ตอนที่ 534 ปกป้องภรรยาด้วยสัญชาติญาณ
“นี่มัน…”
ดยุคเมดิซีที่เพิ่งลงมาจากรถม้ายูนิคอร์นเงยหน้ามองปราสาทลาซิน่าตามสัญชาติญาณ ผู้ที่ทำสิ่งเดียวกันกับเขาคือดัชเชสเยี่ยเฮ่อ นางมาถึงปราสาทลาซิน่าแทบจะในเวลาเดียวกันกับดยุคเมดิซี เมื่อนางก้าวลงจากรถม้ายูนิคอร์นก็สัมผัสถึงความผิดปกติของปราสาทลาซิน่าในยามนี้
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อแรงสั่นสะเทือนหายไป ทั้งสองก็สบตากันครู่หนึ่ง ต่างเห็นความผิดปกติที่คาดเดาไม่ได้จากนัยน์ตาทั้งคู่ จากนั้น…
“เยี่ยเฮ่อ”
“เมดิซี”
หลังจากที่ทักทายกันอย่างเยือกเย็น ดยุคและดัชเชสแห่งสองตระกูลที่กำลังอยู่ในช่วงครอบครองอำนาจสูงสุดต่างคนต่างก็เดินไปยังปราสาท
ไวล์เดอร์หัวหน้าผู้ดูแลตระกูลลาซิน่าที่ออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างรวดเร็วก็พยักหน้าโค้งคำนับแกรนด์ดยุคทั้งสอง “ดยุคทั้งสองเชิญทางนี้ขอรับ ดยุคของเรารอนานแล้ว”
“ความเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้มาจากต้าซือมิ่งเทพแห่งกรมความมืดในตำนานท่านนั้นหรือ” ดยุคแห่งเมดิซีถาม
หน้าผากไวล์เดอร์กลับมีเหงื่อซึมออกมาในทันที ถึงอย่างไรแม้น้ำเสียงของดยุคเมดิซีจะเป็นกันเอง แต่กลับแผ่ซ่านแรงกดดันมหาศาล ดังนั้นสุดท้ายแล้วผู้ดูแลท่านนี้ก็ตอบอย่างมิอาจต่อต้านได้ว่า “อาจจะใช่ ข้าน้อยก็ไม่แน่ใจขอรับ”
“ต้าซือมิ่งแห่งกรมความมืดอยู่ในปราสาทของเจ้า?” ดยุคเมดิซีถามอีกครั้ง
“ขอรับ ดยุคเมดิซี” ผู้ดูแลตอบ
ดัชเชสเยี่ยเฮ่อพ่นหายใจเย้ยหยัน เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับท่าทีของเมดิซี แต่เมดิซีไม่สนใจ กลับครุ่นคิดถึงข้อมูลที่ได้รับมาเพียงเล็กน้อยนี้
หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ พระชายาลาซิน่าคนนั้นเพิ่งร่วงกลับมาปราสาทลาซิน่า ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ดยุคแห่งลาซิน่าเพิ่งเข้าวัง เวลาเพียงสิบห้านาที ราชวังประกาศงานสมรสของหรงต้าซือมิ่ง เทพแห่งกรมความมืดกับองค์หญิงลาซิน่า โดยกำหนดไว้ในวันพรุ่งนี้ บัดนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ดังนั้นที่บอกว่าพรุ่งนี้ อันที่จริงก็คือเวลาเพียงคืนเดียวเท่านั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมซิดีประหลาดใจมาก เขาเชื่อว่าดัชเชสเยี่ยเฮ่อก็ประหลาดใจมากเช่นกัน มิเช่นนั้นนางคงไม่มาด้วยตนเอง
ในขณะที่เมดิซีครุ่นคิด ผู้ดูแลไวล์เดอร์ก็พาพวกเขาไปถึงข้างหน้าประตูค่ายกลเคลื่อนย้ายเล็กๆ แห่งหนึ่งแล้ว “เชิญดยุคทั้งสองขอรับ ดยุคของเรารอท่านทั้งสองอยู่ทางนั้น”
เมดิซีและเยี่ยเฮ่อพยักหน้าตามมารยาทก่อนจะก้าวเข้าไปในค่ายกล ผู้ดูแลไวล์เดอร์เกือบจะขาอ่อนคุกเข่าลงพื้นแล้ว ถึงอย่างไรแกรนด์ดยุคแห่งแอตแลนล้วนมีพลังการต่อสู้ระดับเจ้าศักดินา
หากเยี่ยนอวี๋อยู่ที่นี่ นางจะสัมผัสได้ว่าพลังการต่อสู้ระดับเจ้าศักดินาที่ว่านี้เทียบเท่ากับระดับเทียนอ๋องในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ทว่าหลังจากที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายพาแกรนด์ดยุคทั้งสองไปถึงปราสาทชั้นใน อัศวินเอลันทราที่ต้อนรับพวกเขากลับพูดขึ้นว่า “ดยุคเมดิซี ดัชเชสเยี่ยนเฮ่อรอสักครู่ขอรับ ดยุคของเรามีธุระส่วนตัวต้องจัดการ อีกสักครู่จึงจะมาได้”
คำพูดนี้… เพียงพอที่จะทำให้แกรนด์ดยุคทั้งสองเข้าใจอะไรบางอย่าง รู้ว่าความเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้ต้องเกี่ยวข้องกับต้าซือมิ่งแห่งกรมความมืดนั่นแน่นอน อีกทั้งเหมือนกับว่าดยุคแห่งลาซิน่าจะเจอปัญหาบางอย่างเข้าเพราะเรื่องนี้ แม้จะคิดเช่นนี้ ดยุคเมดิซีก็พยักหน้าอย่างไร้สีหน้าอารมณ์ “ได้”
“ขอบคุณทั้งสองท่านที่เข้าใจ” อัศวินเอลันทราโค้งคำนับ จากนั้นก็ค่อยๆ ถอยออกจากเรือนรับรอง
หลังจากที่เอลันทราออกไปแล้ว ดัชเชสเยี่ยเฮ่อก็กางชั้นน้ำแข็งขึ้นมาทันที นี่คือวิชามิติลับประจำตระกูลเยี่ยเฮ่อ สามารถป้องกันการแอบฟังจากคนภายนอกได้ จากนั้นดัชเชสเยี่ยเฮ่อจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “เมซิดี ร่วมมือกันหรือไม่”
“ยินดีรับใช้ดัชเชส” เมซิดีตอบอย่างสุภาพบุรุษ
เยี่ยเฮ่อกลับรู้ดีว่าเมซิดีหน้าเนื้อใจเสือ แต่ทั้งสองตระกูลได้ผลประโยชน์ร่วมกัน นางจึงไม่เกรงกลัว “อย่างที่ทราบกันดีว่าการหายตัวไปของหรงมีความเป็นไปได้มากว่าจะข้องเกี่ยวกับปริศนาการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาล บัดนี้เขากลับแต่งงานกับเอเลน่ากะทันหัน ต้องมีไม่ชอบมาพากลแน่นอน เจ้าและข้าร่วมมือช่วยกันหาหรงให้เจอ ลาซิน่าต้องการพึ่งพาความสัมพันธ์จากการแต่งงานเพื่อยกสถานะครอบครัว ข้าไม่เห็นด้วยที่จะแบ่งผลประโยชน์จักรวาลสวรรค์ชั้นเก้าจากมือของพวกเราไป”
“พูดตามตรง ข้าก็ไม่เห็นด้วย” เมซิดียืนขึ้นคำนับเยี่ยเฮ่อ “ตระกูลเมซิดียินดีให้ความร่วมมือ แต่คนของเราตรวจสอบแล้ว ไม่สามารถเข้าใกล้บริเวณที่หรงอยู่ได้ องค์หญิงเอเลน่าก็ถูกส่งกลับไปยังพระราชวังแล้ว ไม่สามารถสืบอะไรจากปากนางได้เลย”
“ข้ารู้ ตอนนี้หรงหลับใหลไม่ตื่น เป็นโอกาสในการลงมือที่ดีที่สุด” เยี่ยเฮ่อแบ่งปันข่าวสารอย่างเปิดเผย
เมซิดีชะงักเล็กน้อย รู้ว่าตระกูลเยี่ยเฮ่อก็มีเส้นสายในราชสำนัก อีกทั้งยังมีฝีมือกว้างขวาง แม้แต่ข่าวลือเรื่ององค์หญิงเอเลน่าที่ถูกปิดเป็นความลับก็ยังสืบมาได้
ในเมื่อเช่นนี้ เมซิดีก็กล่าวอย่างจริงใจว่า “ดัชเชสเยี่ยโปรดชี้แนะ”
เยี่ยเฮ่อพึงพอใจที่เมซิดีรู้งาน นางส่งแผนที่ทางกระแสจิตให้เขาในทันที จากนั้นก็ปลดวิชาผนึกน้ำแข็งออก
ในขณะเดียวกัน…
ดยุคแห่งลาซิน่าก็เร่งเดินทางมาถึงวังที่ต้าซือมิ่งอยู่
“เกิดอะไรขึ้น” ดยุคลาซิน่าถามเสียงขรึม
องครักษ์วังใต้ดินรีบรายงานว่า “จู่ๆ ต้าซือมิ่งก็แผ่ซ่านแสงสีทองออกมา จากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอีก พวกข้ามิกล้าเข้าไปขอรับ”
“ออกไป” ดยุคลาซิน่ารู้ดีว่าการไม่เข้าใกล้เป็นวิธีที่ดีที่สุด
พูดตามตรง สำหรับต้าซือมิ่งในตำนานท่านนี้ แม้แต่ดยุคลาซิน่าเองก็หวาดกลัว ดังนั้นเขาเองจึงเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าต้าซือมิ่งไม่มีร่องรอยการตื่นขึ้น เขาก็ให้หมอประจำตระกูลเข้าไปดูอาการ ทว่าหมอก็บอกว่าต้าซือมิ่งไม่มีสัญญาณว่าจะตื่นขึ้นมา
“กันไว้ดีกว่าแก้ ป้อนยากล่อมประสาทให้เขา ห้ามให้เขาตื่นขึ้นมาเด็ดขาด” ดยุคลาซิน่าเอ่ย อีกทั้ง… ดยุคลาซิน่าที่คิดบางอย่างได้ก็เรียกเอลันทราเข้ามา “เจ้าพากองทัพอัศวินกลุ่มหนึ่งเคลื่อนย้ายหรงต้าซือมิ่งเข้าพระราชวังไปล่วงหน้า นอกจากนี้ แจ้งเคธี่ล่วงหน้า หากได้ยาลับมาแล้ว ให้ลงมือก่อนได้เลย”
“ขอรับ” เอลันทรารับบัญชาก่อนจะออกไปจัดแจง
จากนั้นต้าซือมิ่งที่หลับใหลก็ถูกย้ายไปพระราชวังอย่างรวดเร็ว
ดยุคลาซิน่าจึงเดินทางกลับไปพบ ‘สหาย’ ดยุคทั้งสอง
ในขณะที่ข่าวต้าซือมิ่งกลับมาและยังจะแต่งงานกับเอเลน่าแพร่สะพัดไปทั่วแอตแลน ต้าซือมิ่งสีทองก็ยังคงกำลังหลอมพื้นที่เล็กๆ แห่งนั้น ทำเอาซีหวังหมู่ร้อนรน “จวินโฮ่วไม่กลัวแปดเปื้อนจริงๆ หรือ เช่นนั้นนายท่านคงไม่ต้องการเขาแล้วจริงๆ แน่”
คำพูดนี้ทำให้ต้าซือมิ่งสีทองหยุดหายใจไปชั่วขณะ แต่ว่าบริเวณเหนือฝ่ามือของเขามีลูกปัดสีทองเม็ดหนึ่งกำลังถูกควบแน่น แผ่ซ่านกลิ่นอายหนักหน่วงออกมา
“นี่มัน…” เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่าในลูกปัดนี้ไม่เพียงมีกฎระเบียบของจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ยังมีของแอตแลนด้วย
ลูกปัดนี้… ถูกต้าซือมิ่งหยิบและยื่นไปให้เยี่ยนอวี๋อย่างรวดเร็ว
คนอื่นๆ เพิ่งพบว่าลูกปัดนี้มีสายสร้อยด้วย
“สตรี ใส่มันซะ” ต้าซือมิ่งสีทองพูด
เยี่ยนอวี๋ยื่นมือไปกำลังจะรับมา จู่ๆ ต้าซือมิ่งก็ประชิดเข้ามาสวมสร้อยลูกปัดไว้ที่คอขาวเนียนของนาง “ใส่มันไว้ แม้ไม่ได้อยู่ใกล้ข้า เจ้าก็จะอยู่ในแอตแลนได้อย่างปลอดภัย”
เยี่ยนอวี๋เงยหน้า เมื่อประสานตาเข้ากับดวงตาสีทองคู่นั้นก็เห็นความเอาใจใส่ที่อ่อนโยนทว่าแปลกประหลาดจากในดวงตา
สามีคนนี้… ไม่ว่าจะเป็นร่างพลังไหนก็ทำให้นางหวั่นไหวได้ แต่ว่า…
“เจ้าจะไม่อยู่ใกล้ข้าหรือ” เยี่ยนอวี๋ถามกลับ
ต้าซือมิ่งผมสีทองที่สงบลงเดินถอยออกมา ในขณะเดียวกันก็พาทุกคนเหินไปทางแอตแลนแล้ว
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีจุดมุ่งหมายไม่ชัดเจนจึงเดินทางช้า ตอนนี้ในเมื่อรู้ว่าจะไปแอตแลน ต้าซือมิ่งจึงเคลื่อนตัวเร็วขึ้น ทว่าในขณะที่ต้าซือมิ่งสวมสร้อยสีทองให้ภรรยานั้น ต้าซือมิ่งผมสีดำที่หลับใหลก็ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในปราสาทแอตแลนในราชวังแล้ว
“หรง” เอเลน่าที่มาต้อนรับด้วยตนเอง เมื่อนางเห็นหรงต้าซือมิ่งที่หลับใหลก็ตื่นเต้นดีใจมาก บาดแผลบนใบหน้าถูกดึงจนเจ็บปวด นางจึงรีบสงบอารมณ์ลง “ท่านแม่ เหตุใดข้ายังปวดแผล พรุ่งนี้จะหายหรือไม่”
“หายแน่” พระชายาลาซิน่าไม่กล้าบอกว่าหายไม่ได้แล้วจึงได้แต่ปลอบโยนบุตรสาวเช่นนี้ ในมือยังบีบยาลับที่ได้มาแล้วไว้
เอลันทรานำคำพูดของดยุคแห่งลาซิน่าแจ้งแก่นางแล้ว ทำให้นางรู้ว่าต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแน่ๆ ดังนั้น…
“นี่คือยาที่หมอม่อเพิ่งให้แม่มา ทำให้ใบหน้าเอเลน่ากลับไปเป็นดังเดิมได้ในวันพรุ่งนี้ เจ้ากินลงไปก่อน จากนั้นดูแลหรงอยู่ที่นี่ให้ดี แม่ออกไปทำธุระก่อนแล้ว” พระชายาลาซิน่าพูดเสร็จก็ยื่นยาให้เอเลน่า
เอเลน่าไม่เอะใจแม้แต่น้อย นางกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว
“เช่นนั้นแม่ไปทำธุระแล้วนะ” พระชายาลาซิน่าลุกขึ้นออกจากห้อง ในขณะเดียวกันก็สั่งให้ลูกน้องภักดีเฝ้าข้างนอก นางรู้ว่าเพียงไม่นานทุกอย่างก็จะสำเร็จแล้ว แต่เอเลน่าของนาง…
พระชายาลาซิน่ากำหมัดแน่น พึมพำกับตนเอง “หากตระกูลลาซิน่าไม่อาจรุ่งโรจน์ได้ ชีวิตของเอเลน่าก็คงเหมือนตายทั้งเป็น ต้องลองสู้ดูสักตั้ง”
เมื่อคิดได้ดังนี้ พระชายาลาซิน่าก็จากไปโดยไม่หันหลังกลับ
ในขณะเดียวกัน เอเลน่าก็รู้สึกว่าร่างกายร้อนผ่าว ทำให้นางอดเข้าใกล้ต้าซือมิ่งไม่ได้ สายตาเริ่มเพ้อลอย “หรง หรง พรุ่งนี้ข้าจะกลายเป็นเมียของเจ้าแล้ว หรง…”
เอเลน่าที่ตื่นเต้นจนอดกลั้นไว้ไม่อยู่ปีนขึ้นไปบนเตียง ในเวลาเดียวกันนั้นเอง…