ตอนที่ 544 เทพีแห่งแสงสว่าง! ปฐมราชินีฉีกหน้าคนเสแสร้ง!
สตรีที่เหมือนกับแผ่ซ่านแสงอ่อนๆ อย่างเป็นธรรมชาติออกมาคนนี้ก็มองไปที่ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองที่เดินเข้ามาในโถงจัดเลี้ยงอย่างมิอาจละสายตาได้ทันที แต่ก็มิได้แสดงความประลาดใจ
จักรพรรดิหูจวิ้นที่จับตามองหรี่ตาลงเล็กน้อย เกิดความคิดคาดเดาไปต่างๆ นานา ทว่าใบหน้ากลับยิ้มแย้ม เขาลุกยืนขึ้นกล่าว “ปฐมราชินี รอท่านนานแล้ว”
“ข้าเป็นคนตรงเวลา” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างราบเรียบ มองสตรีส่องแสงคนนั้นด้วยหางตา พบว่านางยังคงจ้องมองบุรุษข้างกายนาง
ทว่า… ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองที่แต่เดิมก็มองไปทางสตรีคนนี้เช่นกัน เขาก็เปลี่ยนที่โดยเดินจากด้านขวาของเยี่ยนอวี๋ไปด้านซ้ายของนาง และยังอุ้มเด็กน้อยขึ้นไปนั่งบนบ่าของตนเอง ทำให้เด็กน้อยบังตนเองไว้ได้พอดี
การเคลื่อนไหวทั้งกระบวนการไหลรื่นดั่งน้ำไหล เป็นธรรมชาติและสง่างามอย่างมาก
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางยกมุมปากขึ้นเงียบๆ ในขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปจูงสามีสีทองเดินไปทางที่นั่ง
จักรพรรดิหูจวิ้นเองก็ตอบฝืนยิ้มว่า “หนึ่งชั่วยาม ปฐมราชินีตรงต่อเวลาจริงๆ เช่นนั้นโปรดอนุญาตให้ข้าแนะนำบุคคลสำคัญท่านหนึ่งของแอตแลน”
“เชิญ” เยี่ยนอวี๋เดาได้ว่าคนที่หูจวิ้นจะแนะนำคือสตรีเปล่งแสงท่านนั้น
หูจวิ้นก็ผายมือไปทางสตรีงามงดในชุดขาวทั้งตัวท่านนั้นตามคาด และกล่าวแนะนำว่า “มิคาเอล ซือมิ่งสวรรค์แห่งกรมแสงสว่าง เทพีแห่งแสงศักดิสิทธิ์ของแอตแลน ทูตแห่งแสงสว่าง ผู้บุกเบิกความหวัง”
“มิคาเอล ท่านนี้คือเยี่ยนอวี๋ ปฐมราชินีหยวนชูแห่งตำหนักไท่ชางของจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและเป็นภรรยาของหรง ต้าซือมิ่งเทพแห่งกรมความมืดที่ทำงานร่วมกับท่าน”
การแนะนำที่ ‘เรียบง่ายและตรงไปตรงมา’ ไม่เพียงอธิบายความสัมพันธ์ของต้าซือมิ่งและเทพีมิคาเอล แต่ยังอธิบายตัวตนและสถานะของเยี่ยนอวี๋ ซึ่งกระตุ้นจุดอ่อนไหวทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ
ทว่าไม่มีใครพูดได้ว่าหูจวิ้นแนะนำผิด กลับกันเขาแนะนำได้อย่างถี่ถ้วน อีกทั้งหลังจากที่เขาแนะนำเสร็จแล้วยังกล่าวขอโทษว่า “พูดไปแล้วข้าก็ต้องขอโทษ ตามที่ทุกท่านทราบ ราชสำนักเพิ่งประกาศเรื่องการสมรสของเอเลน่าและหรงเมื่อไม่นาน เกือบจะกระทำความผิดฐานแย่งสามีผู้อื่น โชคดีที่ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว ข้าต้องขอบคุณปฐมราชินี่ที่มีจิตใจกว้างขวางดั่งมหาสมุทร ไม่ถือสาเอาความกับแอตแลนของข้า ข้าขอดื่มให้ท่านหนึ่งจอก ขอให้มิตรภาพของแอตแลนและสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอยู่ยิ่งยืนนาน”
เมื่อพูดจบ จักรพรรดิแอตแลนก็ชูจอกขึ้น แต่แล้ว… เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้ยกจอก “ขออภัย ข้าไม่ได้ไม่ถือสาเอาความ”
หูจวิ้น “…”
เขาที่กระอักกระอ่วนไปครู่หนึ่งก็ยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว “ปฐมราชินีพูดจาตรงไปตรงมา ช่างเด็ดขาดยิ่งนัก ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองสวรรค์เก้าชั้นฟ้า อุปนิสัยของท่านหาได้ยากเสียจริง”
“เกรงว่าท่านจะเข้าใจสวรรค์เก้าชั้นฟ้าผิด ข้าเป็นเพียงผู้สร้าง ส่วนผู้ปกครองและมีอำนาจควบคุมสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามิใช่ข้า” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างราบเรียบ ในขณะเดียวกันก็ลูบเด็กน้อยที่ยังคงมองมิคาเอล ไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าตัวน้อยจึงสนใจนางเช่นนี้ หรือว่าเพราะนางสว่างนะ
“แต่ท่านก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากท่านประสบภัย สวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่” หูจวิ้นตอบอมยิ้ม เหมือนกับลังเลแต่ก็แน่วแน่มาก
“ไม่ขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยข้าร่วงหล่นไปสามหมื่นปีแล้ว เหล่าขุนเขาและท้องทะเลของข้าถูกกักขัง ทรมานมาสามหมื่นปี แอตแลนของเจ้าก็ยังกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของข้าไม่สำเร็จ มิใช่หรือ” เยี่ยนอวี๋ถามกลับอย่างราบเรียบ
“!”
“!!!”
บรรยากาศในห้องโถงจัดเลี้ยงชะงักงันในทันที
เยี่ยนอวี๋ยิ้มประหนึ่งดอกไม้แรกแย้มในฤดูใบไม้ผลิ ประหนึ่งเปลวไฟและดวงอาทิตย์ “เช่นนี้ก็ถูกแล้ว เป็นสองจักรวาลที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีอยู่แล้ว แอตแลนของเจ้าบุกรุกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของข้า ย่อมไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ยิ่งมิต้องพูดถึงมิตรภาพยืนยาวจอมปลอม”
“พูดได้ดี!”
“ปรบมือ!”
อินหลิวเฟิงและเอ้อร์เหมาลูกน้องของเขาคนหนึ่งใช้พัดปรบมือ อีกคนลุกขึ้นมาปรบมือ เข้าขากันอย่างดี
“เอ๋?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ลุ่มหลงในแสงชะงักงันก่อนจะปรบมือตามอย่างไม่รู้เรื่อง ทั้งยังยิ้มร่าจนตาหยี ไม่รู้ว่าเข้าใจสิ่งที่ท่านแม่ของเขาพูดเมื่อครู่นี้หรือไม่ แต่ก็แสดงออกอย่างมีความสุขแล้ว
“ฮึ” หูจวิ้นหัวเราะและยังกล้าเสริมว่า “ปฐมราชินีมีเหตุผล ข้าเสแสร้งจริงๆ เคยชินกับการพูดเอาใจไปเสียแล้ว กลับไม่รู้ว่าปฐมราชินีเยี่ยนคิดเห็นเช่นไรกับสภาพการณ์สวรรค์เก้าชั้นฟ้าในบัดนี้ หรือว่าท่านมาแอตแลนเพราะอยากเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า”
เยี่ยนอวี๋ได้ยินดังนั้นจึงยกจอกสุราขึ้นมา ครั้นกำลังจะจิบสุราที่มีสีแดง เด็กน้อยก็ร้อนรน “ไม่ดื่ม! แม่ไม่ดื่ม เจ็บ!” เด็กน้อยที่ยังมีบาดแผลเกี่ยวกับสีแดงเผ็ดร้อน เขาก็ยื่นมือไปคว้าจอกสุราในมือของท่านแม่อย่างรวดเร็ว!
ภาพเช่นนี้… ทำให้บรรยากาศอึดอัดในโถงรับรองยิ่งอึดอัดขึ้นไปอีก
หูเฮ่อหมดความอดทน “ดูท่าปฐมราชินีเยี่ยนก็ไม่ได้สงบนิ่งเหมือนภายนอก กลัวว่าข้าจะวางยาในสุราของท่านหรือ”
“ใช่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบทันทีและยังโยนจอกสุราในมือลงบนพื้นด้วยความหวาดกลัว เสียงแตกดัง เพล้ง ไม่เพียงเท่านี้…
“แม่ แม่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร้อนรนยังโถมใส่ท่านแม่ของเขา “เจ็บหรือไม่ขอรับ” เขาเห็นเหมือนกับว่าท่านแม่ของเขาสัมผัสสุราแล้ว
เยี่ยนอวี๋ยิ้ม อดจูบเด็กน้อยไม่ได้ “แม่ไม่เป็นอะไรจ๊ะ”
“เป่า ดู!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยายามถ่างปากของท่านแม่เขาออก เยี่ยนอวี๋จึงอ้าปากให้เด็กน้อยผู้อบอุ่นและน่ารักดูจนพอใจ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตรวจสอบอย่างละเอียดรอบหนึ่ง เมื่อพบว่าท่านแม่ของเขาไม่เป็นอะไรและไม่สัมผัสโดนอะไรแดงๆ ก็ถอนหายใจโล่งอก จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่สุราสีแดงที่อยู่บนโต๊ะฝั่งของเยี่ยนอวี๋ “เก็บ ไปซะ!”
ท่าทีนั่นน่าเกรงขามมาก!
ซีหวังหมู่หลงรักสุดหัวใจ “นายน้อย น่ารักเช่นนี้ได้อย่างไร”
อินหลิวเฟิงก็ยิ้มตาม “น่ารักจริงๆ แต่องค์ชายหูเฮ่อ ข้าน้อยต้องอธิบายเสียเล็กน้อย นายน้อยของเราเคยถูก ‘วางยา’ ด้วยน้ำแกงสีแดงเมื่อตอนเด็กครั้งหนึ่ง ทำให้เขาทุกข์ทรมานมากจึงคิดว่าสุราสีแดงของแอตแลนท่านก็เป็นเช่นกัน โปรดอภัยด้วย อีกอย่าง งานจัดเลี้ยงนี้เดิมทีก็จัดเพื่อปลอบขวัญนายน้อยของเรา พวกท่านกลับเล่นตุกติกเช่นนี้ ทำให้นายน้อยของเราตกใจอีกครั้ง ยกเลิกงานเลี้ยงประโลมขวัญที่ไม่ผ่านเกณฑ์เช่นนี้ไปเถิด”
“เช่นนี้นี่เอง เช่นนั้นย่อมต้องเก็บกลับไป” กู้จื่อเฟิงที่ตอบก็จัดแจงว่า “ทหาร เก็บสุรากลับไป เปลี่ยนเป็นชาสวรรค์เก้าชั้นฟ้า”
ทว่าเมื่อเยี่ยนอวี๋ได้ยินคำว่า ‘ชาสวรรค์เก้าชั้นฟ้า’ ก็รู้ว่ากู้จื่อเฟิงกำลังอวยพรกลับเงียบๆ
ไม่ว่าบัดนี้นางจะสงบนิ่งเพียงใด สวรรค์เก้าชั้นฟ้าถูกกลืนกินคือเรื่องจริง แอตแลนสามารถนำใบชาของสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามาได้ เช่นนั้นยังมีอะไรที่แอตแลนเอามาจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไม่ได้
รอบนี้… เยี่ยนอวี๋รู้ว่า แอตแลนชนะแล้ว ชนะที่ไขว่คว้าโอกาสไว้
เยี่ยนอวี๋จิบชาที่ยกมาให้พลางยอมรับ “ชาของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของเราจริงๆ และยังเป็นน้ำค้างเฉาเทียนลู่ของราชสำนัก ช่วยบำรุงและชำระล้างสารพิษในร่างกาย หลิวเฟิง พวกเจ้าจงดื่มให้มาก”
“เช่นนั้นต้องดื่มเยอะหน่อยเสียแล้ว” อินหลิวเฟิงดื่มลงไปหลายอึกอย่างเชื่อฟังทันที เอ้อร์เหมาเองก็ไม่ยอมแพ้ เทพไร้ประโยชน์สององค์ที่ไร้ตัวตันก็รีบดื่มตาม
เอ้อร์เหมากระดกหมดก็ตะโกนเรียก “เติมชาเร็วเข้า!” เขาไม่เคยดื่มชาล้ำค่าเช่นนี้ ที่สำคัญคือยังไม่ต้องจ่ายเงิน และยังเป็นของศัตรูด้วย ดื่มเยอะได้เยอะ
เฟรย์ที่มองดูอยู่เฉยๆ เหลือบตามองบน เกือบจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ จะระเบิดออกมาแล้ว
ทว่าเยี่ยนอวี๋ชี้นิ้วไปที่เทพีมิคาเอลท่านนั้นแล้ว “เทพีมิคาเอลใช่หรือไม่…”
พรวด!
เอ้อร์เหมาที่กำลังดื่มชาอึกใหญ่ก็พ่นชาออกมาทันที เยี่ยนอวี๋หยุดพูด
เอ้อร์เหมารู้สึกผิดในทันที “ขอโทษ! ขอโทษขอรับ! แค่กๆ… ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจขอรับ แค่ชื่อนี้ ข้าวเติมอุจจาระ[1]แค่กๆๆ…”
เอ้อร์เหมาที่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เขาก็ทำตัวเองสำลัก “แอตแลนของพวกเจ้าตั้งชื่อได้น่าสนใจจริงๆ แค่กๆ! …แค่ไม่ค่อยเหมาะกับการเอ่ยถึงบนโต๊ะอาหาร” ท้องเสียบ้างล่ะ เติมอุจจาระบ้างล่ะ…
อินหลิวเฟิงลูบหลังเอ้อร์เหมาที่กำลังสำลักตัวเองตายอย่างหมดคำพูด ถอนหายใจอย่างโศกเศร้าพูดว่า “จะโทษเจ้าไม่ได้ เจ้าน่ะไม่มีความรู้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเป็นคนรับใช้ได้อย่างไรเล่า”
“ใช่ๆๆ นายน้อยพูดถูก ข้าไร้การศึกษา ขออภัยจริงๆ ปฐมราชินีเยี่ยน ท่านจะลงโทษอย่างไร ข้าน้อยยินดีรับโทษขอรับ” เอ้อร์เหมาพูดจากใจจริง
“ข้าขอลงโทษให้เจ้าดื่มชาสามถัง ดื่มให้หมดในคราวเดียว ห้ามหยุด” เยี่ยนอวี๋กล่าว ในขณะเดียวกันก็มองกู้จื่อเฟิงอย่างรู้สึกผิด “ผลาญทรัพย์สินพวกเจ้าแล้ว ขอโทษด้วย”
กู้จื่อเฟิง “…”
เขากำลังสงสัยว่าในราชสำนักมีชาเก็บในคลังมากมายเช่นนี้หรือไม่ ดูท่าปฐมราชินีท่านนี้จะจงใจ แต่ก็… น่าสนุกดี
ทว่า… เยี่ยนอวี๋เพิ่งพูดจบ เทพีมิคาเอลท่านนั้นก็ลุกขึ้นเดินลงมาแล้ว นางเดินมุ่งไปทางพวกเยี่ยนอวี๋ เนื่องจากงานจัดเลี้ยงจัดหนึ่งคนต่อหนึ่งโต๊ะจึงเว้นระยะห่างเล็กน้อย เมื่อเทพีมิคาเอลเดินเข้ามา เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ส่งเสียง โห และยังมองนางตาปริบ
มิคาเอลมองเด็กน้อยครู่หนึ่งและยังส่งยิ้มจางๆ อย่างอ่อนโยนให้เหมือนกับแสงที่แผ่ซ่านออกมาจากรอบกายนางและเสียงของนาง “ปฐมราชินีเยี่ยน เมื่อครู่นี้ลูกน้องของท่านเพิ่งทำให้ข้าขุ่นเคือง แต่ข้าไม่ถือสา ท่านวางใจ แต่ข้าหวังว่าท่านจะอนุญาตให้ข้าและสามีของท่านคุยกันเพียงลำพัง ข้าคิดว่าด้วยสถานะและความใจกว้างของท่านจะไม่ปฏิเสธคำขอเล็กๆ น้อยๆ ของข้า”
[1] พ้องเสียงกับคำว่า มิคาเอล ในภาษาจีน