ตอนที่ 532 ตระกูลสูงศักดิ์สมคบคิด กำจัดแอตแลนให้เรียบเป็นหน้ากลอง
ณ เมืองแอตแลน
ตึง
พระชายาลาซิน่าที่ร่วงลงมาจากฟากฟ้าตกลงบนปราสาทชั้นในตระกูลลาซิน่า เกิดเสียงกระแทกดังสนั่น จนพื้นที่บริเวณนั้นเป็นหลุม ดยุคแห่งลาซิน่าก็ตกใจ อีกทั้งเขายังสัมผัสได้ว่าผู้ที่มาอย่างกะทันหันคือบุตรสาวและหลานสาวของเขา เขาจึงเดินออกจากห้องทันที
“ท่านดยุค คือท่านหญิงเคธี่และองค์หญิงเอเลน่า และยังมีหรง ต้าซือมิ่งเทพแห่งกรมความมืดในตำนานที่หายสาบสูญไปนาน” เอลันทรา อัศวินประจำปราสาทมารายงานทันท่วงที
ดยุคแห่งลาซิน่าประหลาดใจ “หรง?”
“ใช่แล้วขอรับ” เอลันทราตอบย่างมั่นใจ
ดยุคแห่งลาซิน่าพยักหน้าก่อนจะรีบเร่งเดินไปยังสถานที่ที่บุตรสาวและหลานสาวถูกจัดแจงไว้รักษาตัว เมื่อเขาเห็นต้าซือมิ่งที่หลับใหล เขาก็พยักหน้า “ใช่เขาจริงๆ ด้วย” ดูท่าความพยายามของเอเลน่าจะไม่เสียเปล่า
“แค่กๆ…” พระชายาเคธี่ ลาซิน่าที่ค่อยๆ ฟื้นขึ้นก็ไออย่างไร้เรี่ยวแรงสองสามทีก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านพ่อ ข้า… แค่ก แค่กๆ…”
ดยุคแห่งลาซิน่ารีบโบกมือ “ไม่รีบ รักษาตัวก่อน”
“ไม่เป็นไร แค่ก เพียงแค่สูญเสียแสงศักดิ์สิทธิ์ไปหมด” พระชายาลาซิน่าสูดหายใจเข้าลึก พูดได้มากขึ้นเล็กน้อย “ท่านพ่อ ท่านยังจำตำนานที่ว่าจักรวาลแอตแลนถือกำเนิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาลหรือไม่”
“ตำนานหรือ” ดยุคแห่งลาซิน่าชะงักงันอย่างเห็นได้ชัด
พระชายาลาซิน่ากลับร้อนรน “ใช่แล้ว ตำนานที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าจำได้ว่าในนั้นมีภาพวาด ท่านพ่อพาข้าไปดูหน่อยได้หรือไม่ แค่ก แค่กๆๆ… อั่ก…”
พระชายาลาซิน่าที่ร้อนรนเกินเหตุกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ดยุคแห่งลาซิน่ารีบให้หมอประจำตระกูลรักษาในขณะเดียวกันก็พูดว่า “เคธี่ เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ รักษาตัวก่อน ดีขึ้นแล้วเราค่อยไปก็ได้”
“ข้า…” พระชายาลาซิน่าอยากจะบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อนางยังคงอาเจียนเป็นเลือดไม่หยุด ลมหายใจใกล้จะดับสิ้นอยู่แล้ว นางจึงทำได้เพียงให้ความร่วมมือกับหมอประจำตระกูลรักษาตัวอย่างกระตือรือร้น
ทั้งเมืองแอตแลนมีเพียงดยุคที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ราชสำนักและเจ้ากรมที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองที่ครอบครอง ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ว่ากันว่าการวม ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ทั้งเจ็ดเล่มจะบังเกิดเทพผู้พิทักษ์แห่งจักรวาลแอตแลนหรือก็คือบิดาแห่งจักรวาล นอกจากนี้คัมภีร์ชุดนี้ยังมีเคล็ดวิชาแสงศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ที่สุดของแอตแลน ซึ่งเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของตระกูลดยุคที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ดังนั้นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่าเช่นนี้ย่อมไม่ถูกนำออกมาหรือเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย
ฉะนั้นแล้วหลังจากที่พระชายาลาซิน่าฟื้นตัวแล้ว ดยุคแห่งลาซิน่าก็พานางไปปราสาทที่ลึกลับที่สุดของตระกูลด้วยตัวเขาเอง เดินไปพลางถามว่า “เหตุใดจึงคิดอยากอ่านคัมภีร์หรือ”
ส่วนคำถามที่ว่าเหตุใดไม่ใช่คัมภีร์เล่มที่อยู่ในราชสำนัก แต่เป็นของที่นี่ ดยุคแห่งลาซิน่าไม่ได้ถามมากไปกว่านั้น ถึงอย่างไรบัดนี้ผู้ที่ครอบครอง ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ของราชสำนักคือ หูจวิ้น จักรพรรดิแห่งแอตแลน
แม้หูเฮ่อจะเป็นทายาทที่มีฐานันดรสูงศักดิ์ แต่หากเขาอยากจะอ่าน ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเคธี่ พระชายาของหูเฮ่อ ดังนั้นสำหรับเคธี่ ลาซิน่า การอ่าน ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ในวังดยุคย่อมสะดวกกว่า
ถึงอย่างไรพระชายาลาซิน่าถือว่าเป็น ‘บุตรสาวเพียงผู้เดียว’ ของดยุคแห่งลาซิน่า เพราะว่าพี่ชายที่โตกว่านางสามปีท่านนั้นล่วงลับไปเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นตระกูลลาซิน่าในบัดนี้อันที่จริงไม่ได้รุ่งโรจน์เช่นในอดีตแล้ว พวกเขาทำได้เพียงพึ่งพาพระชายาลาซิน่า ทว่า…
“ถ้าข้าจำไม่ผิด บันทึกในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ อาจจะถึงเวลาแล้วที่ตระกูลลาซิน่าของเราจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครา กระทั่งรุ่งโรจน์ยิ่งกว่าอดีต” พระชายาลาซิน่ากล่าวด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
ดยุคแห่งลาซิน่าชะงักเล็กน้อย เปิดประตูในมือไม่ออกในคราเดียว
พระชายาลาซิน่ารีบเข้ามาช่วย ประตูปราสาทเก่าแก่ถูกเปิดเสียงดัง แอ๊ด
เมื่อลาซิน่าหยิบคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์มาอ่านอย่างคล่องแคล่ว ดยุคแห่งลาซิน่าจึงค่อยเดินเข้ามา “เกิดอะไรขึ้นหรือ อาการบาดเจ็บของเอเลน่านั่นเป็นมาอย่างไรแน่”
ในตอนที่พระชายาลาซิน่ากำลังรักษาตัวนั้น ดยุคแห่งลาซิน่าก็ถามไถ่อาการของเอเลน่าแล้ว รู้ว่าบาดแผลบนใบหน้าของหลานสาวเกรงว่าจะรักษาไม่หาย
ในฐานะที่เป็นองค์หญิง เอเลน่าที่เสียโฉมหมายถึงการสูญเสียสิทธิ์การสืบทอดบัลลังก์ พระชายาลาซิน่าเองหลายปีมานี้ก็ไม่ได้ให้กำเนิดบุตรอีก ราชบัลลังก์ในอนาคตเหมือนจะถูกกำหนดเอาไว้แน่นอนแล้ว ทว่า… เมื่อลาซิน่าเห็นลวดลายที่คุ้นเคยและถูกต้องนั้น ดวงตานางก็ลุกวาว “เจอแล้ว ท่านพ่อ ท่านดูลวดลายลึกลับเหล่านี้สิ”
“ลวดลายลึกลับที่ปรากฏกลางความว่างเปล่าเมื่อครั้นจักรวาลระเบิดครั้งใหญ่หรือ” ดยุคแห่งลาซิน่ามองลวดลายลี้ลับทั้งสามที่ถูกบันทึกไว้ใน ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ไม่รู้ว่าเคธี่หาพวกนี้ทำไม
“ท่านพ่อ หรง! เป็นไปได้มากว่าเขาคือบุตรแห่งจักรวาล! บุตรผู้สร้างแอตแลนที่สืบทอดพลังคุ้มครองจักรวาล หาก หากว่าเอเลน่าแต่งงานกับเขา เช่นนั้น…”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ พระชายาที่ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งก็สูดลมหายใจเข้าลึกสองสามทีจึงจะสามารถคลายความตื่นเต้นลงได้ ทว่าดวงตาของนางกลับร้อนรุ่มจนถึงขีดสุด
ดยุคแห่งลาซิน่าก็เอ่ยประโยคที่เหลือแทนนางว่า “บุตรที่พวกเขาคลอดก็จะเป็นบุตรแห่งจักรวาล จักรพรรดิองค์ต่อไปของแอตแลน”
“ใช่แล้ว!” พระชายาลาซิน่าตื้นตันอย่างยิ่ง “ถึงครานั้น ตระกูลลาซิน่าของเราจะกลายเป็นหัวหน้าแกรนด์ดยุค ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเด็กน้อยยังเล็ก ข้ายังสามารถเป็นราชินีผู้สำเร็จราชการแทนได้ ท่านพ่อ ท่านก็จะเป็นแกรนด์ดยุคผู้สำเร็จราชการแทน”
แสงประกายวาบผ่านนัยน์ตาดยุคแห่งลาซิน่า ทว่าน้ำเสียงเขากลับสงบนิ่ง “เช่นนั้นก็แต่งงานพรุ่งนี้เลย”
“พรุ่งนี้? เร็วไปหรือไม่” พระชายาลาซิน่ากลับไม่ได้ต้องการให้แต่งเร็วเช่นนี้ ถึงอย่างไรเอเลน่าก็เป็นองค์หญิง พิธีการแต่งงานนั้นมีมาก ต้องใช้เวลาเตรียมตัว
ดยุคแห่งลาซินากลับถามอย่างราบเรียบว่า “ไม่เร็วหรอก หรือจะรอให้แกรนด์ดยุคในตำนานท่านนั้นตื่นขึ้นมาก่อน”
เมื่อได้ยินดังนั้น พระชายาลาซิน่าสีหน้าพลันเปลี่ยน “ท่านพ่อรอบคอบนัก หากเขาตื่นขึ้นมาย่อมไม่ปล่อยให้ถูกจูงจมูก ดังนั้นต้องรีบแต่งงาน”
“ใช่แล้ว อีกทั้งยังต้องตั้งครรภ์ก่อนที่เขาจะตื่น” ดยุคแห่งลาซิน่าย้ำเตือนอย่างเยือกเย็น
พระชายาลาซิน่าชะงักเล็กน้อย “แต่ว่า เกรงว่าจะไม่ง่าย? ไม่ ไม่ใช่ ราชสำนักมี… มียาวิเศษ แต่ระดับขั้นของเอเลน่าและหรงต่างกันมาก เอเลน่าอาจจะถูกกลืนกินได้”
เพื่อให้มั่นใจว่าสายเลือดแอตแลนจะสืบดำรงต่อไป ราชสำนักแอตแลนมียาลับที่ไม่เหมือนใคร สามารถทำให้สตรีในราชวงศ์ตั้งครรภ์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็มีผลข้างเคียงมากเช่นกัน ทว่าดยุคแห่งลาซิน่าเตือนขึ้นอย่างสงบนิ่งว่า “สภาพเอเลน่าเช่นนั้นได้สูญเสียสิทธิ์การสืบทอดราชบัลลังก์ไปแล้ว เจ้าคิดว่า นางจะยังมีค่าอีกหรือ”
“ท่านพ่อ…” พระชายาลาซิน่าชะงัก นางไม่เคยคิดเลยว่าท่านพ่อของนางจะเย็นชาและโหดเหี้ยมเช่นนี้ ถึงอย่างไรเอเลน่าก็เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของนาง เป็นหลานสาวของเขา
ดยุคแห่งลาซิน่าไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาเพียงเตือนต่อไปว่า “เวลาของเจ้ามีไม่มาก หลังจากพี่เจ้าตายไป ทุกอย่างของลาซิน่าก็ไม่มีความหมาย ข้ามีเพียงเจ้าผู้เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามีจุดจบที่ลำบากและเดียวดาย เจ้าต้องคิดให้ดี”
จุดจบที่ลำบากและเดียวดาย…
ประโยคนี้ทำให้ลาซิน่ากระจ่าง
ใช่แล้ว หากเอเลน่าหมดสิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังก์ เช่นนั้นนางก็ต้องทานยาลับเพื่อให้กำเนิดบุตรแก่หูเฮ่ออีกคนหนึ่ง หรือไม่อีกทางหนึ่งก็คือ ‘ตาย’
ถึงอย่างไรหูเฮ่อแห่งแอตแลนก็ต้องมีชายาคนหนึ่งที่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ หากนางคลอดบุตรไม่ได้ ก็มีคนมากมายสามารถมาแทนที่นางได้ โดยเฉพาะยามนี้ที่ตระกูลลาซิน่ากำลังตกต่ำ จุดจบของนาง…
“ได้ แต่งงานพรุ่งนี้ ตั้งครรภ์พรุ่งนี้” พระชายาลาซิน่าไม่ลังเลอีกต่อไป
หลังจากดยุคแห่งลาซิน่าเข้าไปในปราสาทแอตแลน ต่อมา ข่าวเรื่ององค์หญิงเอเลน่าและหรง ต้าซือมิ่งแห่งกรมความมืดจะสมรสกันในวันพรุ่งก็แพร่สะพัดไปทั่วแวดวงตระกูลชั้นสูงของแอตแลน
…
ในขณะเดียวกัน
เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกก็มาถึงพื้นที่ประหลาดแห่งนั้นแล้ว
“คุณหนูใหญ่ นายน้อย ท่านเขย?” เมื่อเม่ยเอ๋อร์ปรากฎตัวขึ้นก็ตกใจกับ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองจนเกือบจะชักดาบออกมาแล้ว
ทว่า ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีมองกลับจำเม่ยเอ๋อร์ไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเขาเพิ่งเปิดโลงศพ ยังไม่ตื่นดี
เยี่ยนอวี๋ถามขึ้นว่า “ท่านเขยผมสีทองที่เจ้าพูดถึงก่อนหน้านี้ เจ้าพบที่ไหนหรือ”
“คุณหนูใหญ่ตามข้ามา” เม่ยเอ๋อร์พูดเสร็จก็เดินนำทางอยู่ข้างหน้า
เซ่าเฮ่าถามด้วยความสงสัย “นายท่าน กลิ่นอายของแม่นางท่านนี้แปลกมาก”
“เหมือนกับว่าจะเหมือนกับข้า นายท่าน?” ซีหวังหมู่ได้กลิ่น
เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้ตอบ เพียงพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องถาม”
“เจ้าค่ะ” ซีหวังหมู่และตัวอื่นๆ จึงไม่ถามแล้ว
ผ่านไปเพียงไม่นาน พวกเขาทั้งขบวนก็มาถึงที่ที่วัดซอมซ่อตั้งอยู่
“อยู่แถวนี้เจ้าค่ะ” เม่ยเอ๋อร์กล่าว
ครั้นเยี่ยนอวี๋กำลังจะถาม ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทอง นางก็พบว่าเขามองไปยังจุดหนึ่ง นางมองตามไป จากนั้นนางก็เห็นโลงศพสีดำสนิทคุ้นตาโลงหนึ่งตามคาด เพียงแต่ว่าเมื่อเยี่ยนอวี๋หายตัวไปอยู่ข้างหน้าโลงศพ…
“ว่างเปล่า?”
เยี่ยนอวี๋มอง ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองอย่างประหลาดใจ
เม่ยเอ๋อร์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ต้องเป็นแม่ลูกคู่นั้นแน่ๆ ท่านเขยอีกคนหนึ่งถูกพวกนางนำตัวไปแล้ว”
คำพูดนี้… ทำให้ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองมองไปยังสถานที่ที่หนึ่งทันที “แอตแลน”