เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 516 ว่าที่ภรรยาต่างแดนของต้าซือมิ่ง

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 516 ว่าที่ภรรยาต่างแดนของต้าซือมิ่ง?

ทว่าพลังจิตของนางเพิ่งจะผสานเข้าจักรวาลดั้งเดิม สวรรค์เก้าชั้นฟ้าพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง

วิ้ง!

จักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหล่าเทพสามัญรวมถึงประชาชนในแดนมนุษย์ล้วนสัมผัสได้

ท่ามกลางการสั่นสะเทือนนี้ พลังจิตของเยี่ยนอวี๋ผสานเข้าไปทั่วทุกมุมของจักรวาล นางสัมผัสได้แทบจะทุกมุม ถึงอย่างไรนางที่อยู่ในจักรวาลดั้งเดิมก็คือการกลับรัง เสมือนปลาได้น้ำ

ดังนั้น ภายใต้พลังจิตนี้ เยี่ยนอวี๋ก็เพ่งสมาธิไปที่บริเวณภูเขาปู้โจวซาน จากนั้นนางก็สัมผัสถึงรอยแยกคล้ายเหวขนาดใหญ่

“จริงๆ ด้วย…” เยี่ยนอวี๋รวบรวมพลัง เริ่มใช้อีกหนึ่งพลังวิเศษของปฐมราชินีผู้สร้าง “เนตรสวรรค์!”

ดวงตางดงามขนาดใหญ่ราวกับดวงอาทิตย์ก็เปิดใช้งานขึ้นในบริเวณภูเขาปู้โจวซาน ทำให้เหล่าเทพชั้นผู้น้อยใหญ่ที่มีรับสั่งให้เฝ้าที่นี่ตกตะลึงเป็นที่สุด

เนตรวิเศษลุ่มลึกไร้ที่สิ้นสุด รัศมีลี้ลับสีม่วงหม่นแผ่ซ่าน มันสอดส่องไปทั่วภูเขาปู้โจวซาน ทำให้คูน้ำหงโกวที่แตกแยกอยู่บนยอดภูเขาปู้โจวซานที่ดูเหมือนจักรวาลแตกแยกถูกบันทึกภาพไว้ในสายตา ทำให้เยี่ยนอวี๋รู้ว่านี่ไม่ใช่การระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาล แต่คือพื้นที่ที่ไม่เสถียรอย่างยิ่ง ซึ่งกฎระเบียบถูกฉีกออกจากกันอย่างสิ้นเชิงและพังทลายลงเนื่องจากการแตกร้าวของจักรวาล

“เม่ยเอ๋อร์!”

พลังจิตของเยี่ยนอวี๋ส่งไปยังคูน้ำหงโกวผ่านเนตรวิเศษทันที นางเดาว่าเป็นไปได้มากที่กลุ่มคนเม่ยเอ๋อร์อยู่ในคูน้ำหงโกว มิเช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ทางจะจับตำแหน่งของเม่ยเอ๋อร์ไม่ได้

ความจริงพิสูจน์ว่าเยี่ยนอวี๋เดาถูกแล้ว เพราะว่าเมื่อนางส่งพลังจิตไปยังคูน้ำหงโกว เม่ยเอ๋อร์ก็ตอบนางกลับทันที “คุณหนูใหญ่! ท่านมาแล้ว!?”

“ยังไม่ใช่ ข้ายังจับตำแหน่งที่แน่ชัดของเจ้ามิได้ สถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง” เยี่ยนอวี๋ส่งพลังจิตพลางสัมผัสกฎของคูน้ำหงโกว เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของเม่ยเอ๋อร์ให้ชัดเจน

เม่ยเอ๋อร์เองก็รายงานกลับมาอย่างรวดเร็ว “ที่ที่พวกข้าอยู่คล้ายคลึงกับแดนมืดวิญญาณอสูร แต่ก็ไม่ใช่แดนมืดวิญญาณอสูร อีกทั้งที่นี่ยังมีท่านเขยผมสีทองท่านหนึ่งด้วย”

“เขาอยู่กับพวกเจ้าหรือ” เยี่ยนอวี๋คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอกัน

เม่ยเอ๋อร์ตะลึงยิ่งกว่า “ท่านรู้จักท่านเขยผมสีทองหรือเจ้าคะ”

“อืม เขาเป็นอย่างไรบ้าง” เยี่ยนอวี๋ถาม

“ดูพิลึกและน่ากลัว พวกเราเกือบจะถูกเขาทำลาย” เมื่อเม่ยเอ๋อร์คิดถึงพลังที่ต้าซือมิ่งผมสีทองระเบิดออกมาก็รู้สึกขนหัวลุก หากไม่ใช่เพราะพวกเขาวิ่งหนีเร็ว คงเจอจุดจบเดียวกับไส้เดือนเหล่านั้น

เยี่ยนอวี๋ไม่แปลกใจกับเรื่องนี้และยังกำชับว่า “พวกเจ้าต้องระวังเขาเป็นพิเศษ อย่าเข้าใกล้เขา พยายามออกห่างให้มากที่สุด”

“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

“แล้วเจ้าวิหคทมิฬน้อยพวกเขาอยู่กับเจ้าหรือไม่” แม้เยี่ยนอวี๋จะคาดคิดไว้ว่าพวกเขาคงจะอยู่ด้วยกัน แต่ก็กันไว้ดีกว่าแก้ นางจึงถามเพื่อความมั่นใจ

“คุณหนูใหญ่วางใจ ตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันเจ้าค่ะ ท่านล่ะ ท่านและท่านเขย นายน้อยสบายดีหรือไม่ ไม่สิ ท่านเขยอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังอยู่ในสภาพไม่ค่อยดีนัก…” น้ำเสียงของเม่ยเอ๋อร์แฝงความสับสนอย่างหาได้ยากนัก

เยี่ยนอวี๋กลับพูดว่า “นั่นไม่ใช่เขา อย่างน้อยก็ไม่ใช่ท่านเขยที่เจ้าคิด ดังนั้นเจ้าต้องระวังเขาเป็นพิเศษ”

“หืม?” เม่ยเอ๋อร์ตะลึงอย่างเห็นได้ยาก

เยี่ยนอวี๋ไม่มีเวลาอธิบายมากกว่านี้ แต่นางรู้ดีว่าร่างพลังสีใดๆ ก็แล้วแต่ ก่อนที่จะหลอมผสานกับร่างจริงล้วนก้าวร้าวและแข็งแกร่งมาก ใครถูกอัดทำได้เพียงยอมรับในความโชคร้ายของตนเอง

“เอาเป็นว่า อยู่ให้ห่างจากเขา รอข้าไป” ท้ายที่สุดเยี่ยนอวี๋พูดได้เพียงเท่านี้

“คุณหนูใหญ่โปรดวางใจ” เม่ยเอ๋อร์ตอบทันที

เยี่ยนอวี๋จึงดึงพลังจิตกลับมาทว่านางกลับไม่ได้วางใจลงจากการจับตำแหน่งของกลุ่มคนเม่ยเอ๋อร์ได้ กลับกันนางยิ่งกังวลใจ เพราะว่านางรู้ดีว่าแม้ต้าซือมิ่งผมทองนั่นจะไม่สร้างปัญหา คูน้ำหงโกวนี่ก็สามารถทำลายพวกเม่ยเอ๋อร์ได้

นี่ทำให้เยี่ยนอวี๋เพ่งมองไปยังคูน้ำขนาดใหญ่ด้วยสัญชาติญาณ ผ่านไปครู่ใหญ่ นางเรียกพลังจิตทั้งหมดกลับมาจักรวาลดั้งเดิมก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น

“เนะ?!”

“นายท่าน?”

เหล่าเทพรวมถึงเยี่ยนเสี่ยวเป่ามองเยี่ยนอวี๋นิ่ง เยี่ยนอวี๋กลับมองไปยังต้าซือมิ่งที่อยู่ข้างกายด้วยความเคยชิน พบว่าเขายังคงหลับตาอยู่ตามคาด เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็กำลังส่งจิตสัมผัสบางสิ่งอยู่

ทว่าเยี่ยนอวี๋เพิ่งจะมองเขา ต้าซือมิ่งก็ลืมตาขึ้นแล้ว ดวงตาคู่นั้นกลับเป็นดวงตาประกายสีทอง นี่มัน…

“เจ้าและ ‘เจ้า’ สื่อสารกันแล้ว?” เยี่ยนอวี๋ถามทันที

ซีหวังหมู่และคนอื่นงุนงง พวกมันมองเยี่ยนอวี๋และต้าซือมิ่งสลับไปมา ไม่รู้ว่าสามีภรรยาคู่นี้กำลังเล่นคำใบ้อะไรกันอยู่ แต่เซ่าเฮ่าและจิ่วอิงนั้นเข้าใจดี

ต้าซือมิ่งที่ถูกภรรยาถามก็พยักหน้า “อืม ด้วยการชี้นำของเจ้า ข้าสัมผัสบางอย่างได้ แต่ว่ากรณีของเขายุ่งยากยิ่งกว่าสองกรณีแรก”

“ยุ่งยากหรือ” เยี่ยนอวี๋แววตาเคร่งขรึม เริ่มรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

ต้าซือมิ่งโอบประคองนางขึ้นมา ลูบหลังมือของนางปลอบประโลมว่า “มิต้องเป็นห่วง ยุ่งยากอย่างไร ข้าก็แก้ไขได้ แต่สวรรค์เก้าชั้นฟ้านี่สิ ปัญหาร้ายแรงยิ่งนัก”

“ปัญหาอะไรหรือ” ซีหวังหมู่ร้อนรน “จวินโฮ่ว พูดให้ชัดเจนได้หรือไม่ ข้าฟังไม่รู้เรื่องเลย”

หยวนสื่อเทียนจุนเองก็หรี่ตามองสองสามีภรรยาเยี่ยนอวี๋ เผยสีหน้ากังวล เมื่อครู่นี้เขาเองก็ทำนายได้ว่าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าประสบหายนะ แต่เขาทำนายถึงปัญหาที่แท้จริงไม่ได้

ทว่าเยี่ยนอวี๋เห็นแล้ว “จักรวาลกำลังแตกแยก”

“!” หยวนสื่อเทียนจุนหยุดหายใจ อาการบาดเจ็บของเขาเกือบจะรุนแรงขึ้น

สีหน้าเซ่าเฮ่าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน “ก็คือรอยร้าวที่ตัวเหวินเทียนอ๋องเห็นหรือ”

“ใช่แล้ว” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า

ทุกคนเงียบ แม้แต่ซีหวังหมู่ มันไม่รู้ว่าสิ่งนี้หมายความถึงอะไร

ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่เข้าใจ “อ้ะเนะ? ไม่ อธิบายให้เป่าฟังหน่อยหรือ” เป่าฟังไม่รู้เรื่อง!

เยี่ยนอวี๋อุ้มเด็กน้อยมาจากจิ่วอิง นางจูบเด็กน้อยน่าเอ็นดู ค่อยๆ ลูบขนอ่อนของเด็กน้อย พูดขึ้นว่า “หมายความว่าที่ที่เราอาศัยอยู่แตกแยกแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร”

“อ๋อ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเข้าใจแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเขาพิงเข้าไปในอ้อมอกของท่านแม่อย่างไม่สนใจนัก “ไม่รีบ มีพ่อ! พ่ออยู่!”

ขณะที่กำลังพูดเขาก็ยื่นมือไปหาท่านพ่อแล้ว “พ่อ…”

ต้าซือมิ่งที่รับเด็กน้อยเข้ามาในทันที เขาก็รวบตัวเด็กน้อยเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาจางๆ “อืม” เจ้าเด็กคนนี้นับวันยิ่งฉลาด

เยี่ยนอวี๋กลับวางใจไม่ลง อีกทั้งนางยังกังวลว่าพื้นที่อื่นก็อาจจะปรากฏรอยแยกเช่นกัน ดูท่าในการประชุมครานี้ นางต้องถามให้รู้เรื่องเสียแล้ว หากยังมีรอยแตกร้าวที่อื่น ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่นอน เหล่าเทพที่เฝ้าอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ก็ต้องสังเกตเห็น

เนื่องจากเหตุการณ์นี้ เยี่ยนอวี๋จึงยกเลิก ‘อาหารมื้อค่ำของครอบครัว’ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นที่จักรวาลดั้งเดิม และให้ทุกคนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ผู้ที่ต้องรักษาตัวก็รักษาตัว ถึงอย่างไรหากตรวจสอบเจอรอยร้าวอื่น ถึงตอนนั้นคงได้ยุ่งเป็นพัลวัน

วันถัดไป

การประชุมยามเช้าจัดขึ้นตามกำหนด

เหล่าทวยเทพจากทั่วสารทิศล้วนมารวมตัวกันที่ตำหนักเทียนตี้ภายใต้การเรียกของเสียงดนตรีสวรรค์ บางท่านมาถึงสรรค์ชั้นเก้าตั้งแต่เมื่อคืน บางท่านก็เพิ่งมาถึง

ทว่า… เทียนตี้ยังคงขมวดคิ้ว “เทพรุ่นแรกยังคงไม่มา” เมื่อวานเขาอุตส่าห์ส่งราชโองการให้เหล่าทวยเทพรุ่นแรกที่กรมชะตาสวรรค์โดยเฉพาะ

“เกิดอะไรขึ้นหรือไม่” หยวนสื่อเทียนจุนกล่าวอย่างเป็นกังวล “อย่างไป๋ตี้พวกเขา หากไม่ใช่เพราะปฐมราชินี เกรงว่าพวกเขาคงกลับมาไม่ได้ พวกเราคิดมาตลอดว่าที่วิญญาณของเหล่าเทพรุ่นแรกที่อยู่ในกรมชะตาสวรรค์นั้นอ่อนแอ เป็นเพราะพวกเขาจากไปไกลแล้ว หรือไม่ก็หลับลึก บัดนี้ดูท่าจะไม่แน่เสมอไป”

เทียนตี้ยังคงขมวดคิ้ว “ข้าเองก็กังวลเช่นกันจึงส่งคำสั่งห้ามขาดการประชุมไป หากพวกเขาไม่เป็นอะไร ตามหลักก็ควรมาแล้ว”

“มาแล้ว” เยี่ยนอวี๋ที่ถูกต้าซือมิ่งจูงมือ นางก็เงยหน้ามองไปยังด้านหน้าของตำหนักสวรรค์ นางรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างคุ้นเคย จากนั้น…

“เทพแห่งสงครามสิงเทียนเสด็จ!”

“สามพ่อมดแห่งภูเขาหลิงซานเสด็จ!”

“หันหลิว พระบิดาจักรพรรดิจวนซวีเสด็จ!”

เมื่อเสียงรายงานดังขึ้น เหล่าทวยเทพฮือฮาเพราะว่านี่คือเทพรุ่นแรกทั้งห้า ตามตำนานเทพรุ่นแรกมีเพียงสิบกว่าท่าน บัดนี้มาที่นี่แล้วห้าท่าน การประชุมยามเช้าของเหล่าทวยเทพครั้งนี้ถูกผลักดันให้ถึงจุดสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย มิหนำซ้ำเมื่อเทพรุ่นแรกเข้าตำหนัก เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุนก็ปรากฏตัวพร้อมกัน

“เทียนตี้! หยวนสื่อเทียนจุนเสด็จ…”

เหล่าทวยเทพคุกเข่าหมอบกราบในทันที สิงเทียนและเหล่าเทพรุ่นแรกทั้งห้าล้วนหมอบกราบ ถึงอย่างไรเทียนตี้ก็เป็นจักรพรรดิของทั้งสามโลก ทว่า… เทียนตี้ในบัดนี้ไม่ได้ก้าวเข้าท้องพระโรง แต่ยืนหน้าประตูสองฝั่งพร้อมหยวนสื่อเทียนจุน และยังประกาศพร้อมกับหยวนสื่อเทียนจุนว่า “ปฐมราชินีแห่งตำหนักไท่ชางเสด็จ”

เพียงไม่กี่คำนี้ทั่วทั้งพระโรงสั่นสะเทือน แม้จะได้ยินมานานแล้ว แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แม้จะไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากนัก เหล่าเทพในตำหนักยังคงสะท้านอยู่ดี เพราะว่าข่าวนี้ไม่ใช่แค่การฟังปากต่อปาก แต่เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุนเป็นผู้เอ่ยขึ้นเอง

เทพมากมายแหงนมองด้วยสัญชาติญาณ…

เยี่ยนอวี๋อุ้มบุตรและเดินเข้าท้องพระโรงพร้อมสวามีภายใต้สายตาทุกคู่ของเหล่าทวยเทพ นางกลับสู่ตำหนักสวรรค์อย่างเป็นทางการ

ตามประวัติศาสตร์ของเทพเจ้า เทียนหยวนเก้าสิบล้านปี ปฐมราชินีเข้าประชุมยามเช้าพร้อมสวามีและโอรส เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุนยืนต้อนรับ ตำหนักสวรรค์ปรากฏภาพการเสด็จมาของสามจักรพรรดิ อันยิ่งใหญ่

“ปฐมราชินี!”

“ถวายบังคมปฐมราชินี!”

“ปฐมราชินีทรงพระเจริญ!”

เหล่าเทพที่มีเทียนอ๋องเบิกฟ้าเป็นผู้นำล้วนแสดงความเคารพอย่างเคร่งครัด ทำให้เทพที่เหลือในท้องพระโรงหมอบกราบ เทพที่ศรัทธาในเยี่ยนอวี๋พากันหลั่งน้ำตา สามหมื่นปีแล้ว

ปฐมราชินี! ในที่สุดก็กลับมาแล้ว นางยังไม่ร่วงหล่นอย่างสิ้นเชิง! นางกลับมาแล้ว นางกลับมาในโลกที่นางสร้างขึ้นเองกับมือแล้ว เทพมากมายทอดถอนใจไม่หยุด น้ำตานองหน้า

ทว่าท่ามกลางงานสิริมงคลนี้ แขกที่ไม่ได้รับเชิญกลุ่มหนึ่งพลันปรากฏขึ้นนอกตำหนักสวรรค์ ผ่านไปครู่หนึ่ง…

“ทูลรายงานฝ่าบาท ปฐมราชินีและเทียนจุน กษัตริย์จุ่นเอ่อร์เก๋อและองค์หญิงเอเลน่าจากต่างดินแดนขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ อ้าง… อ้างว่าปฐมราชินีแย่งว่าที่สวามีขององค์หญิงเอเลน่าไป”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท