส่ายศีรษะ เขาไม่ต้องการเกียรติยศที่ได้มาด้วยการทำร้ายพี่น้องตนเอง ทว่าเยี่ยนอวี๋ทำให้เขาหุบปากแล้ว นางถามซีเหอว่า “เจ้าทำอะไรซานเซิง”
“ข้า…” ซีเหอแววตาวูบไหว นางหลบไม่พ้นแล้ว
เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ใช้พลังวิเศษ ‘จิตวิญญาณแท้จริง‘
ซีเหอที่ถูกปกคลุมด้วย ‘จิตวิญญาณแท้จริง’ ได้แต่พูดความจริงออกมา “ข้าร่ายคาถาสะกดจิตซานเซิง”
เมื่อสิ้นเสียง…เสียงวิพากวิจารณ์ก็ดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ คาถาสะกดจิต
มนต์ดำที่มาจากแดนมืดวิญญาณอสูรคือวิชาสาปแช่งอันเป็นเอกลักษณ์ของแอนนาเทพแห่งความมืด มีผลต่อเทพทุกองค์ ครานั้นเทพจำนวนมากกลายเป็นหุ่นเชิดของเผ่ามารเพราะต้องคำสาปนี้
สิ่งที่น่ากลัวคือ คำสาปนี้ไร้ซึ่งวิธีถอน ผู้ต้องสาปจะค่อยๆ ถูกกลืนกินสติจนหมดสิ้น สุดท้ายกลายเป็นหุ่นเชิดสมองกลวงที่ปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างเดียว
“เสด็จแม่…” ตี้เซินมองเสด็จแม่อย่างไม่อยากจะเชื่อ เพิ่งรู้ว่าเสด็จแม่ของเขาไม่เพียงเป็นผู้ที่ลุ่มหลงใน เกียรติยศชื่อเสียง นางยังร้ายกาจและโหดเหี้ยมมาก นางยอมทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการ
เสด็จพี่ซานเซิงเป็นคนหัวรั้นมาโดยตลอด แม้จะมีฝีมือการต่อสู้ไม่ธรรมดาและร่างกายแข็งแกร่งกำยำ แต่กลับมีความคิดที่ซื่อตรง เสด็จพ่อให้เขาเป็นผู้บัญชาการกองทัพเทียนตี้ ปกป้องตำหนักเทียนตี้ เขาก็ประจำอยู่ในตำหนักเทียนตี้ตลอด ไม่เคยออกมาเลย วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเดินออกมาจากตำหนักเทียนตี้หลังจากได้เป็นผู้บัญชาการกองทัพเทียนตี้ ทว่าความจริงกลับเป็นเช่นนี้…เขาต้องคำสาปสะกดจิต
ทว่า…ซีเหอยังคงคิดว่าตนเองไม่ผิด “ใช่แล้ว! ข้าร่ายคาถาสะกดจิตซานเซิง แต่เขาเป็นคนไม่มีสมองอยู่แล้ว มันจะต่างกันหรือ แรกเริ่มข้าเองก็ไม่รู้ ไม่สิ ข้าไม่อยากให้หยวนชูกลับมา! ในเมื่อนางตายไปแล้ว นางก็ไม่ควรกลับมาอีก! กลับมาทำไม! กลับมาแก่งแย่งอำนาจของข้า แย่งทุกอย่างของข้าไปหรือ!”
แต่เดิมซีเหออยากจะบอกว่าตนเองไม่รู้ว่าปฐมราชินีคือปฐมราชินี ที่นางควบคุมซานเซิงก็เพื่อปกป้องสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ทว่าภายใต้ ‘จิตวิญญาณแท้จริง’ นางย่อมทำได้เพียงพูดความในใจทั้งหมดออกมา
ทั้งสามทัศน์นี้…ความคิดเช่นนี้ ทำลายภาพลักษณ์เทียนโฮ่วซีเหอในใจเหล่าทวยเทพลงโดยสิ้นเชิง
อ้อ! คนหัวรั้นที่ยืนหยัดในหลักการไม่รู้จักพลิกแพลงก็ไม่สมควรมีสมองหรือ สมควรกลายเป็นหุ่นเชิดรึ
ไม่ขอพูดถึงอย่างอื่น เพียงแค่คำพูดนี้เพียงพอที่จะทำให้เหล่าทวยเทพเข้าใจว่าเทียนโฮ่วซีเหอนอกจากจะวางแผนไม่รัดกุมแล้ว ความคิดของนางก็มีปัญหาด้วย ซ้ำยังเป็นปัญหาใหญ่ สติไม่สมประกอบ
ซีเหอกลับไม่คิดว่าตนเองผิดอะไร แต่นางรู้ว่าคำพูดสุดท้ายของตนผิดไป แต่นี่คือความคิดที่แท้จริงของนาง ดังนั้นนาง…นางจึงพูดแก้ไขว่า “ข้าไม่รู้ ไม่รู้ว่าท่านจะฟื้นฟูพลังได้รวดเร็วเช่นนี้ ไม่ใช่สิ…”
ซีเหอที่ยิ่งพูดยิ่งผิดรีบปิดปากตนเองทันที
เซ่าเฮ่ายิ้มเย็นชา “หากไม่ใช่เพราะนายท่านฟื้นฟูได้เร็ว การอยู่ต่อหน้ากองทัพนับล้านที่ซีเหอระดมมา ต่อหน้าบรรพบุรุษหงเหมิงและกองทัพลัทธิเต๋านับพัน กองทัพพุทธศาสนานับหมื่นในบัดนี้ นายท่านจะไม่ร่วงหล่นอีกคราหรือ!”
คำพูดนี้…เซ่าเฮ่าพูดให้เทียนตี้ฟัง เขาย่อมสัมผัสได้เช่นกันว่าเทียนตี้ตื่นแล้ว เขาต้องการให้พี่น้องผู้ดูแลปกครองสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเห็นว่าเขาปกครองสวรรค์เก้าชั้นจนกลายเป็นสภาพเช่นไร บังอาจบีบบังคับให้นายท่านสละตำแหน่ง ใครกันปล่อยให้เทพเหล่านี้บังอาจเช่นนี้
เซ่าเฮ่าไม่กล้าจินตนาการ หากไม่ใช่เพราะนายท่านฟื้นฟูกลับมาแข็งแกร่งจนสามารถอัญเชิญพวกเขาจากทั่วสารทิศมาได้เช่นนี้ กระทั่งฟื้นคืนชีพเหล่าพี่น้องที่ตายจากไปกลับมาในขุนเขาและท้องทะเล วันนี้คงจะกลายเป็นพวกเขาที่ต้องถูกทำลายตบะและกักบริเวณในจักรวาลดั้งเดิมแทน
ความคิดนี้ของเซ่าเฮ่า…คือความคิดของเหล่าขุนเขาและท้องทะเลทุกตน พวกเขาน้ำตาไหลพรากด้วยเหตุนี้ “นายท่าน!”
“เก็บน้ำตาซะ รักษาตนเองให้ดี” เยี่ยนอวี๋ตำหนิเบาๆ นางรู้ว่าสมุนเก่าส่วนใหญ่ร่างกายยังอ่อนแอมาก จึงไม่อยากให้พวกเขาสะเทือนอารมณ์จนเกินไป
ไป๋ตี้เซ่าเฮ่าคือผู้ที่ฟื้นตัวได้เร็วที่สุด ดังนั้นเยี่ยนอวี๋จึงไม่ได้สั่งให้เขา ‘เงียบ’ ทว่าต้าซือมิ่งกำลังจับตามองเซ่าเฮ่าอยู่ตลอดเวลา…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อยู่นิ่งๆ อย่างเชื่อฟัง หลังจากที่เขาเห็นสายตาของท่านพ่อ เขาก็มองไปที่ไป๋ตี้เซ่าเฮ่า จากนั้นก็หันไปมองท่านพ่ออีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน…
“!”
แสงสีม่วงเจิดจ้าเงียบงันทว่าเพียงพอที่จะทำให้เทพทั้งหลายตกใจหลั่งไหลออกมาจากทั่วทุกมุมของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว จากนั้นมันก็ผสานเข้าไปในขุนเขาและท้องทะเลโบราณของเยี่ยนอวี๋
กลิ่นอายนี้…
“ฝ่าบาท!?”
ม่านตาจ้านเทียนอ๋องหดตัว เจ้าเมืองสุขาวดีสะดุ้ง ถึงอย่างไรก็เป็นไปได้มากว่าเทียนตี้ปรากฏตัวเพราะคำพูดของไป๋ตี้เซ่าเฮ่า
นี่มัน…
“ฝ่าบาท?” ซีเหอที่เอามือทาบอกไว้ นางตื่นตระหนกจนหนังตากระตุกอย่างรุนแรง นางกลัวว่าคำพูดที่ตนพูดเมื่อครู่นี้ ฝ่าบาทจะได้ยินหมดแล้ว
ซีหวังหมู่ที่อ่านความคิดของซีเหอออกก็แสดงความยินดีอย่าง ‘มีเมตตา’ ว่า “ยินดีด้วย สิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่นี้ ฝ่าบาทบ้านเจ้าได้ยินหมดแล้วจริงๆ”
ซีเหอพลันหยุดหายใจ ร่างกายแข็งทื่อ ครานี้เองเทียนตี้ก็มาปรากฏตัวข้างกายเยี่ยนอวี่ ยืนอยู่ข้างไป๋ตี้เซ่าเฮ่า
เทียนตี้ตี้จวิ้นผู้สวมชุดสีเหลืองอร่ามและไป๋ตี้เซ่าเฮ่าในชุดขาวบริสุทธิ์ พวกเขาคือมือซ้ายและมือขวาของเยี่ยนอวี๋ โดยเฉพาะเทียนตี้ ความเฉลียวฉลาดและความสามารถเหนือชั้นของเขาจัดระเบียบจักรวาลและรักษาสมดุลของสามโลกได้สำเร็จ หากไม่ใช่เพราะมีเทียนตี้ เยี่ยนอวี๋ก็คงไม่สามารถวางมือมาเป็นปฐมราชินีที่เกษียณแล้วได้
ทว่าในวันนี้… ณ ที่แห่งนี้ ภายใต้การประจักษ์ของเหล่าพี่น้อง ต่อหน้าปฐมราชินีที่เขาเคารพและเทิดทูนที่สุด…เขายังคงเลื่อนขั้นอย่างต่อเนื่อง แม้อารมณ์จะปั่นป่วน แม้หัวใจจะเต้นแรง แม้จะเจ็บปวดมาก…เขาก็เลื่อนขั้นแล้ว
ในขุนเขาและท้องทะเลโบราณ
ซู่!
แสงพลังไท่สื่อเจิดจรัสฟุ้งกระจายไปทั่วภูเขาโบราณหลายเทือก ผืนทะเลอันกว้างใหญ่ กระทั่งทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้ารวมถึงสามโลก ทุกๆ ที่ของจักรวาลล้วนถูกแสงสีม่วงโอบล้อม
เทียนตี้… เลื่อนขั้นแล้ว ผู้สืบทอดของเยี่ยนอวี๋ ภายใต้สายตาของเทพทั้งหลายและเหล่าญาติมิตรสหาย เทียนตี้ตี้จวิ้นเลื่อนขั้นเข้าสู่ระดับสร้างโลกอย่างมั่นคง เขาหลอมผสานกับกฎระเบียบและพลังของจักรวาล
แสงสีม่วงไร้ที่สิ้นสุดแผ่ขยายเข้าไปในส่วนลึกของจักรวาลไม่หยุด แม้แต่ในแดนมืดวิญญาณอสูรก็ถูกแสงสีม่วงของเทียนตี้เข้าแทรกซึม พลังและกลิ่นอายของเขาแผ่กระจายไปทั่วทั้งจักรวาลอย่างสมบูรณ์
เทียนตี้ที่เป็นเช่นนี้ทำให้เทพทั้งหลายหมอบกราบลงอีกครั้ง “ทรงพระเจริญ! คุ้มครองสรรพชีวิตตลอดกาลนาน”
“ทรงพระเจริญ!”
“ทรงพระเจริญ!…”
การถวายตัวบูชาจากใจจริงอย่างเปิดเผยนี้เพียงพอที่จะทำให้กลิ่นอายรอบกายของเทียนตี้เจิดจรัสยิ่งกว่าเดิม นี่คือพลังที่เหล่าทวยเทพศรัทธาในตัวเขา มันกำลังสะท้อนในตัวเขา
หลังจากปฐมราชินีผู้สร้างโลก เทียนตี้ตี้จวิ้นคือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่ทั้งเทพ คน และผีสางเคารพมาโดยตลอด ผู้ศรัทธาในพระองค์มีอยู่ทั่วทั้งจักรวาลและยังเป็นเพราะกุมอำนาจสูงสุดมาเป็นเวลานาน เขาจึงเป็นผู้น่าเกรงขามอย่างมิอาจหาที่เปรียบได้ในใจของเหล่าทวยเทพ
บัดนี้…เทียนตี้ออกจากการจำศีลอีกครั้งและยังเลื่อนขั้นเป็นระดับผู้สร้างโลกได้สำเร็จ กลายเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ทวยเทพที่แต่เดิมสิ้นหวังเริ่มมีความหวังขึ้นอีกครา แม้แต่ซีเหอที่ก่อนหน้านี้ยังสิ้นหวัง บัดนี้นางก็มีความหวังขึ้นอีกครั้ง นางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร ถึงอย่างไรนางก็เป็นคู่ทุกข์คู่ยากของฝ่าบาท และยังกำเนิดโอรสให้ฝ่าบาทด้วย
ทว่า… ทุกอย่างกลับเงียบงัน ขณะที่ทุกคนตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่ในการเลื่อนขั้นของเทียนตี้ เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็กลายเป็นจุดสนใจอีกครา
“ว้าววว”
เด็กน้อยที่ส่งเสียงอุทานออกมาตามสัญชาติญาณ เขาตะลึงกับแสงสีทองอร่ามแพรวพราวของเทียนตี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียนตี้เลื่อนขั้นยังแผ่รัศมีงามวิจิตร ทำให้มงกุฎของฝ่าบาทเปล่งประกายเจิดจรัสยิ่งกว่าเดิม
เจิดจรัสจน…
“ว้าววว”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าอุทานไม่หยุดลพลางพูดกับท่านพ่อเขาว่า “พ่อ! พ่อ เป่าจะเอาอันนี้!” ไม่เอาอย่างอื่นแล้ว ไม่สวยเหมือนกับอันนี้ อันนี้สวยที่สุด
ต้าซือมิ่งลูบขนอ่อนบนศีรษะของเด็กน้อยเบาๆ คิดในใจว่าเด็กน้อยตาดีไม่เบา ชอบสิ่งที่มีราคาสูงที่สุด ณ ที่นี้ ทว่า…
“สามหาว!” ซีเหอโกรธกริ้วทันที “เป็นเพียงเด็กเชื้อมารตัวน้อยๆ คู่ควรด้วยรึ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ยินดังนั้นย่อมไม่พอใจ ถึงอย่างไรเขาก็ฉลาดหลักแหลม เข้าใจทุกอย่างดี ทว่าเด็กน้อยเพิ่งจะไม่พอใจ เยี่ยนอวี๋ก็ฟาดฝ่ามือลงที่ใบหน้าของซีเหอแล้ว
เพียะ!
เยี่ยนอวี๋ตบมงกุฎของเทียนโฮ่วซีเหอจนแตกละเอียด แม้แต่ตัวนางเองก็ล้มกระแทกจนร่างฝังลงไปกับพื้น ดวงตาของเยี่ยนอวี๋พลันเกิดเจตนาสังหาร
ทว่าเทียนตี้ในบัดนี้ลืมตาขึ้นแล้ว เขาลงมาสถิตตรงหน้าเด็กน้อยและต้าซือมิ่ง เยี่ยนอวี๋หรี่ตาลง
“เทียนตี้! เจ้าจะทำอะไร!?” ซีหวังหมู่ตะโกนถามเกรี้ยวกราด มันไม่ได้รู้สึกดีกับเทียนตี้อย่างเห็นได้ชัด ถึงอย่างไรมันก็ถูกชายาของเทียนตี้เล่นงานจนน่วมมาก่อน
อีกทั้งเรื่องมาถึงตอนนี้ซีหวังหมู่ยังคิดว่าเทียนตี้ข้องเกี่ยวกับการร่วงหล่นเมื่อสามหมื่นปีก่อนของเยี่ยนอวี๋ ถึงอย่างไรนอกจากเทียนตี้แล้ว มันก็คิดไม่ออกว่าจะยังมีใครที่มีฝีมือเก่งกาจเช่นนี้อีก
แม้จะฟังดูไร้เหตุผลมาก แต่ซีหวังหมู่ก็ยืนหยัดในความคิดนี้ ดังนั้นเมื่อมันเห็นเทียนตี้ไปอยู่ข้างหน้านายน้อย มันจึงระเบิดอารมณ์ในทันที
ทว่า…ฉากที่ไม่มีใครคิดถึงก็บังเกิดขึ้น เทียนตี้ถอดมงกุฎจักรพรรดิลงมาก่อนจะสวมใส่ให้เด็กน้อยที่กำลังทำตาปริบๆ ด้วยสายตาเปล่งประกาย ‘ความโลภ’
ภาพเช่นนี้…