เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 536 ปฐมราชินีชี้ขาดแอตแลน!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 536 ปฐมราชินีชี้ขาดแอตแลน!

“…”

ลำแสงสีขาวปรากฏขึ้นอย่างเงียบงัน ประตูเปิดออกตามแสงสว่าง เอเลน่าที่ไม่รู้ตัวยังคงพยายามเข้าหาต้าซือมิ่ง “หรง! หรง! ขอร้องล่ะ ให้ข้าเข้าใกล้เจ้าเถอะ!”

เอเลน่าที่วิงวองไม่หยุด รอบกายแผ่ซ่านแสงสีทองออกมา เห็นได้ชัดว่านางรู้ว่าการขอร้องนั้นไร้ประโยชน์ ดังนั้นขณะที่นางพยาพยามโถมขึ้นไปอีกครั้งก็แผ่ซ่านแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งราชวงศ์ออกมา

แซ่ด!

เมื่อแสงอันศักดิ์สิทธิ์ปะทะแสงสีม่วงอร่ามชั้นนั้นก็เกิดเสียงเสียดสี ทว่า…

เพียะ!

เอเลน่ายังไม่ทันได้ดั่งใจ นางก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอ ก่อนจะร่วงลงบนพื้นราวกับเศษผ้าและหมดสติไปในทันที

ข้างหลังของนางมีสตรีสวมชุดประโปรงสีขาวทั้งร่างคนหนึ่งเดินออกมาจากท่ามกลางแสงสีขาวอันบริสุทธิ์ ใบหน้าของนางคมชัด มีดวงตาสีฟ้าเข้ม แม้รัศมีสีขาวจะสลายไป ผิวของนางยังคงเปล่งประกายแสงจางๆ แผ่ซ่านและล้อมรอบร่างกาย ทำให้นางดูเหมือนนางฟ้าที่ไม่มีปีก

ทูตสวรรค์เช่นนี้กำลังมองเอเลน่าในสภาพดูไม่ได้ที่นอนอยู่ข้างเท้า “คนหยาบคายเช่นเจ้าไม่คู่ควรแตะต้องผู้ปกครองสูงสุดแห่งเทพเจ้า”

ทว่าเอเลน่าที่ไม่สามารถตอบสนองอะไร ได้แต่นอนหอบหายใจตัวร้อนผ่าวอยู่บนพื้น สีหน้าทุกข์ทรมาน สตรีผิวขาวผ่องไม่มองนางอีก

สตรีผิวขาวที่มองไปยังต้าซือมิ่ง นางปกคลุมต้าซือมิ่งด้วยรัศมีสีขาวพร้อมกับแสงสีม่วงอร่ามที่แผ่ซ่านออกมาของฝ่ายหลังปกคลุมไว้ด้วยกัน

ในขณะเดียวกัน…

‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองนั่งขัดสมาธิลงบนตั่งที่แต่เดิมต้าซือมิ่งผมสีดำนอน รอบกายเขาแผ่ซ่านแสงสีทองจางๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังแผ่จิตสัมผัสเพื่อหาว่าร่างของ ‘ตนเอง’ อยู่ที่ไหน

ในขณะที่ดยุคแห่งลาซิน่าพากลุ่มอัศวินล้อมรอบวังใต้ดินไว้ เขายังไม่บุ่มบ่ามบุกเข้าไป เพราะว่าเขาสัมผัสได้ว่าผู้ที่บุกเข้ามาเก่งกาจมาก

อย่างอื่นขอยังไม่กล่าวถึง เพียงแต่ปราสาทชั้นในของลาซิน่า ปราสาทแห่งนี้ได้รับพรจากจักรพรรดิผู้ก่อตั้งแอตแลน ซึ่งมีกฎระเบียบของจักรวาลที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่ผู้มีระดับพลังเจ้าศักดินาก็ทำลายปราสาทจนกลายเป็นเช่นนี้ได้ยาก… ดังนั้นผู้ประจักษ์เห็นทุกอย่างในเหตุการณ์จึงไม่มีผู้ใดเหลือรอดสักคน!

อัศวินที่มาพร้อมดยุคแห่งลาซิน่าในบัดนี้ล้วนเป็นอัศวินรอบนอกปราสาทลาซิน่า ซึ่งมีความสามารถและประสบการณ์ธรรมดามาก

ดังนั้น… ดยุคแห่งลาซิน่าจึงตะโกนเข้าไปยังวังใต้ดิน ถามว่า “ผู้มาเยือนคือท่านใด”

เขาหวังว่าจะมีพื้นที่ในการพูดคุย แต่วังใต้ดินไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับ

ซีหวังหมู่เองก็ไม่มีจิตใจออกมาเก็บเศษสวะ มันร้อนใจจะตายอยู่แล้ว “จวินโฮ่วไปที่ไหนแล้ว คงไม่ใช่ว่าถูกแปดเปื้อนแล้วจริงๆ หรอกนะ เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี!”

“หุบปากเถอะเจ้าน่ะ!” จิ่วอิงหมดคำจะพูด “อี้เอ๋อร์ไม่ใช่ผู้ชายที่แตะต้องง่ายดายเช่นนั้น”

ซีหวังหมู่ไม่เชื่อ “หากแตะต้องยาก เหตุใดเราหากันทั้งวันก็หาไม่เจอเล่า เขาเองก็ไม่ได้หนีออกมาเองเสียหน่อย ดูก็รู้ว่าเจออันตราย!”

“ข้าผิดเอง” เม่ยเอ๋อร์ตำหนิตนเอง “ตอนนั้นข้าควรไล่ล่าพวกนางต่อไป”

“เฮ้อ จะโทษเจ้าไม่ได้หรอก เม่ยเอ๋อร์ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าต้าซือมิ่งเขาเป็นปกติแล้ว และยังอ่อนแอลงด้วย ถูกลักพาตัวไปเสียเช่นนั้น ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ” อินหลิวเฟิงก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแล้ว

ตามความคิดของเขา บุคคลอัศจรรย์เช่นนี้จะถึงกับถูกลักพาตัวไปได้อย่างไร ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ…

ดังนั้นอินหลิวเฟิงจึงถามเอ้อร์เหมาที่เงียบและนิ่งเฉยจนเกินไปตลอดทางว่า “เอ้อร์เหมา เจ้าลองวิเคราะห์สถานการณ์ดูซิ”

“…ไม่ใช่ ที่นี่มีลูกพี่มากมายเช่นนี้ นายน้อยท่านจะให้ข้าไก่อ่อนตัวหนึ่งวิเคราะห์สถานการณ์หรือ” เอ้อร์เหมาตัวสั่นระริก ไม่กล้าแสดงความเห็น

เขาคอยสังเกตการณ์มาตลอดทาง พบว่าคุณหนูใหญ่เยี่ยนพาลูกพี่ทั้งกลุ่มออกโรงเช่นนี้ เขาต้องสำรวมตัวให้ดี จะได้ไม่ทำให้ลูกพี่ขุ่นเคือง

ไม่ใช่เพียงเอ้อร์เหมาที่คิดเช่นนี้ จางเจ๋อเหอและพวกพ้องอีกคนหนึ่งที่ไร้ตัวตนก็พยายามทำตัวค้อมต่ำ ไม่ให้เป็นจุดสนใจ พวกเขาต่างเห็นแล้วว่าลูกไก่สุดยอดเช่นลูกไก่สีเหลืองตัวนั้นยังถูกซีหวังหมู่เล่นจนสลบไปจนตอนนี้ยังไม่ฟื้น… ด้วยระดับของพวกเขากลัวว่าจะถูกเล่นจนตาย ต้องค้อมต่ำเข้าไว้

ทว่าซีหวังหมู่กลับไม่ได้สนใจพวกเขา มันกำลังรบเร้าอินหลิวเฟิง “นี่ยังต้องให้ผู้อื่นวิเคราะห์หรือ เจ้าวิเคราะห์เองสิ! เจ้ามีสมองฉลาดที่สุด! เจ้าลองวิเคราะห์ซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับจวินโฮ่ว”

อินหลิวเฟิง “…”

แม้จะถูกชมจนตัวลอย แต่เขาก็วิเคราะห์ไม่ได้จริงๆ ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็กำลังมองเขาแล้ว

อินหลิวเฟิง “…”

เขาที่รู้สึกกดดันเท่าตัวกำลังคิดว่าจะกุเรื่องขึ้นเพื่อเอาตัวรอด ทว่าจู่ๆ ‘ต้าซือมิ่ง’ สีทองก็ลืมตาขึ้น

“เป็นอย่างไรบ้าง” เยี่ยนอวี๋ถามขึ้นทันที

“ราชสำนัก” ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองลุกขึ้น มั่นใจแล้วว่ากลิ่นอายของ ‘ตนเอง’ ถูกย้ายจากปราสาทลาซิน่าไปยังราชสำนักแล้วจึงพาตัวทุกคนไปที่นั่นด้วยความรวดเร็วทันที เพราะว่าเขาไม่เพียงสัมผัสถึงเส้นทางที่ ‘ตนเอง’ ถูกเคลื่อนย้าย เขายังได้ยิน ‘ข่าว’ มากมายตามร่องรอย รู้ว่าราชสำนักประกาศให้เขาและเอเลน่าแต่งงานในวันพรุ่งนี้

เรื่องนี้ทำให้ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองหงุดหงิดมาก เยี่ยนอวี๋รับรู้ได้ว่าเขากำลังโมโห ดังนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏข้างหน้าปราสาทแอตแลน นางก็ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือ” หรือว่า… ซีซีทายถูกแล้ว มิเช่นนั้นเหตุใดเขาจึงต้องโมโหเช่นนี้

เมื่อคิดได้เช่นนี้ แม้เยี่ยนอวี๋จะถาม แต่นางเคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งกว่าใคร นางอัญเชิญกระบี่ไท่ชางออกมาแล้ว เนื่องจากปราสาทแอตแลนในยามนี้เปิดใช้งานการปกป้องอันศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากเหตุการณ์ ‘ดาวตก’ ก่อนหน้านี้ ระดับพลังของมันไม่ด้อยไปกว่าพลังการปิดผนึกของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

หากไม่ใช่เพราะเช่นนี้ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองคงเข้าไปในปราสาทแล้ว จะหยุดอยู่ข้างหน้าปราสามแอตแลนเช่นนี้ได้อย่างไร เขาร้อนรนยิ่งกว่าใคร เพราะความรู้สึกขยะแขยงสุดขีด ดังนั้น… เมื่อเยี่ยนอวี๋อัญเชิญกระบี่ไท่ชางออกมา ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองก็ซัดหมัดเข้าใส่ทันที

วิ้ง!

หมัดที่ดูธรรมดาต่อยเข้าที่ผนึกป้องกันปราสาทศักดิ์สิทธิ์ มันระเบิดสนั่นหวั่นไหวพร้อมแสงสว่างจ้าราวกับการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาล ท้องฟ้าเหนือเมืองแอตแลนทั้งเมืองสั่นสะเทือน

“เกิดอะไรขึ้น”

“นั่นคืออะไร!”

“เร็วเข้า! รักษาปราสาทแอตแลน!”

เหล่าตระกูลชั้นสูงล้วนหายตัวออกมาปกป้องปราสาทแอตแลนอย่างตื่นตระหนก แต่แล้ว… พวกเขายังมาไม่ถึง

แกรก!

การป้องกันของปราสาทศักดิ์สิทธิ์เกิดเสียงแตกร้าวน่าหวั่นวิตก

“แย่แล้ว!”

เหล่าผู้แข็งแกร่งระดับเจ้าศักดินาตระหนก

“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”

เหล่าผู้พิทักษ์ปราสาทแอตแลนระดมกำลังเคลื่อนตัว น่าเสียดาย…

“เปิด”

เสียงเย็นชาฟังดูเกียจคร้านราวกับเสียงน้ำเสียงเพลงกำลังประกาศการยุติพลังป้องกันปราสาทแอตแลนดั่งผู้พิพากษา

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท