เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 520 ภรรยากัดข้าต่อหน้าทุกคน! น่าละอาย

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 520 ภรรยากัดข้าต่อหน้าทุกคน! น่าละอาย…

หุบเหวลึกไร้ขอบเขตจากแดนมืดวิญญาณอสูรทะลักใส่เอเลน่าทันที!

“หรง!”

เอเลน่าอุทานอย่างตื่นตระหนก ม่านตาของนางขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว

“บัดซบ!”

เสียงสตรีเยือกเย็นที่น่าเกรงขามนั้นก็เผยให้เห็นถึงความลนลานหวาดกลัว และยังเรียกคืนรัศมีสีทองกลับคืนอย่างรวดเร็ว คิดจะพาเอเลน่าออกจากที่นี่โดยเร็ว น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของเหวลึกทำลายรัศมีสีทองที่ปกคลุมเอเลน่าไว้ในพริบตาเดียว เมื่อเห็นว่าเอเลน่ากำลังจะตายคาที่ เยี่ยนอวี๋ที่ถูกต้าซือมิ่งกอดไว้ในอ้อมแขนกลับรัดเอวของเขาแน่นขึ้นก่อนจะใช้ปากดูดคอเรียวยาวของเขาเงียบๆ

หรงอี้ “…”

การโจมตีของเขาชะงักลงทันที พลังที่มาจากข้างหลังของเอเลน่ารวบตัวนางและพาหนีไปทันที ไม่คิดจะอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว

“…”

ทั่วทั้งตำหนักเงียบงัน เหลือเพียงเสียงฟ้าผ่าฟ้าคะนองเหนือตำหนักสวรรค์ที่ดังไม่หยุด บ่งบอกถึงความรู้สึกของเหล่าทวยเทพที่เหมือนกับถูกฟ้าผ่าได้เป็นอย่างดี

แม้ทุกคนล้วนรู้ว่าหรงอี้สวามีของปฐมราชินีคือจักรพรรดิอสูรที่ไม่ธรรมดาซึ่งได้ปกครองเผ่ามารในแดนมืดวิญญาณอสูรที่พบหาได้ยากตลอดหลายหมื่นปี แต่คงเป็นเพราะเขามีหน้าตางามสง่าเกินไป ทั้งยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายและแปลกใหม่เมื่ออยู่ข้างกายปฐมราชินี มองแวบแรก ผู้คนอาจคิดว่าเขาเป็นเพียงชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นอันที่จริงเหล่าเทพต่างคิดในใจว่าที่จักรพรรดิอสูรท่านนี้ปกครองแดนมืดวิญญาณอสูรได้ คงเป็นเพราะเผ่ามารร่วงโรยจนไม่เหลือผู้แข็งแกร่งแล้ว ทว่า… พวกเขาใสซื่อเกินไปจักรพรรดิอสูร ชายหนุ่มรูปงามไม่ธรรมดาราวกับบัณฑิตชั้นดี ที่แท้แล้วเขา… เขานำหุบเหวแห่งความมืดติดตัวมาด้วย

เท่าที่พวกเขาทราบ เทพแห่งความมืดในครานั้น ว่ากันว่าแม้แต่แอนนาผู้กำเนิดจากแดนมืดก็ไม่มีความสามารถเช่นนี้ เกินไปแล้ว นี่มัน…

“ข้าโง่เขลาเกินไป” เทียนอ๋องเบิกฟ้าจำเป็นต้องพูดขึ้นว่า “ข้าคิดว่าความงามของจวินโฮ่วชนะความสามารถ ตอนนี้ดูแล้วข้าเองที่ตัดสินคนจากภายนอก”

“เห็นด้วย” ปัวเหร่อเทียนอ๋องและเทียนอ๋องท่านอื่นๆ ก็เอ่ยขึ้น

พวกเขาล้วนตกตะลึงกับความเก่งกาจของต้าซือมิ่ง อีกทั้งความสามารถพิเศษที่สามารถควบคุมกรมชะตาสวรรค์ที่แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ เหล่าเทพที่คิดงี่เง่าเช่นมหาเทพเบิกฟ้าก็กำลังเปรียบเทียบจวินโฮ่วกับเทียนตี้ อีกทั้งยังพูดออกมาว่า “จวินโฮ่ว ตบะของท่านเกรงว่าจะไม่ด้อยไปกว่าฝ่าบาทเลยกระมัง”

เทียนตี้ “…”

ที่เขาตั้งชื่อให้ว่าเบิกฟ้าในครานั้น คือการระเบิดตนเองหรือไรนะ

จิ่วอิงยังดึงดันพูดขึ้นว่า “แน่นอน! แต่จวินโฮ่วพวกเจ้าถ่อมตนน่ะ พวกเจ้ารู้ไว้ก็ดีแล้ว อย่าแพร่งพรายออกไป เทียนตี้พวกเจ้าจะได้ไม่เสียหน้า”

เทียนตี้ “…”

เขารู้แล้วว่าเหตุใดจิ่วอิงของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจึงสูญพันธ์ไป

โชคดีที่เซ่าเฮ่าไอกระแอมขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “ไม่รู้ว่าเทพแห่งแดนแอตแลนที่ว่านี้มาจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของเราได้อย่างไร”

“นี่คือเรื่องใหญ่จริงๆ” หลันเย่ว์เทียนอ๋องขมวดคิ้วเป็นปม “พลังเวทของต่างแดนเหมือนกับว่าจะไม่ได้ถูกจำกัดด้วยกฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เทียนจุนจึงต้องบากบั่นเช่นนี้”

ทว่ามหาเทพหลันเย่ว์เพิ่งพูดจบ…

“สลาย!”

หยวนสื่อเทียนจุนใช้ฝ่ามือเป็นแปรง ค่ายกลเทียนหยวนที่กางไว้กลางมิติความว่างเปล่าค่อยๆ ลบล้างอัสนีบาตทั่วทั้งสวรรค์ แม้การลบล้างเช่นนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เหล่าทวยเทพสัมผัสได้ว่าอัสนีบาตสีขาวที่แผดเผาเหล่านี้ถูกกักขังไว้ในค่ายกลเทียนหยวนแล้ว

ค่ายกลเทียนหยวนที่ตั้งชื่อตามปฏิทินสวรรค์เก้าชั้นฟ้าคือค่ายกลอันลี้ลับที่หยวนสื่อเทียนจุนคิดค้นและสร้างขึ้น มันไม่เพียงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยังสามารถกักขังและทำลายพลังเวทระดับผู้สร้าง ผนึกบริเวณทะเลสาบสือซ่าไห่ก็สร้างมาจากค่ายกลเทียนหยวนของหยวนสื่อเทียนจุน บัดนี้ค่ายกลเทียนหยวนก็กำลังแสดงฤทธิ์เดชทำให้ ‘การลบล้างแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์’ ที่ว่าถูกลบล้างคืน

“ดูท่าไม่คณามืออาจารย์” หงเฉินเทียนอ๋องวางใจลง

เหล่าเทพทอดถอนใจ “เทียนจุนลงมือเองทุกอย่างย่อมง่ายดาย”

ในขณะที่เหล่าทวยเทพพุ่งความสนใจไปที่หยวนสื่อเทียนจุนนั้น ต้าซือมิ่งก็หยิกสะโพกของภรรยาเบาๆ ทำเอาเยี่ยนอวี๋สะดุ้งเกือบจะกัดเขา ทว่าต้าซือมิ่งก็ดึงมือกลับแล้ว แต่เขา ‘เตือน’ ข้างหูภรรยาว่า “คืนนี้จะจัดการเจ้า”

“เจ้า…” เยี่ยนอวี๋หูแดงไปหมด นางกลับไปนั่งตัวตรงแล้ว และยังอุ้มเด็กน้อยเข้ามาให้อ้อมอกเพื่อกลบเกลื่อนอาการเลิ่กลั่กของตนเอง เด็กน้อยกะพริบดวงตากลมโต “แม่?”

“เด็กดี” เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อย ทำให้ความร้อนรุ่มที่เกิดจากต้าซือมิ่งค่อยๆ เย็นลง นางจึงเหลือบมองต้าซือมิ่งทีหนึ่ง

หรงต้าซือมิ่งเลิกคิ้วพลางยกมุมปากขึ้น เขามองภรรยาอยู่ครู่หนึ่งแล้ว มือข้างหนึ่งยังจับคอตนเองไว้ ที่ตรงนั้นก็คือที่ที่เยี่ยนอวี๋ดูด

เยี่ยนอวี๋พูดเสียงเบาว่า “จูบเจ้าทีหนึ่งจะทำไม”

ต้าซือมิ่งปล่อยมือออก เยี่ยนอวี๋ก็… นางก็เห็นรอยดูดรอยหนึ่งบนคออันขาวเนียนของต้าซือมิ่ง

เยี่ยนอวี๋ “…”

นางตะลึงงัน! เยี่ยนอวี๋คิดว่าตนเองไม่ได้ดูดแรงมาก นางไม่เข้าใจว่าคอของต้าซือมิ่งมีรอยได้อย่างไร

นี่มัน… โชคดีที่หยวนสื่อเทียนจุนเข้ามา ‘คลายสถานการณ์’ ได้ทันกาล เขากลับลงมายังตำหนักแล้ว

เทียนตี้ถามขึ้นพร้อมกันว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

“แข็งแกร่งจริงๆ และยังมีกฎระดับผู้สร้างด้วย แต่ไม่ใช่กฎของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของเรา ข้าสัมผัสได้ว่าหากถูกทำร้ายจะรักษาได้ยาก” หยวนสื่อเทียนจุนกล่าวตามความเป็นจริง

เหล่าเทพในท้องพระโรงวิพากวิจารณ์กันเซ็งแซ่ล้วนกำลังถกเถียงเรื่องแดนแอตแลน

เทียนตี้ถามอีกครั้ง “อาจารย์ ท่านเห็นอย่างไร”

“แค่ก” เยี่ยนอวี๋ที่ไม่มองรอยบนคอของต้าซือมิ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “น่าสนใจไม่น้อย แต่จะแข็งแกร่งหรือไม่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำคัญ สิ่งที่ข้าอยากรู้คือเหตุใดพลังที่ไม่ใช่พลังแห่งกฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจึงเข้ามาในสรวงสวรรค์ได้”

คำถามนี้… ทำเอาเทพทุกองค์แตกตื่น เพราะนี่มีเพียงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือสรวงสรรค์ถูกแทรกซึมแล้ว นี่ถึงจะเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด

เทียนตี้เองก็พยักหน้าพูดว่า “ใช่แล้ว นี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของเราในยามนี้ แขกจากต่างแดนมาถึงหน้าประตูสรวงสวรรค์ของเราได้ พลังจากต่างแดนสามารถชี้ขาดเหนือตำหนักสวรรค์! นี่เป็นเพราะเหตุใด”

“…”

ในท้องพระโรงเงียบงัน จนผ่านไปครู่หนึ่งเทียนอ๋องเบิกฟ้าเป็นคนแรกที่พึมพำออกเสียงอีกแล้ว “ก็เพราะฝ่าบาทท่านจำศีลไม่สนใจการเมืองมิใช่หรือ ซีเหอด้อยความสามารถ สวรรค์เก้าชั้นฟ้าย่อมเกิดช่องโหว่มากมาย”

หลันเย่ว์เทียนอ๋องอยากจะกุมขมับ เจ้าเบิกฟ้าคนนี้! ช้าเร็วต้องตายเพราะปากเป็นแน่

แต่แล้ว…

“ใช่แล้ว!”

เทียนตี้ตอบอย่างมั่นใจ “นี่คือการละเลยหน้าที่ของข้า ข้ายอมรับ ดังนั้นต่อจากนี้ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่านทั้งหลาย! จงสร้างสวรรค์เก้าชั้นฟ้าให้แข็งแกร่ง อย่าให้เกิดเรื่องน่าอับอายเช่นวันนี้อีก”

เมื่อสิ้นเสียง… เหล่าทวยเทพล้วนหมอบกราบ “น้อมรับบัญชาฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”

“ดี!”

เทียนตี้ส่งราชโองการต่อไปทันที “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป แต่งตั้งเทียนอ๋องเบิกฟ้าเป็นเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นแปด รับหน้าที่ทั้งหมดต่อจากจิ้งเทียนอ๋อง ปกป้องสวรรค์ชั้นแปดให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าของเรา”

เทียนอ๋องเบิกฟ้าที่ชะงักไปครู่หนึ่งรีบโขกศีรษะกล่าวว่า “กระหม่อมเบิกฟ้าน้อมรับราชโองการพ่ะย่ะค่ะ! จะไม่ทำให้ฝ่าบาทต้องผิดหวัง จะปกป้องสวรรค์ชั้นแปดอย่างแน่นหนา!”

“ดี!” จากนั้นเทียนตี้ก็สถาปนาหลันเย่ว์เทียนอ๋องเป็นเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นหก ปัวเหร่อเทียนอ๋องถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นห้า หงเฉินเทียนอ๋องเป็นเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นสี่

ส่วนสวรรค์ชั้นสามและสวรรค์ชั้นเจ็ดยังคงเดิม ซึ่งก็คืออวิ๋นเจิงเทียนอ๋องและตัวเหวินเทียนอ๋อง ซวงเสวี่ยเทียนอ๋องสุนัขจิ้งจอกเก้าหางแห่งเมืองชิงชิวได้รับการแต่งตั้งเป็นเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นสอง

ส่วนสวรรค์ชั้นหนึ่ง…

“ขอมอบให้เยี่ยนจื่อเยี่ยเป็นผู้ปกครองชั่วคราว” เทียนตี้เอ่ย

เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วทันที “มิได้”

“อาจารย์อย่าเอ่ยมากความ ข้าตัดสินใจแล้ว ตระกูลเยี่ยนคือครอบครัวที่เลี้ยงดูท่านเติบโตในโลกมนุษย์ การแต่งตั้งใดๆ ล้วนไม่เกินจริง อีกทั้งเยี่ยนจื่อเยี่ยมีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา ข้าจะส่งมหาเทพอีกสองท่านไปคอยช่วยเหลือ เขาจะกลายเป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ในวันใดวันหนึ่ง” เทียนตี้แน่วแน่มาก

หยวนสื่อเทียนจุนเองก็เห็นด้วยสำทับว่า “การตัดสินพระทัยของฝ่าบาทมีเหตุมีผล”

“มีเหตุผล!” เหล่าเทพต่างสำทับ

แม้เหล่าทวยเทพจะยังไม่เคยเจอเยี่ยนจื่อเยี่ย แต่พวกเขาเชื่อมั่นในการตัดสินพระทัยของฝ่าบาทอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้บุญคุณของการเลี้ยงดูปฐมราชินีนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

หากไม่มีปฐมราชินี…

เทียนตี้จะไม่ออกจากการจำศีล

เทียนจุนจะไม่ออกจากการจำศีล

สถานการณ์เช่นวันนี้เกรงว่าคงจะเหมือนกับที่องค์หญิงเอเลน่าผู้โอหังกล่าวไว้ คงถูกกวาดล้างไปแล้วเมื่อคิดได้ดังนี้… เหล่าทวยเทพล้วนตัวสั่นเป็นลูกนก!

ความเป็นจริงแล้ว หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนอวี๋กลับมา เทียนตี้ยังคงไม่สามารถรับโอกาสเลื่อนขั้น หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนอวี๋กลับมา หยวนสื่อเทียนจุนคงร่วงหล่นไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนอวี๋กลับมา เหล่าขุนเขาและท้องทะเลคงสูญสลายไปในแม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์ ดังนั้น…

“แอตแลนน่าจะเป็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังซีเหอ” เยี่ยนอวี๋ให้ข้อสรุปเช่นนี้ “หากทุกอย่างดำเนินตามกฎเกณฑ์เดิม จักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าต้องถูกดินแดนแอตแลนยึดครองเป็นแน่”

เหล่าทวยเทพแตกตื่น ต้าซือมิ่งกลับบีบระหว่างคิ้วเบาๆ รู้สึกเวียนศีรษะ

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท