ตอนที่ 523 ภรรยาหลอกลวงและกลั่นแกล้งข้า
เยี่ยนอวี๋เองก็นิ่งงัน
จิ่วอิงจุ๊ปากเอ่ยขึ้นว่า “นี่สิถึงจะถูก” มันก็ว่าด้วยความดุร้ายของอี้เอ๋อร์ จะปล่อยให้ภรรยาควบคุมตลอดเวลาได้อย่างไร เขากำลัง ‘จู่โจม’ กลับแล้วนี่ไง
‘ต้าซือมิ่ง’ ที่กอดรัดสตรีตรงหน้าเข้ามาในอ้อมกอดของตนใช้แรงมหาศาล ราวกับจะทำให้เอวที่บอบบางที่อยู่ในอ้อมแขนแตกร้าวจึงจะพอใจ
เยี่ยนอวี๋กลับพบว่า อันที่จริงชายคนนี้ไม่ได้ใช้พลังเทพ แต่เพราะเขามีร่างกายแข็งแรงและยังว่องไว กำลังแขนก็มีมากจึงทำให้นางตกใจ ความจริงแล้วเป็นเพียงเสือกระดาษที่ดูน่าเกรงขามแต่ไร้อำนาจ
นางจึงหลุดรอดจากการหน่วงเหนี่ยวของ ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองพลางพูดเอาใจว่า “เจ้าอยู่นิ่งๆ ข้าก็จะใส่ให้”
“ไม่ใส่ก็ได้” ซีหวังหมู่เอ่ย “อย่าว่าเช่นนั้นเลย จวินโฮ่วดูเหมือนจะผอมเพรียวและบอบบาง แต่รูปร่างดีมากเลย เซ่าเฮ่า ข้าว่ากล้ามเนื้อของจวินโฮ่วแน่นกว่าเจ้าอีก สัดส่วนก็ดี เจ้าคงไม่ได้ตั้งใจฝึกฝนสินะ”
เซ่าเฮ่า “…”
เขาคิดว่าดีคนละแบบมากกว่า
ทว่าอิงหลงกลับพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว จวินโฮ่วมีกล้ามหน้าท้องแปดลูก เซ่าเฮ่าเจ้ามีแค่หกลูก”
“ใช่ๆๆ” เทพอัสนีพยักหน้า
เยี่ยนอวี๋นางก็เร่งใส่เสื้อผ้าให้ ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองระหว่างที่เหล่าลูกน้องเก่ากำลังถกเถียงกัน หากถูกมองต่อไปเช่นนี้ นางรู้สึกว่าตนเองจะเสียเปรียบอย่างไรไม่รู้
ส่วนเยี่ยนเสี่ยวเป่าเขาก็วิ่ง ‘เตาะแตะ’ เข้ามาหาแล้ว “พ่อ…”
“เสี่ยวเป่ารอก่อนนะ” เยี่ยนอวี๋รีบห้ามไว้
‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองมองไปที่เด็กน้อยด้วยแววตาที่คาดเดาได้ยาก
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเงยหน้ามองท่านพ่อของเขา ไม่เดินเข้าไปใกล้อีก เพียงแค่ถามอย่างจริงใจว่า “พ่อ หาย?”
“ยังไม่หาย” เยี่ยนอวี๋ตอบให้แทนทันที “ดังนั้นเสี่ยวเป่าอยู่กับจิ่วอิงก่อนดีหรือไม่”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าทำท่าจะเข้าใกล้
เยี่ยนอวี๋กลัวว่าเด็กน้อยจะถูกรังแกจึงรีบอุ้มเด็กน้อยไว้แน่นหลังจากที่ใส่เสื้อผ้าและผูกเชือกให้อย่างลวกๆ แล้ว จากนั้นก็จูบเด็กน้อยพูดปลอบว่า “ท่านพ่อเจ้ายังอ่อนแออยู่ อุ้มเสี่ยวเป่าไม่ได้นะ”
“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดคอของท่านแม่ไว้ มองท่านพ่อเขาตาปริบ ในที่สุดก็รู้สึกว่าท่านพ่อเขาแปลกไป แต่เขายังเด็ก ไม่อาจรู้ได้ว่าตรงไหนที่แปลกไป
‘ต้าซือมิ่ง’ ที่ถูกเด็กน้อยมองกลับกำลังมองเชือกผูกของตนเอง ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง “สตรี ผูกใหม่”
เยี่ยนอวี๋ชะงักเล็กน้อยเพิ่งรู้ว่าชายคนนี้กำลังพูดกับตนเอง นางจึงหันไปมอง เดิมทีไม่อยากสนใจเขา แต่กลับพบว่าเขามีท่าทีสับสนและดูไม่พอใจอย่างมาก
เยี่ยนอวี๋กลั้นหัวเราะ…ท้ายที่สุดนางก็วางเด็กน้อยลงข้างเท้า แก้มัดและผูกให้ใหม่อีกครั้ง ครานี้นางผูกให้อย่างเรียบร้อยและเท่ากัน ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองจึงพอใจ เขามองไปที่เด็กน้อยที่อยู่ข้างเท้า ประสานสายตาเข้ากับดวงตากลมโตสุกใส
“พ่อ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหัวเราะเรียกพ่อ ดูน่ารักน่าเอ็นดู
‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองชะงักงันอย่างเห็นได้ชัด กลับขานตอบกลับไป “อืม”
เยี่ยนอวี๋อุ้มเด็กน้อยกลับมา ในขณะเดียวกันก็ตั้งกฎกับชายคนนี้ว่า “หากเจ้าเชื่อฟังข้า อีกสามวัน ข้าจะคลายผนึกให้เจ้า”
‘ต้าซือมิ่ง’ จ้องไปที่สตรีตรงหน้า เขาเม้มปากไม่พูดอะไร ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร แม้แต่เยี่ยนอวี๋เอง ครานี้นางเองก็ไม่รู้ว่า ‘ต้าซือมิ่ง’ คนนี้กำลังคิดอะไร อีกทั้งนางยังรู้สึกปวดศีรษะมากด้วย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับ ‘สามี’ คนนี้ดี
ร่างพลังสีทองต่างไปจากร่างพลังก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าโดน ‘สิงร่าง’ แล้ว เป็นไปได้มากว่าสามีคนเดิมของนางอาจจะเข้าไปยังร่างพลังของเขาเองแล้ว
แม้นี่จะเป็นเพียงการคาดเดาของเยี่ยนอวี๋ แต่โดยพื้นฐานแล้วสัญชาติญาณของนางไม่เคยผิด เพราะว่านางยังไม่เห็นร่างพลังอีกร่างหนึ่งเลย ซึ่งก็หมายความว่าสามีของนางยังไม่ได้ผสานรวมกับร่างพลังของตัวเขาเองจึงสามารถขจัดเหตุการณ์เช่นการถูก ‘ชิงร่าง’ ไปได้
บัดนี้ นางต้องพาสามีที่ถูกร่างพลัง ‘สิงร่าง’ หาไปสามีที่ ‘สิงร่าง’ ร่างพลังคนนั้น เพื่อผสานรวมสองร่างให้สำเร็จ
“ซับซ้อนดีจริงๆ…” เยี่ยนอวี๋นวดระหว่างคิ้ว เพิ่งเคยเจอร่างกายเช่นนี้ แปลกพิลึกจริงๆ
ทว่า ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองไม่ได้พูดอะไร เยี่ยนอวี๋จึงพูดขึ้นว่า “ข้าจะถือว่าเจ้าตกลงแล้วนะ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง…
ขณะที่เยี่ยนอวี๋คิดว่าเขาจะไม่ตอบแล้ว เขาก็ตอบว่า “อืม”
เยี่ยนอวี๋มองต้าซือมิ่งอย่างตะลึง พบว่าเขากำลังมองนางอย่าง ‘สนใจ’ ดวงตาสีทองสุกใสคู่นั้นดูเปล่งประกาย แผ่ซ่านความลุ่มลึกน่าหลงใหล ทำเอาเยี่ยนอวี๋ที่เห็นดังนั้นกระพริบตา “ไม่ได้ผลหรอก”
เจ้าหัวทองนี่ร่าย ‘มนต์เสน่ห์’ ใส่นาง เขาต้องการทำให้นางสับสน ทำให้นางปลดผนึกให้เขาตอนนี้ หน้าตาน่ะก็งดงามจริงๆ ทั้งยังฝันหวานเสียด้วย
‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองที่ถูกมองทะลุปรุโปร่งก็หลุบตาลง ขนตายาวและหนาประหนึ่งผ้าม่านบดบังดวงตากระชากใจคนดวงนั้นไว้ จากนั้น… ใบหน้าสง่าคมชัดดวงนั้นยังเหมือนกับเผยความสงสัยออกมา นี่มัน… คงจะรู้สึกละอายจนพาลโมโห
เยี่ยนอวี๋ลูบเด็กน้อย เกือบไปเสียแล้ว รู้มาตลอดว่าสามีคนนี้ของตนงดงาม บัดนี้กลับยิ่งคิดว่างดงามกว่าเดิม เกือบจะหลงกลเสียแล้ว
“แม่?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกลูบก็เงยหน้ามองท่านแม่ของเขา “พ่อ แปลก?”
เยี่ยนอวี๋จูบหน้าผากอ่อนนุ่มของเด็กน้อยอธิบายว่า “พ่อเจ้าถูกฟ้าผ่าอย่างไรเล่า สมองเลยไม่ค่อยจะดี ก็เลยดูแปลกๆ ไปน่ะ รักษาหน่อยก็หายแล้วล่ะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากระจ่าง เขาพยักหน้าหงึกๆ “รู้ เป่ารู้” ท่านพ่อรูปงามผู้น่าสงสาร
“เสี่ยวเป่าฉลาดที่สุด เช่นนั้นระหว่างที่สมองของท่านพ่อเจ้าไม่ค่อยดี เจ้าก็อย่าให้ท่านพ่ออุ้มเลยนะ แม่อุ้มก็พอ ดีหรือไม่” เยี่ยนอวี๋ยังคงกำชับ
“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ไม่ทับโดน พ่อ”
“เด็กดี” เยี่ยนอวี๋ค่อยโล่งใจ ในขณะเดียวกันก็หันไปมองเซ่าเฮ่าพวกเขาที่ยังมุงดูกันอยู่ “เมื่อวานมีความคืบหน้าหรือไม่”
“มีขอรับ” เซ่าเฮ่ารีบรายงานทันที “ตามที่ใต้เท้าสิงเทียนรายงาน หลายปีมานี้เขาพบว่าทั้งในโลกมนุษย์ แดนมืดวิญญาณอสูร รวมไปถึงยมโลกล้วนเกิดความผิดปกติคล้ายเช่นนี้ตามลำดับ”
“หลายปีมานี้?” เยี่ยนอวี๋จับใจความสำคัญ
เซ่าเฮ่าพยักหน้า “ใช่แล้ว ตั้งแต่ที่ท่านร่วงหล่นไป ใต้เท้าสิงเทียนก็ ‘ละเลยหน้าที่’ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า มักจะออกลาดตระเวนข้างนอก ตามที่เขารายงาน รอยแตกแยกที่เกิดขึ้นก่อนที่แรกและเป็นรอยแตกที่ใหญ่ที่สุดคือบริเวณบนภูเขาปู้โจวซานลูกนั้น ส่วนในโลกมนุษย์ แดนมืดวิญญาณอสูรและยมโลกจะสะท้อนให้เห็นจากปัญหาชั้นลอยมิติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นหลัก ไม่สามารถทำลายให้หมดสิ้นได้เพราะมักจะเกิดขึ้นใหม่”
“นายท่าน เช่นนี้ก็สอดคล้องกับเรื่องที่ชั้นลอยมิติเกิดขึ้นในโลกมนุษย์อย่างต่อเนื่อง” อิงหลงพูดขึ้นทันที และยังรายงานเรื่องหนึ่งว่า “ตั้งแต่ที่ท่านกลับสวรรค์เก้าชั้นฟ้า โลกมนุษย์ที่ตามหลักแล้วควรจะมั่นคงยังปรากฏชั้นลอยมิติ มิหนำซ้ำยังเป็นชั้นลอยระหว่างยมโลกด้วย”
เยี่ยนอวี๋เคร่งขรึมลง “เขตแดนระหว่างยมโลกและโลกมนุษย์นั้นมั่นคงมาก กลับยังปรากฏชั้นลอย ดูท่าจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของข้าจะถูกแอตแลนแทรกซึมไม่เบา”
“พวกเขาถือโอกาสเข้าแทรกซึมช่วงที่ท่านร่วงหล่น บัดนี้ท่านกลับมาแล้ว พวกเขาก็แค่เศษสวะ” ซีหวังหมู่เชื่อมั่นในนายท่านของตนอย่างแน่วแน่
พวกเซ่าเฮ่าเองก็พยักหน้า เซ่าเฮ่ายังพูดขึ้นว่า “แต่การแทรกซึมเช่นนี้ต้องหยุดยั้งให้ได้ อีกทั้ง นายท่าน พวกเราต้องรุกโจมตีก่อนใช่หรือไม่”
ในบรรดาลูกน้องเก่าของเยี่ยนอวี๋ มีเพียงเซ่าเฮ่าที่เข้าใจสิ่งหนึ่ง “เมื่อวานที่ท่านไม่ให้จวินโฮ่วสังหารเอเลน่าเพราะต้องการใช้นางเป็นตัวเบิกทางใช่หรือไม่”
เยี่ยนอวี๋ชะงักเล็กน้อย ไม่คิดว่าเซ่าเฮ่าจะสังเกตเห็นการกระทำเล็กน้อยๆ ของตน
“อ๋อ ที่ท่านกัดจวินโฮ่วที่แท้คือต้องการให้เขาออมมือหรือ” ซีหวังหมู่พูดทุกอย่างที่เห็นออกมาอย่างตรงไปตรงมา “มิน่าถึงกัดแรงเช่นนั้น ข้าเห็นรอยกัดบนคอของเขาด้วย”
เยี่ยนอวี๋ “…” นางหูแดงไปหมด
“แค่ก”
เซ่าเฮ่ารีบเปลี่ยนเรื่องทันที “นายท่าน ตอนนี้ทั้งสามโลกมีปัญหา ท่านมีแผนจะทำเช่นไรหรือ”
เยี่ยนอวี๋เปลี่ยนสีหน้ากลับมาจริงจัง “พวกหลงหลงต้องใช้เวลาอีกประมาณสามวันจึงจะฟื้นตัว ข้าจะปล่อยพวกมันออกมาเฝ้ารักษาทั้งดินแดนทั้งสิบสองไว้ ส่วนพวกเจ้าไปแดนแอตแลนกับข้า”
เมื่อพูดถึงตรงนี้… ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองพลันปริปากพูดว่า “เจ้าไปไม่ได้”
“ทำไมเล่า” เยี่ยนอวี๋รีบมองไปที่เขาและถามขึ้น นางคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของต้าซือมิ่งคนนี้ตลอดเวลา เหมือนกับว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กับชื่อเอเลน่าชื่อนี้ แต่เมื่อได้ยินว่านางจะไป เขาก็เอ่ยขึ้นทันที หรือว่า… เยี่ยนอวี๋ที่เหมือนจะเข้าใจบางอย่าง นางก็ถามอย่างไม่มั่นใจนักว่า “เจ้ากลัวว่าข้าจะฆ่าเอเลน่า ว่าที่ภรรยาของเจ้าทิ้งหรือ”
นี่คือคำถาม ‘แลกชีวิต’ เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนอวี๋กำลังหลอกถาม ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองที่ไม่มีความทรงจำของต้าซือมิ่ง แน่นอนว่าหลักๆ แล้วเยี่ยนอวี๋ก็อยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอเลน่ากันแน่
สุดท้าย… ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวทองก็แลกชีวิตจริงๆ “ว่าที่ภรรยาของข้าไม่ใช่เอเลน่า”
เยี่ยนอวี๋นิ่งขรึม เพิ่งรู้ว่ายังมีว่าที่ภรรยาอีกคนหนึ่ง