ตอนที่ 518 หนีไม่พ้นการลงโทษครั้งนี้แล้ว!
“รอก่อน!” ซีหวังหมู่ยังรู้สึกไม่สาแก่ใจ มันจึงทุบศีรษะของจุ่นเอ่อร์เก๋อด้วยกระบองจนบวมแดงอย่างสวยงาม มันถึงจะยอมหยุด
จุ่นเอ่อร์เก๋อถูกทุบตีจนสลบ หากไม่ใช่เพราะเอเลน่าเข้ามาประคองไว้ทัน คนผู้นี้คงล้มลงนอนบนพื้นด้วยสภาพน่าอับอาย เอเลน่าโมโหจนจ้องซีหวังหมู่เขม็ง “เจ้า…”
เพียะ!
ซีหวังหมู่เหวี่ยงกระบองลงมาหมายจะฟาดศีรษะของเอเลน่าให้แตกอย่างดุร้าย
“องค์หญิง!”
ทูตที่ติดตามมาด้วยท่านหนึ่งรีบใช้ดาบกันกระบองไว้ ดาบเล่มนั้นแตกละเอียดทันที ทว่าเอเลน่าเองก็มีตบะไม่ธรรมดา นางหลบได้ทันท่วงที
ซีหวังหมู่ไม่ยอม แต่ก็รู้ว่าต้องควบคุมอารมณ์ไว้จึงทำได้เพียงพ่นลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ออกมา “ในเมื่อเป็นทูตก็พูดจาให้มันดีๆ! อย่ามาเก่งแต่ปากกับข้าที่นี่ จวินโฮ่วของเราไม่ใช่ผู้ที่เจ้าคิดเพ้อฝันได้”
เอเลน่าโมโหจนหน้าดำหน้าแดง แต่อย่างน้อยนางก็รู้ว่าพูดอีกไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงอดกลั้นไว้ ฝืนยิ้มพูดว่า “เอเลน่าพูดจาไม่ดีเอง ได้โปรดอภัย”
“อภัยไม่ได้!” ซีหวังหมู่ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย แต่มันก็พูดว่า “เจ้า กับไอ้ที่สลบไปน่ะ เข้าไปข้างในพร้อมข้า ส่วนที่เหลือรออยู่ที่นี่”
“แต่ว่า…” เอเลน่าอยากจะให้ทุกคนเข้าไปด้วย
ซีหวังหมู่แยกเขี้ยวใส่ทันที ถามว่า “จะเข้าหรือไม่เข้า”
“เข้า” เอเลน่ายอมแพ้ นางประคองจุ่นเอ่อร์เก๋อที่ยังมึนงงด้วยตนเองตามซีหวังหมู่เข้าไปในตำหนัก
ทว่าจุ่นเอ่อร์เก๋อก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเดินถึงด้านบนของตำหนัก เขาก็สามารถเดินเองได้แล้ว แต่รอยบวมบนหน้าผากค่อนข้างใหญ่ อีกทั้งยังช้ำไปทั้งหน้า ทำให้เหล่าเทพที่เห็นเขาเดินเข้าไปได้แต่ยิ้มเงียบๆ
กล้ามาอวดดีหน้าประตูตำหนักสวรรค์ วอนโดนอัดจริงๆ! ว่าแต่ว่าแดนแอตแลนคือที่ไหนกัน
เหล่าเทพที่รู้จักเพียงแดนมืดวิญญาณอสูรล้วนเกิดคำถามในใจ พวกเขาจึงจดจ่อกับความเคลื่อนไหว อยากรู้ว่าแดนแอตแลนที่พูดถึงอยู่ที่ไหน
เอเลน่าและจุ่นเอ่อร์เก๋อที่เดิมทีอยากจะข่มขู่เทพแดนสวรรค์ชั้นเก้า บัดนี้ก็เซื่องซึมลง ทว่าเมื่อเอเลน่าเห็นต้าซือมิ่งที่นั่งอยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋ นางก็ชะงักงันอย่างเห็นได้ชัด
เยี่ยนอวี๋เห็นท่าทางของนางก็เข้าใจทันที แต่นางยังไม่ได้ทำอะไร เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของนางก็ปีนไปหาท่านพ่อแล้ว เขาปีนขึ้นไปบนบ่าของท่านพ่อและบังใบหน้าของท่านพ่อไว้ด้วยแขนเสื้อไม่ให้เอเลน่าดู
เยี่ยนอวี๋อดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ รู้สึกเพียงว่าเด็กคนนี้ช่าง…
“พูดมาเถอะ ทูตทั้งสองจากแดนแอตแลน เหตุใดจึงมาสวรรค์ชั้นเก้าของข้า” เทียนตี้เอ่ยปากถาม อันที่จริงเขารับรู้ได้ว่า แขกไม่ได้รับเชิญสองคนนี้ไม่ใช่เทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เพราะว่ากฎพลังของพวกเขาขัดกับสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
อีกทั้งเมื่อวานเยี่ยนอวี๋ก็ติดต่อสื่อสารกับเขาแล้ว ดังนั้นฟ้าดินในยามนี้ตัดสินได้ว่า เทพต่างแดนทั้งสองท่านนี้น่าจะมาจากฝั่งตรงข้ามของรอยแตกแยกนั้น
แม้การคาดเดาและการสรุปผลเช่นนี้จะเกินเลยจากขอบเขตความรู้ของเทียนตี้ แต่เขารู้ว่าการคาดเดาของชูชูไม่ผิดแน่นอน
และเรื่องนี้ อันที่จริงก็เกินเลยจากขอบเขตความรู้ของเยี่ยนอวี๋เช่นกัน แต่เยี่ยนอวี๋ยอมรับได้เร็ว นางคิดว่าในเมื่อนางสร้างจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เหมือนนาง
ยังไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่หรงอี้สามีของนางก็มาจากโลกที่อยู่นอกเหนือจากสามโลกมิใช่หรือ
เช่นนั้นแล้วนอกเหนือจากสามโลกคืออะไร เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีจักรวาลอื่นที่เหมือนกับสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
คำถามนี้ หลังจากที่เยี่ยนอวี๋รู้ที่มาที่ไปของต้าซือมิ่งแล้ว นางก็ครุ่นคิดมาตลอด ดังนั้นเมื่อมีดินแดนอีกดินแดนหนึ่งปรากฏขึ้น นางจึงไม่รู้สึกประหลาดใจ
ทว่าเห็นได้ชัดว่าเอเลน่าไม่รู้ว่า เยี่ยนอวี๋และเทียนตี้รู้ลับลมคมในของพวกเขาแล้ว นางยังตอบอย่างได้ใจว่า “ดูท่าท่านก็คือเทียนตี้ ผู้ปกครองปัจจุบันของทั้งสามโลก เช่นนั้นข้าคิดว่าก่อนที่ข้าจะตอบท่าน ข้าต้องพูดให้ชัดเจนก่อน… ข้าและจุ่นเอ่อร์เก๋อท่านลุงของข้า พวกเราไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของท่าน พวกเรามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แอตแลนที่ยิ่งใหญ่ที่พวกท่านไม่รู้จักและไม่เคยไป สวรรค์เก้าชั้นฟ้าของพวกท่านก็แค่เขาเล็กๆ ที่ล้อมรอบอยู่นอกแดนศักดิ์สิทธิ์แอตแลนของข้า ครั้งนี้ข้าและท่านลุงมาที่นี่ หนึ่งคือต้องการให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าของท่านส่งเครื่องบรรณาการให้แดนศักดิ์สิทธิ์แอตแลนของข้า สองคือข้ามาหาว่าที่สามีของข้า”
เพียงประโยคนี้… ทำให้เทพไม่น้อยเหลือบมอง แต่เทพที่นั่งอยู่ในตำหนักแห่งนี้ได้ล้วนไม่ใช่เด็กน้อยไม่รู้ความ แม้แต่หันหลิวที่โตแต่ตัว ตบะไม่โต เขาก็รู้ว่าเอเลน่ากำลังพูดเหลวไหล
“พวกเจ้าไม่เชื่อหรือ” เอเลน่าเผยสีหน้าบ่งบอกว่าพวกเจ้แสาช่างไม่รู้ความ “ดูท่าต้องให้กองทัพของแดนศักดิ์สิทธิ์ข้ามาสวรรค์เก้าชั้นฟ้า พวกเจ้าถึงจะเข้าใจ พวกเจ้าช่างโง่งม”
“ดูท่าเจ้ายังไม่รู้จักพูดจาดีๆ” หยวนสื่อเทียนจุนสะบัดแขนเสื้อเสร็จมองซีหวังหมู่ “ต้องรบกวนซีหวังหมู่ไล่พวกเขาออกไปตีให้ตาย”
“ฮึ! พวกเจ้าตีพวกข้าไม่ตายหรอก! แต่จะถูกลงโทษด้วยแสงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์! หากไม่เชื่อก็ลองดู!” เอเลน่ายิ้มหยัน รอบกายแผ่ซ่านรัศมีสีทองอันลึกลับออกมาด้วยสีหน้าโอหัง
จุ่นเอ่อร์เก๋อก็พูดขึ้นบ้าง “ใช่แล้ว! เมื่อครู่ข้าเพียงแค่ยังไม่ได้ใช้งานแสงแห่งการพิพากษา หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องพวกเราอีก แสงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์แอตแลนต้องลงโทษพวกเจ้าแน่!”
“เช่นนั้นหรือ” เยี่ยนอวี๋รู้สึกสนใจ แสงสีม่วงไหลออกมาจากปลายนิ้ว
เอเลน่ากลับไร้ซึ่งความเกรงกลัว “เจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้! แต่ก่อนจะลอง ข้าขอกล่าวก่อนว่า สามีที่เจ้าเอ่ยถึงคือว่าที่สามีของข้า! แม้สีผมและสีตาจะเปลี่ยนไป แต่ก็คือเขา!”
เยี่ยนอวี๋ยกมุมปากเล็กน้อย แสงที่ปลายนิ้วสว่างขึ้นอีก อยากทดสอบแสงพิพากษาที่พูดถึงแล้ว นางอยากเห็นเหลือเกินว่าแดนแอตแลนที่ว่าจะมาไม้ไหน
ทว่าจุ่นเอ่อร์เก๋อนั่นกลับเอ่ยห้ามปรามว่า “ปฐมราชินีหยวนชูใช่หรือไม่ เห็นแก่ความงดงามของเจ้า ข้าขอเตือนเจ้าอย่าได้ทดลองเองเลย ขอเพียงเจ้ายอมรับความจริง คืนว่าที่สามีของหลานสาวข้ามา ข้าจะพิจารณารับเจ้าเป็นชายา เจ้าจะได้เลี่ยงโทษตายข้อหาล่วงเกินราชวงศ์แดนศักดิ์สิทธิ์ของเรา”