ตอนที่ 513 เวรกรรมของต้าซือมิ่งและเซ่าเฮ่า!
“เหมือนกับว่าจะหยุดลงแล้ว?” อินหลิวเฟิงสัมผัสถึงบริเวณโดยรอบที่สงบนิ่งลงอย่างกะทันหัน เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เพราะความเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้รุนแรงมากเหมือนกับสวรรค์จะระเบิดอย่างไรอย่างนั้น
เอ้อร์เหมาและคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจเช่นกัน เพราะว่าความสงบเกิดขึ้นชั่วขณะเมื่อครู่นี้ราวกับ…ราวกับว่าถูกบางสิ่งหยุดยั้งความเคลื่อนไหวลง
“แค่ก” เม่ยเอ๋อร์ไอ นางเองก็ไม่เข้าใจ เพราะว่าแม้นางติดต่อกับคุณหนูใหญ่แล้ว แต่เหมือนกับว่าจะติดต่อไม่ได้ ดังนั้นความเคลื่อนไหวที่หยุดชะงักอย่างกะทันหันนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับคุณหนูใหญ่
ทว่าเม่ยเอ๋อร์ก็มั่นใจได้ว่าสถานที่แห่งนี้ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่นอน มิเช่นนั้นไม่มีทางที่นางจะติดต่อคุณหนูใหญ่ของนางไม่ได้! เหมือนกับว่าพวกนางทั้งสองอยู่ห่างกันไกลมาก
“อย่างไรก็ตามพวกเราอยู่นิ่งๆ ก่อน ไม่รู้ว่าประเดี๋ยวจะระเบิดอีกครั้งหรือไม่!” อินหลิวเฟิงคิดว่าระวังตัวไว้ดีกว่า
เม่ยเอ๋อร์พยักหน้า นางรักษาตนเองอย่างรวดเร็วพลางครุ่นคิดว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
และคำถามนี้…ก็เป็นคำถามที่เยี่ยนอวี๋ถามตนเองอยู่เช่นกัน เพราะว่านางสัมผัสถึงเม่ยเอ๋อร์ได้เลือนราง แต่กลับไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่ชัดของเม่ยเอ๋อร์ได้ ตามหลักแล้วไม่ควรเป็นเช่นนี้
ทว่าต้าซือมิ่งก็มองไปยังจักรวาลที่ไร้ขอบเขตด้วยแววตาเคร่งขรึม
“นายท่าน เกิดเรื่องแล้วหรือ” เซ่าเฮ่าถามขึ้น เขาดูออกจากสายตาของนายท่านว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น
จู่ๆ ต้าซือมิ่งก็หันขวับไปทางเซ่าเฮ่า ฝ่ายหลังงงงัน “จวินโฮ่ว?”
“กลับไปกันก่อน” เยี่ยนอวี๋รู้ว่าหากส่งกระแสจิตสัมผัสเช่นนี้ต่อไปก็คงไม่ได้ความอะไร สู้กลับไปวางแผนกันก่อนดีกว่า
ทว่าผู้ใหญ่จะคิดหรือจะพูดอย่างไร เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ไม่สนใจ เขาถามท่านพ่อเขาว่า “พ่อ! เอากรงให้เป่าขัง แอน แอน…”
“แอนนา” จิ่วอิงช่วย
“ใช่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าโบกมือน้อยๆ ของตนไปมา แอนนาน้อยที่ถูกจับอยู่ในกำมือของเขาก็อยู่นิ่ง เพราะมันหนีไปไหนไม่ได้ เยี่ยนอวี๋ยิ่งรู้สึกแปลกประหลาด แอนนาน้อยตัวนี้…
ไม่ได้กลับมาเพียงสามหมื่นปี เยี่ยนอวี๋ก็รู้สึกได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เยี่ยนอวี๋ร้อนรนใจกลับทำให้นางรู้สึกสนใจไม่น้อย
การร่วงหล่นเมื่อสามหมื่นปีของนางแม้จะมีสาเหตุจากภายนอก แต่เนื่องจากนางมีชีวิตยาวนานเกินไป จึงรู้สึกเฉยชากับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่ไร้การเปลี่ยนแปลงใดๆ การกลับคืนสู่ธรรมชาติจึงจะเป็นเป้าหมายหลัก
…
ในขณะที่เยี่ยนอวี๋เตรียมตัวกลับตำหนักสวรรค์ เทียนตี้ก็ประกาศจัดงานประชุมแล้ว เทพมากมายที่ได้รับข่าวแล้วย่อมถกเถียงกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง “เพียงแค่ห้าวัน เทียนตี้ก็เปิดประชุมอีกครา ดูท่าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าคงเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ”
“คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับจอมโจรเหล่านั้น”
“อย่าพูดว่าจอมโจรอีก ยกเลิกคำสั่งหมายจับไปหมดแล้วมิใช่หรือ ได้ยินมาว่าท่านนั้นไม่ใช่ผู้ขโมยพลังปฐมราชินีอะไรเสียหน่อย แต่คือปฐมราชินีองค์จริง!”
เสียงถกเถียงฮือฮาแพร่สะพัดไปทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้าพร้อมกับข่าวการกลับมาของเยี่ยนอวี๋ ปฐมราชินีผู้สร้างท่านนี้ ในขณะเดียวกัน…
เทียนตี้เปิดแดนสวรรค์อีกครั้ง ด้วยความสามารถในบัดนี้ของเขา การบังคับเปิดแดนสวรรค์นั้นไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงเก้าวันในการบังคับเปิดแดนสวรรค์ดังเช่นในอดีตเมื่อครั้นสวรรค์เก้าชั้นฟ้าถูกปิดสนิท
ดังนั้นเมื่อเยี่ยนอวี๋พวกเขากลับมาถึงตำหนักสวรรค์ เทียนตี้ก็เปิดแดนสวรรค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหล่าทวยเทพเองก็ได้รับสั่งเข้าประชุม นอกจากนี้ตัวเหวินเทียนอ๋องก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
“ฝ่าบาท…”
ตัวเหวินเทียนอ๋องที่ตื่นขึ้นมาร้อนใจในทันที เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นห่วงสหายอีกสองท่านมาก ทว่าซีหวังหมู่ที่คอยดูแลเขาก็พูดขึ้นว่า “ตายแล้ว อย่าได้คิดถึงอีกเลย”
ตัวเหวินเทียนอ๋อง “…”
ตัวเหวินเทียนอ๋องตะลึงงัน
เยี่ยนอวี๋ที่เข้ามาในตำหนักพอดี นางก็ตำหนิซีหวังหมู่ “ซีซี เจ้าซุกซนอีกแล้ว”
“นายท่าน” ซีหวังหมู่เดินขึ้นหน้าอย่างมีความสุข
ตัวเหวินเทียนอ๋องทำท่าจะลงจากเตียง แต่ถูกเยี่ยนอวี๋ห้ามไว้ “บอกทุกอย่างเกี่ยวกับภูเขาปู้โจวซานให้ข้าฟัง”
เยี่ยนอวี๋คิดมาตลอดทางว่าสิ่งที่ตัวเหวินเทียนอ๋องพวกเขาพานพบที่ภูเขาปู้โจวซานต้องมีไม่ชอบมาพากล อีกทั้งยังข้องเกี่ยวกับแอนนาน้อยด้วย
ขณะที่เยี่ยนอวี๋ถาม เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุนก็เข้ามาแล้ว ทำเอาเทียนอ๋องเบิกฟ้าและเทพองค์อื่นๆที่เฝ้าอยู่นอกตำหนักทั้งประหลาดและดีใจ “ถวายบังคมฝ่าบาท! ถวายบังคมเทียนจุน!”
เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุนทั้งสองจำศีลไม่รับแขกมาหลายปี วันนี้ปรากฏตัวพร้อมกัน ทำให้เหล่าเทพเบิกฟ้าดีใจสุดซึ้งล้วนคิดเหมือนกันว่าทุกอย่างดีขึ้นทันตาเมื่อปฐมราชินีกลับมา ลูกพี่ทั้งสองท่านไม่เอาแต่จำศีลแล้ว
“ตัวข้าเบิกฟ้าว่าแล้วเชียว! ปฐมราชินีกลับมาก็เอาเทียนตี้ได้อยู่หมัด เทียนโฮ่วน่ะไร้ประโยชน์!” เทียนอ๋องเบิกฟ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา
“จริงแท้แน่นอน” เทียนตี้แย้มพระโอษฐ์ “ซีเหอเทพบาปมิใช่เทียนโฮ่วแล้วและถูกกำจัดด้วยบาปแล้ว อย่าได้กล่าวถึงอีกเลย”
“อ๋อๆๆ!” เทียนอ๋องเบิกฟ้าพยักหน้าหงึก “สมควร! สมควรแล้ว! กล้าออกหมายจับแม้แต่ปฐมราชินีบังอาจจริงๆ!”
เทียนตี้ตบไหล่เทียนอ๋องเบิกฟ้าเบาๆ ก่อนจะเข้าไปในตำหนักพร้อมหยวนสื่อเทียนจุนที่พูดคุยกับศิษย์ที่โปรดปรานเสร็จพอดี บัดนี้ตัวเหวินเทียนอ๋องเองก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในภูเขาปู้โจวซานเสร็จแล้ว
“เช่นนั้นที่พวกเจ้าไปภูเขาปู้โจวซานด้วยกันเพราะได้กลิ่นอายของเซ่าเฮ่าหรือ” เยี่ยนอวี๋พูดพลางมองไปที่เซ่าเฮ่าที่อยู่ข้างกาย ฝ่ายหลังคิ้วขมวดเป็นปม เอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ข้าน้อยถูกกักขังในภูเขาปู้โจวซานจริงๆ”
ภูเขาปู้โจวซานเป็นภูเขาที่แยกตัวออกมาจากขุนเขาและท้องทะเลโบราณเทือกหนึ่ง ตั้งอยู่เขตแดนทางทิศตะวันตกของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ห่างไกลจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในเสาหลักที่ใช้ในการรักษาเสถียรภาพของจักรวาลเมื่อแรกสร้าง
ทว่าเทียนตี้ที่เดินเข้ามากล่าวว่า “ภูเขาปู้โจวซานในบัดนี้ไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ ข้าสั่งให้เมืองซูซื่อที่อยู่ใกล้เคียงไปตรวจสอบแล้ว อีกไม่นานก็จะทราบข่าว”
เยี่ยนอวี๋พยักหน้ารับทราบ สายตายังคงหยุดอยู่ที่เซ่าเฮ่า ฝ่ายหลังจึงจำใจต้องเล่าเรื่องน่าอับอายของตนเอง “ครานั้น ใต้เท้าท่านร่วงหล่น ข้าน้อยได้ยินว่าที่ภูเขาปู้โจวซานปรากฏร่างเงาของท่าน ข้าน้อยก็รุดหน้าไปทันทีโดยมิได้ไตร่ตรอง แม้หลังจากที่ไปแล้ว ข้าน้อยจะจับกลิ่นอายของใต้เท้าท่านไม่ได้เลย แต่ข้าน้อยยังคงไม่ยอมแพ้จึงคอยสังเกตการณ์ในภูเขาปู้โจวซานต่อไปอย่างตั้งใจ จากนั้นคืนวันผ่านไป ข้าน้อยอยู่ที่นั่นนานจนได้รับพิษโดยไม่รู้ตัว… ตื่นมาอีกทีก็ถูกขังไว้ในแดนมืดนิรันดร์แล้ว”
เซ่าเฮ่าที่ยิ่งเล่าก็ยิ่งรู้สึกตนเองโง่เขลา ใบหน้าสง่าของเขาแดงระเรื่อ
“ไม่รู้ว่าใครทำร้ายเจ้าหรือ” เยี่ยนอวี๋ถามขึ้นอีก ในคำสารภาพของซั่วเย่ว์ ตระกูลสุริยันจันทราไม่ได้เข้าร่วมแผนการลอบทำร้ายเซ่าเฮ่า ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นฝีมือของซีเหอหรือไม่ บัดนี้เยี่ยนอวี๋ยังไม่รู้
ทว่าต้าซือมิ่งรู้ “ซีเหอปลูกต้นพลูคาวโบราณไว้ที่ภูเขาปู้โจวซานตั้งแต่แรกแล้ว แต่นางไม่จำเป็นต้องลงมือกับเซ่าเฮ่าเอง เขาก็ตกลงไปในหุบเหวแห่งความมืดนิรันดร์ เพราะว่า… ข้าเป็นคนทำ”
เรื่องนี้… ทำเอาทุกคนในเหตุการณ์ตะลึงงัน เซ่าเฮ่าเองก็อึ้งไป