ตอนที่ 514 เปิดโปงต้าซือมิ่งฆาตรกรที่แท้จริง!
พระเนตรของเทียนตี้วูบไหว “เจ้านี่เอง!” ดีล่ะ! จับจุดอ่อนได้แล้ว!
ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับไม่ประหลาดใจมากนัก “เจ้าหัวฟ้าน่ะหรือ”
“อืม” หรงอี้พยักหน้า “ตามความทรงจำของ ‘ข้า’ เมื่อสามหมื่นปีก่อน ‘ข้า’ เป็นผู้ส่งเซ่าเฮ่าเข้าไปในแดนมืดนิรันดร์ ด้วยสาเหตุที่ว่าเห็นหน้าเขาแล้วหงุดหงิด”
เซ่าเฮ่า “???”
เขาทำไมหรือ ทำไมเห็นหน้าเขาแล้วหงุดหงิดเล่า อีกทั้งเหตุใดเขาถึงจำอะไรไม่ได้เลย
เยี่ยนอวี๋เกิดคำถามเช่นเดียวกับเขา “แล้วเหตุใดเซ่าเฮ่าจึงไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย แล้วทำไมเจ้าจึงไม่ชอบหน้าเขา”
“เขาที่เมามายอยู่ในโลกแห่งมายาพลูคาวโบราณไม่ต่างจากสวะไร้ประโยชน์ ส่วนคำถามที่ว่าเหตุใดจึงเกลียดขี้หน้าเขา เพราะครานั้นเขาสวมเสื้อผ้าเหมือนกับข้า” ต้าซือมิ่ง ‘สารภาพ’ อย่างตรงไปตรงมา
เยี่ยนอวี๋ “…”
เซ่าเฮ่า “…”
คนหนึ่งหมดคำพูดกับเหตุผลของสามี
อีกคนหนึ่งทั้งอับอายและพูดไม่ออก
ซีหวังหมู่อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “จวินโฮ่ว ขนาดลงมือท่านก็เอาแต่ใจเช่นนี้หรือ ท่านทำเช่นนี้เกือบจะทำให้เซ่าเฮ่าต้องจบชีวิตแล้ว! ถือว่าเป็นฆาตกรเชียวนะ”
“อย่าเหลวไหล สมัยเป็นเด็กอี้เอ๋อร์เอาแต่ใจยิ่งกว่านี้อีก ได้ยินมาว่าอายุเพิ่งครบเดือนก็สามารถคำรามใส่คนจนตายเพียงเพราะโมโหได้” จิ่วอิงบอกว่าพวกเจ้าไม่เคยเจอต้าซือมิ่งที่ดุร้ายจริงๆ ไม่ไว้หน้าแม้แต่ญาติสนิทมิตรสหายเลย คิดถึงครานั้น มันเกือบจะถูกกัดกินไปแล้ว
ซีหวังหมู่ “…”
มันไม่สามารถเชื่อมโยงจวินโฮ่วที่จิ่วอิงพรรณนาถึงและจวินโฮ่วที่อ่อนน้อมถ่อมตนที่มันเห็นได้เลย
“ช… อาจารย์ ท่านเห็นสมควรลงโทษหรือไม่!” เทียนตี้เอ่ยขึ้น “ไม่ว่าอย่างไร เขาก็รังแกเซ่าเฮ่า! ข้าคิดว่าต้องลงโทษ!”
“ข้าไม่ถือสา” เซ่าเฮ่าตอบอย่างชาญฉลาด “ด้วยสภาพที่ไร้ซึ่งชีวิต คิดแต่จะไปตายในครานั้น แม้จวินโฮ่วไม่ได้ลงมือ ข้าก็คงทำตัวเองตายในไม่ช้า”
“นั่นน่ะสิๆ คนกันเอง ถือว่าถูกอัดยกหนึ่งแล้วกัน ไม่เป็นอะไรหรอก” ซีหวังหมู่ก็แสดงความเห็นอย่างสองมาตรฐาน “หากเป็นซีเหอหรือคนอื่นๆ เช่นนั้นย่อมต้องลงโทษสถานหนัก!”
“ใช่แล้ว เซ่าเฮ่าหากเจ้ารู้สึกไม่สบายใจ ประเดี๋ยวเจ้าต่อยข้าแทนแล้วกัน ข้าติดหนี้บุญคุณชีวิตจวินโฮ่ว ข้าไม่เห็นด้วยที่จะให้เขาถูกลงโทษหรอก” เทพอัสนีที่มาถึงช้าไปเล็กน้อยก็แสดงจุดยืนของตน
เทียนตี้ “…”
บังอาจถามเหล่าพี่น้องขุนเขาและท้องทะเลของเขาหน่อยเถอะ พวกเขาถูกเจ้าดอกบัวขาวคนนี้ซื้อตัวไปตั้งแต่เมื่อใดกัน แต่ถึงแม้ดอกบัวขาวจะมีวิธีของตนเองเทียนตี้ก็ยังคงไม่ยอมกล่าวว่า “อาจารย์ จะทำเช่นนี้ไม่ได้ ท่านเคยพูดไว้ว่ากฎก็คือกฎ ห้ามละเมิดแม้เพียงน้อยนิด ผู้ละเมิดต้องถูกลงโทษ!”
“เลว!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ยินว่าจะลงโทษท่านพ่อเขาก็โมโห เกือบจะเขวี้ยงแอนนาน้อยในกำมือออกไปแล้ว
ทว่าเยี่ยนอวี๋พูดขึ้นก่อนว่า “ข้าเคยพูดหรือ ข้าจำไม่ได้ อายุมากแล้ว”
พรวด!
หยวนสื่อเทียนจุนหลุดหัวเราะ เขาพบว่าปฐมราชินีที่กลับมาใหม่ต่างจากอดีตสิ้นเชิง
ปฐมราชินีในอดีตเหมือนดั่งที่เทียนตี้กล่าว เห็นกฎเป็นสิ่งสำคัญ ห้ามมีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย หากใครทำผิด แม้จะเป็นลูกน้องผู้ภักดีของนางก็ต้องถูกลงโทษถลกหนัง
อันที่จริงนี่ก็เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษอาวุโสหงเหมิงอาจารย์ของเขาไม่ชอบนาง ก่อนหน้านี้จึงเกิดเหตุการณ์บีบบังคับให้นางสละบัลลังก์ แต่อาจารย์ของเขาก็มีเจตนาเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองด้วยเช่นกัน ช่างเถิด…
และเมื่อหยวนสื่อเทียนจุนหลุดหัวเราะเสร็จแล้ว เยี่ยนอวี๋ก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางถามตัวเหวินเทียนอ๋องต่อไปว่า “รอยแตกร้าวขนาดใหญ่ที่เจ้าเห็นแน่ใจหรือว่าไม่ใช่หุบเหวแห่งความมืดนิรันดร์”
“ไม่ใช่แน่นอน” ตัวเหวินเทียนอ๋องมั่นใจมาก “รอยร้าวนั่นไม่ได้อยู่ใต้ภูเขาปู้โจวซาน แต่อยู่บนยอดเขาปู้โจวซานราวกับแตกร้าวในจักรวาล จิ้งเทียนอ๋องไปสืบหาก็ถูกกลืนกินทันที ผูถีเทียนอ๋องพยายามช่วยเขา กลับตกเข้าไปด้วย สิ่งที่น่ากลัวคือพลังทำลายล้างที่ระเบิดออกมาจากในรอยร้าว กระหม่อมเห็นกับตาตนเองว่าพลังนั่นทำลายร่างจริงของผูถีเทียนอ๋องจึงรีบถอยออกมา กลับมาขอความช่วยเหลือ กลับยังคงถูกพลังทำลายล้างที่แตกร้าวนั่นสะเทือนจนบาดเจ็บสาหัส ทำให้กลับมาช้าไป”
ตัวเหวินเทียนอ๋องที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้งหน้าซีด ร่างกายของเขายังเจ็บปวดมาก หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เทียนตี้ช่วยไว้ทัน อันที่จริงดวงจิตและร่างกายของเขาคงสลายสิ้นจากไปแล้ว
แต่ในคำบอกเล่าของตัวเหวินเทียนอ๋อง เขาแค่ถูกพลังทำลายล้างนั่นสะเทือนเท่านั้น มิน่าผูถีเทียนอ๋องผู้ซึ่งมีชีวิตยืนยาวเช่นนี้ เป็นถึงบุคคลในตำนานที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ยุคหลังไท่กู่จนถึงปัจจุบันจึงร่วงหล่นที่นั่นได้
“พลังทำลายล้างสีอะไร เจ้าเห็นหรือไม่” เยี่ยนอวี๋ถาม
คำถามนี้ทำให้ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วทันที รู้ว่าภรรยากำลังสงสัย ‘ตนเอง’
ตัวเหวินเทียนอ๋องนึกย้อนกลับไปอย่างตั้งใจครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “สีดำ สอดคล้องกับสีที่แท้จริงของจักรวาล กระหม่อมสงสัยว่าคือการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาลหรือไม่”
“ไม่เหมือน” เยี่ยนอวี๋มีสิทธิ์ในการพูดเรื่องนี้ “โดยปกติแล้วการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาลจะเกิดขึ้นหลังจากดวงอาทิตย์ขนาดยักษ์แตกร้าว อีกทั้งบัดนี้แม้จะมีดวงอาทิตย์ขนาดยักษ์แตกระเบิดก็ไม่ทำให้จักรวาลระเบิดได้ เพราะว่ากฎของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในปัจจุบันมั่นคง สมดุลทั้งสามโลก ไม่ได้เปราะบางเหมือนกับเมื่อครั้นเพิ่งสร้างโลก”
ตัวเหวินเทียนอ๋องไม่สามารถตัดสินเป็นอย่างอื่นได้อีก ถึงอย่างไรเขาคิดไปคิดมาก็มีเพียงบันทึกการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาลที่เหมือนกับสิ่งที่เขาพบเจอ
“รอเมืองซูซื่อมาแล้วค่อยตัดสินก็ไม่สาย” เทียนตี้เอ่ย และยังคิดเรื่องที่ต้าซือมิ่งทำร้ายเซ่าเฮ่าไม่ตก ครั้นกำลังจะเตือนอะไร ทว่า…
“รายงานพ่ะย่ะค่ะ! ทูลฝ่าบาท มีสารจากเมืองซูซื่อ เจ้าเมืองแห่งเมืองซูซื่อกล่าวว่าภูเขาปู้โจวซานสั่นคลอน ท่านเทพและเหล่าทวยเทพที่ส่งไปก่อนหน้าล้วนร่วงหล่นไปไม่กลับแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ข่าวสารเช่นนี้ทำให้เทียนตี้บัญชาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ส่งสารไปเมืองซูซื่อ ให้เจ้าเมืองพักชั่วคราวค่อยสำรวจ รักษาดินแดนให้ดี เฝ้าสังเกตเพื่อนบ้านว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ขณะเดียวกันผนึกบริเวณรอบภูเขาปู้โจวซานไว้”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” เทพรับใช้รับบัญชาและจากไปทันที
ในตำหนักเงียบงัน ท้ายสุดเยี่ยนอวี๋พูดขึ้นก่อนว่า “ข้าจะไปภูเขาปู้โจวซาน”
“ไม่รีบ ผนึกบริเวณนั้นแล้วค่อยหาทาง ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาประชุมแล้ว คงไม่เหมาะที่อาจารย์จะออกไป” เทียนตี้ไม่เห็นด้วยที่จะไปตอนนี้ หลักๆ เป็นเพราะเป็นห่วงว่าเยี่ยนอวี๋จะเป็นอะไร
เดิมทีเยี่ยนอวี๋อยากไปก่อน ทว่านางพลันนึกถึงเม่ยเอ๋อร์ อยากกลับไปจักรวาลดั้งเดิมเพื่อจับตำแหน่งที่แน่ชัดของเม่ยเอ๋อร์ก่อน เรื่องอื่นยังพอผ่อนผันออกไปได้ อีกทั้งด้วยสัญชาติญาณของเยี่ยนอวี๋ เกรงว่าเรื่องของเม่ยเอ๋อร์จะเกี่ยวข้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภูเขาปู้โจวซาน มิหนำซ้ำตอนนี้จู่ๆ ก็เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ อันที่จริงล้วนเกี่ยวข้องกันหมด เพียงแต่ว่าตอนนี้นางยังไม่เข้าใจประเด็นที่สำคัญที่สุด
เมื่อคิดได้ดังนี้ เยี่ยนอวี๋ก็พยักหน้า “ก็ดี ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะกระทำการอย่างเร่งรีบ ข้าจะกลับจักรวาลดั้งเดิมก่อน มีอะไรค่อยติดต่อกัน”
เพียงแต่ว่านางเพิ่งจะพูดจบ…